ตอนที่ 318 สองทางเลือก
ถึงอย่างไรเหลิ่งกวงและฉู่ขวงก็ไม่ใช่คนเยี่ยน
ทั้งสองไม่ได้กำหนดเกณฑ์สำหรับการประชันวรรณกรรมที่มากเกินไป เพียงแต่ใช้บทสนทนาผ่านปู้ลั่ว ท้าประชันวรรณกรรมกันอย่างเรียบง่าย ด้วยการปล่อยผลงานของทั้งคู่พร้อมกัน โดยมีชาวเน็ตเป็นสักขีพยาน
นั่นทำให้ทั้งสองคนมีเวลาในการเตรียมตัวพอสมควร
หลังจากยืนยันว่าจะเขียนฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส วันเวลาหลังจากนั้นของหลินเยวียน ส่วนมากก็ง่วนอยู่กับเรื่องนี้
แนะนำฉากเปิดคร่าวๆ
ท่ามกลางผืนหิมะอากาศอันหนาวเหน็บ รถไฟขบวนหนึ่งกำลังวิ่งไป และปัวโรต์ตัวเอกของพวกเราก็โดยสารรถไฟขบวนนี้พอดี
ใช่ เขาคือปัวโรต์จริงๆ ไม่ใช่เอโดงาวะ โคนัน
เอาเป็นว่าคดีฆาตกรรมได้เกิดขึ้นแล้ว
ผู้เสียชีวิตเป็นผู้โดยสารคนหนึ่ง ถูกแทงดับในห้องโดยสาร
ขณะเดียวกัน เพราะหิมะตกหนัก รถไฟจึงถูกบังคับให้หยุดลง
ที่นี่โดยรอบไร้ซึ่งบ้านเรือนหรือแหล่งชุมชน
ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและหมอบนขบวนรถไฟทำได้เพียงล้อมรอบยอดนักสืบปัวโรต์ผู้โด่งดังซึ่งเข้ามาดำเนินการสืบคดีเท่านั้น!
มีเพียงการหาตัวฆาตกรและไขคดีให้เสร็จสิ้นเท่านั้นจึงจะรับประกันความปลอดภัยของผู้โดยสารที่เหลือได้
นี่คือสิ่งที่เรียกว่ารูปแบบการฆาตกรรมในห้องปิดตายของนิยายสืบสวนสอบสวนดั้งเดิม!
เนื่องจากหิมะหนาปิดเส้นทางการเดินรถ รถไฟซึ่งถูกขังอยู่ท่ามกลางอากาศหนาวเหน็บจึงกลายเป็น สภาพแวดล้อมสุดคลาสสิกของคดีฆาตกรรมในห้องปิดตาย
ทั้งคลาสสิก ทั้งโบราณ เป็นรูปแบบที่กาลเวลาไม่อาจลบล้างได้
ลำพังในยอดนักสืบจิ๋วโคนัน ก็เกิดคดีฆาตกรรมในห้องปิดตายนับไม่ถ้วน
หลังจากนั้นปัวโรต์ก็เริ่มสืบสวนคดี โดยแยกพูดคุยกับผู้โดยสาร ทั้งยังค่อยๆ เรียนรู้ตัวตนของผู้เสียชีวิต
ผู้เสียชีวิตคล้ายกับว่าจะไม่ใช่คนดีอะไร
ขณะนั่งอยู่บนรถไฟ เขากังวลอยู่ตลอดเวลาว่าจะถูกลอบสังหารจากที่ไหนก็ไม่รู้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้ชายคนนี้น่ารำคาญขนาดไหน
บางทีอาจเป็นเพราะมีศัตรูมากเหลือเกิน ตอนผู้ตายมีชีวิตอยู่จึงเคยพูดคุยกับปัวโรต์ หวังว่านักสืบชื่อดังท่านนี้จะช่วยปกป้องตน
ปัวโรต์ปฏิเสธ
เขาเป็นนักสืบ ไม่ได้มีหน้าที่ปกป้องใคร
แน่นอนว่า เหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ปัวโรต์ไม่ชอบผู้ชายที่มีสายตาเย็นชาคนนี้
แต่ถึงอย่างนั้น ปัวโรต์ก็นึกไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้จะเสียชีวิต
ปัวโรต์จึงจำเป็นต้องทำหน้าที่นักสืบเพื่อไขความจริง
หลังจากเข้าใจตัวตนของผู้เสียชีวิต ปัวโรต์ก็ค้นพบเรื่องที่น่าตกใจเรื่องหนึ่ง
ผู้โดยสารบนรถไฟกว่าสิบคน ล้วนเกี่ยวข้องกับคดีลักพาตัวที่ผู้ตายก่อขึ้น!
