ทันทีที่ประตูเปิดออก กลิ่นเลือดอันเข้มข้นก็โชยเข้ามาที่จมูกของผม กลิ่นนั้นลึกซึ้งมากจนผมต้องสะบัดหัวออกไปตามสัญชาตญาณ

‘เห้อออ…..มาจบเรื่องนี้กันเถอะ’

คิดเช่นนั้นแล้วผมก็สวมหน้ากากปิดหน้าเพื่อระงับกลิ่น เบื้องหน้าของผมนั้นมีทางเท้าขนาดใหญ่ทอดยาวอยู่โดยที่พื้นดินของทางเดินเป็นสีแดงเข้ม 

สายตาของผมจ้องมองไปยังอาคารขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นอย่างสวยงาม ซึ่งตอนนี้พังทลายลง เสียงแตกร้าวและเสียงกรีดร้องดังก้องเข้ามาในหูของผม เมื่อรับทั้งหมดนี้แล้วผมก็ก้าวเข้าสู่เมืองแห่งเลือด

ผมมีเวลาไม่มากนักก็เลยเดินต่อไปโดยที่มือของผมถือพิณเอาไว้อยู่ขณะเริ่มดีดมัน เลือดที่ยังไม่เหือดแห้งจนบัดนี้เปรอะอยู่เต็มรองเท้าของผม ขณะที่เสียงดนตรีกระจายไปทั่วทั้งเมืองที่มีขนาดมหึมานี้ 

ผมมองเห็นซากตึกที่แตกกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่งในขณะที่เพลงของผมเข้าครอบงำไปทั่วดินแดน

เมืองทั้งเมืองเริ่มสั่นสะเทือน ขณะที่ผมรู้สึกว่าสัตว์ประหลาดที่ซ่อนอยู่ในเมืองตื่นขึ้น เสียงคำรามของพวกมันทำให้โลกล่มสลายขณะที่พวกมันรีบเร่งมายังตำแหน่งของผมเพื่อตั้งใจจะฆ่าผมอย่างไม่ต้องสงสัย 

รอยยิ้มปรากฏบนริมฝีปากของผมขณะที่พลังอันไม่มีที่สิ้นสุดในตัวผมตื่นขึ้น มือของผมดึงสายด้วยพลังที่แท้จริงที่ทำให้เกิดคลื่นเสียงมากพอที่จะกวาดล้างเมืองปกติได้

แต่นี่ไม่ใช่เมืองปกติ เมืองนี้สร้างขึ้นจากวัสดุที่สูญหายไปนานแล้ว การโจมตีแบบดั้งเดิมนั้นไม่เพียงพอที่จะทำร้ายสิ่งใด คลื่นจากผมที่บรรเลงพิณแผ่ไปทั่วเมืองและผมก็รู้สึกได้ว่าพวกเอลฟ์ที่กำลังมุ่งหน้ามาหาตัวเองหยุดชั่วคราวเมื่อพวกมันได้รับผลกระทบอย่างหนักจากเพลงที่ผมบรรเลงออกไป 

พลังแห่งการชำระล้างเริ่มออกฤทธิ์ และด้วยพลังปัจจุบันของผมนั้นจึงไม่มีใครที่สามารถทนได้

พลังแห่งชีวิตเริ่มส่งเสียงคำรามออกมาจากตัวผม ในขณะที่ผมค่อยๆ ปลุกมันให้ตื่นขึ้นทั่วทั้งเมือง 

ความเป็นเอกลักษณ์ของมันทำให้บรรยากาศรอบตัวผมมีชีวิตชีวา ผมไม่ได้หยุดอยู่กับที่และเริ่มเดินมุ่งหน้าไปยังใจกลางเมืองที่ซึ่งมีพระราชวังขนาดมหึมาที่กักขังสัตว์ประหลาดเหนือจินตนาการเอาไว้อยู่

สายตาของผมกวาดไปทั่วทั้งสถานที่ขณะกำลังเดินต่อไปพร้อมกับเสียงของพิณที่ประสานกันอย่างไพเราะ ในขณะที่พลังที่ผมใช้เริ่มงอกงามไปทั่วทั้งเมือง 

