บทที่ 282 ทรวงอกไม่อาจทำลายได้

ข้าก็แค่กลั่นลมปราณ 3,000 ปี

บทที่ 282 ทรวงอกไม่อาจทำลายได้
บทที่ 282 ทรวงอกไม่อาจทำลายได้

“ท่านอาจารย์ ท่านกำลังกล่าวถึงอะไร? อะไรคือการกระโดดกบ แล้วภูเขาคือสิ่งใด…”

ถังรั่วเวยมองตามสายตาของไป๋ชิวหราน และจ้องมองบนหน้าอกของตนเอง อีกทั้งยังตระหนักได้ว่านางได้รับพรมากเกินไป และเป็นยามนี้เองที่ทราบว่าเขากำลังกล่าวถึงสิ่งใดอยู่

“ท่านอาจารย์บ้า!”

นางกรีดร้อง ก่อนจะยกมือขึ้นแล้วฟาดลงบนใบหน้าของไป๋ชิวหราน

หญิงสาวคิดกับตนเองว่านางไม่ต้องการทำร้ายตาเฒ่าผู้นี้ แต่อย่างน้อยก็สมควรสั่งสอนเขาเสียบ้าง

เมื่อมีต้นกำเนิดสนามแรงดึงดูดอยู่ในมือ อาจเรียกได้ว่านี่คือพลังไร้ขอบเขตของนาง แต่ถึงกระนั้นไป๋ชิวหรานก็ยังคงสามารถยกมือขึ้นเพื่อคว้าข้อมือของนางไว้อย่างง่ายดาย

แต่คราวนี้ฝ่ามือของถังรั่วเวยยังไม่หยุด หลังจากที่แขนของนางถูกจับไว้ ทำให้มือโอนอ่อนราวกับไร้กระดูก ทว่ามันยังสามารถตบใบหน้าของไป๋ชิวหรานได้

หลังจากที่เสียงดังคมปลาบสิ้นสุด ถังรั่วเวยก็ทรุดกายนั่งยอง ๆ พร้อมกับจับมือตนเองไว้ มีน้ำตาเอ่อคลอออกมาจากดวงตา

ไป๋ชิวหรานเช็ดรอยฝ่ามือสีดำ และทรายละเอียดอ่อนบนใบหน้า พร้อมถามออกมาด้วยความประหลาดใจ

“นี่ สาวน้อย เจ้าบุกทะลวงขึ้นขั้นสี่สิบหกแล้วหรือ?”

การที่ถังรั่วเวยกระทำก่อนหน้านี้ เบื้องต้นคือการเปลี่ยนแปลงร่างกาย เปลี่ยนแขน ขา และส่วนอื่น ๆ ให้ยืดหยุ่นราวกับแส้ยาว เป็นวิชาหลอมสร้างกายระดับที่สี่สิบหก

“ก็แค่นั้น”

ถังรั่วเวยนั่งลงถูฝ่ามือก่อนจะเช็ดน้ำตาออกจากดวงหน้า นางนั่งลงที่เก้าอี้อีกครั้ง

“หมายความว่าอย่างไร?”

ไป๋ชิวหรานขมวดคิ้วถาม

“หากเจ้ามีความก้าวหน้า เจ้าจะแข็งแกร่งขึ้น หากไม่ฝึกฝน… ก็จะไม่พัฒนา แล้วมีสิ่งใดติดขัดกับเรื่องนี้หรือ?”

“ฮ่า ๆ”

ถังรั่วเวยหัวเราะเยาะเมื่อได้ยินเช่นนี้

“ข้าไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นผู้ใด ตอนนี้ข้าผ่านขั้นการสร้างรากฐานไปแล้ว และบุกทะลวงไปได้สองในสิบส่วน…”

“หุบปาก! เจ้าโกหก!”

ไป๋ชิวหรานตบโต๊ะพร้อมเบิกตากว้าง

“เจ้ารู้หรือไม่? นั่นคือขั้นรากฐานเสมือน!”

ถังรั่วเวยเสยผมของนาง ก่อนจะหันหน้าหนีแล้วเย้ยหยัน

หลังจากที่อาจารย์และศิษย์โต้เถียงกันเสร็จสิ้น ไป๋ชิวหรานก็กล่าวต่อ

“เจ้าอยากให้อาจารย์ช่วยตรวจสอบหรือไม่ว่ามันเกิดอะไรขึ้น?”

ถังรั่วเวยลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าแล้วกล่าวว่า

“หากท่านอาจารย์มีเวลา ข้าก็ยินดี”

ไป๋ชิวหรานยืนขึ้น และให้ถังรั่วเวยยืนอยู่ตรงหน้า จากนั้นเขาค่อย ๆ มองไปรอบร่างกายของถังรั่วเวย

เพราะเป็นการตรวจสภาพร่างกายของนางระหว่างมีประจำเดือน การนวดจึงเป็นสิ่งที่ไม่อาจกระทำโดยคนภายนอกได้ มันจะดูสนิทสนมกันมากเกินไป แต่นี่คือการตรวจสอบระหว่างอาจารย์และศิษย์ ทั้งไป๋ชิวหรานและถังรั่วเวยจึงไม่รู้สึกผิดแปลกอะไร

หลังจากตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้ว ไป๋ชิวหรานจึงพบปัญหา

“โอ้? รั่วเวย เจ้าจัดการกับหน้าอกของตนเองอย่างไร?”

