ตอนที่ 326 สายโทรเข้าจากสเปนเซอร์

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 326 สายโทรเข้าจากสเปนเซอร์
ตอนที่ 326 สายโทรเข้าจากสเปนเซอร์

“ตอนที่ท่านโจมตีจักรวรรดิของเรา ทำไมไม่คิดบ้างว่าลูกสาวของเราจะเป็นฮีโร่ไปช่วยคลี่คลายการปิดล้อมของเอเลี่ยน? เฮอะ พอตอนนี้ถูกเอเลี่ยนปิดล้อมเลยเริ่มนึกถึงลูกสาวของเราสินะ?”

สวี่เทียนอวี๋ไม่เคยเห็นคนที่ไร้ยางอายแบบนี้มาก่อน!

สเปนเซอร์ถอนหายใจภายใต้ความโกรธเคืองและคำพูดเสียดสีของอีกฝ่าย “ถ้าเธอเต็มใจจะมาช่วยจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จากการปิดล้อมในครั้งนี้ เรายินดีจะสละบัลลังก์และส่งต่อให้องค์หญิงเหมยหมี่ ลูกสาวของเรา”

“นอกจากนี้เราเต็มใจจะมอบพืชพลังงานทั้งห้าต้นเป็นของตอบแทนให้กับองค์หญิงจากจักรวรรดิของท่าน เพื่อเห็นแก่ความกรุณาของเธอที่มาช่วยพวกเรา”

ห้าต้น! ทุกคนต่างตกตะลึง!

เดิมทีทุกคนคิดว่าองค์หญิงเหมยหมี่ใจกว้างพอแล้ว แต่ไม่คาดคิดว่าฝ่าบาทสเปนเซอร์จะใจกว้างเสียยิ่งกว่า!

“ห้าต้น?” สวี่เทียนอวี๋ตกตะลึง จากนั้นเขาจึงเริ่มตอบสนองและตอบกลับอย่างเย็นชาว่า “เราไม่ต้องการทั้งหมดนั้น! ฮึ่ม! ลูกสาวของเรามีค่ามากกว่าพืชพลังงานทั้งห้าต้นนี้!”

อย่าคิดว่าเขาไม่รู้ว่ามีเอเลี่ยนระดับ 8 ดาวและ 9 ดาวอยู่ที่นั่น ว่ากันว่ายอดฝีมือระดับ 9 ดาวจำนวนตั้งหนึ่งในสามถูกโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส!

นี่ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยเลย!

แม้ว่าลูกสาวของเขาจะเป็นยอดอัจฉริยะ แต่ว่าเธอก็ยังอยู่ในระดับ 9 ดาว จะให้เธอคลี่คลายสถานการณ์ปิดล้อมได้อย่างไร?

แต่ว่าจะรอให้แก้ไขได้ต้องรอให้ถึงระดับ 10 ดาวเลยหรือเปล่า?

ถึงสวี่เทียนอวี๋จะจ้องพืชพลังงานทั้งหลายตาเป็นมัน แต่เขากลับรู้สึกลำบากใจแทนลูกสาว!

“อย่าได้คิด! ไม่มีทางหรอก!” สวี่เทียนอวี๋วางสายวิดีโอลงอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นว่าสวี่เทียนอวี๋วางสายวิดีโอลง ใบหน้าของสเปนเซอร์ก็กลายเป็นบิดเบี้ยวยิ่งนัก

ถึงเขาจะไม่ได้คาดหวังไว้ตั้งแต่แรก แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายวางสายวิดีโอใส่ เขากลับรู้สึกสิ้นหวัง

“เสด็จพ่อ อย่าเปลืองแรงเลยเพคะ” เหมยหมี่พูดเบา ๆ “ท่านคิดว่าอีกฝ่ายจะมาช่วยเราเหรอเพคะ?”

วิดีโอยังคงถ่ายทอดสดอยู่ ผู้คนจากจักรวรรดิชิงเหย้าที่อยู่บนดาวเคราะห์ดวงอื่นมองดูฝ่าบาทที่มักจะวางตัวไว้เหนือทุกคนทั้งปวงเสมอ แต่ตอนนี้กลับกำลังแสดงท่าทีโศกเศร้ากับการสูญเสีย ซึ่งพวกเขารู้สึกลำบากใจยิ่งนัก

เป็นไปได้ไหมว่าจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของพวกเขาจะจบสิ้นลงแล้ว? หากพูดอีกอย่างคือราชวงศ์ของเขานี้จะต้องตายใช่หรือไม่?

ชนชั้นสูงจำนวนมากอาศัยอยู่ในเมืองหลวง เฉกเช่นเดียวกับนักเรียนจากทางสถาบันทางการทหารของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ ทั้งหมดล้วนเป็นชนชั้นสูง พวกเขาคงยากที่จะหลีกเลี่ยงเหตุการณ์นี้ใช่หรือไม่?

หากมีอะไรเกิดขึ้นกับเมืองหลวง จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ของพวกเขาคงจะต้องย้อนกลับไปเป็นเหมือนเมื่อห้าสิบปีที่แล้ว!

สวี่หลิงอวิ๋นดูวิดีโอและเห็นการปฏิเสธของพ่อเธอ แน่นอน เธอรู้ว่าสถานการณ์ในจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์กำลังเลวร้ายแค่ไหน

แต่เธอยังคงจดจำสัญญาที่ให้ไว้กับชาวชิงเหย้าได้เป็นอย่างดี

จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จะต้องถูกทำลาย!

แต่ว่าตอนนี้ก็สำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้วหรือเปล่า? สวี่หลิงอวิ๋นเยาะเย้ย เธอรู้สึกว่าจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ยังต้องชดใช้ในราคาที่สูงกว่านี้!

เธอกำลังโทรสายสนทนาทางวิดีโอไปหาสเปนเซอร์ แต่ทันใดนั้นมือของโอคาซีก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ หยุดการกระทำของเธอไว้

“กำลังทำอะไรครับ?” โอคาซีถามเธอ

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นอย่างเขินอาย

“จะไปช่วยจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์เหรอครับ?” โอคาซีถามเธอ

เขาไม่เคยใช้สายตาจ้องเขม็งมาที่สวี่หลิงอวิ๋นแบบนี้มาก่อน

“ท่านรู้ไหมครับว่าตอนนี้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์อันตรายแค่ไหน ถ้าท่านไปอาจจะตายได้” โอคาซีเหลือบมองสวี่หลิงอวิ๋น เขารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่

จะคลี่คลายง่าย ๆ ได้อย่างไร ถ้ามันง่ายขนาดนั้น จักรวรรดิอื่นคงรีบไปช่วยแล้ว

“ฉันรู้ว่ามันอันตรายค่ะ แต่นั่นคือพืชพลังงานห้าต้นเลยนะคะ และฉันเองก็จงใจทำให้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ต้องชดใช้ในราคาสูงแบบนี้” สวี่หลิงอวิ๋นพูด

“พวกเราไม่สนใจหรอกครับว่าพวกเขาจะต้องชดใช้อะไรบ้าง ถึงตอนนี้ความแข็งแกร่งของท่านจะอยู่ในระดับ 9 ดาว แต่ท่านคิดว่าตัวเองจะล้มเอเลี่ยนได้สักกี่ตัวกันครับ?” โอคาซีพยายามเกลี้ยกล่อม “ทำไมต้องเอาตัวเข้าไปเสี่ยงกับผลกำไรเล็กน้อยด้วย”

“ฉันเต็มใจเองค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นทำหน้าบึ้งและพูดว่า “ในที่สุดฉันก็ทำให้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ได้แล้ว ถ้าไม่ได้เข้าไปเก็บเกี่ยวมันก็น่าเสียดายนะคะ”

เมื่อไหร่ที่ราชวงศ์หนึ่งล้ม ราชวงศ์นับพันจะลุกขึ้นยืน

หากพวกสเปนเซอร์ไม่ได้รับการช่วยเหลือ จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จะต้องสถาปนาจักรพรรดิองค์อื่นขึ้นมาครองราชย์แทนแน่นอน หากเป็นเช่นนั้น จักรวรรดิชิงเหย้าจะได้รับผลประโยชน์อะไร?

ไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึงพืชพลังงานทั้งห้าต้น บางทีถ้าพวกเขาได้รับการช่วยเหลือ เราอาจจะสามารถเก็บเกี่ยวดาวเคราะห์จากพวกเขาได้

ให้เขาชดใช้เป็นที่ดินแทนยังไงล่ะ

“ก็ได้ครับ ในเมื่อท่านอยากจะเข้าไปกอบกู้จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ งั้นช่วยบอกผมทีได้ไหมครับว่าท่านมีแผนการยังไง?”

