บทที่326 คุณไม่อยากมีชีวิตต่อแล้วใช่ไหม
ผ่านเรื่องราวมากมายมาตั้งมาก เจียงหยุนเอ๋อรู้ดีว่าในตอนนี้จ้าวเสวียไห่อยากจะทำอะไรกันแน่
เจียงหยุนเอ๋อถอยห่างด้วยความเครียด พลางจ้องจ้าวเสวียไห่ไม่หยุด และสังเกตทุกการกระทำของเขา
บรรยากาศในห้องนั้นมันเครียดขึ้นมา
จ้าวเสวียไห่มองสาวสวยตรงหน้าตัวเอง น้ำลายแทบไหลออกมาแล้ว
เจียงหยุนเอ๋อสวยเป็นอย่างมาก พอท้อง ใบหน้าก็อวบขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย ดูดีเหลือเกิน
จ้าวเสวียไห่ไม่ได้เจอผู้หญิงที่สวยขนาดนี้มานานแล้ว วันนี้ได้มาเจอเลยรู้สึกอยากมากเป็นพิเศษ
จ้าวเสวียไห่ลูบมือของตัวเอง จากนั้นก็ยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์: “คุณไม่ต้องเครียดขนาดนั้นก็ได้ ฉันมาคุยกับคุณ ดูสิว่าช่วงนี้คุณเป็นอย่างไรบ้าง”
เจียงหยุนเอ๋อมีความไม่แยแสและไม่พอใจอยู่ในแววตา: “ฉันว่าฉันยังไม่สนิทกับคุณถึงขนาดที่จะมาถามว่าช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้างนะ”
จ้าวเสวียไห่ไม่ได้โกรธ เขาเข้าใจผู้หญิงที่สวยขนาดนี้ได้ ว่าต้องมีความเอาแต่ใจบ้าง
“ใช่ๆ คุณว่าอย่างไรก็อย่างนั้นแหละ” จ้าวเสวียไห่พูดไป พลางเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
แต่ว่าเจียงหยุนเอ๋อถอยไปจนชนมุม ตอนนี้ไม่มีทางให้ถอยแล้ว
“คุณสวยซะขนาดนี้ไอ้หนวดคงจะไม่ทำให้คุณพอใจได้หรอก ให้ฉันลองได้ไหม?” จ้าวเสวียไห่พูดพลางปรี่เข้ามา จับมือของเจียงหยุนเอ๋อ ปากที่น่าเกลียดน่ากลัวก็จูบเข้ากับเจียงหยุนเอ๋อ
เจียงหยุนเอ๋อรังเกียจ เลยพยายามขัดขืน
ถวนจื่อเห็นคนมากลั่นแกล้งแม่ของตัวเองแบบนี้ ก็นั่งต่อไปไม่ไหว เลยตะโกนออกมา: “ไอสารเลว ปล่อยแม่ฉันเดี๋ยวนี้นะ ปล่อยสิ”
พูดไปพลางกรี่เข้ามาหาจ้าวเสวียไห่ จากนั้นก็เหวี่ยงหมัดเล็กๆ ของตัวเอง และใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อต่อยจ้าวเสวียไห่
ถึงแม้ว่าถวนจื่อจะยังเด็ก แต่แรงก็ไม่น้อยเลย เลยทำให้จ้าวเสวียไห่เจ็บอยู่ไม่น้อย
จ้าวเสวียไห่หัวกลับมาเห็นว่าเด็กกำลังทำร้ายตัวเอง ก็โกรธขึ้นมา
เขายังพอมีความอดทนต่อผู้หญิง แต่สำหรับเด็กนั้น เขาจะไม่ทนเลย
จ้าวเสวียไห่เตะถวนจื่อ
ถวนจื่อหลบไม่ทัน เลยถูกเตะเข้าเต็มแรง ถูกเตะไปอยู่ตรงมุมของกำแพง ก่อนจะล้มลงด้วยความเจ็บปวด
เจียงหยุนเอ๋อร้องขึ้นเสียงดัง: “ถวนจื่อ”
เมื่อเห็นลูกของตัวเองถูกทำร้าย เจียงหยุนเอ๋อก็ตาแดงขึ้นมา พลางพูดด้วยความโกรธ: “เขายังเด็กอยู่ คุณทำอะไรน่ะ!”
จ้าวเสวียไห่ยิ้มด้วยความไม่แยแส: “ในสายตาของฉันมีเพียงแค่ผู้ชายกับผู้หญิงเท่านั้น”
เจียงหยุนเอ๋อหายใจเข้าลึกๆ จากนั้นก็หยิบที่เขี่ยบุหรี่ใกล้ๆ มา ตอนที่จ้าวเสวียไห่ไม่ได้สังเกต ก็ทุบไปที่หัวของเขาเต็มแรง
จ้าวเสวียไห่ปล่อยมือของเจียงหยุนเอ๋อออกด้วยความเจ็บปวด จากนั้นก็จับหัวของตัวเอง
รู้สึกว่ามีอะไรไหลหยดมาตามปลายนิ้ว จ้าวเสวียไห่มองมือของตัวเอง ก็พบว่ามันเป็นเลือด เลยถุยน้ำลายออกมา ก่อนจะโมโหเป็นอย่างมาก: “นังแพศยา ฉันมาหาคุณถือเป็นโชคดี คุณกลับกล้ามาทุบหัวฉันงั้นเหรอ?คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?”
เมื่อเห็นว่าเลือดไหลจากหัวของจ้าวเสวียไห่ เจียงหยุนเอ๋อก็ทำตัวไม่ถูก เธอก็เพิ่งเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งแรก แต่เธอก็ยังพูดด้วยความใจกล้า: “คุณมาทำร้ายลูกฉันก่อนนะ”
จ้าวเสวียไห่เอามือเปื้อนเลือดเช็ดเสื้อ จากนั้นก็ใช้อีกมือหนึ่งชี้เจียงหยุนเอ๋อพลางพูดขึ้น: “นังแพศยา ไว้หน้าแล้วไม่เอาเองนะ”
เมื่อพูดจบก็ปรี่เข้าไป เตรียมจะตบปากของเจียงหยุนเอ๋อ เพื่อให้เธอเชื่องกว่านี้เสียหน่อย
ในตอนที่อันตรายนั้นเอง เฟิงจิงเป่ยกลับมาพอดี
เมื่อเดินมาใกล้ เฟิงจิงเป่ยก็ได้ยินว่าในห้องมีอะไรเกิดขึ้น ก็หนักใจ จึงไม่อยากเสียเวลา ก่อนจะกลับมาเจออะไรแบบนี้
“หยุดนะ!” เฟิงจิงเป่ยเตะประตูออกมา
จ้าวเสวียไห่หันกลับมามอง ยังไม่ทันจะดูว่าเป็นใคร ก็ถูกเฟิงจิงเป่ยเตะเข้าไปชนกำแพง
แรงที่เตะนั้นมันเจ็บกว่าหมัดของถวนจื่อเสียอีก จ้าวเสวียไห่กระอักเลือดออกมา
หลังจากที่จ้าวเสวียไห่ไอเสร็จ ก็เงยหน้าขึ้นมา พลางมองไปทางคนที่เตะตัวเอง ก็เห็นว่าเป็นเฟิงจิงเป่ย
จ้าวเสวียไห่ยื่นนิ้วออกมา พลางชี้ไปที่เฟิงจิงเป่ยด้วยความสั่นเทา แล้วด่าออกไป: “คุณมันบ้า คุณไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วหรือไง?”
“ฉันกำลังจะถามคุณอยู่พอดีเลยว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วเหรอ” เฟิงจิงเป่ยเดินมาอยู่ตรงหน้าของจ้าวเสวียไห่ แล้วจ้องจ้าวเสวียไห่
จ้าวเสวียไห่มีแต่ความเย่อหยิ่ง: “เราจะได้เห็นดีกัน”
จ้าวเสวียไห่กัดฟันกรอด อยากจะเด็ดหัวของเฟิงจิงเป่ยออกมาเลยล่ะ
เฟิงจิงเป่ยไม่สนใจคำขู่ของเขาเลย ก่อนจะหัวเราะพลางพูดขึ้น: “งั้นฉันจะให้คุณเห็นดีก่อนก็แล้วกัน”
เมื่อพูดจบก็เตะจ้าวเสวียไห่เข้าเต็มแรง จากนั้นก็เตะจนจ้าวเสวียไห่สลบไป
หลังจากที่ในห้องเงียบลง เฟิงจิงเป่ยก็วิ่งมาข้างๆ เจียงหยุนเอ๋อ พลางถามด้วยความเป็นห่วง: “คุณเป็นอย่างไรบ้าง?ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เจียงหยุนเอ๋อยังตัวสั่นเทาอยู่ ในใจก็รู้สึกผิดหวัง: “ฉันไม่เป็นไร คุณไปดูถวนจื่อเถอะ”
เมื่อครู่จ้าวเสวียไห่เตะไปอย่างน่าตกใจ ตกใจจนทำให้เจียงหยุนเอ๋อไม่อยากดู
เฟิงจิงเป่ยรีบมาดูถวนจื่อ ก่อนจะอุ้มถวนจื่อขึ้นมา แล้วเขย่าเขาเบาๆ : “ถวนจื่อ?ถวนจื่อ?”
เจียงหยุนเอ๋อมีสติกลับมา ก่อนจะเดินเข้ามา ก็พบว่าถวนจื่อไม่ตอบสนอง
ในใจของเจียงหยุนเอ๋อนั้นเจ็บปวด น้ำตาก็ไหลอาบแก้ม: “เขาเป็นอะไรเหรอ?ทำไมเขาไม่ตอบอะไรเลย?”
เฟิงจิงเป่ยตรวจร่างกายของถวนจื่ออย่างง่ายๆ ก่อนจะพูดด้วยความวางใจ: “ถวนจื่อไม่เป็นไรหรอก แต่ที่ถูกจ้าวเสวียไห่เมื่อกี้เลยสลบไป”
เจียงหยุนเอ๋อรับถวนจื่อมาจากเฟิงจิงเป่ย ก่อนจะเอาคางเกยบนหัวของถวนจื่อ พลางถูเบาๆ
“ทำไมเขาไม่มีความเมตตาขนาดนี้ เหมือนสัตว์ป่าเลย นี่ยังเด็กอยู่แท้ๆ เลย ทำไมเขากล้าลงมือมากขนาดนี้?” เจียงหยุนเอ๋อน้ำตาไหลไม่หยุด
“ไม่เป็นไร ยังดีท่าไม่ได้เตะเข้าจุดสำคัญ พักหน่อยเดี๋ยวก็ฟื้น” เฟิงจิงเป่ยก็ด่าจ้าวเสวียไห่ในใจว่าไม่ใช่คนแล้ว
“ได้” เจียงหยุนเอ๋อพาถวนจื่อไปนอนบนเตียง ก่อนจะเอาผ้าห่มห่มให้
“วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่เหรอ?” เฟิงจิงเป่ยมองห้องที่ดูเละเทะ
เจียงหยุนเอ๋อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ให้เฟิงจิงเป่ยฟัง
“ร้ายจริงๆ สัตว์ป่ายังไม่ร้ายเท่านี้เลย” เฟิงจิงเป่ยจับกำปั้นของตัวเอง
“แต่ยังดีที่คุณมาได้ทันเวลา ไม่อย่างั้น ฉันก็ไม่รู้จะทำอย่างไร” เจียงหยุนเอ๋อคิดๆ ดูตอนนี้ก็ยังน่ากลัวเสียจริง
“เมื่อครู่ฉันรู้สึกไม่ดี เลยกลับมาดู คิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกฉันตามมาทันพอดี” เฟิงจิงเป่ยรู้สึกดีที่ตัวเองมีความคิดแบบนี้ได้ทัน
“ตอนนี้จะทำอย่างไรกับไอสารเลวนั่นล่ะ?” ตอนที่เจียงหยุนเอ๋อพูดก็ยังมองไปทางจ้าวเสวียไห่ด้วยความตกใจกลัว