ต้นไม้ที่สวยงามเริ่มงอกงามไปทั่วเมืองโดยที่พวกมันมีคุณสมบัติพิเศษคือการดูดเลือดจากเมืองจนหมด ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมที่สวยงามและกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์

เมืองทั้งเมืองมีขนาดเท่าประเทศเล็กๆ ดังนั้น ‘การเดิน’ ของผมจึงเร็วเกินกว่าใครจะมองเห็น แต่ละก้าวของผมนั้นให้กำเนิดพืชหลายชนิดและทิ้งทิวทัศน์ที่สวยงามเอาไว้ข้างหลัง 

ในขณะที่ผม ‘เดิน’ ต่อไปเรื่อยๆ ก็เริ่มมองเห็นเอลฟ์ที่ติดเชื้อ ผู้ทรงพลังที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

พวกมันต่างจากเอลฟ์ที่ผมเคยเผชิญมาจนถึงตอนนี้ พวกมันยืนหลังตรง แต่กลับมีดวงตาที่เหมือนกับคนอื่นๆ คือมันเต็มไปด้วยความอาฆาตพยาบาท แต่ด้วยสติปัญญาที่ทำให้พวกมันก่อความวุ่นวายได้ถ้าถูกปล่อยออกมา แม้แต่ผมก็ต้องยอมรับว่าหลังจากการเปรียบเทียบพวกเอลฟ์กับคนอื่นภายระดับเดียวกันแล้ว พวกเอลฟ์สามารถเอาชนะคนอื่นๆ ได้

พวกเอลฟ์มีเลือดลอยอยู่รอบๆ พวกมันและการควบคุมเลือดของพวกมันก็ไม่เหมือนกับที่ผมเคยเห็นมาอีกด้วย ผู้ที่อยู่ในระดับต้นกำเนิดคงจะตัวระเบิดเป็นเลือดด้วยการจ้องมองจากพวกมันเพียงครั้งเดียว แต่สำหรับผมในปัจจุบัน พวกมันก็ไม่ต่างจากมดเลย เนื่องจากผมสามารถเดินไปตามเส้นทางสู่วังได้อย่างง่ายดาย

ดวงตาที่ไร้สติของพวกเอลฟ์เริ่มมีความกระจ่างใสในขณะที่นิ้วของผมเริ่มเร็วขึ้นพร้อมกับจังหวะจากง่ายไปสูงขึ้น 

เนื่องจากแรงกดดันจากลมที่พัดออกมาจากผมทำให้เกิดคลื่นไซโคลนในอากาศอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน พลังของผมทำให้สามารถมองเห็นเมืองทั้งเมืองที่กำลังเบ่งบานด้วยความงามของสีเขียวและสีแดง

พืชทุกขนาดและพลังของผมทำให้เมืองนี้สวยงามอีกครั้ง ผมสัมผัสได้ถึงทุกอย่างขณะรู้สึกได้ว่าเอลฟ์เหล่านี้ฟื้นสติขึ้นมาเล็กน้อย

ด้วยความเร็วของผมทำให้เดินผ่านมาได้โดยที่ท่วงทำนองไม่หยุดเลยแม้แต่น้อย และแล้วผมก็เดินมาจนถึงหน้าประตูพระราชวังขนาดใหญ่แล้ว ประตูถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ ก่อนผมจะเดินเข้าไปข้างใน

ที่นี่ผมพบว่ามีบลัดเอลฟ์อยู่เป็นจำนวนมาก แต่พวกมันไม่ตอบสนองเลยเมื่อเห็นผม ก่อนที่พวกมันจะสามารถตระหนักถึงการปรากฏตัวของผมได้ บทเพลงของผมก็ได้ชำระล้างพวกมันแล้ว  

พวกเอลฟ์ยืนอยู่กับที่ราวกับซอมบี้ขณะที่แสงสีฟ้าอ่อนๆ จากผมเข้าสู่ร่างกายของพวกมัน ด้วยพลังปัจจุบันของผมมันไม่ใช่แม้แต่การต่อสู้ด้วยซ้ำ เพราะผมเริ่มชำระล้างพวกเอลฟ์จากคำสาปที่ฝังลึกอยู่ภายในได้อย่างง่ายดาย

ผมชะลอความเร็วลงเล็กน้อยขณะชื่นชมความสวยงามของพระราชวังพร้อมกับจังหวะเพลงของผมที่ยิ่งเร็วขึ้นไปอีก 