โอคาซีจ้องมองไปที่เธอ

สวี่หลิงอวิ๋นเกาหัว “ฉันมีเจ้าถั่วชมพูค่ะ”

“หมายความว่ายังไงครับ?” โอคาซียังคงไม่รู้ว่าที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ต้องเผชิญหน้ากับปัญหานี้เป็นเพราะฝีมือของสวี่หลิงอวิ๋น

สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกอับอายที่จะต้องเปิดเผยทุกอย่างที่เธอทำลงไป

“ในเมื่อถั่วชมพูหลอกล่อพวกมันมาได้ เราก็หลอกล่อมันออกไปได้เหมือนกัน” สวี่หลิงอวิ๋นพูด

“แน่ใจใช่ไหมครับ ท่านควรรู้ไว้ว่าความประมาทอาจนำไปสู่ความตายได้”

โอคาซีถามเธอ

“ประมาณห้าสิบเปอร์เซ็นต์ค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นยักไหลและพูดต่อ “เอาเป็นว่าเอเลี่ยนพวกนี้เต็มใจที่จะถูกดึงดูดก็แล้วกันค่ะ อีกอย่างสติปัญญาของพวกมันก็ไม่ได้สูงนัก”

หากเปรียบเทียบกับถั่วชมพูแล้ว ไม่สามารถหลอกมันได้เลย เพราะมันเฉลียวฉลาดมาก

โอคาซียังคงคิดว่ามันเสี่ยงเกินไป และไม่เห็นด้วย

“ถ้าอยากจะทำแบบนั้นจริง ๆ ก็ให้ผมไปแทนสิครับ” โอคาซีพูด “ส่วนท่านก็รออยู่ที่นี่”

“เฮ้ ท่านว่ายังไงนะ? มันเป็นความคิดของฉัน แล้วฉันจะปล่อยให้ท่านไปแทนได้ยังไงคะ? ฉันอยากไปเองค่ะ” สวี่หลิงอวิ๋นรู้สึกไม่พอใจ

“อย่างที่ท่านพูด เราควรคิดหาวิธีก่อน และมองดูในระยะยาว”

เมื่อมองเห็นท่าทีที่แน่วแน่ของโอคาซี สวี่หลิงอวิ๋นก็ไม่มีทางเลือกออก นอกจากเชื่อฟังคำพูดของแฟนหนุ่ม

รอก่อนเถอะ!

ตอนนี้ถั่วชมพูกำลังลดน้ำหนักอยู่

วิธีลดน้ำหนักของมันคือ การดูดซับพลังงานทั้งหมดที่เหลืออยู่ในร่างกาย จากนั้นจึงควบแน่นและก่อตัวเป็นรูปร่าง

ถั่วชมพูขยันขันแข็งมาก หลังจากที่มันดูดซับพลังงานส่วนเกินที่ไม่ได้ใช้งานออกมาจากร่างกายแล้ว ไขมันส่วนเกินก็ลดลงในอัตราส่วนที่สามารถมองเห็นได้

แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังคงเป็นแมวอ้วนเหมือนเดิม

ถั่วชมพูมองดูร่างกายที่อ้วนกลมของมันด้วยความไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะมองเข้าไปในกระจก หันทางซ้ายทีทางขวาที เพื่อดูว่ามันหล่อมากแค่ไหน

“เมี๊ยว…! มหาราชาถั่วชมพูน่ารักที่สุดในเกอหลัว น่ารักที่สุดในจักรวาล”

เอเลี่ยนเกอหลัวตัวอื่นส่งเสียงร้อง ‘เจี๊ยบ ๆๆๆๆ’ ตามหลังถั่วชมพู

“มหาราชาถั่วชมพู ถึงเวลากินข้าวเย็นแล้วครับ” ถงจื่อเจินเดินเข้ามาในห้อง

“เมี๊ยว! วันนี้มีอะไรกินบ้าง? อาหารกระป๋อง ทอฟฟี่หรือเค้กล่ะ?” ถั่วชมพูรู้สึกว่าตัวมันสามารถลดน้ำหนักได้สำเร็จ และไม่จำเป็นต้องควบคุมอาหารอีกต่อไป

ใบหน้าของถงจื่อเจินแข็งทื่อ เมื่อได้ยินคำพูดของมัน เขาทุกข์ทรมานใจยิ่งนัก

“เมี๊ยว!! เจ้าไม่ได้จะให้มหาราชากินผักป่าอีกแล้วใช่ไหม?” ดวงตาของถั่วชมพูเบิกกว้าง และพูดออกมาอย่างไม่เชื่อสายตา “เมี๊ยว!! เจ้าดูสิว่าฉันลดน้ำหนักไปตั้งเท่าไหร่ ยังจะให้ฉันกินผักป่าอยู่อีกเหรอ?”