ตอนที่ 347 ตัดขาด

ตอนที่ 347 ตัดขาด

ซูเถากำลังตรวจสอบสถานการณ์การจัดการที่อยู่อาศัยของเถาหยาง เธอก็เลยพูดอย่างไม่แยแส

“ฉันไม่ว่าง ถ้าคุณอยากดูก็มาที่เถาหยางเพื่อดูด้วยตาตัวเองแล้วกัน ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม? ถ้าไม่มีอะไรแล้วฉันวางก่อนนะ”

ขณะเดียวกันเมิ่งเชียนก็มาเคาะประตูห้องทำงาน “เถ้าแก่ มีคนมาขอพบ”

“หืม ใครเหรอ รอฉันเดี๋ยวเดียว หัวหน้าทีมซ่ง ฉันไม่มีเวลาคุยกับคุณแล้วจริง ๆ ขอตัว” ซูเถาเอ่ย

ซ่งเยว่ปินกัดฟันและพูดว่า “เถ้าแก่ซู ผมอยากขอโทษคุณนะ ผมเอารูปของเสียวหั่วเยี่ยนให้กับคุณนายเวินที่ฐานเชียนอันดู เธอชอบหั่วเยี่ยนมากและวางแผนว่าจะเดินทางไปดูมันด้วยตัวเองที่เถาหยางภายในสิ้นเดือนนี้ เถ้าแก่ซูฟังผมก่อน!”

“ผมรู้ว่าคุณต้องโกรธที่ผมอ้างสิทธิ์โดยที่คุณไม่ได้อนุญาต แต่ช่วยไม่ได้จริง ๆ ผมมีพี่น้องในทีมมากมาย ผมต้องดำเนินงานเพื่อที่จะได้มีรายได้เข้ามา พี่น้องของผมมีทั้งคนแก่และเด็ก ถ้าคุณนายเวินมีความสุข มันก็สามารถทำให้คุณลั่วเปิดเส้นทางขนส่งทางตอนเหนือให้เราได้ และในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ทุกคนก็จะไม่ต้องกังวลเรื่องการทำมาหากิน ผม…”

ซูเถาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ และพยายามสงบสติอารมณ์ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งไม่ให้กล่าวอะไรบางอย่างออกมาได้

“หัวหน้าทีมซ่ง! ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะมีปัญหาอะไร แต่ในฐานะเพื่อน คุณไม่คิดจะบอกฉันก่อนเลยเหรอ! มิหนำซ้ำคุณยังมาใช้ข้ออ้างกับฉันอีก คุณบอกว่าคิดถึงเสียวหั่วเยี่ยน แต่ที่แท้เป็นคุณนายเวินสินะที่อยากดูมัน คุณได้เผยความจริงออกมาแล้ว!”

“ที่วันนี้คุณมากล่าวขอโทษฉัน เป็นเพราะว่าคุณนายเวินกำลังเดินทางมาใช่ไหม เพราะหากคุณไม่ยอมรับตั้งแต่ตอนนี้ ถึงตอนนั้นถ้าเธอกับฉันได้สื่อสารกันก็จะพบว่าคุณมันนกสองหัว! อย่าพูดถึงการเปิดเส้นทางการขนส่งสำหรับขบวนของคุณเลย ฉันไม่ผลักพวกคุณล้มลงจนลุกไม่ขึ้นก็ดีแค่ไหนแล้ว!”

ซ่งเยว่ปินรู้สึกละอายใจ ใบหน้าของเขาชาไปหมดหลังจากที่ได้ฟังซูเถาพูดทุกอย่างผ่านเครื่องมือสื่อสาร

เขาพูดอะไรไม่ออก และมือที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็อ่อนแรงลง แต่เขามีทางเลือกอื่นด้วยเหรอ? เขาต้องทำมาหากินและต้องคำนึงถึงอนาคตของพี่น้องของตัวเอง

ในยุควันสิ้นโลกแบบนี้ ชีวิตมนุษย์แทบไม่มีราคา แต่แมวกลับมีค่ามากมาย?

“หัวหน้าทีมซ่ง คุณควรสารภาพเรื่องนี้กับคุณนายเวินด้วยตัวเอง เพราะฉันไม่เคยพูดว่าฉันต้องการขายเสียวหั่วเยี่ยน ดังนั้นฉันจะไม่รับผิดชอบเรื่องที่คุณก่อขึ้น”

ใบหน้าของซ่งเยว่ปินซีดเซียว

“เถ้าแก่ซู ผมไม่สามารถงัดข้อกับทางเชียนอันได้ ผมทำไม่ได้จริง ๆ และคุณก็ทำไม่ได้เช่นเดียวกัน ในทางเหนือพวกเขามีอำนาจมาก เนื่องจากพวกเขามีเครือข่ายที่กว้างขวางและซับซ้อน ไม่ต้องพูดถึงคนอื่นเลย พ่อของคุณนายเวินเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในฉางจิง ตำแหน่งสูงจนผมไม่กล้าพูด คุณ… ไม่สามารถ”

จู่ ๆ ซูเถาก็รู้สึกว่าความลำบากตกมาอยู่ที่ตนเอง ในขณะเดียวกันเธอก็รู้สึกเกลียดซ่งเยว่ปินขึ้นมา

“เยี่ยมจริง ๆ คุณเป็นคนเริ่มเรื่องทุกอย่าง แต่กลับลากฉันจมน้ำไปด้วย ให้ฉันแบกรับมันไว้ ฉันต้องก้มหน้ายอมรับการตัดสินใจของคุณงั้นเหรอ! หัวหน้าทีมซ่ง วันที่มีอุณหภูมิสูงจนคุณเป็นฮีทสโตรก เส้นเอ็นฉีกขาด ตอนนั้นที่คุณนอนพะงาบ ๆ อยู่บนเตียง คุณเคยคิดบ้างไหมว่าฉันเป็นคนช่วยชีวิตคุณเอาไว้?”

“หลังจากฉันช่วยคุณเอาไว้ คุณก็ลืมสิ้นทุกสิ่ง เรื่องราวที่ภูเขาผานหลิวคุณลืมหมดแล้วใช่ไหม ที่บอกว่าเราได้ผูกมิตรกันแล้ว หัวหน้าทีมซ่ง ฉันผิดหวังในตัวคุณจริงๆ แล้วก็… เสียใจมาก!”

ซูเถาเศร้าจริง ๆ

ตอนที่ซ่งเยว่ปินบอกว่าเขาถือว่าเธอเป็นมิตร เธอยังคงจำท่าทางร่าเริงของอีกฝ่ายได้ชัดเจน

เขาปกป้องภูเขาผานหลิว ช่วยเธอลงโทษอันธพาลเหล่านั้น และปราบปรามสถานีเก่า… เรื่องราวดูเหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวาน แต่ชั่วพริบตา เขาก็ทำลายความไว้ใจของเธอไปหมดสิ้น

เธอเข้าใจความยากลำบากของซ่งเยว่ปิน แต่อย่างน้อยเขาควรพูดกับเธอตามตรง ไม่ใช่ไปหลอกลวงคุณนายเวิน ไม่งั้นเธอก็คงไม่โกรธถึงขนาดนี้

ครั้งนี้ซ่งเยว่ปินจงใจวางแผนต่อต้านเธอ ทำให้เธอไม่มีเวลาสำหรับการพูดคุยและเตรียมการ

ดวงตาของซ่งเยว่ปินเปลี่ยนเป็นสีแดง ริมฝีปากของเขาก็สั่นสะท้านไปกับสิ่งที่เธอพูดบราวนี่ออนไลน์

“เถ้าแก่ซู พวกเราไม่มีทางกลับมาเป็นเพื่อนกันแล้วใช่ไหม?”

“แล้วคุณเห็นฉันเป็นเพื่อนเหรอ เพื่อนกันทำเรื่องอะไรแบบนี้ลับหลังกันเหรอ”

วันนี้ซ่งเยว่ปินสามารถโกหกเธอได้เพราะแมวแค่ตัวเดียว ไม่แน่ว่าวันหน้า เขาอาจจะหลอกลวงเธอเพื่อผลประโยชน์อื่น ๆ ได้อีกมากมาย!

ซ่งเยว่ปินกำหมัดแน่น “ผมขอโทษ ผมทำเกินกว่าเหตุจริง ๆ ถ้าคุณไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมแล้วก็ไม่เป็นไร หลังจากเหตุการณ์นี้ เราก็แยกย้าย แต่หากผมมีโอกาสผมจะตอบแทนคุณแน่นอนเถ้าแก่ซู ขอให้คุณพบเจอกับความราบรื่นนะ!”

หลังจากพูดจบ เขาก็วางสายไป

ซูเถาโกรธมาก เธอเอนกายลงบนเก้าอี้และครุ่นคิดอยู่นาน ก่อนที่จะถามเผยตงเกี่ยวกับฐานเชียนอัน

จริงดังที่ซ่งเยว่ปินกล่าว ไม่มีใครกล้าทำให้เชียนอันขุ่นเคือง แม้แต่ตงหยางยังต้องซื้อฐานทัพเคลื่อนที่จากเชียนอันทุก ๆ สองถึงสามปี พวกเขาต้องส่งรถไปที่เชียนอัน เพื่อซ่อมแซมและบำรุงรักษาเป็นครั้งคราว

ฐานทัพเคลื่อนที่มีการใช้งานที่หลากหลาย ไม่เพียงแต่สำหรับการตั้งแคมป์ และยังสามารถใช้เป็นอาวุธได้

ฐานเล็ก ๆ หรือสถานที่เล็ก ๆ บางแห่งนำฐานทัพเคลื่อนที่มาตั้งไว้ที่ด้านหน้าอาคาร เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้ที่มีกำลังซื้อกับผู้ที่ไม่มีกำลังอยู่คนละระดับกัน

ตามคำแนะนำของเผยตงคือถ้าเธอไม่ต้องการขายเสียวหั่วเยี่ยนจริง ๆ สามารถพูดกับคุณนายเวินได้โดยตรง และปฏิเสธอย่างสุภาพเมื่อเธอพูดถึงการซื้อแมว

ตราบใดที่ไม่เป็นคนพาลก็มักจะไม่เป็นโจร

ซูเถาครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง และพบว่านั่นเป็นวิธีเดียวในตอนนี้

เธอกับซ่งเยว่ปิน… คงต้องตัดขาดกันแล้วจริง ๆ เธอเลิกคาดหวังว่าเขาจะกลับไปเป็นคนที่มีความกรุณาเหมือนก่อน

หลังจากคุยกับเผยตงทางโทรศัพท์ เมิ่งเชียนก็มาเคาะประตูอีกครั้ง

“ขออนุญาตเถ้าแก่ กัปตันต้วนแห่งทีมทหารรับจ้าง ‘พั่วจู๋’ รออยู่ข้างล่างสักพักแล้ว ให้เขาขึ้นมาไหม”

ซูเถาต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะจำได้ว่ากัปตันต้วนต้องการให้อาจารย์ของเขาเกษียณในเถาหยาง

อย่างไรก็ตาม เถาหยางมีข้อบังคับที่ไม่สามารถรับคำขอเช่าจากบุคคลภายนอกได้เป็นการชั่วคราว กัปตันต้วนจึงอยากคุยกับเธอ เผื่อจะโน้มน้าวใจเธอได้

ซูเถาปวดหัว

“เชียนเชียนให้เขากลับไปก่อนได้ไหม ตอนนี้ฉันงานล้นมือจริง ๆ หลังจากฉันจัดการธุระเสร็จเดี๋ยวฉันจะไปหาเขาด้วยตัวเอง? แล้วหลังจากเธอกลับมา ค่อยมาคุยกับฉันเรื่องห้องใหม่ที่จะปล่อยเช่าเดือนสิบ”

เมิ่งเชียนตอบรับและรีบอธิบายสถานการณ์ให้กัปตันต้วนฟัง

เมื่อเหล่าอวี๋ผอที่นั่งอยู่แถวนั้นได้ยินสิ่งนี้ เธอก็เงยหน้าขึ้นแล้วถามอย่างตรงไปตรงมา “เถาหยางไม่มีคนช่วยงานแล้วเหรอ ทำไมเจ้านายเธอยุ่งจัง”

เมิ่งเชียนรู้เรื่องพลังของหญิงชราคนนี้จากหม่าต้าเพ่าแล้ว และรู้สึกอยากจะร้องไห้ “สิ่งที่คุณสอน คือสิ่งที่พวกเราจะสามารถช่วยแบ่งเบาเธอได้”

เหล่าอวี๋ผอพูดออกมาอย่างจริงจัง “เธอไปบอกซูเถาให้เร็วที่สุดว่า ไม่ว่าจะยุ่งแค่ไหนก็ต้องรีบซื้ออาวุธ แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีสิ่งใดเข้ามาโจมตีเถาหยางได้เพราะมีโดมป้องกันและกำแพงไฟฟ้านั่น แต่ก็ต้องมีความแข็งแกร่งและเรียนรู้การใช้อาวุธเอาไว้บ้าง อย่างไรก็ตาม อาวุธไม่จำเป็นต้องแพงเกินไปนะ อาวุธขั้นสูงล้วนเป็นกลโกง ซื้อแค่อาวุธธรรมดามาชุดหนึ่ง แล้วฉันจะปรับปรุงให้ รับรองว่าพวกมันจะใช้งานได้ดีกว่าของฉางจิงแน่นอน”

เมิ่งเชียนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว “โอเค ฉันจะหาโอกาสคุยกับเถ้าแก่นะคะ”

จะมีใครโจมตีเถาหยางเหรอ?

ทำไมดูเหมือนสงครามกำลังจะเริ่มขึ้นล่ะ? เธอสัมผัสได้ถึงวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นทันที

กัปตันต้วนที่อยู่ข้าง ๆ ก็เต็มไปด้วยความรู้สึกวิตก เขารู้สึกโกรธเกรี้ยวฝ่ายศัตรูของเถาหยางจึงตามเมิ่งเชียนไปด้วยทันที

“คุณเมิ่ง เมื่อถึงเวลา เราจะเป็นผู้ต่อสู้ในสงครามเอง!”

เมิ่งเชียนตกใจมาก จะเกิดสงครามขึ้นจริง ๆ เหรอ!

แล้วทำไมเถ้าแก่ยังทำงานก่อสร้างอยู่!

ไม่ต้องพูดถึงอาวุธ เถาหยางไม่มีกำลังคนเพียงพอด้วยซ้ำ