บทที่ 325 อยากเข้าใจคุณสักหน่อย

Lucky baby คุณพ่อ ต้องพยายามจีบแม่

บทที่325 อยากเข้าใจคุณสักหน่อย

ในหอพัก เจียงหยุนเอ๋อกับถวนจื่อนอนหลับไปนานแล้ว

ถึงแม้ว่าพวกเขามั่นใจว่าไม่ได้เข้าร่วมงานอะไร แต่ตอนนี้ถึงอย่างไรมันก็ตกดึกแล้ว เจียงหยุนเอ๋อก็รู้ว่าคิดอะไรมากก็ไม่มีประโยชน์ แล้วก็นอนไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นเจียงหยุนเอ๋อนอน ในใจของเฟิงจิงเป่ยนั้น อันที่จริงก็ทำอะไรไม่ได้ คิดว่าเจียงหยุนเอ๋อเชื่อใจตัวเองมากเกินไปแล้ว

แต่นี่เพราะว่าเฟิงจิงเป่ยไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร แต่คนอื่นก็ต้องระวังตัวหน่อย ไม่แน่ว่าเจียงหยุนเอ๋ออาจจะเจออะไรแย่ๆ มามากแล้วก็ได้

ในตอนนี้ จู่ๆ เมื่อเฟิงจิงเป่ยได้ยินเสียงด้านนอกเล็กน้อย ก็คิดถึงคนที่จะมาตามหาเจียงหยุนเอ๋อเมื่อเช้า สีหน้าก็หนักใจขึ้นมา

หรือว่าคนพวกนั้นหาเจอแล้ว?

เฟิงจิงเป่ยลุกขึ้นจากเตียง จากนั้นก็จ้องประตูอย่างไม่วางตา ในใจก็เตรียมที่จะสู้เอาไว้หมดแล้ว

สองคนด้านนอกได้ยินเสียงเบาๆ แล้ว ก็ยกมือขึ้นเคาะประตู

ตอนที่คนหนึ่งกำลังยกมือจะเคาะประตู ก็ได้ยินเสียงเท้าก้าวมาจากที่ไม่ไกลมาก แถมยังมีไฟฉายส่องมาด้วย

คนปกติคงไม่กล้ามาเดินเพ่นพ่านขนาดนี้ ทั้งสองคนก็รู้ดี ว่าต้องเป็นคนลาดตระเวน

ดังนั้น พวกเขาก็ไม่กล้ายืนอยู่ที่เดิมแล้ว เพียงไม่นานก็ออกจากตรงนั้นไป

ทางฝั่งลี่จุนถิงก็หาเขตตรงนี้เจอแล้ว แต่ก็ต้องมาเจอคนลาดตระเวน

“วันนี้เกรงว่าจะสืบหาต่อไปไม่ได้แล้วล่ะ” เมื่อเห็นคนลาดตระเวนมาก สีหน้าของชิงโม่ก็ดูไม่ค่อยดีเลย

เขารู้ว่าใจของลี่จุนถิงนั้นร้อนมาก แต่ก็เข้าใจได้อย่างดี ว่าในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเกิดต้องพยายามหาต่อไปก็มีแต่จะทำให้พวกเขาตกอยู่ในอันตราย

ในตรงนี้ ลี่จุนถิงก็มั่นใจมาก ดังนั้นถึงแม้ว่าจะไม่เต็มใจเท่าไหร่ สุดท้ายก็ต้องให้ทุกคนกลับไป

เมื่อกลับไปที่หอพัก ลี่จุนถิงยังคงนั่งไม่ติด

เมื่อเห็นท่าทีของเขาแบบนี้ ชิงโม่ก็อดใจไม่ได้

ตั้งแต่ที่เจียงหยุนเอ๋อถูกพามาที่นี่ ทุกๆ วันลี่จุนถิงก็เหมือนไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร ทำให้เขาไม่คุ้นเลย

“คุณชายลี่ คุณก็อย่ากังวลมากเลย พรุ่งนี้พวกเราค่อยหากันต่อเถอะ วันนี้พักผ่อนก่อนนะ”

ชิงโม่ตบไหล่ของลี่จุนถิง พลางพูดเสียงเบา

ลี่จุนถิงยังคงมีท่าทีกังวลอยู่ไม่น้อย เมื่อได้ยินคำพูดของชิงโม่ ก็ทำได้แค่พยักหน้าเบาๆ

“อือ”

ถึงแม้ว่าจะตอบตกลงไป แต่ในใจของเขาเองก็รู้เป็นอย่างดี ว่าก่อนที่จะหาเจียงหยุนเอ๋อเจอ ใจของเขาจะเย็นลงได้อย่างไรกัน?

