สาเหตุที่พวกฉีหลงแบ่งกลุ่มกันแบบนี้เป็นเพราะว่าการโจมตีของฉีหลง ลั่วล่างและเซี่ยอี๋ทั้งสามคนรู้ใจกันมากแล้ว ถึงแม้ความสามารถในการต่อสู้ของหลี่หลานเฟิงจะดูเหมือนสูงกว่าเซี่ยอี๋ ทว่าในการต่อสู้ที่ให้ความสำคัญเรื่องการร่วมมือกันเช่นนี้ เขาอาจจะไม่ได้เข้าขากับฉีหลงและลั่วล่างได้ดีเหมือนเซี่ยอี๋
อีกอย่างหนึ่ง ถึงแม้หุ่นรบที่เหลืออยู่หนึ่งตัวมีสี่คนโจมตีด้วยกัน แต่กำลังรบของคนอื่นๆ ในทีมด้อยกว่าฉีหลง ลั่วล่างและเซี่ยอี๋อยู่บ้าง พวกเขาจำเป็นต้องมีคนโจมตีหลักที่แข็งแกร่งมาต่อกรกับศัตรูโดยตรง ในฐานะที่หลี่หลานเฟิงเป็นนักเรียนเก่าที่มีประสบการณ์ในการควบคุมหุ่นรบเหนือกว่าคนอื่นๆ นิดหน่อยอย่างเห็นได้ชัด เขาย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย ตรงกันข้าม ถึงแม้หลี่ซื่ออวี๋เป็นนักเรียนเก่าเหมือนกัน แต่เขาที่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ทหารนับว่าพอสอบผ่านในด้านการควบคุมหุ่นรบเท่านั้น ไม่เหมาะให้แบกรับภารกิจโจมตีหลักเช่นนี้
ทั้งเจ็ดคนแบ่งออกเป็นสองกลุ่มอย่างเป็นธรรมชาติมากภายใต้เหตุผลนานัปการ กลุ่มของฉีหลงอาศัยการร่วมมือกันในการก่อกวนศัตรู ขณะที่กลุ่มของหลี่หลานเฟิงก็อาศัยหลี่หลานเฟิงพัวพันศัตรูเป็นหลัก ส่วนสามคนที่เหลือก็ร่วมกันโจมตีให้สำเร็จ
หากพิจารณาจากความเสี่ยงแล้ว ดูเหมือนว่ากลุ่มของหลี่หลานเฟิงที่มีสมาชิกมากกว่าหนึ่งคนจะเสี่ยงอันตรายมากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อย พวกเขาที่ยังร่วมมือกันไม่ค่อยดีมากนัก ทุกครั้งที่เกิดข้อผิดพลาดล้วนอาศัยการแก้ไขอย่างสุดชีวิตของหลี่หลานเฟิงถึงจะกอบกู้สถานการณ์กลับมาได้ และนี่ก็ทำให้บนตัวหุ่นรบของหลี่หลานเฟิงมีร่องรอยความเสียหายจากดาบแสงที่ลึกมากสองรอยเมื่อการต่อสู้เริ่มต้นไปได้ไม่นาน...
ไปๆ มาๆ ยิ่งต่อสู้พัวพันนานเข้า พวกฉีหลงสามคนก็เหมือนรวมเป็นหนึ่งเนื่องจากการร่วมมือที่รู้ใจกัน ทำให้ศัตรูของพวกเขาหาช่องโหว่ไม่เจอไปชั่วขณะ ทำได้เพียงถ่วงเวลาไปเรื่อยๆ แต่ทางด้านหลี่หลานเฟิงกลับทำให้ศัตรูของพวกเขาหาจุดอ่อนในการร่วมมือกันของพวกเขาเจอ
“จี้จวิน หลบเร็วเข้า!” ทันใดนั้นเอง เสียงร้องตกใจของหลินจงชิงดังขึ้นในช่องสื่อสารทีมของหลิงหลาน มือของฉีหลงอดช้าลงไม่ได้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะลั่วล่างกับเซี่ยอี๋เข้าแทนตำแหน่งได้ทันเวลา เขาก็เกือบจะทำให้การร่วมมือกันของพวกเขาเกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาแล้ว…
หลิงหลานกำลังประมือกับศัตรูหลายกระบวนท่า เธอเพิ่งจะพุ่งถอยหลังเตรียมตัวต่อสู้อีกครั้ง เมื่อได้ยินเสียงร้องตกใจนี้ก็รีบเงยหน้ามองไปทันที ก่อนจะเห็นว่าบนฟ้านั้น หลี่หลานเฟิงขับหุ่นรบของเขาให้ชนหุ่นรบของหานจี้จวินจนกระเด็นลอยออกไป ก่อนที่เขาจะฝืนรับการโจมตีด้วยดาบแสงของศัตรูโดยตรง
“ซี่…” ดาบแสงโจมตีใส่หุ่นรบ สาดประกายไฟฟ้านับไม่ถ้วนขึ้นมาทันใด พลังงานดาบแสงของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับพิเศษไม่ใช่สิ่งที่โล่แสงบนตัวหุ่นรบระดับสูงสามารถต้านทานได้หมด พลังงานของโล่แสงพลันมืดลง…หลี่หลานเฟิงกำลังคิดจะใช้ดาบแสงของตนปัดดาบแสงของอีกฝ่าย ฝ่ายตรงข้ามก็ฉวยโอกาสตอนที่ความสนใจของหลี่หลานเฟิงเพ่งไปที่ดาบแสง ยกขาเตะลงไปอย่างโหดเหี้ยมทันที
เสียง ‘โครม’ ดังสนั่น ขาขวาของหุ่นรบระดับสูงฟาดใส่ทรวงอกหุ่นรบของหลี่หลานเฟิงอย่างรุนแรง เตะหลี่หลานเฟิงไปที่พื้นโดยพลัน
บางทีอาจเป็นเพราะโจมตีใส่ด้วยพละกำลังมหาศาล ทำให้หลี่หลานเฟิงสูญเสียความสามารถในการควบคุมหุ่นรบไปชั่วขณะ จากนั้นก็เห็นหุ่นรบของหลี่หลานเฟิงเสียสมดุลไปทั้งตัว ร่วงลงสู่พื้นอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวเขาก็กระแทกกับพื้น ส่งเสียงดังสนั่น ขณะเดียวกันฝุ่นละอองสาดกระเซ็นขึ้นตลบอบอวลไปทั่ว…
หลิงหลานเห็นดังนั้นหัวใจพลันบีบแน่น หรือว่าชีตาห์เกิดเรื่องแล้ว?
หุ่นรบระดับพิเศษตัวนั้นเตะหลี่หลานเฟิงลงไปที่พื้นแล้วก็ไม่ได้หยุดการโจมตีของเขาลงตรงนี้ ฝ่ายตรงข้ามชูปืนลำแสงในมือขวาของหุ่นรบขึ้นมาอย่างเย็นชาแล้วเล็งไปยังหุ่นรบที่นอนอยู่บนพื้น เตรียมตัวส่งอีกฝ่ายลงสู่ขุมนรก...
หลี่ซื่ออวี๋กับหลินจงชิงที่ตระหนักขึ้นมาได้เห็นดังนั้นก็พุ่งเข้าไปจากทางซ้ายและทางขวาอย่างบ้าคลั่ง ส่วนหานจี้จวินที่เพิ่งจะควบคุมหุ่นรบได้หลังจากถูกกระแทกออกไปไกลเห็นแบบนั้นก็กัดฟันกรอด เหนี่ยวไกปืนลำแสงในมืออย่างคลุ้มคลั่ง พยายามใช้การโจมตีของเขาหยุดยั้งการโจมตีของอีกฝ่าย
หลิงหลานเห็นสถานการณ์วิกฤติก็กระทืบเท้าทีหนึ่ง หุ่นรบถอยไปข้างหลังอย่างฉับไว เตรียมตัวไปช่วยเหลือหลี่หลานเฟิง ทว่าศัตรูของเธอจะให้หลิงหลานทำตามใจหวังได้อย่างไร ยิ่งไปกว่านั้น ทางฝ่ายเขากำลังได้เปรียบ เขาย่อมต้องขัดขวางหลิงหลานไม่ให้ไปช่วยเหลืออยู่แล้ว เขาที่มีความเร็วไม่ได้เชื่องช้านักบินเข้าไปสกัดไว้ แล้วเอ่ยกับหลิงหลานอย่างเย็นชาว่า “อย่าลืมว่า ศัตรูของนายก็คือฉัน”
หลิงหลานจ้องมองศัตรูที่ขวางเธอไว้ ดวงหน้าเย็นเยียบมากยิ่งขึ้น แววตาเผยจิตสังหารออกมาอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก ไม่มีใครสังเกตเห็นว่า บนร่างของหลิงหลานที่อยู่ในห้องคนขับปรากฏไอชั่วร้ายกระหายเลือดที่เข้มข้น ซึ่งแผ่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว ถึงขนาดที่เล็ดรอดออกไปด้านนอก
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามพลันรู้สึกว่าร่างกายหนาวเหน็บ ยังไม่ทันที่เขาตระหนักได้ว่าเป็นเพราะสาเหตุอันใด การโจมตีของหลิงหลานก็มาถึงเบื้องหน้าเขาแล้ว
ครั้งนี้การจู่โจมของหลิงหลานอำมหิต รุนแรงและทรงพลังมากยิ่งขึ้น ต้องบอกว่าการต่อสู้ก่อนหน้านี้ หลิงหลานใช้พลังแค่หกเจ็ดส่วนโจมตีเท่านั้น หรือพูดอีกอย่างก็คือ เธอเก็บพลังสามส่วนสุดท้ายเป็นการป้องกันเผื่อเอาไว้ ทว่าตอนนี้หลิงหลานไม่เก็บทางหนีทีไล่อะไรอีกต่อไปแล้ว เธอบุกโจมตีอย่างสุดกำลังเพื่อที่จะจัดการศัตรูให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ หรือพูดอีกอย่างก็คือไม่ใช่เธอตาย ก็ต้องเป็นฝ่ายตรงข้ามที่ตาย จากไปไม่หวนกลับคืนมา
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาผู้นั้นรู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง เขาก็เคร่งขรึมขึ้นมาเช่นกัน เขาไม่กล้าเบนความสนใจอีกต่อไป ต้านทานการโจมตีของหลิงหลานอย่างเต็มกำลัง ทว่าเขามีคำถามข้อหนึ่งแล่นวาบขึ้นในใจอย่างรวดเร็ว หุ่นรบตัวนั้นทำให้ถังอวี้เคร่งเครียดขนาดนี้ คนที่บังคับอยู่ด้านในจะเป็นเฉียวถิง นักเรียนของเขาหรือเปล่า?
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาก็ใจกระตุก หลังจากที่เขาต้านการโจมตีของหลิงหลานหนึ่งครั้ง ก็ฉวยโอกาสถอยหลังอย่างฉับไวหลายก้าว เว้นระยะห่างช่วงหนึ่งกับหลิงหลานอย่างรวดเร็ว เขารีบเชื่อมต่อช่องสื่อสารทีมของเขา แล้วกล่าวกับลูกทีมวิงแมนสองคนของเขาว่า “ฆ่าหุ่นรบที่อยู่บนพื้นสุดกำลัง มีความเป็นไปได้สูงว่าหมอนั่นคือเฉียวถิง”
ไม่มีใครกำหนดว่าผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเฉียวถิงจะต้องขับหุ่นรบไพ่ราชา…พวกเขาต่างถูกความคิดที่ตายตัวแบบนี้จำกัดไว้
ลูกทีมวิงแมนทั้งสองคนได้ยินคำกล่าวก็ตะลึงงัน แต่พวกเขาเชื่อมั่นหัวหน้าของตัวเองมาก ในเมื่อหัวหน้าคิดแบบนี้ เช่นนั้นหุ่นรบตัวนั้นอาจจะเป็นเฉียวถิงจริงๆ
หลังจากที่หลบหลีกหุ่นรบระดับสูงที่คอยต่อสู้ก่อกวนพวกนั้นอีกครั้ง หุ่นรบระดับพิเศษทั้งสองตัวยกปืนลำแสงในมือขึ้นมาแทบจะเป็นเวลาใกล้เคียงกัน ก่อนจะเล็งไปยังหุ่นรบบนพื้นแล้วเหนี่ยวไกปืน….จากนั้นก็เห็นลำแสงสองสายทะลวงอากาศ บินตรงไปหาหุ่นรบที่นอนอยู่บนพื้น
“ชีตาห์! หลบเร็วเข้า!” หลิงหลานที่ปะทะกับผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาอีกครั้ง ไม่ได้ละเลยสถานการณ์ของทางฝั่งหลี่หลานเฟิง เมื่อเธอเห็นลำแสงสองสายบินไปหาหลี่หลานเฟิง เธอก็เบิกตาโตอย่างเดือดดาล ตะโกนเสียงแหลมดังลั่น
เสียง ‘ปิ้วๆ’ ดังขึ้นสองครั้ง ลำแสงยิงใส่พื้น ฝุ่นละอองนับไม่ถ้วนสาดกระเซ็นขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้หน้าจอของหุ่นรบทุกตัวไม่อาจมองเห็นสถานการณ์บนพื้นได้ชัดเจนไปชั่วขณะ ทุกคนต่างไม่รู้ว่า ลำแสงสองสายนี้ยิงโดนหลี่หลานเฟิงจริงๆ หรือเปล่า
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเห็นดังนั้นก็ยินดีในใจ เขาคิดว่าอีกฝ่ายไม่มีโอกาสหลบหนีแล้วอย่างแน่นอน นอกจากนี้เขาเองก็เชื่อมั่นในความสามารถด้านการยิงปืนของลูกทีมเขาทั้งสองคน ว่าจะต้องยิงโดนห้องคนขับของอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยำไร้ข้อผิดพลาด และห้องคนขับเป็นตำแหน่งที่มีการป้องกันเปราะบางมากที่สุดของหุ่นรบทั้งหมด ยิ่งไปกว่านั้น หุ่นรบที่ไม่มีโล่แสงคุ้มครองไม่อาจทนรับการโจมตีของลำแสงสองสายได้เลย
แต่แล้วผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่กำลังคิดจะรอคอยให้ฝุ่นควันกระจายหายไปแล้วเสพสุขกับผลแห่งชัยชนะกลับพบว่า ศัตรูตรงหน้าเขาไม่ได้ตื่นตระหนกสับสนเพราะการโจมตีครั้งนี้เลย ถึงขนาดที่เปลี่ยนเป็นเยือกเย็นมากยิ่งขึ้น…
ศัตรูรีบขับหุ่นรบให้ถอยหลังไป เว้นระยะห่างจากเขาสิบกว่าเมตรอย่างเร็วไว ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชานึกว่าอีกฝ่ายอยากวิ่งไปช่วยเหลือหุ่นรบระดับสูงตัวนั้น ขณะที่เขากำลังคิดจะขับหุ่นรบเข้าไปขัดขวาง เขากลับพบว่า อีกฝ่ายแค่หยุดชะงักเพียงเล็กน้อยตรงจุดที่อยู่ห่างออกไปสิบกว่าเมตรเท่านั้น ก่อนจะพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงในชั่วพริบตา
แววตาของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาหดลงฉับพลัน การควบคุมที่เข้ามาใกล้โดยไม่มีการหน่วงเหนี่ยวเช่นนี้ ไม่เพียงต้องการทักษะการควบคุมที่สูงมากแล้ว ในเวลาเดียวกันเงื่อนไขต่อร่างกายผู้ควบคุมก็สูงมากเช่นกัน เนื่องจากการกระทำเช่นนี้จะสะท้อนพลังใส่ผู้ควบคุมสูงมาก ผู้คนมากมายไม่เลือกทำแบบนี้หากไม่ถึงช่วงเวลาวิกฤติเพื่อปกป้องตัวเอง
ยังไม่ทันที่ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาจะเคลื่อนไหวสักเล็กน้อย เขาก็อึ้งไปอีกครั้ง เนื่องจากร่องรอยของอีกฝ่ายหายไปจากในหน้าจอหุ่นรบของเขาแล้ว…
ไม่สิ ไม่อาจพูดได้ว่าร่องรอยของอีกฝ่ายหายไป หากแต่ฝ่ายตรงข้ามพลันแยกออกเป็นเงาสองสาย ไถลเข้ามาหาเขาจากสองฝั่ง ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วภายใต้ความตะลึงงัน เนื่องจากเขาตระหนักได้แล้วว่า สิ่งที่อีกฝ่ายใช้นั้นคือทักษะระดับสุดยอดที่สุดของผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา กระทั่งเขาก็ไม่แน่ใจว่าสามารถแบ่งร่างสะท้อนเงาได้สำเร็จ
เงาสองร่างนี้ หนึ่งคือร่างจริง หนี่งคือร่างปลอม เขาจำเป็นต้องตัดสินใจในชั่วพริบตาว่า ร่างไหนคือร่างจริง ร่างไหนคือร่างปลอมกันแน่ หากตัดสินใจผิดพลาด เขาจะต้องโดนโจมตีอย่างหนักหน่วง
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชากัดฟันกรอด เขาไม่ได้เลือกโจมตีร่างไหนเลย หากแต่ขับหุ่นรบให้ถอยหลังไปอย่างรวดเร็วสุดขีดทันที เขาไม่ชอบการเดิมพัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเดิมพันที่ไม่อาจตัดสินใจได้อย่างสมบูรณ์ ทำได้เพียงอาศัยโชคแบบนี้ ดังนั้น เขาเลยเลือกถอยร่น
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชานึกว่าขอเพียงเขาถอยไปอย่างรวดเร็ว ถอยไปให้ไกล จะได้ฝ่ากระบวนท่านี้ของอีกฝ่ายได้อย่างแน่นอน ทว่าเขาไม่คาดคิดเลยว่า รีบถอยหลังไปยี่สิบเมตรแล้ว ร่างเงาสองสายยังคงไม่หายไป เขายังสลัดภาวะอับจนนี้ไม่พ้น
“นี่มันเป็นไปไม่ได้!” ต่อให้เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาที่มีทักษะดีอีกสักแค่ไหน ก็รักษาการแบ่งร่างสะท้อนเงาได้แค่ประมาณสิบเมตรเท่านั้น แต่อีกฝ่ายกลับลากยาวได้เท่าตัว นี่ทำให้เขาที่ต่อให้ใจเย็นอีกสักแค่ไหนก็ไม่สามารถสงบนิ่งได้แล้ว ก่อนจะร้องอุทานขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่
ในตอนนี้เอง เขาก็ได้ยินว่าด้านขวาของหุ่นรบตัวเองถูกพลังมหาศาลสายหนึ่งโจมตีใส่ฉับพลัน หุ่นรบที่เดิมทียังคงถอยหลังอย่างฉับไวไม่อาจรักษาสมดุลได้เนื่องจากพลังสายนี้ จากนั้นหุ่นรบก็กระเด็นลอยออกไปทางด้านซ้าย….
ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชารู้ว่าตัวเองถูกศัตรูโจมตีใส่แล้ว เขาลอบยินดีเงียบๆ ที่เมื่อสักครู่นี้เขารู้สึกท่าไม่ดีเลยเพิ่มค่าป้องกันของโล่แสงหุ่นรบไปจนถึงขีดสูงสุด นี่หมายความว่า ต่อให้หุ่นรบฝืนรับดาบแสงของอีกฝ่ายทีหนึ่ง อาศัยพลังงานป้องกันบนโล่แสงก็สามารถหักล้างความเสียหายของพลังงานเหล่านี้ได้จนหมด รับประกันว่าหุ่นรบไม่ได้รับความเสียหาย ขอเพียงเขาทำให้หุ่นรบคงที่ได้อย่างรวดเร็ว เขาก็ยังสามารถกอบกู้สถานการณ์การรบได้…
แต่ยังไม่ทันที่ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาจะยินดีจบ ออปติคัลคอมพิวเตอร์ของหุ่นรบก็เริ่มส่งเสียงแจ้งเตือนอย่างรุนแรง “คำเตือน ลำตัวด้านขวาของหุ่นรบได้รับความเสียหายหนัก การขับเคลื่อนด้านขวาลดลงสี่สิบเปอร์เซ็นต์ พลังป้องกันส่วนที่ได้รับความเสียหายของหุ่นรบลดลงแปดสิบเปอร์เซ็นต์…คำเตือน จุดที่ได้รับความเสียหายไม่อาจทนรับการโจมตีได้อีกเป็นครั้งที่สอง!”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เนื่องจากการขับเคลื่อนด้านขวาถูกทำลาย หุ่นรบที่ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาคิดว่าสามารถควบคุมได้อย่างง่ายดายไม่อาจคงความเสถียรของร่างกายได้ตามที่เขาคาดหวังไว้ หากแต่เอียงไปหาพื้นเรื่อยๆ วินาทีถัดมาอาจจะกระแทกกับพื้นก็เป็นได้
อย่างไรเสีย ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาก็คือผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชา ต่อให้อยู่ภายใต้สถานการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้ เขาก็ยังเปลี่ยนวิธีการควบคุมอย่างเยือกเย็น แขนซ้ายของหุ่นรบยันไปที่พื้นก่อนก้าวหนึ่ง ยันตัวขึ้นไปอย่างแรง ร่างของหุ่นรบที่ล้มลงไปที่พื้นก็ดีดตัวขึ้นมาอีกครั้ง…