บทที่ 328 หล่อหรือขี้เหร่ก็เจ้าชู้กันทั้งนั้น ทำไมถึงไม่หาคนหล่อ

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

ตั้งแต่ที่ฟู่สีเกอไปส่งฮั่วชิงชิงที่สนามบินวันนั้น เขาแค่ได้ยินว่าเธอไปถึงอย่างปลอดภัยแค่ครั้งนั้นครั้งเดียว แล้วก็ไม่ได้ติดต่อกับฮั่วชิงชิงอีกเลย

เขารู้ว่าเฉียวโยวโยวถึงแม้จะแสดงออกว่าเป็นคนใจกว้างมาก แต่ว่าอันที่จริงเป็นเพราะเรื่องของฟู้เจียนปอ ทำให้เธอขาดความเชื่อมันเป็นพิเศษ

ดังนั้น จนกระทั่งเฉียวโยวโยวถามถึงฮั่วชิงชิงว่าเป็นยังไงบ้างแล้ว ฟู่สีเกอถึงได้เปิดลำโพง คุยกับฮั่วชิงชิงอย่างเรียบง่ายไม่กี่ประโยค

เที่ยงวันนั้น เฉียวโยวโยวกับฟู่สีเกอทานอาหารเที่ยงด้วยกัน แล้วก็นอนหลับไปครู่หนึ่ง เพราะว่าฟู่สีเกอต้องไปร่วมงานเลี้ยงเป็นเพื่อนคุณแม่ จึงกลับไปก่อน

ส่วนเฉียวโยวโยว เดิมทีไม่ได้วางแผนที่จะเข้างานเลี้ยงรุ่นเมื่อตอนเรียนที่ต่างประเทศ แต่เป็นเพราะว่าฟู่สีเกอไม่อยู่ เธอรู้สึกว่าอยู่คนเดียวก็น่าเบื่อ จึงตอบตกลงไป

สถานที่นัดพบตั้งอยู่ในคลับแห่งหนึ่ง ในตอนที่เฉียวโยวโยวไปถึง เพื่อนร่วมชั้นหลายคนก็มาถึงแล้ว

เพราะเคยไปเรียนที่ลอนดอนด้วยกันมาก่อน จึงคุ้นหน้ากันทั้งหมด เพียงแต่จำชื่อบางคนไม่ได้

เมื่อเห็นเฉียวโยวโยวมาถึง หญิงสาวคนหนึ่งที่ชื่อโยวลู่ที่คุ้นเคยกับเธอเมื่อก่อน กวักมือเรียกเธอ “โยวโยว มานั่งนี่!”

หญิงสาวสองคนนั่งด้วยกัน แน่นอนว่าพูดคุยกันถึงเรื่องระหว่างผู้หญิง

คุยไปคุยมา ก็มีเพื่อนร่วมห้องแทรกเข้ามา “โยวโยว ทำไมฉันรู้สึกว่าเธอสวยกว่าเมื่อก่อนแล้ว? บอกมาดี ๆ นะ ว่าไปตัดแต่งมาใช่ไหม?”

เฉียวโยวโยวอดคิดถึงฟู่สีเกอไม่ได้ ดูเหมือนว่าตั้งแต่คบกับเขา เขาจะช่วยเธอดูแลการแต่งหน้าแต่งตัวอยู่เสมอ ทำให้คนรอบข้างเธอทุกคนพูดว่าเธอสวยขึ้นกว่าเดิม

เธอจึงยิ้มแล้วพูด “เป็นเพราะแฟนฉันต่างหาก…”

“แม่เจ้า โยวโยว เธอลามกมาก!” มีคนหัวเราะแล้วพูด “เธอหมายความว่า แฟนของเธอกลับประเทศแล้ว พวกเธอทำแบบนั้นทุกวัน ดังนั้นก็เลยสวยขึ้น?”

เฉียวโยวโยวฟังจบ เกือบจะพ่นน้ำออกมา

จากนั้นเธอก็นึกขึ้นได้ เดาว่าพวกเขาคงยังไม่รู้เรื่องที่เธอกับฟู้เจียนปอเลิกกันแล้ว!

ตอนนั้นฟู้เจียนปอไม่ได้อยู่มหาลัยเดียวกับเธอ แต่อยู่ใกล้ลอนดอน เขาจึงไปหาเธอที่มหาลัยของเธอบ่อย ๆ หลาย ๆ คนเคยเจอเขาแล้ว

“ไม่ใช่ ฉันเลิกกับแฟนเก่าแล้ว” เฉียวโยวโยวยิ้ม “แฟนฉันตอนนี้เป็นคนท้องถิ่น”

“หา?” มีเพื่อนร่วมห้องประหลาดใจ “ก่อนหน้านี้เธอพูดว่าพวกเธอคือเพื่อนที่โตมาด้วยกัน จะแต่งงานกันแล้ว!”

“หลาย ๆ เรื่อง ก็ไม่แน่นอนไปหมดนี่!” เฉียวโยวโยวยิ้ม “แฟนฉันตอนนี้ดีมาก ไม่แน่อีกสักพักพวกเราก็จะแต่งงานกันแล้ว”

“จริงเหรอ? งั้นแสดงความยินดีด้วยนะ! ตอนแต่งงานอย่าลืมเรียกพวกเราด้วย!” มีเพื่อนร่วมห้องคนหนึ่งอยากรู้อยากเห็น “โยวโยว โทรศัพท์เธอมีรูปแฟนของเธอไหม? ให้พวกเราดูหน่อยสิ!”

เฉียวโยวโยวครุ่นคิด รู้สึกว่าไม่มีอะไร ยิ่งไปกว่านั้นในงานคอนเสิร์ตของตู้ลี่ลี่วันนั้น อันที่จริงมีหลาย ๆ คนเห็นพวกเขาแล้ว เพียงแต่วันนั้นเธอแทบจะไม่เผยหน้าตา ดังนั้นหลาย ๆ คนจึงไม่รู้

เธอจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา เอารู้คู่กับฟู่สีเกอให้ทุกคนดู “ดูเถอะ ก็คือเขา”

“แม่เจ้า หล่อมาก!”

“จริงด้วย โยวโยว หล่อกว่าแฟนเก่าเธอคนนั้นเยอะเลย ไม่แปลกใจที่เธอทิ้งคนที่ชื่อเจียนปออะไรนั่น!”

“ใช่ใช่ใช่! โยวโยว ฉันสนับสนุนเธอ! คนนี้หล่อมาก คนนี้ดี!”

“ใช่! พูดกันว่าผู้ชาย หล่อก็เจ้าชู้ ขี้เหร่ก็เจ้าชู้ ทำไมถึงไม่หาคนหล่อล่ะ?! ถึงวันไหนทะเลาะกันแล้ว ไม่พอใจ ดูใบหน้าหล่อเหลานั่นของเขา เดาว่าคงหายโมโหไปครึ่งหนึ่ง!”

“แฟนของโยวโยวเจ้าชู้ตรงไหน? ฉันบอกกับพวกเธอนะ อันที่จริงยิ่งหล่อยิ่งรักเดียว!”

“จริงด้วย! โยวโยว แฟนของเธอมีพี่ชายน้องชายหรือลูกพี่ลูกน้องทำนองนั้นไหม แนะนำให้หน่อยสิ! ฉันอยากจะปรับเปลี่ยนยีนของครอบครัวของฉันหน่อย!”

ทุกคนกำลังพูดคุยกันอยู่ ในตอนนี้เอง ตัวเอกของงานวันนี้ จางเจียอิ่งก็มาถึงแล้ว

เธอสวมใส่ชุดราตรี เดินมาที่หน้าเวที น้อมตัวให้เพื่อนร่วมห้องทุกคน “วันนี้ ดีใจมากที่ทุกคนมาที่นี่ ร่วมฉลองงานวันเกิดของฉัน! พอดีกับเป็นวันที่ฉันแต่งตั้งบริษัทสำเร็จ…”

เฉียวโยวโยวรู้จักจางเจียอิ่ง ได้ยินว่าได้ยินว่าเป็นข้าราชการรุ่นที่สอง เพิ่งกลับจากต่างประเทศได้ไม่นาน ก็เริ่มเตรียมการสำหรับบริษัทโฆษณา

พวกเธอเคยเรียนวิชาเดียวกันมาก่อน ถือว่าค่อนข้างคุ้นเคยกันอยู่ เพียงแต่ไม่ได้สนิทกันมาก

จางเจียอิ่งพูดต่อ “วันนี้ ก็เป็นวันที่ทำให้คนลืมไม่ลงเช่นกัน เพราะว่าฉันมีเพื่อนที่สำคัญคนหนึ่ง แนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก! อีกอย่างมีเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง จะประกาศกับทุกคน!”

ขณะที่พูด เธอมองไปอีกด้านของเวที จากนั้นพูดกับชายหนุ่มที่พิงกำแพง “สีเกอ…”

เฉียวโยวโยวได้ยินชื่อนี้ก็นั่งหลังตรงในทันที

จากนั้น เธอก็เห็นฟู่สีเกอเดินมาจากทางเดินอีกด้านหนึ่ง แล้วยืนอยู่ข้างจางเจียอิ่ง!”

“ว้าว หล่อจัง!” มีคนสงสัยถามขึ้น “เจียอิ่ง แฟนของเธอเหรอ?”

ส่วนเพื่อนร่วมห้องที่ดูรูปของเฉียวโยวโยวถางขึ้นอย่างสงสัย “โยวโยว คนนั้นทำไมถึงหน้าเหมือนแฟนของเธอขนาดนั้น?”

“จริงด้วย โยวโยว เธอแน่ใจนะว่าเขาไม่ได้เหยียบเรือสองแคม?”

“เชี่ย นี่มันจับชู้ในชีวิตจริง!”

เฉียวโยวโยวได้ยินคำพูดของทุกคน ก็รู้สึกหูอื้อ

ไหนฟู่สีเกอบอกว่าไปร่วมงานเลี้ยงเป็นเพื่อนคุณแม่? ทำไม ถึงได้ปรากฏตัวที่งานเลี้ยงรุ่นของเธอ? แถมยังสถานะครุมเครือกับผู้หญิงคนนั้น?!”

เพราะว่าที่นั่งของเฉียวโยวโยวอยู่ตรงมุม ดังนั้น ฟู่สีเกอที่อยู่บนเวทีจึงมองไม่เห็นเธอ

ตอนนี้เขายืนอยู่ข้างจางเจียอิ่ง ใบหน้าแต้มไปด้วยรอยยิ้มบาง ๆ แต่ว่าสายตากลับไม่ได้ยิ้ม

แม่ของเขา พูดว่าลูกสาวของเพื่อนแต่งตั้งบริษัท ขอให้พวกเขามาเป็นหน้าม้า คิดไม่ถึง ว่าไม่ใช่งานเลี้ยงของบริษัทอะไร แต่กลับเป็น…

เขาตัดสินใจว่าหลังจบงานเลี้ยง จะกลับไปสั่งสอนแม่ที่ใส่ซื่อของเขาหน่อย คนอื่นพูดอะไรก็เชื่อไปหมด ตอนนี้เกือบจะขายลูกชายแล้ว!

ตอนนี้จางเจียอิ่งได้ยินทุกคนถาม เธอกัดปาก ยิ้มแล้วพูด “ดังนั้น นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันอยากประกาศ…”

ขณะที่พูด สายตาที่เขินอายก็มองมาทางฟู่สีเกอ

ฟู่สีเกอหันหน้ามา ก็เข้าใจความหมายของจางเจียอิ่ง ดูท่ายายคนนี้วางแผนจะพูดว่าพวกเขาเป็นแฟนกันในงานเลี้ยงแบบนี้

ส่วนเขา เป็นเพราะเกรงใจไม่ให้เกียรติเธอต่อหน้าเพื่อนของเธอ ก็คงจะฝืนตอบรับไป!

เป็นการเดินหมากที่ดีจริง ๆ!

ในตอนที่ฟู่สีเกอกำลังคิดว่าจะปลีกตัวยังไง สายตาก็มองเห็นคนที่คุ้นเคยคนหนึ่งอยู่ที่มุมของห้อง

เธอกับยายโง่โยวมีพรหมลิขิตขนาดนี้ ต่างคนต่างไปร่วมงานเลี้ยงยังสามารถมาเจอกันได้?

ถ้างั้น เดาว่าตอนนี้ในใจของยายโง่โยวคงด่าเขาเป็นพันรอบ ไม่แน่แทบอยากจะร้องขี้มูกโป่งแล้ว?

ฟู่สีเกอมีความคิดหนึ่งขึ้นมา

เขาเหลือบมองจางเจียอิ่ง จากนั้นก็พูดขึ้น “เจียอิ่ง ผมก็มีเรื่องที่จะประกาศ”

จางเจียอิ่งใจสั่น รู้สึกว่าชื่อของตัวเองออกมาจากปากของฟู่สีเกอ รู้สึกเซ็กซี่อย่างบอกไม่ถูก เธอใจสั่น “สีเกอ เรื่องที่พวกเราจะพูดคือเรื่องเดียวกันไหม?”

ฟู่สีเกอไม่ได้ตอบเธอ แต่กลับพูดกับทุกคนที่อยู่ด้านล่าง “หนึ่งในนี้มีแฟนของผมอยู่”

จางเจียอิ่งได้ยินคำพูดของเขา เธอตื่นเต้นจนตัวสั่นในทันที

เป็นเธอที่เชิญเขามา อีกอย่างคนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นเพื่อนที่เรียนตอนอยู่ลอนดอน และก็เป็นรุ่นน้องของฟู่สีเกอถึงสองรุ่น คนที่เขารู้จัก อาจมีเพียงแต่เธอ! ดังนั้น แฟนที่เขาพูด ก็คงเป็นเธอ!

ตอนนี้โยวลู่ที่นั่งอยู่ข้างเฉียวโยวโยวรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย ๆ “โยวโยว ทำไมเขาถึงทำแบบนี้! พลอดรักอย่างเปิดเผยกับผู้หญิงคนอื่นในงานเลี้ยง! เราไม่ต้องโมโห สะบัดผู้ชายเจ้าชู้ทิ้งไป! ฉันไม่เชื่อว่าบนโลกนี้จะไม่มีผู้ชายดี ๆ แล้ว!”

ตอนนี้เฉียวโยวโยวมองดูฟู่สีเกอบนเวที รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ

เธอคิดว่าเขาไม่เหมือนกับคนอื่น แต่ว่า สุดท้ายก็สอนบทเรียนแบบเดิมให้เธออีกครั้ง!

เธอสูดหายใจเข้าลึก พูดกับโยวลู่ที่อยู่ด้านข้าง “ลู่ลู่ ฉันไปห้องน้ำหน่อยนะ!”

“โยวโยว เธอไม่เป็นไรนะ? ฉันไปเป็นเพื่อนเธอ!” โยวลู่พูด กำลังจะแอบออกไปพร้อมเฉียวโยวโยว

แต่ในตอนที่เฉียวโยวโยวกำลังจะลุกขึ้นยืน ฟู่สีเกอที่อยู่บนเวทีก็พูดขึ้น “มีชะตาแบบหนึ่งที่เรียกว่าพรหมลิขิตมาพันไมล์ เช่นเดียวกันกับ พรหมลิขิตที่เรียกว่า ที่แท้เธอก็อยู่ตรงนี้”

พูดจบ สายตาของเขาก็มองมาทางเฉียวโยวโยวในทันที จากนั้นก็พูดกับเธอเสียงดัง “ยายโง่โยว คุณคิดว่าคุณหลบอยู่ตรงนั้น ผมจะไม่เห็นคุณเหรอ?”

เฉียวโยวโยวได้ยินคำพูดของเขา ก็สะดุ้งในทันที เธอมองฟู่สีเกออย่างเหลือเชื่อ

ขณะเดียวกัน จางเจียอิ่งที่อยู่บนเวทีก็มองไปที่ฟู่สีเกออย่างตกตะลึงเป็นพิเศษ จากนั้น ก็มองไปทางเฉียวโยวโยวตามสายตาของเขา ในใจของเธอคาดเดาได้ถึงบางอย่าง เธอหน้าแดงขึ้นมาในทันที

ฟู่สีเกอไม่ได้สนใจคนอื่น ๆ แต่กลับวางไมโครโฟนลง แล้วเดินเข้าไปหาเฉียวโยวโยวที่เหม่อลอยอยู่ทีละก้าว

จากนั้น เขาโอบไหล่ของเธอ พูดกับเฉียวโยวโยว “งานเลี้ยงวันนี้ไม่ให้พาคนในครอบครัวมา? ทำไมทิ้งผมไว้คนเดียวแล้วมาที่นี่?”

เฉียวโยวโยวใจสั่น ดังนั้นเมื่อกี้เธอเข้าใจเขาผิด?

ตอนนี้เอง โยวลู่ที่อยู่ด้านข้างเอ่ยปากขึ้น “สวัสดีค่ะ คุณคือแฟนของโยวโยวเหรอคะ?”

ฟู่สีเกอพยักหน้า “ครับ พวกคุณเป็นเพื่อนร่วมชั้นของเธอใช่ไหมครับ?”

“ใช่ค่ะ!” โยวลู่เห็นว่าฟู่สีเกอไม่ใช่ผู้ชายเจ้าชู้ จึงอดดีใจแทนเฉียวโยวโยวไม่ได้ เธอนึกอะไรได้ จึงถามขึ้นอีก “งั้นเจียอิ่งล่ะ? เมื่อกี้เธอ…”

ฟู่สีเกอเหลือบมองจางเจียอิ่งที่อยู่บนเวที ยิ้มแล้วพูด “ผมกับเจียอิ่งเมื่อก่อนเป็นเพื่อนบ้านกัน วันนี้ได้ยินว่าเธอแต่งตั้งบริษัท จึงมาเป็นหน้าม้า! เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าแฟนของผมก็รู้จักเธอ แล้วมาที่นี่!”

“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เอง!” มีเพื่อนร่วมชั้นถาม “อ่อใช่ เจียอิ่ง เมื่อกี้เธออยากจะประกาศอะไร?”

จางเจียอิ่งรู้สึกว่าไม่เคยหน้าแตกขนาดนี้มาก่อน เธอกระตุกมุมปาก ผ่านไปอยู่นานถึงได้พูดขึ้น “ฉันอยากจะพูดว่า หลายตำแหน่งในบริษัทฉันยังขาดแคลนคนอยู่ ไม่รู้ว่าทุกคนสนใจมาช่วยไหม?”

“แบบนี้เองเหรอ งั้นดีเลย!” เพื่อนร่วมชั้นพูด “แต่ว่า สามารถให้สวัสดิการพิเศษได้ไหม?”

“เรื่องนี้ ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว!” จางเจียอิ่งมองฟู่สีเกอ ในดวงตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

ตอนนี้ ฟู่สีเกอมาหาเพื่อนร่วมชั้นที่อยู่ด้านข้างเฉียวโยวโยวเพื่อแลกที่นั่งอย่างเป็นกันเอง เขานั่งลงข้างเฉียวโยวโยว ขยับเข้าใกล้เธอ แล้วพูดเสียงเบาข้างหูเธอ “เมื่อกี้จะร้องแล้วเหรอ?”