“ หมอหลิง …
“ หมอหลิง!
“ หมอหลิง…”
เมื่อใดก็ตามที่หลินรันเดินผ่านวอร์ด หลิงรันก็มีทั้งพยาบาลสาวๆและผู้ป่วยรวมถึงญาติของผู้ป่วยทักทายเขาตลอดทั้งทาง
หมอลู่ กำลังเดินกอดอกในขณะที่เขาติดตามหลิงรันในเดินตรวจรอบวอร์ดในวันนี้ เขามองดูผู้ป่วยและ ท่าทางของญาติผู่ป่วยที่มีต่อหลิงรัน มันทำให้เขาอิจฉาหลิงรันเป็นอย่างมากเนื่องจากทุกคนรู้สึกยินดีที่ได้พบหลิงรัน มันทำให้หมอลู่เองพยายามกอดอกแน่นจนเหมือนกับนักกล้ามกำลังเบ่งกล้ามออกมา แต่เมื่อสังเกตดูดีกล้ามแขนของดูใหญ่ขึ้น เนื่องจากเขามีเวลาเข้ายิมเมื่อมาอยู่ที่นี้ มันเป็นสิ่งเดียวที่หมอลู่รู้สึกภูมิใจและเป็นสิ่งที่หมอลู่สามารถเอากลับไปที่หยุนหัวได้หลังจากการมาเซี่ยงไฮ้ในครั้งนี้
การที่หมอลู่ได้หุ่นที่ดีขึ้นมาได้นั้นเกิดมาจากว่า โรงแรมที่พักของเขาใกล้กับยิมและใช้เวลาไม่กี่นาทีในการเดินทางไปออกกำลังกายมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่หมอลู่จะมีเวลาออกกำลังกายมากขึ้น ตัวอย่างเช่นเมื่อเขาเดินผ่านทางเดินที่ไม่มีใครอยู่รอบ ๆ เขาสามารถนำปากกาเจลของเขาออกมาและใช้มือจับแขนเดียว ในขณะที่เขาเขียนเคสแพทย์ในห้องเขาสามารถหยิบดัมเบลล์และทำดัมเบลฟลายส์หลายกได้ เมื่อเขามีเวลาว่างในช่วงกลางวันเขาก็วิ่งไปที่สนามกีฬาเพื่ออุ่นเครื่องจากนั้นก็ลองทำยกน้ำหนักสองสามชุด
“ หมอลู่” ผู้ป่วยตะโกนดังขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากผ่านไปไม่กี่วินาที หมอลู่ก็ตะลึงออกมาจากอาการมึนงงของเขา
‘ผู้ป่วยเรียกหาฉันหรอเนี่ย‘
หมอลู่รู้สึกประหลาดใจอย่างลึกลับและหันกลับมามอง มันเป็นนักกีฬาขว้างจักร ซู่ฟางที่เพิ่งจะผ่าตัดวันก่อนเมื่อวานนี้
“ ผู้ป่วยพักผ่อนเป็นอย่างไรบ้างครับ” หมอลู่ดูเป็นมิตรมาก เพราะเมื่อเขามองหน้าเธอเขาพบว่าเธอดูอ่อนกว่าวัยมากๆเพราะการเป็นนักกีฬาของเธอและร่างกายที่ดูอวบจากน้ำหนักของเธอ
ซู่ฟ่านพยักหน้า “ ฉันหลับเต็มอิ่มเลยล่ะและก็รู้สึกดีมากๆ คุณต้องการไข่ตุ๋นไหม?”
เธอยกกล่องอาหารกลางวันข้างเธอแมันก็เป็นกล่องที่เต็มไปด้วยไข่ตุ๋น
“ คุณกินไข่มากขนาดนี้เลยหรอ?” หมอลู่ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาอย่างน่าประหลาดใจ
“ พวกมันคือไข่ตุ๋น สมัยก่อนตอนที่เราฝึกเสร็จโค้ชจะเอาไข่ตุ๋นมาให้เราทาน” เขาชี้ไปที่โต๊ะแล้วพูดว่า“ ในนั้นมีปูและกุ้งด้วย แต่ก็ไม่อร่อยเหมือนไข่ ”
“ กุ้งก็ตุ๋นด้วยไหม”
“ โค้ชบอกว่าอาหารเหล่านี้สดมากในตลาด แต่พวกมันก็มีรสเหมือนกันหมดเมื่อถูกเอาไปตุ๋น”
หมอลู่ รู้สึกราวกับว่าเหมือนภาระถูกปล่อยออกจากไหล่ [1] เขาหยิบไข่ลวกอย่างอยากรู้อยากเห็นและใส่เข้าไปในปากของเขา เขากัดมันเบา ๆ และยิ้มอย่างคร่ำครวญทันที “ นี่เป็นไข่ตุ๋นใช่ไหม”
ไข่ตุ๋นถ้าปรุงออกมาไม่ดีจะส่งผลถึงรสชาติ และที่ชัดเจนมากคือ ถ้ามันปรุงแล้วออกมาแย่รสชาติมันจะห่วยมากๆเกินจะรับไว้ซึ่งหมอลู่ในตอนนี้รู้สึกว่ารสชาติมันห่วยมากและเขารู้สึกโมโหมากเมื่อได้ได้ลองชิมมัน
“ จริงๆแล้วโค้ชของฉันทำอาหารไม่ค่อยเก่งเท่าไร ” ซู่ฟ่างยิ้มกว้างและยอมรับขอคิดเห็นของหมอลู่ จากนั้นเธอหันกลับไปวางกล่องอาหารกลางวัน เธอบิดเอวที่มีน้ำ 176 ปอนด์ไปทำให้เกิดเสียงดังเอี๊ยด
หลังจากหมอลู่ได้ยินว่าโค้ชเป็นคนปรุงอาหารเหล่านั้น เขาก็ยิ่งไม่ชอบมากขึ้น “ผมว่ารสชาตินี้มันก็ไม่เท่าไร ที่จริงร้านข้างนอกเมื่อพวกเขาทำไข่ตุ๋นรสชาติของมันนี้ถือว่าใช้ได้เลยที่เดียว”
“ นักกีฬาของเรากินอะไรที่มาจากร้านข้างนอกไม่ได้ นอกจากนี้สิ่งต่างๆในเซี่ยงไฮ้ก็มีราคาค่อนข้างแพงเช่นกัน เราประหยัดทุกอย่างที่เราทำได้” ซู่ฟางตอบอย่างเป็นธรรมชาติและส่งกล่องอาหารกลางวันไปที่หลิงรัน เธอถามว่า“ หมอหลิงคุณอยากทานมันบ้างไหม”
“ไม่เป็นไรขอบคุณ . หลิงรันส่ายหัวเล็กน้อย เพราะโยเกริต์ที่เขาเตรียมมาทั้งหมดนั้นเอาไปแลกกับผู้ป่วยคนอื่นที่อยู่รอบวอร์ดจนหมดแล้ว
“ หลังจากฉันหายดีฉันจะกลับไปทำไข่ตุ๋นเพื่อให้คุณได้ลองชิมมัน และจะบอกกับโค้ชของฉันว่าไข่ตุ๋นที่เขาทำมามันแย่ขนาดไหน ” ตอนนี้หมอลู่ดูอารมณ์ดีเมื่อมีผู้ป่วยเกี่ยวกับเรื่องการทำอาหารขึ้นมาในบทสนทนาของเขากับผู้ป่วย
ซู่ฟางหัวเราะ ตอนนี้อารมณ์ของเธอดีขึ้นมากหลังจากการผ่าตัด
จำนวนเตียงในศูนย์อายุรกรรมกระดูกและเวชศาสตร์การกีฬาตอนนี้ลดลง แต่ก็ยังเหลือพื้นที่อีกมากมาย มีการจัดห้องเดี่ยวทั้งห้องให้แก่เขาซู่ฟาง ห้องนี้มันดูสว่างไสวการตกแต่งภายในสะอาดการระบายอากาศดีมากและห้องไม่มีกลิ่น สิ่งอำนวยความสะดวกก็สะดวกมาก
เดิมทีแล้งจูตงยี่พยายามที่จะนำสิ่งที่เรียนรู้จากต่างประเทศมาปรับใช้กับสถาบันวิจัยของเขาโดยพยายามไม่ให้ญาติผู้ป่วยต้องมาลำบากดูแลผู้ป่วยในตอนพักฝื้น อย่างไรก็ตามเขาก็ล้มเหลวอย่างรวดเร็วเนื่องจากวัฒนธรรมของจีน แม้ว่าจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากมายขนาดไหน
ตอนนี้ซู่ฟางยังรู้สึกผ่อนคลายมากกว่าตอนที่เธออยู่ในทีมกีฬา หลังจากที่เธอผ่านขั้นตอนที่ทรมาณจากการผ่าตัดซึ่งเมื่อมาถึงหลังการผ่าตัด เธอก็ดูอารมณ์ดีขึ้น เธอไม่จำเป็นต้องตื่น แต่เช้าเพื่อฝึกซ้อมและเธอก็ชอบอาหารที่มีโปรตีนสูงซึ่งเธอต้องการทานมันหลังจากการผ่าตัด
“ ฉันได้เห็นเอ็มอาร์ไอของคุณแล้ว คุณฟื้นตัวได้ดีมาก หากคุณปฏิบัติตามคำแนะนำของกระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพอย่างเคร่งครัดเป็นไปได้ว่าคุณจะสามารถกลับมาฝึกซ้อมตได้หลังจากผ่านไปสี่เดือน” หลิงรันให้คำแนะนำทางการแพทย์เหมือนกับการฟื้นตัวของหลิวเหว่ย ซึ่งเป็นเคสอ้างอิงสำหรับการผ่าตัดในครั้งนี้ หากภายใต้ สถาณการณ์ที่คล้ายกันหลิวเหว่ย สามารถกู้คืนได้ถึง 92% หลิงรันจึงคิดว่าอาการของซู่ฟางก็คงไม่แย่กว่านั้น นอกจากนี้เธอพึงพักฟื้นเป็นวันที่สามหลังจากการผ่าตัดของเธอ เธอยังคงต้องทำกายภาพอีกสี่เดือนเนื่องจากตอนนี้การฟื้นตัวของเธอยังไม่สมบูรณ์ แต่ออย่างไรก็ดีหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการเธอจะสามารถกลับไปซ้อมกีฬาได้เช่นที่เธอเคยทำได้
นักกีฬาส่วนใหญ่มักจะไม่ให้ความสนใจกับการอุ่นเครื่องก่อนที่พวกเขาจะได้รับอาการบาดเจ็บจากการฉีกขาดของเอ็นร้อยหวายโดยเฉพาะอย่างยิ่งนักกีฬาระดับเยาวชนที่เข้าแข่งขันโดยไม่มีการอบอุ่นร่างกายเนื่องจากเหตุผลหลายประการ ถึงกระนั้นเอ็นส้นเท้า ของพวกเขาก็ยังสามารถทนแรงกดดันได้สูงจนถึงวันที่เมื่อร่างกายของพวกเขาโตขึ้นและกล้ามเนื้อของพวกเขาอ่อนล้าลงก็จะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ …
นักกีฬาที่มีการฉีดขาดของเอ็นกล้ามเนื้อโดยทั่วไปจะไม่อบอุ่นร่างกายของพวกเขา เมื่อพวกเขากำลังจะลงแข่งอะไรสักอย่าง ดังนั้นแม้ว่าเอ็นร้อยหวายของพวกเขาจะยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่หากรับน้ำหนักที่หนักเกิน พวกมันก็ยังสามารถทำงานได้กับเอ็นร้อยหวายที่ฟื้นตัว 90% ในความเป็นจริงแล้วเอ็นร้อยหวายที่ฟื้นขึ้นมาได้มากถึง 80% นั้นก็เพียงพอแล้วสำหรับพวกเขาโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการแข่งขันที่ไม่ใช่การเผชิญหน้าเช่นการขว้างจักรการวิ่งและ การแข่งขันที่ใช้แรงในการประทะเพียงเล็กน้อย
เมื่อเธอได้ยินสิ่งที่หลิงรันพูดในฐานะแพทย์ซู่ฟางก็มีความสุขมาก โค้ชของเธอที่ออกไปล้างจานกลับมาและขอบคุณหลิงรันอย่างดีอกดีใจ
หลังจากพวกเขาออกจากวอร์ดหมอลู่ถามว่า“ มันจะไม่ปัญหาใช่ไหมเกี่ยวกับการบอกกับเธอว่าเธฮจะฟื้นกลับมาเป็นปกติ?”
“ หากไม่มีปัญหาเรื่องการฟื้นฟูสมรรถภาพก็จะไม่มีปัญหา” หลิงรันให้คำตอบอย่างมั่นคง
เพราะเขาทำการผ่าตัดทั้งหมด ดังนั้นเขามีความมั่นใจที่จะพูดคำเหล่านั้นออกมา
“ แต่เพื่อความปลอดภัยเราควรระวังตัวไว้อาจถูกฟ้องได้” หมอลู่เตือนหลิงรัน
หลิงรันพูดและตอบว่า“ ไม่มีปัญหากับการผ่าตัดและไม่มีปัญหาเรื่องการวินิจฉัยโรค หากไม่มีปัญหาเรื่องการพักฟื้นเธอก็จะกลับมาเป็นปกติ ”
ความมั่นใจของหลิงรันทำให้หมอลู่ตกตะลึง เมื่อหมอลู่จบการศึกษาจากโรงเรียนแพทย์เป็นครั้งแรกเขาดูเหมือนจะเหมือนกับหลิงรันในตอนนี้แต่ต่อมาเขาก็เปลี่ยนแปลงไปตามโลกแห่งความเป็นจริง
“ ถัดไปคือห้อง 9 และห้อง 10 เป็นห้องพักของนักกีฬาทั้งสองที่เราทำการผ่าตัดไปเมื่อวานนี้ หนึ่งคือนักกีฬากระโดดสูงและอีกคนเป็นนักบาสเกตบอล ห้องที่ 13 มีนักบาสเกตบอลสั้น ” หมอลู่ มองดูสมุดบันทึกในมือของเขาและแนะนำพวกเขาให้รู้จักกับ หลิงรันในเวลาเดียวกัน
หลิงรันแสดงท่าทางทักทายแบบสุภาพ เขาพึงได้รับหีบสมบัติ S จาการขอบคุณอย่างจริงใจ ที่เขาเพิ่งได้รับจากระบบและด้วยรอยยิ้มหลักจากตรวจเบื้องต้นเสร็จเขาจึงเดินเข้าไปที่ห้องอื่นต่อ
“ สวัสดีวันนี้ผู้ป่วยรู้สึกอย่างไรบ้าง” หลิงรันยิมและแสดงท่าทางเป็นมิตรทำให้ผู้ป่วยรู้สึกดีเมื่อเจอเขา และช่วยเพิ่มอัตราการดรอปหีบสมบัติด้วย
ในตอนนี้มีทั้งนักกีฬากระโดดสูง และ นักบาสอยู่ในวอร์ดเดียวกันเพื่อทำการฟื้นฟูร่างกายโดยในวอร์ดนี้นักกีฬาที่มีปัญหามากที่สุดก็คือ นักกีฬาบาสร่างเล็ก เขาเองรู้สึกว่า เขาไม่ค่อยสบายใจมากนักหลังผ่าตัดแต่เมื่อเขาพบกับหลิงรันและได้สอบถามอาการของเขาทั้งหมด จนกระทั้งหลิงรันออกไป หลิงรันก็ได้ดรอปหีบสมบัตรกลับไป …
หลังจากเสร็จสิ้นการเดินรอบวอร์ดจำนวนหีบสมบัติทั้งหมดก็เพิ่มมาสิบเอ็ดหีบ หลิงรันรู้สึกพอใจกับจำนวนและพร้อมที่จะทำงานต่อไปให้สำเร็จก่อนที่เขาจะเปิดพวกมันทั้งหมดในครั้งเดียว
หลิงรันมองไปที่ทางเดินที่แออัดในวอร์ดและพูดว่า“ เหมือนวันนี้จะไม่มีงานอะไรแล้วยังงั้นพวกเรากลับกันเถอะ ”
“ โอ้ดีเลย ” หมอลู่ก็คิดเช่นนั้นเหมือนกัน
นักกีฬาสี่คนที่นักวิชาการจู้ตงยี่ขอร้องให้มารับการรักษาที่สถาบันวิจัยแห่งนี้ มีผลลัพธ์ของการผ่าตัดที่ดีทั้งหมดซึ่งหลังจากหลิงรันและหมอลู่ได้ทำการรักษานักกีฬาเหล่านั้นจนเสร็จพวกเขาเองก็ต้องรออยู่พักใหญ่จนกว่าทางโรงพยาบาลจะส่งผู้ป่วยมาอีกชุดหนึ่ง มันจะเป็นการดีกว่าถ้าพวกเขากลับไปที่โรงพยาบาลหยุนหัวและรอจนกว่าจะมีการผ่าตัดที่นี้พวกเขาจึงค่อยกลับมาอีกครั้ง
ในตอนนี้ทักษะของหลิงรันนั้นมันทำให้เขาเองได้ยืนอยู่ตำแหน่งของหัวศัลยแพทย์ ซึ่งนักวิชาการจู้ตงยี่เองก็ไม่เคยประสบความสำเร็จในการจ้างแพทย์ที่มีทักษะสูงเป็นเวลานาน เพราะด้วยข้อจำกัดของสถาบันและขาดการว่าพวกเขาเองก็คงจะไม่กลับมาทำงานให้กับสถาบันวิจัยอีกครั้งแน่ๆ
ถึงอย่างไรก็ดีจู้ตงยี้ก็พยายามที่จะให้โอกาสศัลยแพทย์หน้าใหม่ๆในการเข้ามาทำการผ่าตัดอยู่เสมอเขาพบแพทย์ที่ไม่พยศเหมือนกับหลิงรันแต่ถึงอย่างงั้นแพทย์เหล่านั้นก็ไม่สามารถมีทักษะเทียบเท่าหลิงรันได้อยู่ดี
รวมไปถึงภายในแผนกศัลยกรรมของสถาบันเองนั้นก็เกิดความผิดปกติเกี่ยวกับตำแหน่งหน้าที่เช่นกัน เพราะจะมีแพทย์เพียงเล็กน้อยเท่านั้นที่จะได้สิทธิ์เป็นหัวหน้าศัลยกรรมจริงๆ ถึงจะสามารถรับเคสในการผ่าตัดได้
ปัจจุบันหลิงรันเป็นแพทย์เพียงคนเดียวที่ได้ทำการผ่าตัด ซึ่งหลิงรันจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ จู้ตงยี่เสมอเว้นแต่เขาจะปฏิเสธการผ่าตัดหรือมีคำขอเคสผู้ป่วยมากเกินไป
ดังนั้นหลิงรันสามารถเข้าออกสถาบันวิจัยได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาแทนที่ตำแหน่งของเขาได้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสถาบันแห่งนี้มีเพียงหนึ่งร้อยแปดสิบเตียง ตอนนี้พวกเขาได้เพิ่มเตียงเสริมห้าสิบห้าและไม่มีที่ว่างให้ผู้ป่วยรายใหม่แล้ว หลิงรันหยุดทำการผ่าตัดหลังจากที่เขาผ่าตัดไปทั้งหมด 11 ครั้งเมื่อวานและเมื่อวาน มีเตียงเสริมเพิ่มขึ้นมาสามเตียงสำหรับผู้ป่วยของแพทย์คนอื่น
จำนวนเตียงในศูนย์อายุรกรรมกระดูกและเวชศาสตร์การกีฬาในตอนนี้ถึงขีด จำกัด แล้ว
แม้ว่ามันจะเป็นโรงพยาบาลทั่วไปแต่กก็สามารถมีเตียงเสริมตลอดทั้งปีหากแผนกหนึ่งมีร้อยแปดสิบเตียงทางแผนกก็สามารถเพิ่มเตียงเสริมได้อีกสูงสุดไม่เกินหนึ่งร้อยเตียง แต่ในความเป็นจริงมีไม่กี่แผนกที่เท่านั้นที่จะผู้ป่วยแออัดจนถึงขั้นนั้น แต่อย่างไรก็ดีเมื่อหลิงรันเป็นหมอผ่าตัดที่นี้เขารับรู้ได้เลยว่าต่อให้เพิ่มจำนวนเตียงเสริมก็ไม่เพียงพอต่อการผ่าตัดของเขาในตอนนี้
“ เราจองเที่ยวบินกลางคืนและเราจะออกเดินทางหลังจากเราเสร็จงานในวันนี้ เราจะผ่าตัดต่อไปจนถึงที่สุด” หลิงรันแสดงความรับผิดชอบอย่างถึงที่สุด
หมอลู่ ได้รับข้อความ “ ผมซื้อตั๋วตอนเก้าโมงเช้า เราจะกลับถึงบ้านเวลาประมาณเที่ยง หากเรานอนไม่หลับเราสามารถเริ่มทำการผ่าตัดในโรงพยาบาลหยุนหัวในเช้าวันพรุ่งนี้เลย ”
ริมฝีปากของ หลิงรันกระตุกขึ้นด้วยความแปลกใจ แต่เขาก็ยังพยักหน้า “ เอาล่ะอย่างงั้นคืนนี้มานอนให้หลับเถอะ ”
หมอลู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอกอย่างอ่อนโยน เขาไม่กลัวที่จะหลิงรันทำการผ่าตัดในชั่วข้ามคืน เขากลัวว่าหลิงรันจะทำการผ่าตัดข้ามคืนและค่อยหยุดในวันถัดไปแทนที่จะพักหลังจากกลับมาถึงหยุนหัวแล้ว ท้ายที่สุดโรงพยาบาลหยุนหัวมีผู้ช่วยอีกสองคนคือมาหยานลินและหยูหยวน ในที่สุดตอนนี้หลิงรันก็ได้ผู้ช่วยฝีมือดี และ ผู้ช่วยที่มีทักษะเพียงพอที่จะช่วยให้เขาทำการผ่าตัดได้อย่างเยี่ยมยอดอย่างแท้จริง
หมายเหตุผู้แปล:
[1] เพราะมันหมายความว่าเขาไม่ต้องต้มเนื้อกุ้งในขณะนี้ซึ่งหมายถึงการทำงานในครัวน้อยลงและมีเวลามากขึ้นเรื่อย ๆ