ตอนที่ 573 สังหารศิษย์ร่วมสำนัก (1) / ตอนที่ 574 สังหารศิษย์ร่วมสำนัก (2)
ตอนที่ 573 สังหารศิษย์ร่วมสำนัก (1)
วันหยุดของสำนักศึกษาเฟิงหัวผ่านไปอย่างรวดเร็ว จวินอู๋เสียและสหายของนางกำลังเดินทางกลับสำนักศึกษา
ความคึกคักวุ่นวายในตำบลชานหลินลดลงอย่างมากหลังจากที่ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวทั้งหมดจากไป ถนนทั้งเส้นพลันว่างเปล่าและเงียบเหงา แต่ในเวลาเดียวกันของเดือนหน้า ความคึกคักวุ่นวายก็จะกลับมาอีกครั้ง
แวะส่งเฉียวฉู่และคนอื่นๆ ที่ตึกรองก่อน จวินอู๋เสียถึงค่อยกลับไปที่ตึกหลังของสำนักศึกษาเฟิงหัวพร้อมกับฟ่านจัว
เมื่อจวินอู๋เสียก้าวเท้าเข้าไปในสำนักศึกษาเฟิงหัว นางก็พบกับสายตามากมายที่เต็มไปด้วยความดูถูกเหยียดหยามและความเกลียดชังพุ่งตรงมาที่นาง
ศิษย์จำนวนมากยังคงอยู่ที่สำนักศึกษาในช่วงวันหยุด พวกเขาให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปเมื่อเทียบกับคนที่ไปที่ตำบลชานหลิน เมื่อเห็นจวินอู๋เสีย คนพวกนี้จากที่เมื่อก่อนไม่สนใจและเพิกเฉยต่อนาง ก็หันมาจ้องนางด้วยความรังเกียจและเกลียดชังอย่างถึงที่สุดโดยไม่ปิดบัง
สายตาไม่เป็นมิตรนั้นชัดเจนมากจนแม้แต่จวินอู๋เสียที่สงบเยือกเย็นอยู่เสมอก็ยังรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในสายตาของพวกเขา
บรรยากาศในสำนักศึกษาเปลี่ยนไปเป็นน่าอึดอัดเล็กน้อยด้วยการกลับมาของจวินอู๋เสีย จวินอู๋เสียเดินไปกับฟ่านจัว และศิษย์คนอื่นๆ ที่พวกเขาเดินผ่านก็ส่งสายตาที่เต็มไปด้วยความรังเกียจและความเป็นศัตรูมาให้
เกิดอะไรขึ้น
จวินอู๋เสียรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่นางออกไปแน่ ไม่เช่นนั้นทำไมสายตาของศิษย์คนอื่นๆ ที่พุ่งตรงมาที่นางถึงเต็มไปด้วยความเกลียดชังเช่นนี้
ฟ่านจัวก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ ในสำนักศึกษาเช่นกัน เขาดึงจวินอู๋เสียไปด้วยขณะที่เร่งความเร็วมากขึ้น เขาอยากจะกลับไปที่ลานป่าไผ่โดยเร็ว
ทั้งสองคนเพิ่งก้าวเท้าเข้าสู่เรือนหลังเล็กในลานป่าไผ่ ฟ่านจิ่นที่ได้ข่าวการกลับมาของทั้งคู่ก็รีบพุ่งเข้ามาหาพวกเขา
“พี่ใหญ่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่สำนักศึกษา” ใบหน้าของฟ่านจัวดูงุนงงสับสน เขาสังเกตเห็นสายตาที่พุ่งตรงไปที่จวินอู๋เสีย
ฟ่านจิ่นวิตกกังวลยิ่งกว่าฟ่านจัว ขณะที่มองไปที่จวินอู๋เสียที่ยังคงสงบนิ่ง หน้าผากของเขาก็ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ
“ในช่วงที่พวกเจ้าไม่อยู่ที่นี่ มีคนปล่อยข่าวว่าเจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของหลี่จื่อมู่” คำอธิบายของฟ่านจิ่นนั้นเรียบง่ายมาก แต่ในความเป็นจริง ข่าวลือที่แพร่สะพัดออกไปนั้นเลวร้ายยิ่งกว่ามาก
อย่างไรก็ตาม มีคนพบว่าระหว่างงานล่าวิญญาณ หลี่จื่อมู่ได้สลับกลุ่มย้ายตัวเองมาอยู่ในกลุ่มของจวินอู๋เสีย และหลังจากนั้นชื่อของหลี่จื่อมู่ก็ไปอยู่ในรายชื่อศิษย์ที่เสียชีวิตในงานล่าวิญญาณ
การตายที่เกิดขึ้นระหว่างงานล่าวิญญาณนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่มีใครให้ความสนใจผู้ที่เสียชีวิตมากนัก
แต่ตัวตนของหลี่จื่อมู่นั้นแตกต่างจากคนอื่นๆ เขาเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับการยอมรับให้เข้าเป็นศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณในปีนี้ และได้รับความสนใจมากมายจากศิษย์คนอื่นๆ ดังนั้นศิษย์หลายคนจึงรู้เรื่องการตายของเขา บางคนเยาะเย้ยสมน้ำหน้า ขณะที่คนอื่นๆ ก็สงสารเห็นใจเขา
ในขณะที่โศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นในงานล่าวิญญาณกำลังจะกลายเป็นความทรงจำที่จางหาย ข่าวที่น่าตกใจพลันแพร่ก็กระจายไปทั่วสำนักศึกษาเฟิงหัว!