นิ้วของผมเคลื่อนไหวราวกับงานศิลปะที่สวยงาม พระราชวังโดยรวมนั้นใหญ่โตมากหลังจากผมเดินมาได้ซักพัก เพดานของมันสูงถึงท้องฟ้า

ที่นี่ผมเห็นเอลฟ์ผู้ทรงพลังหลายคนและเหมือนกับก่อนหน้านี้ที่พวกมันจะยืนแข็งอยู่กับที่ 

ผมมาถึงหน้าประตูบานใหญ่ที่ดูเหมือนจะเปิดให้เองได้อย่างง่ายดาย เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ที่ไหนแล้วผมก็เข้าไปที่ห้องบัลลังก์ทันที ซึ่งบัลลังก์นั้นตั้งอยู่ในที่นั่งที่สูงขึ้นจนดูเหมือนพระเจ้าและที่นั่นผมก็พบกับอัลเบลาร์โดที่มองลงมาที่ผม

ต่างจากคนอื่นๆ เพียงคำเกริ่นจากเพลงของผมก็ทำให้เขาได้สติที่สมบูรณ์กลับมาแล้ว ผมสามารถเห็นได้ในสายตาของเขาว่าตรงหน้าตัวเองคือราชาโลหิตที่กำลังเพลิดเพลินกับการแสดงที่ผมมอบให้อยู่ 

ผมโค้งคำนับเล็กน้อยก่อนจะเปิดปากร้องเพลงด้วยรอยยิ้มอันสง่างาม

I lie awake tonight,

Wishing for things I can change.

I try to convince myself,

But it’s all so strange.

Is it me,

Or is it you?

Do I try,

Or are we through?

So long as we’ve shared

Just to walk away.

But so much hurt

To want to stay.

Why do we do this,

Try to hurt the other more,

Only to watch one

Walk right out the door?

I love you so much,

Yet I push you to the point of breaking,

But why do you play with my heart

And never stop taking?

Is this the end

Or a new beginning?

When my head is spinning.

Don’t push,

Don’t try,

Don’t stress,

Don’t cry.

That is what plays

In my head

As I try to close my eyes

And just go to bed

เสียงของผมดังก้องไปทั่วเมืองขณะที่ผมร้องเพลงแต่ละบทด้วยความหลงใหล และในขณะที่ผมกำลังร้องเพลงอยู่นั้น อัลเบลาร์โดก็วางมือของเขาลงบนบัลลังก์ 

บทเพลงของผมดึงเอาบลัดเอลฟ์ทุกคนให้เคลื่อนไหวมาที่นี่ภายในไม่กี่วินาที พวกเขาเข้ามากันจนเต็มห้องโถง พวกเขาเหลือกันอยู่ไม่มากนัก แต่ที่เหลือก็มากเกินพอที่จะทำลายล้างได้

ผมไม่ได้หยุดเปล่งเสียงและยังคงร้องต่อไป บทกวีที่กระทบใจแทรกซึมเข้าไปในหัวใจของเอลฟ์ทั้งหมด และเผยให้เห็นตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาออกมา 

มือของผมขยับอย่างรวดเร็วตามคำพูด ขณะที่แสงสีฟ้าจากที่ออกมาจากร่างผมสว่างขึ้นจนปกคลุมห้องโถงใหญ่ที่เต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตต้องสาป

ตัวห้องโถงมีขนาดเท่ากับหมู่บ้าน ซึ่งผมกำลังยืนอยู่ตรงกลางกลุ่มเอลฟ์ โดยมีอัลเบลาร์โดที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ขณะหลับตาเพลิดเพลินกับจังหวะของผม 

แสงสีฟ้าจากผมเริ่มสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลต่อทุกสิ่ง

ตอนนี้พวกเขาส่วนใหญ่ฟื้นคืนสติกันแล้ว แต่พวกเขากลับยังคงยืนฟังเสียงของผมอยู่ พวกเขาหลับตาลงเช่นกันขณะฟังบทเพลงสุดท้ายที่ผมเตรียมไว้ให้พวกเขา

 

 

 

-Donate-

True Money Wallet ID : mraxzy 

ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต