ตอนที่ 366 หน้าเนื้อใจเสื้อ จัดการแต่ละฝ่าย (6)

เหนียงจื่อของคุณชายขี้โรค

ตอนที่ 366 หน้าเนื้อใจเสื้อ จัดการแต่ละฝ่าย (6)

“ท่านย่า เซ่าชิงยังมีเรื่องอีกมากที่ต้องทำ วันนี้คงอยู่เป็นเพื่อนท่านได้เท่านี้ เซ่าชิงขอตัวลาขอรับ”

หนิงเซ่าชิงลุกขึ้นยืน สะบัดอาภรณ์สีขาวนวลนิ่งๆ เขาทำความเคารพหนิงเหล่าฮูหยิน จากนั้นก็หมุนกายเดินออกนอกประตูไป โดยไม่ให้โอกาสสตรีสองนางได้เปิดปากพูดแม้แต่น้อย หญิงชราพยักหน้าและให้คนที่คอยปรนนิบัติด้านข้างไปส่งหนิงเซ่าชิง

อวี่เหวินหันเหล่ยกลับตกตะลึงไปแล้ว…

นางร้อนใจ แต่กลับเห็นท่าทางหญิงชราไม่อยากจะพูดมาก จึงตัดสินใจจัดการด้วยตนเอง!

นางก้าวขึ้นไป ยื่นมือไปดึงหนิงเซ่าชิงเอาไว้ “พี่เซ่าชิง โปรดรอสักครู่เจ้าค่ะ!”

หนิงเซ่าชิงเอียงกายหลบมือที่ยื่นมาข้างนั้น และหยุดลง นี่คือช่วงเวลาที่…เขารออยู่!

ไม่อย่างนั้น เขาไม่มีทางมองนางอย่างเต็มตาเด็ดขาด เขาต้องจัดการปัญหาเรื่องนี้ก่อน จะได้ไม่ทำให้ท่านย่าเอ่ยเตือนบ่อยๆ

เขาเลิกคิ้ว เอ่ยเสียงเย็นว่า “น้องหันเหล่ยมีเรื่องอันใดหรือ”

อวี่เหวินหันเหล่ยดึงมือกลับมาด้วยความกระอักกระอ่วน ตอนนี้ นัยน์ตาหวานเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำใส ทำให้ผู้ที่พบเห็น รู้สึกสงสารอย่างอดไม่ได้!

“เมื่อครู่นี้ที่พี่เซ่าชิงกล่าว หมายความว่าอันใดหรือเจ้าคะ”

“ก็ไม่ได้หมายความว่าอะไร”

ดวงหน้าอวี่เหวินหันเหล่ยเต็มไปด้วยความน้อยใจ หน่วยตาแดงระเรื่อ

“เมื่อครู่พี่เซ่าชิงกล่าวว่า ขอเพียงแค่แต่งภรรยาเอกเข้ามาแล้ว จึงจะพิจารณาเรื่องรับอนุภรรยานั้นเป็นความจริงหรือเจ้าคะ”

หนิงเซ่าชิงพยักหน้า “แน่นอน”

ย่อมไม่ใช่ความจริง เขารับปากมั่วเชียนเสวี่ยไว้แล้วว่า ชั่วชีวิตนี้จะมีมั่วเชียนเสวี่ยเพียงผู้เดียว! ลูกผู้ชายอกสามศอกกล่าววาจา จะต้องเชื่อถืได้ ดังนั้นชั่วชีวิตนี้ของเขาจะมีมั่วเชียนเสวี่ยเป็นสตรีของตนแต่เพียงผู้เดียว!

ครานี้หยาดน้ำตาของอวี่เหวินหันเหล่ยค่อยๆ รินไหลลงมา…

“พี่เซ่าชิง…เช่นนั้นหันเหล่ย…จะรอท่าน…”

หนิงเซ่าชิงขมวดคิ้ว มองหญิงชราที่อยู่ด้านหลังแวบหนึ่ง น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นเย็นเยียบทันที ไม่มีท่าทีสุภาพอ่อนโยนและอบอุ่นเหมือนกับตอนที่สนทนากับหญิงชราอีก

“น้องหันเหล่ยควรรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ! วาจานี้ร้ายแรงเกินไปแล้ว เจ้าเอาชื่อเสียงในฐานะสตรีของเจ้าไว้ที่ใด และเอาชื่อเสียงของข้า หนิงเซ่าชิงไว้ที่ใด”

“เจ้ากำลังให้คำสัญญาว่าจะแต่งงานกับอีกฝ่ายเท่านั้น หรือว่าจัดเตรียมและยอมรับซึ่งกันและกันเป็นการส่วนตัว คนที่ไม่รู้คงนึกว่า…ยังมี เมื่อครู่ญาติผู้น้องไม่ได้บอกว่ามีคนในใจแล้วหรอกหรือ คราวนี้ทำไมถึงเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นเร็วขนาดนี้เล่า”

อวี่เหวินหันเหล่ยเงียบทันที!

เมื่อครู่นี้หญิงชรากล่าวเช่นนี้จริงๆ…

แต่นี่ไม่ใช่ความหมายของนาง! ตอนนี้อวี่เหวินหันเหล่ยรู้สึกแค้นเคืองหญิงชราที่คิดเองเออเองโดยไม่ถามความเห็นนาง!

จึงรีบอธิบายว่า “ไม่ใช่นะเจ้าคะพี่เซ่าชิง! คนที่หันเหล่ยชื่นชอบมาตลอดล้วนเป็นท่าน! เลื่อมใสมาตลอดก็เป็นท่านเช่นกัน!”

หนิงเซ่าชิงได้ยินวาจาเหล่านั้นแล้วก็หรี่ตาลง มองอวี่เหวินหันเหล่ยแวบหนึ่ง เมื่อเห็นสภาพน้ำตานองหน้าของนางแล้ว ก็ยิ้มเย็น…

กลิ่นอายรอบกายเปลี่ยนไป ไม่สุภาพอ่อนโยนสูงส่งสง่างามดั่งหยกล้ำค่า ไม่อบอุ่นอีกแล้ว ยามนี้ทั่วทั้งสรรพางค์กายเต็มไปด้วยกลิ่นอายเย็นเยียบ อวี่เหวินหันเหล่ยตัวสั่นอย่างน่าประหลาด!

อวี่เหวินหันเหล่ยตัวสั่นเทาอย่างน่าประหลาด ถูกกลิ่นอายเย็นยะเยือกทำให้ตระหนกจนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง

“อาศัยที่เจ้าเลื่อมใสศรัทธาในตัวข้า? ชอบข้า? เจ้าคู่ควรแล้วหรือ”

เจ้าคู่ควรแล้วหรือ!

คู่ควรแล้วหรือ!

หรือ!

น้ำเสียงคล้ายกับว่ามีเสียงสะท้อน อวี่เหวินหันเหล่ยถูกฟ้าผ่าเหนือศีรษะ!

นางไม่เคยเห็นท่าทางเช่นนี้ของหนิงเซ่าชิงมาก่อน! แต่ก่อนหนิงเซ่าชิงล้วนมีท่าทีอบอุ่น และเมื่อครู่นี้เขาก็ยังมองตนเองเช่นนั้น ไม่เช่นนั้นนางก็คงไม่ตามออกมา เพื่อฟังประโยคนี้

ทำไมตอนนี้…ถึงเป็นเช่นนี้เล่า

อีกทั้งยังกล่าววาจาเหล่านั้นด้วย?

“กู…กูไหน่ไน…กูไหน่ไน หันเหล่ยไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วเจ้าค่ะ!” นี่แตกต่างจากที่คาดไว้มากเกินไป อวี่เหวินหันเหล่ยรับไม่ได้ จึงวิ่งตรงเข้าไปในอ้อมแขนของหนิงเหล่าฮูหยิน และร้องไห้โฮออกมา!

แม้ว่าบิดาของนางตายไป ก็ไม่แน่ว่าจะมีกิริยาท่าทางเช่นนี้?

ความจริงแล้ว การที่อวี่เหวินหันเหล่ยตามไปพูดคุยกับหนิงเซ่าชิงโดยไม่ได้ขอความเห็นด้วยจากหญิงชรา ก็ทำให้หญิงชรารู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง

นางมีชีวิตมานานขนาดนี้ แม้ว่าเมื่อครู่จะถูกท่าทีของหนิงเซ่าชิงทำให้หลงกลไปชั่วคราว แต่ถึงอย่างไรขิงยิ่งแก่ก็ยิ่งเผ็ด! นานขนาดนี้แล้ว นางก็เข้าใจชัดเจนแจ่มเเจ้งนานแล้ว!

คราวนี้หนิงเซ่าชิงใช้แผนการถอยเพื่อรุก เจรจากันด้วยเหตุผลกัน เมื่อล้มเหลวค่อยใช้กำลัง

นางที่กำลังข่มโทสะเอาไว้เต็มท้อง จึงผลักสตรีไร้เหตุผลที่อยู่ในอ้อมแขนนางนี้ออกไป

แต่ทว่า หนิงเซ่าชิงเป็นหลานชายของนาง เขาเป็นคนเช่นไร มีนิสัยอย่างไร มากน้อยอย่างไรนางยังคงเข้าใจอยู่บ้าง! รู้ถึงด้านที่แข็งกร้าว ด้านที่ดื้อรั้นของเขา เดิมไม่อยากใช้อำนาจปะทะกัน

เพียงแต่เกียรติของตระกูลอวี่เหวินกลับเกี่ยวข้องกับนาง นางไม่สามารถนั่งดูเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรได้! อวี่เหวินหันเหล่ยยืนสะอื้นอยู่ด้านข้าง หนิงเหล่าฮูหยินมีสีหน้าเย็นชา มองหนิงเซ่าชิง “เซ่าชิง วาจานี้ของหลานกล่าวเกินไปแล้ว!”