จวินอู๋เสียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของหลี่จื่อมู่โดยตรง เดิมทีตอนเริ่มงานล่าวิญญาณหลี่จื่อมู่เข้าป่าประลองวิญญาณไปพร้อมกับศิษย์อีกกลุ่มหนึ่ง พวกเขาไปเจอกับจวินอู๋เสียและกลุ่มของฟ่านจิ่นระหว่างทาง และพูดกันว่าจวินอู๋เสียได้เชื้อเชิญหลี่จื่อมู่ให้เข้าร่วมกลุ่มของนางกับฟ่านจิ่น
หลี่จื่อมู่ไม่อาจปฏิเสธน้ำใจของจวินอู๋เสียได้ จึงจำใจยอมรับ และหลังจากย้ายไปอยู่กลุ่มของจวินอู๋เสียได้ไม่นาน เขาก็เสียชีวิตลงกะทันหันอย่างน่าสงสัยในป่าประลองวิญญาณ
ข่าวลือเป็นความจริงเสียส่วนใหญ่ ยกเว้นเพียงเรื่องเดียว…
นั่นคือจวินอู๋เสียไม่ได้เชิญหลี่จื่อมู่เข้าให้กลุ่มด้วย แต่เป็นหลี่จื่อมู่เองต่างหากที่ดื้อขอเข้ากลุ่มของนาง
แต่เรื่องบิดเบือนเล็กน้อยนี้ กลับทำให้ศิษย์ส่วนใหญ่ได้ข้อสรุปที่ผิดพลาด
เรื่องทุกอย่างระหว่างจวินอู๋เสียกับหลี่จื่อมู่ได้กระจายออกไปเป็นวงกว้าง และศิษย์ทุกคนก็รับรู้ถึงความเป็นอริที่พวกเขามีต่อกันอย่างมาอย่างช้านาน
ตอนที่ 574 สังหารศิษย์ร่วมสำนัก (2)
ในระหว่างงานล่าวิญญาณ ปัญหามันอยู่ที่หลายคนเชื่อว่าจวินอู๋เสียได้เชื้อเชิญหลี่จื่อมู่ให้เข้าร่วมกลุ่มของนางจริง ซึ่งมันก็ทำให้ผู้คนคาดเดาไปถึงเจตนาของจวินอู๋เสียว่าอาจไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็น
และหลังจากที่หลี่จื่อมู่เข้าร่วมกลุ่มได้ไม่นาน เขาก็ยังตายในป่าประลองวิญญาณ ทั้งที่สมาชิกทั้งหมดในกลุ่มของจวินอู๋เสีย มีเพียงหลี่จื่อมู่เท่านั้นที่เข้าร่วมกลุ่มกลางคันและตาย ขณะที่แม้แต่ศิษย์จากตึกรองทั้งหมดก็ยังออกมาได้โดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ สถานการณ์ที่ผิดปกตินี้ ทำให้ศิษย์คนอื่นๆ ทั้งหมดพากันสงสัยอย่างถึงที่สุด
หลี่จื่อมู่จะต้องถูกจวินอู๋เสียฆ่าตายอย่างแน่นอน!
เห็นได้ชัดว่าจวินอู๋เสียตั้งใจที่จะฆ่าเขาตั้งแต่แรกแล้ว!
ฟ่านจิ่นมองจวินอู๋เสียอย่างกระวนกระวาย ข่าวลือพวกนั้นแพร่ไปทั่วสำนักศึกษาราวกับไฟลามทุ่ง จวินอู๋เสียก็บังเอิญไม่อยู่ในสำนักศึกษา ฟ่านจิ่นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะระงับข่าวลือร้ายๆ พวกนั้น แต่ก็ล้มเหลวอย่างน่าสังเวช ตรงกันข้ามข่าวลือยิ่งกระจายไปเร็วขึ้นและดุเดือดมากขึ้น ทุกคนเชื่ออย่างแรงกล้าว่าจวินอู๋เสียได้ฆ่าหลี่จื่อมู่เนื่องจากความอิจฉาริษยาและเกลียดชัง
ความเสียหายและผลสะท้อนจากการถูกลือว่าสังหารศิษย์ร่วมสำนักไปนั้น มีผลกระทบใหญ่หลวงมาก เหมือนตอนที่ลู่เว่ยเจี๋ยจากไป เขาแค่กล่าวหาหนิงซินว่าวางแผนฆ่าศิษย์ร่วมสำนักเท่านั้น ถึงจะทำไม่สำเร็จ แต่ชื่อเสียงของหนิงซินก็เสียหายยับเยิน แล้วตอนนี้จวินอู๋เสียถูกตราหน้าว่าเป็นฆาตกรที่ลงมือสังหารศิษย์ร่วมสำนักของพวกเขา รวมกับเรื่องที่หลี่จื่อมู่ได้ตายไปจริงๆ ผลสะท้อนนั้นย่อมเลวร้ายสุดบรรยาย!
ถ้าศิษย์คนหนึ่งถูกมองว่าน่ารังเกียจและขาดคุณธรรม เขาจะต้องประสบกับความเสื่อมถอยอย่างแน่นอน แต่ถ้าถูกพบว่ามีเจตนาฆ่าศิษย์ร่วมสำนักด้วยกันและศิษย์คนนั้นได้ตายไปจริงๆ ละก็ ความร้ายแรงก็จะแตกต่างกันมากทีเดียว!
ช่วงเวลาที่ผ่านมา มีการร่ำลือกันหนาหูว่าจวินอู๋เสียได้ถูกไล่ออกไปจากสำนักศึกษาเฟิงหัวแล้ว และเสียงซุบซิบนั้นก็ดังไปถึงหูของฟ่านฉีแล้ว
จวินอู๋เสียฟังเงียบๆ ไม่มีร่องรอยของความกระวนกระวายบนใบหน้าเลยแม้แต่น้อย
“น้องเสีย เราจะทำอย่างไรกันดี” ฟ่านจิ่นรู้ว่าจวินอู๋เสียมีความคิดของนาง เขาภาวนาว่านางจะสามารถพลิกเรื่องนี้กลับมาได้
ตรงกันข้าม จวินอู๋เสียมองฟ่านจิ่นแล้วตอบด้วยน้ำเสียงไม่รีบร้อนว่า “พวกเขาก็พูดถูกแล้วนี่ ข้าฆ่าเขาจริงๆ”
ถึงแม้ข่าวลือจะบิดเบือนและเกินจริงไปบ้าง แต่ความจริงมันก็ไม่ได้ห่างไกลไปจากสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ สักเท่าไรนัก
เพียงแต่ความจริงที่ถูกปกปิดเอาไว้ ได้ถูกคนลึกลับจัดการปรับเปลี่ยนและใส่สีตีไข่เล็กน้อยเพื่อสร้างภาพให้นางเป็นคนชั่วช้าเลวทรามที่แบกความเกลียดชังเอาไว้ เนื่องจากพยายามขโมยตำแหน่งผู้อื่นไม่สำเร็จ
ถึงแม้จวินอู๋เสียจะฆ่าหลี่จื่อมู่จริงๆ ก็ตาม แต่เหตุผลที่แท้จริงเบื้องหลังเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่าละอายอย่างที่พูดกันในข่าวลือ
ฟ่านจิ่นพูดอะไรไม่ออกกับคำตอบของจวินอู๋เสีย
ใช่ หลี่จื่อมู่ถูกจวินอู๋เสียฆ่าตาย แต่เหตุผลจริงๆ ไม่ใช่เพราะว่านางเกลียดชังเขา!
“แต่ความจริงมันไม่เหมือนที่ทุกคนพูด เจ้าไม่อยากอธิบายให้พวกเขารู้สักหน่อยหรือ เรื่องในครั้งนี้มันร้ายแรงมากนะ ถึงท่านพ่อของข้าจะสามารถระงับเรื่องนี้เอาไว้ได้ชั่วคราว แต่ถ้าขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป…” ฟ่านจิ่นเกาหัวอย่างคับข้องใจ เขาไม่เข้าใจว่าจวินอู๋เสียยังคงใจเย็นอยู่ได้อย่างไร
นางไม่สนใจชื่อเสียงของตัวเองบ้างเลยหรือไง
ศิษย์ทุกคนของสำนักศึกษาเฟิงหัวมีภูมิหลังที่ได้รับการยกย่องนับถือและมาจากตระกูลที่เป็นที่นับหน้าถือตา ถ้าข่าวลือนี้รั่วไหลออกไปและแพร่กระจายไปมากกว่านี้ มันจะทำลายโอกาสในอนาคตของนางอย่างแน่นอน
ฟ่านจิ่นรู้สึกกระวนกระวายและกังวลใจเป็นอย่างมาก แต่ตัวเหยื่อเองกลับใจเย็นเสียเหลือเกิน
“ถ้าพวกเขาอยากจะกระพือเรื่องไปให้มากกว่านี้ก็ให้ทำไป ข้ากล้าทำ ข้าก็ต้องรู้ว่าจะจัดการมันอย่างไร แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ข้าอยากจะดูว่าใครกันที่อยู่เบื้องหลังข่าวลือในครั้งนี้” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย นางไม่เคยปล่อยให้ข่าวลือมามีผลกระทบกับตัวเอง
หลังจากนางเกิดใหม่ ในตอนที่นางอยู่ในเมืองหลวงของรัฐชี นางก็เคยมีข่าวลือเลวร้ายแพร่สะพัดไปทั่วไม่ต่างกัน