ไป๋ชิวหรานเอื้อมมือออกไปตบหน้าอกของถังรั่วเวยสองครั้ง มันมีเสียงดังปัง ๆ อู้อี้ราวกับว่ากำลังตีกลอง

“การป้องกัน และเพิ่มความยืดหยุ่น แต่เหตุใดมันถึงยังห่างไกลนัก?”

คำตอบของถังรั่วเวยมาพร้อมกับหมัดที่น่าสะพรึง และพุ่งไปที่เบ้าตาของไป๋ชิวหราน

“อย่าสร้างปัญหา”

ชายหนุ่มคว้าคำปั้นของถังรั่วเวยพร้อมกล่าวว่า

“ข้ากล่าวความจริง ดูจากสภาพร่างกายโดยรวมแล้ว เจ้าบรรลุถึงขั้นสี่สิบหกแท้ ๆ แต่เหตุใดความยืดหยุ่นของหน้าอกถึงไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย… เจ้าควบคุมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ แต่ไม่สามารถควบคุมหน้าอกได้งั้นหรือ?”

ถังรั่วเวยเผยใบหน้าโศกเศร้า

“ไม่ได้”

สำหรับไป๋ชิวหรานแล้ว เขาสามารถพูดได้ว่าให้นางถ่ายเทไขมันจากร่างกายไปที่หน้าอกตั้งแต่คราวแรกที่ฝึกฝน แต่เมื่อนางกล่าวว่าควบคุมมันไม่ได้ เขาจึงต้องยอมรับว่าควบคุมไม่ได้

ไป๋ชิวหรานครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ข้าเกรงว่านี่คงไม่ใช่ปัญหาทางพันธุกรรม บรรพบุรุษของเจ้าอาจจะแต่งงานกับเทพหรืออสูรโบราณ เทพเจ้ากับอสูรพวกนี้คงจะมีแผ่นกระดูกที่หน้าอกเพื่อปกป้อง ลักษณะเช่นนี้เมื่อหลอมรวมกับราชวงศ์ถังของเจ้า และเมื่อเข้าสู่รัฐซ่างเสวียน จึงเกิดปรากฏการณ์หวนกลับคืนสู่บรรพบุรุษ…”

“ท่านไปเอาเรื่องพวกนี้มาจากที่ใด?”

ถังรั่วเวยบ่นอุบ

“ข้าเกรงว่าจะเป็นเพียงการคาดเดาที่ทำให้ข้าหวาดกลัวเท่านั้น”

“เจ้าคิดว่าข้าเอามาจากที่ใดเล่า?”

ไป๋ชิวหรานเหลือบมองหน้าอกที่ถูกเสริมให้นูนเด่นขึ้นมาของถังรั่วเวย ด้วยแววตาโศกเศร้าก่อนจะส่ายศีรษะช้า ๆ

“เจ้าเขลานัก กระดูกหน้าอกของเจ้าเริ่มงอกออกมาเป็นแผ่นแล้ว!”

“อะไรนะ?!”

ถังรั่วเวยตกใจจนใบหน้าซีดเผือด

“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป กระดูกหน้าอกจะก่อตัวเป็นแผ่นกระดูกที่แข็งแกร่ง และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และเจ้าจะไม่มีทางพัฒนาหน้าอกของตนเองได้”

ชายหนุ่มกล่าวต่อ

“ความแข็งแกร่งของเจ้าจะเพิ่มพูนขึ้นมาก แผ่นกระดูกนี้สามารถปกป้องหัวใจ ตันเถียน และจุดสำคัญอื่น ๆ แต่ความฝันของเจ้า…”

เขาส่ายศีรษะ

“ข้าเกรงว่าในอนาคตมันจะเป็นเพียงความฝัน”

“ไม่มีทาง”

ถังรั่วเวยกำลังจะร้องไห้ นางคว้าแขนเสื้อของไป๋ชิวหรานก่อนจะกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด

“ท่านอาจารย์โกหกข้า!”

“ศิษย์เอ๋ย อย่าได้รีบร้อน”

ไป๋ชิวหรานยิ้มและลูบศีรษะของถังรั่วเวยก่อนจะกล่าวต่อ

“นับตั้งแต่ที่ข้ารับเจ้าเป็นศิษย์ แน่นอนว่ามันต้องมีหนทาง”

เขาหยิบถ้วยชาสองใบจากโต๊ะ รินน้ำชาจากซ้ายไปขวาแล้วกล่าวขึ้นว่า

“มีสองวิธีที่สามารถเลือกได้ด้วยตนเอง วิธีแรกคือเจ้าโชคดีที่มีอาจารย์เกี่ยวข้องกับยมโลก ร่างกายปัจจุบันของเจ้าจึงไร้ประโยชน์เกือบทั้งหมด ทว่านั่นเป็นการดีที่จะเข้าสู่สังสารวัฏแห่งการเกิดและตายอีกครั้ง แต่ว่าขั้นการฝึกฝนทั้งหมดจะสูญสิ้นไป”

“ก็ไม่เลว” ถังรั่วเวยพยักหน้า

ชีวิตมีค่า และความรักก็ยิ่งมีค่า หากแค่ขั้นการฝึกฝน นางสามารถละทิ้งมันได้ ทว่าเรื่องที่สำคัญคือตายครั้งเดียวแล้วเกิดใหม่ หลังจากผ่านไปยี่สิบปี นางจะกลับมาเป็นสตรีที่สมบูรณ์แบบอีกครั้ง…

“อย่าเร่งรีบที่จะตอบตกลง วิธีนี้มันง่ายมาก แต่มันก็เสี่ยงเช่นกัน”

ไป๋ชิวหรานยกมือขึ้นพร้อมกล่าวต่อ

“การเข้าสู่สังสารวัฏแห่งการกลับชาติมาเกิดนั้นมีกฎเหล็ก แม้ข้าจะเป็นอาจารย์ ทว่าไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลลัพธ์ของสังสารวัฏในครั้งต่อไปของเจ้าได้ ดังนั้นเป็นไปได้มากว่าเจ้าจะไปเกิดใหม่เป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่สตรีเพศโดยที่ความทรงจำยังอยู่ครบ อย่างเช่น จู่ ๆ ก็มีสิ่งแปลกปลอมปรากฎขึ้นระหว่างขาของเจ้าทั้งสอง… จากนั้นจึงไม่สามารถฝึกฝนหน้าอกได้อีก

ถังรั่วเวยบีบขาของตัวเองโดยไม่รู้ตัว

“ที่สำคัญกว่านั้น การเข้าสู่สังสารวัฏจะต้องได้รับผลกรรม เจ้าคือองค์หญิงในชีวิตนี้ ร่ำรวยและมีเกียรติ ทั้งยังมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับสำนักกระบี่ชิงหมิง ข้าเกรงว่าเจ้าจะไม่สามารถชำระบาปเสร็จสิ้นได้โดยเร็ว”

ไป๋ชิวหรานเหลือบมองถังรั่วเวยพร้อมส่ายศีรษะ

“เป็นการดีหากเจ้าเกิดใหม่เป็นมนุษย์ แต่หากโชคร้าย เจ้าจะกลายเป็นสัตว์เดรัจฉาน เช่นนั้น…”

ถังรั่วเวยเบิกตากว้างอย่างหวาดกลัว

“แต่ความจริงแล้ว วิถีแห่งเดรัจฉานไม่ได้น่ากลัวเพียงนั้น”

ไป๋ชิวหรานกล่าวคำปลอบโยน

“อายุขัยของสัตว์ร้ายมีเพียงไม่กี่สิบปี และไม่นานก็จบลง ฟังข้า หากเจ้าเกิดใหม่เป็นแม่สุกร ความฝันของเจ้าจะไม่ถือว่าสำเร็จไปแปดร้อยส่วนในพันงั้นหรือ…”

“ท่านสิแม่สุกร!”

หญิงสาวสบถอย่างขุ่นเคือง

“ทั้งครอบครัวท่านเป็นแม่สุกร!”

“งี่เง่า เป็นอาจารย์หนึ่งวัน แต่เป็นบิดาตลอดชีวิต”

ไป๋ชิวหรานส่ายศีรษะก่อนจะพร่ำบ่น

“เจ้าคือครอบครัวของข้าเช่นกัน ยามนี้เจ้ากำลังดุด่าตนเอง”

หน้าอกของถังรั่วเวยยกตัวขึ้นลงด้วยความโกรธ แต่น่าเสียดายที่ไม่ว่านางจะโกรธเพียงใด มันก็ไร้คลื่นกระเพื่อม…

“แล้วหนทางที่สองคืออะไร?”

“ตัวเลือกที่สองนั้นยากเย็นยิ่งกว่า”

ไป๋ชิวหรานจับจ้องถังรั่วเวยอย่างเคร่งขรึม

“หากกล่าวง่าย ๆ คือ ให้อาจารย์หักแผ่นกระดูกที่งอกออกมาจากหน้าอกของเจ้า แล้วปรับรูปร่างด้วยวิชาหลอมร่างกาย เรื่องนี้จะต้องดำเนินการต่อไปจนกว่าหน้าอกของเจ้าจะสามารถทะลุผ่านยังขั้นที่สี่สิบหกอย่างสมบูรณ์”