เช้าวันต่อมา เพราะว่าพวกลี่จุนถิงปลอมตัวไปเป็นคนงาน ดังนั้นก็เลยต้องเริ่มทำงานของพวกเขาเหมือนกัน

ถึงลี่จุนถิงจะไม่เคยทำงานที่เหนื่อยและสกปรกแบบนี้ แต่เขามาอยู่ในที่แบบนี้ เลยไม่ได้รู้สึกว่ามันยากสักเท่าไหร่

ตอนที่เขายกของตามคนอื่นนั้น กลับได้ยินเสียงของคนข้างๆ คุยกัน

“คุณรู้ไหม ว่าก่อนหน้านี้โรงงานของพวกเรามีหญิงท้องอยู่ด้วย สวยไม่เบาเลยล่ะ”

“เห้อ ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน แต่ได้ยินว่ามาเป็นครอบครัวไม่ใช่เหรอ?”

“ใช่ๆ ก็ไม่รู้ว่าคนท้อง จะมาที่นี่ได้ทำไม”

“ตามสามีมานั่นแหละมั้ง ใครจะไปรู้ล่ะ”

คนท้องงั้นเหรอ?ครอบครัวสามคนเหรอ?งั้นก็ต้องมีเด็กด้วยน่ะสิ

ถึงแม้ว่าจะไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นเป็นใคร แต่ลี่จุนถิงก็พอจะมั่นใจได้ว่าคนท้องที่พวกเขาพูดถึงนั้นคือเจียงหยุนเอ๋อ

ลี่จุนถิงเดินเข้ามาใกล้ๆ อยากจะฟังต่อ จากนั้นก็ได้ยินคนพวกนั้นพูดขึ้น: “แต่ว่า ผู้รับผิดชอบจ้าวเหมือนจะคิดอะไรกับผู้หญิงคนนั้นเลยนะ ก่อนหน้านี้ได้ยินว่าจะเอาผู้หญิงคนนั้นมาให้ได้”

“เธอท้องอยู่นะ ทำไปได้อย่างไร?” อีกคนพูดอย่างตกใจ

คนนั้นส่ายหัว ทำเหมือนเข้าใจทุกอย่าง: “คุณไม่เข้าใจเหรอ?ไม่แน่ว่าเขาอาจจะชอบ อีกอย่างผู้หญิงคนนั้นสวยไม่เบาเลย ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะว่าสามีเธอดูไม่น่ามีเรื่องด้วยเท่าไหร่ บางที……”

คนพวกนั้นคุยกันแล้วก็หัวเราะ เมื่อเข้าหูของลี่จุนถิง ก็ทำให้เขาโกรธขึ้นมามากเลยล่ะ

ถ้าเกิดคนท้องคนนั้นคือเจียงหยุนเอ๋อ งั้นเธออาจจะเจออันตรายก็ได้ไม่ใช่เหรอ?

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ อารมณ์ของลี่จุนถิงก็เครียดขึ้น

ถ้าเกิดคนคนนั้นเป็นเจียงหยุนเอ๋อจริงๆ ถ้าตัวเองหาเธอไม่ทัน เธอจะทำอย่างไรกันนะ?