ฉะนั้น คำให้การของพวกเขาจึงเป็นเท็จทั้งหมด!
เพราะพวกเขาล้วนมีส่วนร่วมในการฆาตกรรม!
ทั้งคดีนี้ เป็นการร่วมมือกันของพวกเขา เพื่อปกปิดความผิดของกันและกัน!
หลังจากนั้นความจริงก็ปรากฏเพิ่มขึ้น
ผู้เสียชีวิตเคยก่อคดีลักพาตัว และหลังจากฆาตกรรมเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอย่างโหดเหี้ยม ก็ยังคงลอยนวลด้วยการติดสินบน
ในขณะนั้นมารดาของเด็กหญิงกำลังตั้งครรภ์ และไม่นานก็คลอดทารกที่ตายในครรภ์ออกมา และจากไปด้วยโรคร้ายแรง
บิดาของเด็กหญิงตัวน้อยก็ตรอมใจจากไปเช่นกัน
แม่นมของเด็กหญิงฆ่าตัวตายเพราะตกเป็นผู้ต้องสงสัย และไม่สามารถสืบหาหลักฐานได้
ดังนั้นข้อเท็จจริงของคดีนี้จึงน่าตกใจสุดขีด
นอกจากปัวโรต์ ประธานกรรมการของบริษัทรถไฟ และหมอชันสูตรศพแล้ว ทั้งสิบสองคนบนขบวนรถไฟล้วนเป็นฆาตกร!
พวกเขาทุกคนรู้จักครอบครัวที่น่าสงสารนี้ ทั้งยังเคยได้รับความช่วยเหลือจากครอบครัวนี้มามาก ดังนั้นเมื่อเห็นผู้ต้องหาลอยตัวอยู่เหนือความรับผิดชอบทางกฎหมาย จึงตัดสินใจลงมือประชาทัณฑ์ และรุมสังหารเขา
แต่หลังจากที่นักสืบปัวโรต์เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด จึงกล่าวถึงความเป็นไปได้สองประการในการไขคดี
คนที่เคยอ่านรหัสคดีของปัวโรต์จริงๆ จะรู้ว่า ปัวโรต์จะเอ่ยถึงความเป็นไปได้หลายอย่าง เมื่อเขากำลังจะเปิดเผยความจริงในตอนสุดท้าย และนอกจากแนวคิดสุดท้ายแล้ว แนวคิดอื่นล้วนผิดทั้งหมด
ครั้งนี้ก็เช่นกัน
ปัวโรต์พูดความคิดชุดหนึ่งออกมา (ซึ่งไม่ใช่คำพูดต้นฉบับ)
‘ฆาตกรขึ้นรถไฟมาระหว่างทาง และหนีไปหลังจากฆ่าคนแล้ว อาจเป็นมาเฟียหรืออะไรสักอย่าง เขามีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับผู้ตาย คำอธิบายนี้ขึ้นอยู่กับว่าจะเชื่อคำให้การของคนทั้งสิบสองคนนี้อย่างไร’
คำให้การของทั้งสิบสองคน สามารถเป็นข้อแก้ตัวให้แก่กันและกันได้
โดยพื้นฐานแล้วไม่มีใครเดาออกหรอกว่า สิบสองคนนี้เป็นฆาตกรทุกคน!
อย่างไรก็ดี คำกล่าวนี้เต็มไปด้วยช่องโหว่ หมอซึ่งอยู่บนขบวนรถไฟคัดค้านอย่างรุนแรง
ส่วนช่องโหว่ที่ว่า ปัวโรต์ได้อธิบายไว้โดยละเอียดในหนังสือแล้ว
หลังจากนั้นปัวโรต์ก็เอ่ยถึงความเป็นไปได้ประการที่สอง ซึ่งเป็นความเป็นไปได้ที่เหลือเชื่อ
ผู้โดยสารสิบสองคน เป็นฆาตกรทั้งหมด พวกเขาใช้มีดแทงคนละครั้ง สุดท้ายแล้วปลิดชีพผู้ตายสำเร็จ หลังจากนั้นก็หาข้อแก้ตัวให้แก่กันและกัน เพื่อสร้างเป็นคดีซึ่งไร้ซึ่งหนทางในการคลี่คลาย
ถึงแม้จะเหลือเชื่อ แต่ฆาตกรก็ยอมจำนนแล้ว
ทั้งสิบสองคน หวนนึกถึงเหตุการณ์อันน่าสังเวชในตอนนั้นด้วยความเจ็บปวด
ในนิยายบรรยายไว้เช่นนี้
เห็นจะเป็นหลังจากที่ครอบครัวของผู้มีพระคุณเสียชีวิตอย่างอเนจอนาถแล้ว ญาติและเพื่อนฝูงต่างมีชีวิตอยู่อย่างเจ็บปวด ในเมื่อกฎหมายไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้ พวกเขาจึงเลือกใช้วิธีตาต่อตา ฟันต่อฟัน
เมื่อถึงตรงนี้
ปัวโรต์สอบถามจากผู้รับผิดชอบบนรถไฟ ว่ายอมรับคำตอบใด
ผู้รับผิดชอบเลือกคำตอบที่หนึ่ง ซึ่งเป็นคำตอบที่ผิด
หมอจึงรับปากเขา บอกว่าจะช่วยรักษาพยาบาลให้
เพราะมีเพียงคำอธิบายแรกเท่านั้นที่จะช่วยให้ฆาตกรทั้งสิบสองคนไม่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย
ทว่ารายละเอียดไม่ตรงกัน
เพราะฉะนั้นหมอจึงเปรยว่าจะให้การช่วยเหลือทางการแพทย์
ตั้งแต่ต้นจนจบ ปัวโรต์ไม่ได้บอกเลยว่าความเป็นไปได้ข้อใดถูกต้อง
เขากล่าวเพียงว่า ผมให้สองทางเลือก พวกคุณเลือกเอง
นั่นก็คือการช่วยเหลือทั้งสิบสองคนปกปิดความจริง หรือเปิดโปงความผิด ให้พวกคุณเลือกด้วยตัวเอง
ผู้รับผิดชอบรถไฟและหมอเลือกการปิดบังความจริง
อันที่จริงปัวโรต์เองก็คิดเช่นนั้น ไม่อย่างนั้นด้วยนิสัยของเขาแล้ว คงไม่ให้ตัวเลือกกับผู้อื่นเช่นนี้
เขาตัดสินใจถอนตัวจากคดีในฐานะนักสืบ
ตอนจบมีเจตนาทิ้งปลายเปิด
ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าฆาตกรทั้งสิบสองคนมีจุดจบอย่างไร
ทว่า ใน ‘นัดมรณะ’ นิยายอีกเล่มหนึ่งของคุณย่านั้นมีเซอร์ไพรส์ที่เกี่ยวข้อง
มีการกล่าวถึงไว้อย่างชัดเจนว่าปัวโรต์ไม่ได้เป็นผู้เปิดโปงทั้งสิบสองคน
รายละเอียดนั้นภรรยาของผู้ต้องสงสัย (เธอเองก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย) บอกกับปัวโรต์ว่า
‘ฉันรู้ว่าคุณปล่อยตัวฆาตกรบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส ให้พวกเขาลงโทษคนชั่วนั่น ครั้งนี้คุณทำแบบเดิมไม่ได้หรือ?’
ปัวโรต์ถาม ‘คุณรู้เรื่องรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสได้อย่างไร ครั้งนี้ไม่ได้หรอก สองคดีนี้ไม่เหมือนกัน’
ความหมายก็ประมาณนี้
บนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส ปัวโรต์ปล่อยฆาตกรไปจริงๆ
สำหรับรูปแบบการร่วมมือกันก่อคดีในเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส ถึงแม้จะมีอิทธิพลไม่มากเท่ารูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้
รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้นั้นหล่อเลี้ยงชีวิตนักเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนชาวญี่ปุ่นมานานหลายปี
แต่ก็เป็นการบุกเบิกคดีที่คลาสสิกมากทีเดียว
หลังจากนิยายเรื่องนี้ปล่อยออกมา นิยายสืบสวนสอบสวนอีกไม่น้อยก็เริ่มเลือกใช้รูปแบบการฆาตกรรมแบบร่วมมือกัน โดยได้แรงบันดาลใจจากที่นี่เอง
คุณย่าเป็นผู้คิดค้นหลากหลายรูปแบบ
ถ้าพวกเขาเคยอ่านรูปแบบที่ใกล้เคียงกัน เมื่ออ่านหนังสือของคุณย่าอาจไม่ได้รู้สึกตกใจ แต่ถ้าหากเคยสัมผัสเป็นครั้งแรก ก็น่าจะตกตะลึงมากทีเดียว!
โดยเฉพาะรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือหรือรูปแบบคดีตายหมู่บนเกาะ!
ตอนนี้รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ออกไปแล้ว ส่วนรูปแบบตายหมู่บนเกาะเป็นไม้เด็ด หลินเยวียนยังไม่ได้ปล่อยไป
สรุปแล้วในตอนนี้ หลินเยวียนปรับแก้และดัดแปลงภูมิหลังตัวละครในเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนี้ ก็เป็นขั้นตอนการเขียนหนังสืออย่างเป็นทางการ
……………………………………………………..