บทที่ 327 ขอโทษด้วย ฉันพยายามที่สุดแล้ว

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ซูสือจิ่นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมานิ้วมือที่สั่น แล้วกดเปิด MMS

ในตอนที่ MMS ถูกเปิดออกนั้น เธอรู้สึกว่าตัวเองหน้ามืด หูอื้อในทันที ดูเหมือนว่าโลกทั้งใบกำลังเคลื่อนห่างจากเธอ

เธออยากจะร้อง ก็ร้องไม่ออก อยากจะพูด ก็พูดไม่ออก

กระทั่งล้มลงบนพื้นได้ยังไง แล้วมาตื่นในตอนเช้าวันที่สองได้ยังไง เธอไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ

เพียงแต่ จู่ ๆ มีบางอย่างเขย่าเธอ ซูสือจิ่นถึงได้พบในตอนหลังว่า ไม่รู้ว่าฟ้าสว่างตั้งแต่ตอนไหนแล้ว?

ซูสือจิ่นพยุงตัวขึ้นมาจากพื้น แต่ว่าไม่มีแรงเลยสักนิด

เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาด้วยนิ้วมือที่กำลังสั่น เธออยากจะดูรูปภาพอีกสักครั้ง อยากจะรู้ว่าภาพเอวานที่ได้เห็นเป็นภาพลวงตาหรือไม่

แต่ว่า หน้าจอดับไปแล้ว โทรศัพท์แบตหมดแล้ว

โทรศัพท์แบตหมด งั้นก็หมายความว่า เรื่องทุกอย่างเมื่อวาน ทั้งหมดคือจินตนาการของเธอ?

ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ซูสือจิ่นรู้สึกว่าตัวเองกลับมามีชีวิตอีกครั้ง จึงรีบลุกขึ้น จะไปชาร์จแบตโทรศัพท์

แต่ว่า บางทีอาจจะเป็นเพราะร่างกายไม่ค่อยสบาย หรืออาจจะเป็นเพราะท่าทางเมื่อครู่รวดเร็วเกินไป เธอรู้สึกหน้ามืด ควบคุมร่างกายไม่ได้จนเป็นลมล้มลงบนพื้น

ผ่านไปหลายนาที เธอถึงได้ตื่นขึ้นมาช้า ๆ สายตาค่อย ๆ ปรับโฟกัส จากนั้นก็รู้สึกตัวว่าเกิดอะไรขึ้น

เธอเดินไม่ไหว งั้นก็คลานไป

เธอเหมือนกับเด็กที่อายุยังไม่ครบหนึ่งขวบ เธอคลานไปตรงที่ชาร์จแบตทั้งแบบนั้น เมื่อหาสายชาร์ตแบตเจอ ก็เสียบเข้ากับโทรศัพท์

รออยู่หลายวินาที เธอเปิดโทรศัพท์ อดใจรอที่จะกดดูบันทึกการโทรไม่ได้

ในบันทึกการโทร มีชื่อของเจียงซีหยู่โผล่ขึ้นมา

ใจของเธอจมดิ่งลงทีละนิด เหมือนกับไม่ยอมตายใจ เธอกดดู MMS อีกครั้ง

เมื่อวาน รูปเมื่อวานเธอดูแค่เพียงแวบเดียว แต่ตอนนี้เธอกลับดูมันอย่างละเอียด

เธอก็เหมือนคนที่ตกน้ำ กำลังมองหาท่อนไม้ท่อนสุดท้าย

เธอมองดูคนในรูปอย่างละเอียด ใบหน้าที่คุ้นเคย ในตอนที่หลับตา เหมือนกับความทรงจำของเธอไม่มีผิด

แม้แต่ลักษณะเฉพาะบนตัวเขาเธอก็ดูหมด

นอกจากไฝหนึ่งเม็ดตรงใต้ไหล่ซ้ายของเขาแล้ว บริเวณอื่นสะอาดหมดจน ไม่มีอะไรเลย

และคนในรูปก็เหมือนกับหยานชิงเจ๋อทุกอย่าง ใต้ไหลซ้ายก็มีไฝเม็ดหนึ่ง

และในตอนนี้ แขนของเขากำลังโอบผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ นั่นก็คือเจียงซีหยู่

เหมือนเขาหลับไปแล้ว ใบหน้าสงบนิ่ง ก็เหมือนหลังจากที่พวกเขาแต่งงานกัน แล้วเขานอนอยู่ข้างเธอแบบนั้น

เพียงแต่ ผู้หญิงในตอนนี้ กลับเปลี่ยนจากเธอเป็นคนอื่น

ซูสือจิ่นมองไปที่นาฬิกาของหยานชิงเจ๋อช้า ๆ บนนั้นมีวันที่อยู่ ก็คือรุ่งเช้าวันนี้!

สัญญาณทั้งหมดบ่งชี้ว่า หลังจากที่เขาออกจากบ้าน ก็ไปหาเจียงซีอยู่ แล้วพวกเขาก็นอนด้วยกัน!

เช่นนั้น เธอยังจะมีอะไรที่ไม่ตายใจอีก? หรือจะไปที่บ้านของเจียงซีหยู่ จับชู้บนเตียง ถึงจะยอมรับ ว่าเขามีชู้จริง ๆ ?!

นี่มันเป็นการตอกหน้าตัวเองชัด ๆ!

“กรี้ด!” ซูสือจิ่นดูโทรศัพท์แล้วกรีดร้อง มารู้สึกที่หลังว่าหัวใจที่เจ็บและชาอยู่ก่อนแล้ว เริ่มจุกเสียดอีกครั้ง

เธอร้องไห้อย่างหนัก เธอเขวี้ยงโทรศัพท์ที่เดิมทีหน้าจอแตกไม่เป็นท่าออกไปอย่างแรง

โทรศัพท์ตกลงบนพื้น เธอไม่ยอมแพ้ ยังไปเหยียบโทรศัพท์อย่างแรงอีก

จนกระทั่ง แม้แต่เท้าของเธอก็เจ็บจนยกไม่ขึ้น เธอถึงได้นั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรง

เธอร้องไห้อย่างหนัก

เธอคิดว่า เมื่อคืนร้องจนไม่มีน้ำตาแล้ว แต่ว่าน้ำตาเหมือนกับรถที่เบรกไม่อยู่ ไหลออกมาอย่างบ้าคลั่งไม่หยุด

ในบ้านไม่มีคนอื่น มีแต่เธอคนเดียว

เธอจึงร้องอย่างไม่รักษาภาพพจน์ กรีดร้องออกมาอย่างบ้าคลั่ง

เธอรู้ว่า เธอกับเขาย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว พวกเขาย้อนกลับไปไม่ได้อีกแล้ว!

ความรักที่เธอยืนหยัดมาหลายปีขนาดนี้ ในที่สุดก็ทนต่อไปไม่ได้แล้ว!

เธอตัดใจไม่ลง แต่ถึงจะตัดใจไม่ลงยังไง ไม่ว่าจะร่างกายของเขา หรือใจของเขา ก็ยังเป็นของเธออยู่!

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ซูสือจิ่นเสียงแหบหมดแล้ว ตาก็บวมจนแทบจะลืมตาไม่ขึ้น เธอถึงได้หยุดร้อง

เธอพยุงตัวลุกขึ้นอย่างหมดแรง และก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอะไร จึงเดินเข้าห้องน้ำไปอย่างมึนงง

เธอเปิดฝักบัว รดน้ำตัวเองไม่หยุด เหมือนกับมีเพียงแค่ตอนนี้ จึงจะสามารถรู้สึกได้ถึงความเป็นจริง

เธอมองตัวเองในกระจกผ่านม่านน้ำ

ตาบวมมาก ผมเปียกปอน จนตรอกได้ขนาดไหน ก็ขนาดนั้น

เธอเหมือนกับเด็กที่ถูกทอดทิ้งอยู่ข้างถนน มีความสิ้นหวังในดวงตา

หมดหวัง?

เธอถูกความคิดนี้ทำให้ตกตะลึง ครุ่นคิดอย่างช้า ๆ

เธอกับหยานชิงเจ๋อ ยังมีทางในอนาคตอีกไหม?

จำได้ว่าเมื่อวาน เขาพูดกับเธอเองว่า เขาเจ็บปวดมาก

แต่เมื่อคืนวาน เจียงซีหยู่กับพูดเธอว่า หยานชิงเจ๋อเจ็บปวดจนแทบจะร้องออกมาแล้ว

ตอนไหนที่ระหว่างพวกเขาเปลี่ยนไปแบบนี้ บีบบังคับซึ่งกันและกัน ทรมานซึ่งกันและกัน ไม่หลุดพ้น?

ซูสือจิ่นตัวสั่น ความคิดหนึ่งปรากฏขึ้น

เธอรักเขา ทำไมถึงได้รักจนเห็นแก่ตัวขนาดนี้ ทำไมต้องให้เขาเจ็บปวด?

เธอควรจะเห็นเธอมีความสุข ให้อิสระกับเขา อวยพรอยู่เบื้องหลัง ไม่ใช่เหรอ?

แต่ว่า เธอในตอนนี้ ทำไมถึงได้ตัดใจไม่ลงขนาดนี้?!

ซูสือจิ่นยืนแช่น้ำอยู่นานมาก จนกระทั่งน้ำร้อนในเครื่องทำน้ำร้อนใช้หมดแล้ว เธอถึงได้เช็ดตัว เดินไปหน้ากระจก

เธอใช้น้ำเย็นประคบดวงตาที่บวมเหมือนกับปลาทองอยู่เป็นเวลานาน จนไม่ปวดขนาดนั้นแล้ว ถึงได้สวมใส่เสื้อผ้า ออกไปจากคอนโด

เธอขับรถ ไปจนถึงสถานที่ที่หยานชิงเจ๋อกับเธอเคยเรียนอยู่ที่นี่

ที่นั่น แผงลอยหน้าประตูเปลี่ยนเจ้าของไปตั้งนานแล้ว ประตูใหญ่ของโรงเรียนก็ปรับปรุงใหม่หมด ไม่เหมือนกับตอนแรกเลยสักนิด

เหมือนกับทุกอย่างที่เปลี่ยนไปกำลังบอกเธอว่า ความทรงจำของเธอ ก็คือความทรงจำตลอดกาล

ความหลงใหลของเธอ ท้ายที่สุดมันก็เป็นเพียงความหลงใหล

เธอใช้ความหลงใหลของเธอ ผูกมัดเขา ลำบากตัวเอง สุดท้ายจบไม่สวย

เช่นนั้น…

คิดได้ว่าต้องแยกทางกับหยานชิงเจ๋อ ซูสือจิ่นรู้สึกว่าทุกลมหายใจเจ็บปวดมาก

เธอยืนอยู่หน้าประตูโรงเรียนครู่หนึ่ง ถึงได้กลับไปที่ในรถ

หนาวมาก ในตอนที่เธอเปิดแอร์ กลับเปิดสวิตช์เครื่องเสียงรถยนต์โดยไม่ได้ตั้งใจ

ช่องเพลงที่ดูเหมือนจะปรับครั้งที่แล้ว ตอนนี้เพลงกำลังเล่นอยู่

เธอฟังทีละเพลง จนกระทั่งมีเสียงผู้หญิงดังเข้ามาในหู

เพลงนี้เธอไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ว่า ในตอนที่ได้ยินประโยคแรก ก็ชอบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

เธอรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ

แค่ฟังเสียงผู้หญิงร้อง “ลืม อยากจะลืมพูดง่ายแต่ทำยาก ไม่โทษเธอ เป็นฉันที่อ่อนแอ ความรู้สึกเข้าสู่ท้องทะเลลึก รักจนไม่มีใครเทียบได้ คุณไม่เคยเห็นอยู่ในสายตา”

เธอคิดถึงตัวเองกับหยานชิงเจ๋อ

ใช่ ลืม พูดง่ายแต่ทำยาก?

ทุกอย่างที่เธอทำ ไม่เคยอยู่ในใจเขาเลย

ดังนั้น เขาถึงพูดว่าเธอดื้อด้าน พูดว่าเธอสามารถสละชีพได้เพื่อทุกอย่าง!

เขามองไม่เห็นความพยายามของเธอ เป็นเพราะเขาไม่เคยใช้ใจมาก่อน

“คิดถึงคุณ ไม่ใช่เพียงเพราะความว่างเปล่า สุดท้าย ความรู้สึกจริง ๆ ไม่โกหกคุณ กล้าเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก ยอมลำบากตัวเองเพราะคุณ ความลำบากนี้ฉันยินยอมรับมัน…”

คืนวันนั้น เธอทำเพื่อเขา เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ฝ่าความอันตรายไปที่ห้องของฉินไห่เทาคนเดียว

เธอได้รับความไม่เป็นธรรมอย่างที่สุด ตอนนั้นถึงแม้เธอจะกลัว แต่ว่าในตอนที่อีกฝ่ายยินยอมที่จะมอบหลักฐานออกมา เธอกลับดีใจ

เธอไม่เคยเสียใจ เพราะว่าเธอทำสิ่งหนึ่งให้เขาจริง ๆ

เธอเคยคิดแม้กระทั่งว่า เมื่อทุกอย่างสงบลง พวกเขาจะจัดงานแต่งงานกัน จากนั้นก็มีความสุขกันต่อไป

แต่ว่า ทุกอย่างก็เป็นแค่ภาพลวงตา แค่ความฝัน สุดท้ายก็มีวันที่ต้องตื่นมา

“เสียดายที่สุดท้ายเสียคุณไป ขอโทษฉันพยายามสุดแรงแล้ว ฉันไม่ได้ยอมแพ้ เพียงแต่ไม่เจอคุณ คิดว่าแบบนี้จะทำลายตัวเองไม่ได้…”

ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงวันนี้ ตอนที่ตื่นจากความฝัน เธอพบว่า เธอสูญเสียเขาไปแล้วจริง ๆ

เธอไม่สามารถยอมรับได้ว่าเขามีความสัมพันธ์กับเจียงซีหยู่ มันเป็นความเจ็บปวดที่เธอไม่มีทางหลุดพ้นได้ตลอดชีวิต ต่อให้พวกเขายังฝืนต่อไปแบบนี้ ทำร้ายกันต่อไปแบบนี้ แต่ว่ายังไงเธอก็ไม่มีทางหลุดพ้นความเจ็บปวดแบบนั้นได้ เหมือนกับเป็นเงาตามตัว

“เสียดายที่พวกเรากลับไปไม่ได้แล้ว การร้องไห้เสียใจยิ่งแย่ลง ฉันปฏิเสธความรักของผู้อื่นมาตลอด เพียงเพื่อความแน่ใจในตัวคุณ…”

หลายปีขนาดนี้ คนที่ชอบเธอไม่ใช่ว่าไม่มี แต่ว่าตั้งแต่เริ่มจนจบเธอรอเขาเพียงคนเดียว

รอเขามาโดยตลอด

เพียงแต่น่าเสียดาย ยังไงเธอก็ต้องสูญเสียเขาไป

“ชิงเจ๋อ พวกเราหย่ากันเถอะ!” ซูสือจิ่นพูดเสียงเบา

เพียงแต่เมื่อเธอพูดจบ ก็รู้สึกสายตาพร่ามัวอีกแล้ว

เธอยื่นมือออกมาอย่างอดไม่ได้ แล้วพบว่าตัวเองร้องไห้อีกแล้ว

เธอทำมาจากน้ำเหรอ? ทำไมถึงได้ร้องไห้อยู่ตลอด?

เธออดทนต่อไปไม่ไหวแล้ว เธอทำเพื่อเขา มันเป็นการหลุดพ้นสำหรับคนสองคน ทำไมเธอถึงยังร้องไห้?

ซูสือจิ่นขับรถต่อไปไม่ได้ จึงทำได้แค่จอดรถข้างทาง หมอบกับพวงมาลัย ร้องไห้เสียงดังขึ้น

ผ่านไปเป็นเวลานาน เธอเปิดโทรศัพท์ ใช้เนื้อเพลงค้นหาเพลงเมื่อสักครู่ แล้วเชื่อมกับลำโพงรถ เปิดโหมดเล่นซ้ำ

เธอร้องเพลงพร้อมกับเสียงแหบแหบของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า จากที่ไม่คุ้นหู ในตอนหลังก็จำเนื้อเพลงได้แล้ว

สุดท้ายเธอเหมือนกับหมดแรง เธอเอนหลังพิงเบาะช้า ๆ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ส่งข้อความหาหยานชิงเจ๋อ

ส่งข้อความวีแชทเสร็จ ซูสือจิ่นก็ขับรถกลับบ้าน เอาเสื้อผ้าที่ตัวเองพามาจากคฤหาสน์ตระกูลซูแพ็คใส่กระเป๋าเดินทาง จากนั้นก็มองไปบนนิ้วนางของตัวเอง

บนนั้นมีแหวนที่เขาเป็นคนสวมใส่ให้เธอ

แหวนยังคงสง่าผ่าเผย แต่มันไม่ใช่ของของเธออีกต่อไป

ซูสือจิ่นค่อย ๆ ถอดแหวนออก รู้สึกเหมือนหัวใจหลุดออกจากร่างกาย

ล่องลอยแล้ว

เธอเอาแหวนวางไว้บนโต๊ะหนังสือของหยานชิงเจ๋อ เอาวางไว้ข้างแหวนของผู้ชายที่วันนั้นเขาไม่ทันได้ใส่มัน

จากนั้น เธอก็ลากกระเป๋า หยิบกุญแจดอกเดียวในมือออกจากพวงกุญแจ วางไว้บนโต๊ะน้ำชา แล้วออกไปจากคอนโดของหยานชิงเจ๋อ