“เสี่ยวซื่อ สังเกตระยะห่างของพวกฉีหลงไว้ พอถึงสามกิโลเมตรสุดท้ายแล้วค่อยแจ้งฉัน” หลังจากที่ในใจหลิงหลานมีการตัดสินใจแล้ว เธอก็เริ่มวางแผนจัดการขึ้นมา “อีกอย่าง ฟังคำสั่งของฉันก่อน”
“เข้าใจแล้ว ลูกพี่! ติดเครื่องยนต์ฉุกเฉินใช่ไหม? เสี่ยวซื่อรับรองว่าจะติดเครื่องยนต์สำเร็จภายในช่วงเวลาที่สั้นที่สุดให้ได้” เสี่ยวซื่อรับคำสั่งทันที
ทำลายทีม M สามารถติดเครื่องยนต์หุ่นรบได้ในพริบตา ทั้งหมดนี้ต่างอาศัยเสี่ยวซื่อทำการดึงประสิทธิภาพของระบบหุ่นรบตัวนี้ให้ได้มากที่สุด แทบจะทำให้หุ่นรบไปถึงขั้นติดเครื่องยนต์ฉุกเฉินได้ภายในหนึ่งวินาที ถ้าเกิดให้นักวิจัยหุ่นรบของสหพันธรัฐล่วงรู้เรื่องนี้เข้าละก็ พวกเขาย่อมตกตะลึงอย่างหาใดเปรียบ เนื่องจากการทุ่มเทศึกษาวิจัยมาหลายชั่วอายุคนของพวกเขายังไม่สามารถทำให้การติดเครื่องยนต์ฉุกเฉินของหุ่นรบไพ่ราชาทะลวงเข้าไปในขอบเขตสามวินาทีได้…
ความเร็วของทีมฉีหลงที่กำลังร้อนใจนั้นรวดเร็วสุดขีด สิบกิโลเมตรใช้เวลาเพียงแค่สามนาที ภายใต้การวิ่งด้วยความเร็วเต็มพิกัดของหุ่นรบ
“พบหุ่นรบที่ไม่ทราบแน่ชัดสามตัว บนฟ้าสองตัว บนดินหนึ่งตัว” สมาชิกทั้งหมดของทีมฉีหลงที่เพิ่งจะเข้าสู่รัศมีสามกิโลเมตรต่างได้ยินเสียงเตือนจากออปติคัลคอมพิวเตอร์ของหุ่นรบตัวเอง ความห่างชั้นของระดับหุ่นรบทำให้เวลานี้พวกเขาเพิ่งจะค้นพบร่องรอยของหุ่นรบศัตรู
“ซูมเข้าไป!” วินาทีแรกทุกคนเลือกยืนยันให้แน่ใจก่อนว่าเป็นหุ่นรบมิตรหรือศัตรู เมื่อเห็นรูปลักษณ์ของหุ่นรบสามตัวนั้นแล้ว แต่ละคนต่างตื่นตะลึง เป็นศัตรูอย่างที่คาดไว้จริงๆ ด้วย นอกจากนี้หุ่นรบที่อยู่บนดินตัวนั้นเป็นหุ่นรบไพ่ราชา หุ่นรบสองตัวบนฟ้าก็เป็นหุ่นรบระดับพิเศษที่สูงกว่าหุ่นรบของพวกเขาหนึ่งระดับ
“ฉีหลง ตอนนี้จะเอายังไงดี?” หานจี้จวินเห็นหุ่นรบสามตัวนั้น สีหน้าก็เคร่งขรึมเย็นชามากยิ่งขึ้น เขาเอ่ยปากถามฉีหลงเป็นคนแรก ในช่วงเวลาวิกฤติ หานจี้จวินให้ฉีหลงตัดสินใจด้วยความเคยชิน
“ฉันจะมุ่งหน้าต่อไป ในเมื่อรู้ว่าลูกพี่อยู่ที่นั่น ต่อให้อันตรายอีกแค่ไหน ฉันก็จะเข้าไปดูให้แน่ใจ” ฉีหลงมองหุ่นรบสามตัวนั้น ถึงแม้รู้ว่าการไปครั้งนี้อาจจะเฉียดตาย แต่ในเมื่อรู้ว่าลูกพี่อยู่ที่นั่น เขาก็ไม่อนุญาตให้ตัวเองถอยหนีได้
“พวกนายทำตามใจชอบเลย!” ฉีหลงตัดสินใจเสี่ยงอันตราย แต่เขาไม่มีทางลากพวกเพื่อนๆ ไปเสี่ยงด้วย ดังนั้นเขาเลยให้พวกลูกทีมตัดสินใจเอง
“ฉันจะไปกับนาย” หลี่หลานเฟิงเอ่ยโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว เขาสาบานแล้วว่าชาตินี้จะไม่ปล่อยกระต่ายไปอีก ต่อให้อันตรายอีกแค่ไหน ถึงขนาดที่ต้องจ่ายค่าตอบแทนด้วยชีวิต เขาก็จะไม่กลับคำสาบานของตัวเอง
หลี่หลานเฟิงเพิ่งจะพูดจบ คนอื่นๆ ในทีมก็พากันเอ่ยปากบอกว่าจะไปด้วย พวกเขาไม่ใช่คนขี้ขลาด มิตรภาพหลายปีที่ผ่านมาทำให้พวกเขาเตรียมพร้อมที่จะร่วมเป็นร่วมตาย
หลี่ซื่ออวี๋ที่ถูกหลอกให้เข้ามากลับคงความเงียบงันมาโดยตลอด เมื่อเขาเห็นทุกคนมองมาทางเขา ก็แค่เอ่ยอย่างเรียบนิ่งว่า “ฉันต้องรับผิดชอบคนไข้ของฉัน ฉีหลงไปที่ไหน ฉันก็จะไปที่นั่น…”
“พี่น้องที่ดี!” ฉีหลงเอ่ยกับหลี่ซื่ออวี๋ด้วยความซาบซึ้งใจ ขณะที่เขากำลังคิดจะพูดว่ามุ่งหน้าต่อ ทันใดนั้นเอง ข้อความหนึ่งพลันปรากฏขึ้นบนหน้าจอของหุ่นรบสมาชิกทีม
“ลูกพี่นี่นา!” ฉีหลงตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ข้อความนั้นเป็นข้อความที่หลิงหลานส่งผ่านความสามารถของเสี่ยวซื่อ หลิงหลานให้พวกฉีหลงโจมตีใส่หุ่นรบระดับพิเศษบนฟ้าสองตัวนั้น ส่วนหุ่นรบไพ่ราชา หลิงหลานบอกชัดเจนมากว่า นั่นคือเหยื่อของเธอ
“ลูกพี่มอบหมายภารกิจแล้ว พวกเราก็ต้องจัดการมันให้สำเร็จ!” ฉีหลงพลันเหวี่ยงหมัดทีหนึ่ง กล่าวด้วยความตื่นเต้น หุ่นรบระดับพิเศษสองตัว บางทีพวกเขาอาจจะมีโอกาส
“ได้!” การปรากฏตัวของหลิงหลานทำให้สมาชิกทีมพลันมีที่พึ่งพิงทางใจ พวกเขาตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน จิตใจที่กระสับกระส่ายแต่เดิมถูกกวาดออกไปจนหมด ในขณะที่แววตาแน่วแน่ขึ้นมาก็มีประกายความอำมหิตมากขึ้นด้วย พวกเขาหยิบอาวุธจากด้านหลังหุ่นรบ ดาบแสงหนึ่งเล่มและปืนลำแสงหนึ่งกระบอก
ฝีเท้าที่เดิมทีอืดอาดชักช้าเปลี่ยนเป็นความเร็วสูงอีกครั้ง แป๊บเดียวร่างของพวกเขาก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าหุ่นรบศัตรูสามตัวนั้น
“เป็นหุ่นรบระดับสูงหนึ่งกลุ่ม และยังเป็นหุ่นรบฝึกหัดของโรงเรียนทหารด้วยครับ” วิงแมนบนฟ้าก็ตรวจสอบรูปลักษณ์ภายนอกของหุ่นรบพวกฉีหลงจนแน่ชัดแล้วเช่นกัน ก่อนจะอดเอ่ยอย่างดูถูกไม่ได้
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาได้ยินคำกล่าวก็เอ่ยอย่างราบเรียบว่า “พอดีเลย ภารกิจของเราก็คือจัดการเฉียวถิงและนักเรียนทหารทั้งหมดของที่นี่ ตอนนี้หาเฉียวถิงไม่เจอ งั้นฆ่านักเรียนทหารพวกนี้ก่อนก็ได้เหมือนกัน”
นักเรียนที่สามารถไปถึงขั้นนักรบหุ่นรบชั้นสูงในโรงเรียนทหารได้ย่อมมีพรสวรรค์ด้านการควบคุมหุ่นรบที่ยอดเยี่ยมสุดขีดเช่นกัน ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชารู้ดีแก่ใจว่า ถ้าหากนักเรียนเหล่านี้เติบโตขึ้นมาในท้ายที่สุดแล้ว ขอเพียงพวกเขาไม่ตาย ต้องมีสักวันที่พวกเขาจะกลายเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา…ดังนั้น ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชายังคงยินดีอย่างยิ่งที่สามารถจัดการคู่ต่อสู้เหล่านี้ที่อาจจะกลายเป็นผู้สืบทอดที่โดดเด่นของพวกเขาได้ในอนาคต
เนื่องจากพวกฉีหลงเจ็ดคนวิ่งตะบึงเข้ามาอย่างเร็วไว ขณะที่ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชานึกว่าพวกเขาจะเลือกจู่โจมโดยตรง เขากลับพบว่า ในตอนที่อยู่ห่างออกไปหนึ่งพันเมตร หุ่นรบเหล่านี้พลันเปิดใช้งานเครื่องยนต์ไอพ่น ทะยานจากบนพื้นขึ้นไปด้านบน พุ่งไปหาวิงแมนสองตัวของเขาที่อยู่บนฟ้า…
เป็นเพราะสังเกตเห็นว่าเขาคือผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา ดังนั้นก็เลยไม่กล้าจู่โจมเหรอ? แต่ว่าต่อให้พวกเขาเปลี่ยนเป้าหมายในการโจมตี เขาก็ไม่สามารถตามขึ้นไปโจมตีหรือไง? อย่างที่คิดไว้เลยเป็นกลุ่มนักเรียนทหารที่ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้จริงๆ ด้วย เปิดด้านหลังให้ศัตรูเนี่ยนะ…ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเห็นดังนั้นก็ยิ้มเยาะขึ้นมา หยิบปืนไรเฟิลเลเซอร์แม่นยำสูงออกมาจากด้านหลังหนึ่งกระบอกอย่างเอื่อยเฉื่อย ถูกต้องแล้ว เขาคือมือปืนซุ่มยิงที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่ง สิ่งที่เขาเชี่ยวชาญก็คือการโจมตีสังหารระยะไกล
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชายกปืนไรเฟิลขึ้นมาอย่างรวดเร็ว แล้วเล็งไปที่ห้องคนขับของหุ่นรบหนึ่งในนั้น…
เวลานี้เอง ออปติคัลคอมพิวเตอร์ของหุ่นรบหลินจงชิงพลันส่งเสียงแจ้งเตือนฉุกเฉินว่า “อันตราย หุ่นรบถูกล็อกเป้าหมาย โปรดรีบทำการหลบทันที…” ถ้าเกิดเป็นเวลาปกติ หลินจงชิงจะต้องบังคับหุ่นรบให้หลบออก แต่ตอนที่เขานึกขึ้นมาได้ว่าลูกพี่หลานบอกเอาไว้ว่า ให้เขารับผิดชอบผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาด้านล่าง เขาก็กัดฟันกรอด ไม่สนใจคำเตือนของออปติคัลคอมพิวเตอร์ ยังคงใช้ความเร็วสูงสุด พุ่งไปหาเป้าหมายของเขาเป็นเส้นตรงมากที่สุด
ไม่ใช่ว่าหลินจงชิงไม่อยากหลบ และก็ไม่ใช่ว่าเขาเชื่อมั่นในตัวหลิงหลานอย่างไม่ลืมหูลืมตา หากแต่เมื่อเขาหลบออก ลั่วล่างที่อยู่ด้านหน้าเขาจะต้องกลายเป็นเป้าหมายในการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามแน่นอน จำเป็นต้องพูดว่า วิถียิงที่ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเลือกนั้นแม่นยำมาก โจมตีครั้งเดียว ทว่าเป้าหมายกลับเป็นสองคน จะปกป้องตัวเองหรือว่าปกป้องเพื่อนร่วมรบ ทุกอย่างต่างอยู่ในเป้าหมาย ไม่ว่าเลือกแบบไหน การยิงครั้งนี้ของเขาย่อมไม่เสียเปล่า
เมื่อเห็นนักเรียนทหารคนนั้นไม่มีสัญญาณหลบหลีกเลยแม้แต่น้อย ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาก็เอ่ยด้วยแววตาที่แสดงความเสียดายออกมา “ใจกล้า น่าเสียดาย…” ขณะที่เขากำลังจะเหนี่ยวไกปืน ก็รู้สึกได้ว่ามีวัตถุรูปทรงยาวขนาดใหญ่อันหนึ่งลอยมาที่ด้านข้าง ก่อนจะกระแทกปืนไรเฟิลบนไหล่ขวาของเขาอย่างรุนแรง…
‘โครม’ พลังมหาศาลทำให้แขนขวาของหุ่นรบไม่สามารถจับปืนไรเฟิลกระบอกนั้นไว้ได้ มันถูกกระแทกจนร่วงลงพื้นทันที ปฏิกิริยาตอบสนองของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชารวดเร็วมาก เขาบิดกายถอยหลบโดยพลัน พริบตาเดียวก็ออกห่างจากจุดเดิมไปสิบกว่าเมตร เวลานี้เขาหันหน้าไปยังทิศทางการโจมตี จากนั้นก็เห็นหุ่นรบฝึกหัดไพ่ราชาของโรงเรียนทหารตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้นตรงทิศทางที่เขายืนอยู่เมื่อสักครู่นี้ ก่อนจะยื่นมือไปคว้าดาบยักษ์ที่ยังไม่ได้ร่วงลงถึงพื้นขึ้นมา
“แกอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย” ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเห็นคู่ต่อสู้ ก็เปิดเครื่องขยายเสียงกล่าวว่า “พันโทถังอวี้?”
หลิงหลานได้ยินคำถามของคู่ต่อสู้ก็รู้ว่าพวกเขาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นถังอวี้อย่างที่คิดไว้เลย หลิงหลานไม่มีทางไปแก้ความเข้าใจผิดนี้ เธอสามารถได้รับประสบการณ์ในการต่อสู้จริง และมีคนเป็นโล่แบกรับความผิดให้เธอ เธอย่อมต้องการมากๆ อยู่แล้ว
ดังนั้นหลิงหลานเลยคงความเงียบไว้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะมั่นใจจริงๆ หรือเปล่า เธอก็ไม่อาจเปิดเผยเองได้
“ไม่นึกเลยว่า หัวกะทิไพ่ราชาของหัวเซี่ยจะเป็นอาจารย์ติดอยู่ในโรงเรียนทหารเล็กๆ แห่งนี้ ชาวหัวเซี่ยอย่างพวกนายรู้จักสิ้นเปลืองบุคคลที่มีความสามารถมากจริงๆ” การเงียบกริบของหลิงหลานไม่ได้ลดทอนอารมณ์อยากพูดคุยของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเลย และเอ่ยปากเหน็บแนมอีกครั้ง
หลิงหลานเห็นแบบนั้นก็อดเบะปากไม่ได้ ทำไมศัตรูที่บุกจู่โจมทางอากาศในครั้งนี้ถึงพูดมากกันหมดเลยนะ นักรบหุ่นรบชั้นสูงที่เจอคนแรกก็พูดมาก เวลานี้ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาคนนี้ก็ไม่ได้ด้อยที่ไหนเลย…หลิงหลานไม่อยากเสียเวลา เพราะว่าตอนนี้พวกลูกทีมของเธอกำลังต่อสู้อย่างยากลำบาก เธอจำเป็นต้องจัดการผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาคนนี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อไปสนับสนุนพวกลูกทีมของเธอ
คิดจบแล้ว หลิงหลานก็เร่งความเร็วฉับพลัน ทะยานขึ้นเป็นเส้นเอียง พริบตาเดียวก็มาถึงเบื้องหน้าผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา ดาบยักษ์ในมือเหวี่ยงออกเป็นรัศมีเล็กๆ ซัดตรงไปที่เอวของอีกฝ่าย
ในเมื่อเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเหมือนกัน เธอไม่อาจใช้ดาบยักษ์จัดการด้วยพลังป่าเถื่อนโดยไม่สนเหตุผลเหมือนอย่างที่ต่อกรกับหุ่นรบระดับสูงได้ ค่าป้องกันของตัวเปลือกด้านนอกหุ่นรบไพ่ราชา รวมถึงระบบป้องกันการสั่นสะเทือนด้านในจะลดทอนอานุภาพการโจมตีอย่างหนักหน่วงของดาบยักษ์ให้เหลือน้อยที่สุด จึงไม่อาจทำการสังหารได้ในดาบเดียว ดังนั้นหลิงหลานเลยไม่คาดหวังว่าดาบยักษ์สามารถโจมตีสำเร็จได้ในครั้งเดียวเหมือนกัน เป้าหมายของเธอคือทำให้หุ่นรบของศัตรูสูญเสียศูนย์ถ่วง ทำให้เธอมีโอกาสเข้าไปโจมตีต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม แผนการของหลิงหลานกลับล้มเหลว ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาสมกับที่เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาจริงๆ ในตอนที่ดาบยักษ์โจมตีเข้ามานั้น ฝ่ามือทั้งสองข้างของอีกฝ่ายพลันฟาดไปที่ดาบยักษ์ และหุ่นรบก็เคลื่อนที่ไปทางด้านหลังหลายเมตรตามแรงฟาดและพลังของเครื่องยนต์ไอพ่น
ขณะเดียวกันดาบยักษ์ถูกฟาดด้วยพลังนี้ก็หยุดชะงักลงทันใด ถึงแม้มันยังคงเหวี่ยงเข้าไปในวินาทีถัดมา แต่ช่วงเวลาที่ชะงักงันนี้ทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีเวลาในการหลบออกมากพอ
การโจมตีของหลิงหลานพลาดเป้าไปทันที หลิงหลานควบคุมมือขวาของหุ่นรบให้กระตุกข้อมือทีหนึ่ง ดาบยักษ์ก็ถูกเก็บกลับมาอีกครั้ง เวลานี้ฝ่ายตรงข้ามชักดาบแสงหนึ่งเล่มออกมาจากด้านหลังเหมือนกัน พลังงานมหาศาลปลอดปล่อยออกมาจากตัวดาบ หลิงหลานเห็นดังนั้นก็เอาดาบยักษ์กลับไปห้อยที่หลังของตัวเองโดยไม่ลังเล ก่อนจะเปลี่ยนเป็นดาบแสงเช่นเดียวกัน
ดาบยักษ์เหล็กกล้าแข็งแกร่งทรงพลังในตอนที่โจมตีจริงๆ มันไม่กลัวที่จะปะทะกับอาวุธเหล็กกล้าเช่นเดียวกันรวมถึงหุ่นรบ แต่มันไร้ประโยชน์เมื่อต่อกรกับดาบพลังงานเหล่านี้ เนื่องจากพลังงานกระแสไฟฟ้าแรงสูงที่ปล่อยออกมาบนดาบพลังงานสามารถกัดกร่อนโครงสร้างภายในดาบยักษ์เหล็กกล้าได้ง่ายมาก เมื่อดูดซับพลังงานมากเกินไปจะทำให้ภายในมีความร้อนสูง ดาบยักษ์เหล็กกล้าย่อมสูญเสียระดับความทนทานแต่เดิมของมัน ท้ายที่สุดไม่แน่ว่ามันอาจจะถูกดาบพลังงานหลอมละลายโดยตรง นี่ก็คือสาเหตุว่าทำไมหลิงหลานเห็นอีกฝ่ายหยิบดาบแสงขึ้นมาแล้ว เธอก็เปลี่ยนเป็นดาบแสงเช่นเดียวกัน หลิงหลานไม่อยากสิ้นเปลืองอาวุธเย็นที่มีอานุภาพแข็งแกร่งทรงพลังขนาดนี้ไป
“เคล้ง! เคล้ง! เคล้ง!” เสียงดังติดต่อกันหลายเสียง หุ่นรบสองตัวปะทะกันในชั่วพริบตา ดาบแสงที่ประสานกัน กระแทกอย่างรุนแรงหลายครั้ง ทุกครั้งที่กระทบกันต่างสาดประกายไฟฟ้านับไม่ถ้วนขึ้นมา ดูเหมือนว่าทั้งคู่ต่างต่อสู้กันอย่างสูสี ไม่มีใครเหนือกว่าใคร…
และในเวลานี้เอง วิงแมนสองตัวของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่อยู่บนฟ้าถูกพวกฉีหลงแยกให้ห่างออกจากกัน ฉีหลง ลั่วล่างและเซี่ยอี๋สามคนล้อมหุ่นรบระดับพิเศษตัวหนึ่งไว้ ส่วนพวกหลี่หลานเฟิงสี่คนก็โจมตีใส่หุ่นรบอีกตัว