ไม่ว่าอย่างไร ตัวนางก็เป็นคนตระกูลอวี่เหวินเช่นกัน! เมื่อครู่นี้วาจาเหล่านั้นกล่าวหนักเกินไปอยู่บ้าง สตรีจากตระกูลอวี่เหวินไม่คู่ควรกับบุรุษตระกูลหนิงเช่นนั้นหรือ เช่นนั้นเขาเกิดออกมาได้อย่างไรกัน บิดาของเขาเกิดออกมาได้อย่างไร

แม้ว่าหนิงเซ่าชิงจะไม่สนใจไยดีอวี่เหวินหันเหล่ย แต่ท่านย่าเป็นผู้อาวุโส เทียนฉีอาศัยความกตัญญูในการปกครองแว่นแคว้น ตระกูลหนิงก็ใช้ความกตัญญูในการปกครองตระกูลเช่นกัน เขาจึงทำได้เพียงแค่ก้มหน้าทำนั้น

“เซ่าชิงรู้ผิดแล้วขอรับ แต่ว่าสตรีจากตระกูลอวี่เหวินผู้นี้ไม่เรียบร้อยเกินไปแล้ว ยังไม่แต่งงานก็ตามเกี้ยวบุรุษ คิดจะจับมือถือแขน ต่อหน้าธารกำนัล ก็ไม่รู้จักหลีกเลี่ยง พูดปาวๆ ว่าเลื่อมใสศรัทธา อากัปกิริยาราวกับสตรีน่ารังเกียจ จะคู่ควรกับหลานได้อย่างไรขอรับ…”

หญิงชราทั้งตะลึงและโมโหขึ้นมาทันที! “เจ้า! เจ้า…”

นางอยากจะกล่าวว่าเขาอกตัญญู เมินเฉยต่อจริยธรรม แต่วาจานี้ร้ายแรงเกินไป ถ้าหากว่านางนำวาจาเหล่านี้ออกมาข่มเขา เกรงว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้อาวุโสและหลานชายจะได้รับความเสียหาย

หญิงชรานิ่งไป หนิงเซ่าชิงเฉลียวฉลาดเพียงใด เขารู้วาจาที่ยังไม่ได้กล่าวออกมาตั้งแต่แรกแล้ว จึงเอ่ยเอาใจว่า “เซ่าชิงไม่ได้หมายความว่าสตรีจากตระกูลอวี่เหวินทุกคนไม่ดี เซ่าชิงมิกล้า! สตรีตระกูลอวี่เหวินที่เซ่าชิงกล่าวถึง มีเพียงแค่นางคนเดียวเท่านั้น”

สีหน้าหญิงชราผ่อนคลายลง หนิงเซ่าชิงเอ่ยต่อว่า “หลานเพียงแค่อยากให้ท่านย่าได้เห็นถึงสันดานต่ำทรามของสตรีนางนี้อย่างชัดเจน ด้วยนิสัยที่ไร้ความสุขุมของนาง เมื่อแต่งเข้ามา เกรงว่าวันหลังคงจะก่อหายนะไม่จบไม่สิ้น”

หญิงชราไตร่ตรอง

อวี่เหวินหันเหล่ยกัดริมฝีปาก “หันเหล่ย…”

“เจ้าหุบปาก” หนิงเซ่าชิงไม่อยากฟังนางพูด เขาจ้องมองหญิงชราด้วยนัยน์ตาที่เจือไปด้วยความกลัดกลุ้มแล้วเอ่ยต่อว่า “ท่านย่า แม้ว่าท่านจะเป็นบุตรีตระกูลอวี่เหวิน แต่หลังออกเรือนเชื่อฟังสามี ในเมื่อท่านแต่งเข้าตระกูลหนิงแล้ว เช่นนั้นท่านก็เป็นคนตระกูลหนิง! ท่านสามารถดูแลตระกูลอวี่เหวินได้ แต่ไม่สามารถรับผิดชอบเรื่องราวทั้งหมดได้! แต่ก่อนเซ่าชิงอายุยังน้อย และไม่ได้เข้ารับตำแหน่งที่มีภาระหนักเช่นผู้นำตระกูล ดังนั้น คำบางคำ แม้ว่าเซ่าชิงอยากจะพูด ก็ไม่อาจพูดได้! ทว่าตอนนี้ไม่เหมือนกัน เซ่าชิงแบกรับตระกูลหนิง แบกรับภาระหนักของตระกูลหนิงเอาไว้ เช่นนั้นจะไม่ยอมอดกลั้นให้ผู้ใดมีความละโมบต่อตระกูลหนิงแม้แต่น้อย”

ความหมายของวาจานี้ก็คือเห็นตระกูลอวี่เหวินเป็นคนนอกแล้ว! หญิงชรารับไม่ไหวอยู่บ้าง มือสั่นระริก ชี้ไปที่หนิงเซ่าชิง “คุกเข่า”

หนิงเซ่าชิงคุกเข่าอยู่หน้าหญิงชรา นี่คือท่านย่าของเขา ตั้งแต่เล็ก ความเมตตาปรานีที่ตนเองได้รับนั้นก็ได้จากท่านย่ามากที่สุด! ถ้าหากเป็นไปได้ เขาไม่อยากยืนอยู่คนละฝ่ายกับท่านย่าจริงๆ!