……

ทางฝั่งเจียงหยุนเอ๋อ ตามคำโน้มน้าวของเฟิงจิงเป่ย เลยไม่ได้อยากไปทำงานขนาดนั้น เลยอยู่ในหอพักกับถวนจื่อ

ไม่รู้เพราะอะไร เฟิงจิงเป่ยเน้นย้ำเรื่องความอันตรายของเธอ บวกกับการคาดเดาของเจียงหยุนเอ๋อ ยิ่งไม่กล้าออกไปข้างนอก เลยได้แต่อยู่ในหอพักไม่ออกไปไหน

“หม่ามี้ พวกเราออกจากที่นี่ไปได้เมื่อไหร่กันเหรอ?ที่นี่น่าเบื่อจังเลย” ถวนจื่อก้มหัวลง ก่อนจะบ่นพึมพำ

เจียงหยุนเอ๋ออึ้งไป เลยลูบหัวของถวนจื่อด้วยความเห็นใจ

ถวนจื่อยังเด็กขนาดนี้ ไม่ควรจะมาเจอเรื่องลำบากกับตัวเองแบบนี้

“ถวนจื่อ พวกเรารออีกหน่อย ลี่จุนถิงจะต้องมาหาพวกเราแน่นอน”

ถึงแม้ว่าเจียงหยุนเอ๋อจะพูดแบบนี้ แต่บนใบหน้านั้นก็มีความไม่พอใจเล็กน้อย

ถวนจื่อมองของสีหน้าท่าทีของเจียงหยุนเอ๋อ ก็รู้ว่าตัวเองอาจจะพูดอะไรผิดไป ถึงอย่างไรสถานการณ์ตอนนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขายังจะมาถามอะไรแบบนี้ นี่มันไม่ได้ทำให้เจียงหยุนเอ๋อแย่กว่าเดิมเหรอ

“หม่ามี้ ไม่เป็นไร ขอเพียงแค่หม่ามี้อยู่กับฉัน ก็ไม่เป็นไรแล้ว” ถวนจื่อเงยหน้าขึ้นมองเจียงหยุนเอ๋อ

ทั้งสองคนพูดคุยกันเล็กน้อย ในตอนนั้นเอง ด้านนอกประตูมีเสียงเคาะประตูขึ้นมา

เจียงหยุนเอ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อย เพราะคิดว่าเฟิงจิงเป่ยกลับมา เลยอดไม่ได้ที่จะบ่นเล็กน้อย: “ทำไมวันนี้กลับมาเร็วจังเลย?”

เธอยืนขึ้นแล้วกำลังจะเดินไปเปิดประตู แต่กลับพบว่าข้างนอกไม่ใช่เฟิงจิงเป่ย แต่เป็นจ้าวเสวียไห่

เมื่อเห็นจ้าวเสวียไห่ ใจของเจียงหยุนเอ๋อก็ตกไปอยู่ที่ตาตุ่ม แต่ก็ต้องถามไปตามมารยาท: “ผู้รับผิดชอบจ้าว คุณ……มาที่นี่มีอะไรหรือเปล่า?”

จ้าวเสวียไห่ยิ้มเบาๆ ทำท่าทีเหมือนเป็นมิตร แต่กลับทำให้เจียงหยุนเอ๋อรู้สึกไม่ปลอดภัย

“คุ้นชินหรือยัง?อาหารการกินโอเคไหม?”

เจียงหยุนเอ๋อฝืนยิ้ม พลางพูดขึ้น: “ก็พอได้ ทางนี้ก็โอเค”

ตาของเจียงหยุนเอ๋อนั้นผลุบลง เพราะอยากให้มันผ่านไปเร็ว แต่เป้าหมายของจ้าวเสวียไห่ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ก่อนจะเดินเข้ามา จากนั้นก็ปิดประตู

ในตอนนั้นเอง ในใจของเจียงหยุนเอ๋อนั้นยิ่งรู้สึกระแวงขึ้นไปอีก

“คุณกำลังทำอะไรเหรอ?”

จ้าวเสวียไห่เดินเข้ามาใกล้เจียงหยุนเอ๋อ มุมปากก็ยิ้มเล็กน้อย

“ไม่มีอะไร แต่อยากจะรู้จักคุณให้มากกว่านี้หน่อย”

เจียงหยุนเอ๋อเข้าใจความหมายของจ้าวเสวียไห่ได้ในทันที ในใจก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกรังเกียจ