บทที่ 189 ยินยอมทั้งสองฝ่าย

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“พวกคุณไปหาผู้อำนวยการหนีกับฉัน” กู้ไหว่แสดงออกว่าไม่ได้แยแสราวกับว่าเขาไม่ได้แปลกใจกับเรื่องนี้

“ขอบคุณอาจารย์กู้” เฉินฮวนฮวนซาบซึ้งใจที่กู้ไหว่ยอมยื่นมือมาจัดการเรื่องนี้

กู้ไหว่เหลือบมองเฉินฮวนฮวน เพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ โดยไม่พูดอะไรมาก

……

สิบนาทีต่อมา ที่สำนักงานของหนีซวง

หนีซวงนั่งอยู่บนเก้าอี้สำนักงาน คนอื่นๆ อีกหลายคนยืนอยู่ ห้องเงียบสงัด ไม่มีใครพูดอะไร ราวกับกำลังรอใครสักคน

ในที่สุด ประตูสำนักงานก็ถูกเคาะดังขึ้น ตามด้วยชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาโกนหัวเรียบ ท้องของเขาค่อนข้างกลม และใบหน้าของเขาอวบอิ่มสมบูรณ์

เขาชำเลืองดูหนึ่งรอบด้วยดวงตาคู่หนึ่งอย่างกับโจร จากนั้นจับจ้องไปที่ร่างของหลิวเฟยเฟย จ้องมองเธออย่างดุดัน และเดินส่ายเข้ามา

“ผู้อำนวยการหนี เรื่องนี้ฉันไม่ยอมรับ!” ประโยคแรกที่ซวนเลี่ยงพูดหลังจากเข้ามาคือปฏิเสธความจริง

“ซวนเลี่ยง มีพยานสองคนอยู่ที่นี่ เฉินฮวนฮวนและเฉินเฟยหยาง ถ้าคุณไม่ยอมรับ ฉันยังสามารถตรวจสอบกล้องวงจรปิด” หนีซวงบีบจมูกของเธอ รู้สึกปวดหัวเล็กน้อย

เดิมทีเธอก็ไม่อยากสนใจเรื่องเสียหายของซวนเลี่ยง ใครจะไปรู้ว่าที่เธอไล่เฉินเฟยหยางออก ทำให้เฉินฮวนฮวนคิดว่าซวนเลี่ยงเป็นคนไล่เฉินเฟยหยางออก ทำให้เรื่องของซวนเลี่ยงและหลิวเฟยเฟยถูกขุดคุ้ยออกมา

ยิ่งกว่านั้น เธอไม่เพียงแต่ขุดมันออกมาพูดต่อหน้าทุกคน เธอยังบอกกับกู้ไหว่ต่อหน้าทุกคน กู้ไหว่เป็นคนตรงไปตรงมา เรื่องนี้ถึงเธอเองจะไม่ต้องการจัดการก็ต้องจัดการกับมัน

มิฉะนั้น ถ้าทุกคนบอกว่าเธอปกป้องซวนเลี่ยง จะได้ไม่คุ้มเสีย อย่างไรก็ตามซวนเลี่ยงก็ไม่ได้มีผลประโยชน์อะไรกับเธอ

“ผู้อำนวยการหนี!” ซวนเลี่ยงรีบดิ่งไปหาหนีซวงและชี้ไปที่เฉินฮวนฮวนพร้อมกล่าวว่า “เฉินเฟยหยางคนนี้ทำผิดและถูกคุณไล่ออก เฉินฮวนฮวนโทษผม คุณตัดสินของคุณเอง ผมและเฉินเฟยหยางไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลย!”

“ซวนเลี่ยง! ตอนนี้กำลังพูดถึงเรื่องที่ขับไล่เฉินเฟยหยางออกหรือ? ที่กำลังพูดถึงคือเรื่องที่คุณกับเด็กฝึกทำเรื่องงามหน้านี่” หนีซวงจ้องไปที่ซวนเลี่ยงบอกเป็นนัยว่าให้รีบหุบปาก

ไล่เฉินเฟยหยางออก จะให้เฉินฮวนฮวนรู้เรื่องไม่ได้เด็ดขาด เรื่องนี้เฟิงหานชวนเป็นคนให้พวกเขาทำเช่นนี้

“ผู้อำนวยการหนี ผม…..ผมถูกหลิวเฟยเฟยล่อลวง ผมไม่สามารถอดกลั้นได้ คุณก็รู้ว่าภรรยาของผมกำลังตั้งท้องลูกคนที่สอง ผมทำเรื่องอย่างว่าไม่ได้ ผมเลยอดใจไม่ไหว……”

ซวนเลี่ยงยกมือขึ้นและสาบานว่า: “คุณให้โอกาสผมอีกครั้ง ผมสัญญาว่าจะไม่แตะต้องเด็กฝึกหญิงอีก คุณสามารถไล่หลิวเฟยเฟยออก! เธอเป็นคนยั่วยวนผมก่อน!”

ซวนเลี่ยงในเวลานี้ เพียงต้องการรักษาตำแหน่งที่ปรึกษาเบื้องหลังของตัวเองไว้ สุดท้ายแล้วถ้าเขาถูกไล่ออกเพราะผิดสัญญา ไม่เพียงแต่เขาจะไม่ได้เงินเดือนที่สูง แต่ยังต้องโดนปรับโทษฐานที่ผิดสัญญาอีกด้วย

เพียงเพื่อผู้หญิงคนเดียวมันไม่คุ้มกับการสูญเสียนี้!

“ซวนเลี่ยง คุณกำลังพูดว่าอะไรนะ? ห๊ะ——” ในเวลานี้ หลิวเฟยเฟยกรีดร้องเสียงดังใส่ซวนเลี่ยง

ดังสิงโตตัวเมียที่บ้าคลั่ง

“หลิวเฟยเฟย หุบปากซะ!” ซวนเลี่ยงจ้องเธอเขม็งแล้วตรงเข้าไปหาเธอ ชี้ไปที่จมูกของเธอแล้วพูดว่า: “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณยั่วยวนผม เหตุการณ์ในวันนี้ก็ไม่มีวันเกิดขึ้น คุณทำตัวของคุณเองรีบถอนตัวออกจากรายการไปซะ”

“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้เป็นคนยั่วยวนคุณ คุณบังคับฉันต่างหาก เพราะคุณ——” หลิวเฟยเฟยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอและซวนเลี่ยงปัดความรับผิดชอบกันและกัน

หากเธอยอมรับว่าตัวเองยั่วยวนซวนเลี่ยง เธอจะถูกไล่ออก ถ้าเป็นเช่นนั้น ไม่เพียงแต่เธอจะไม่สามารถประกวดได้ เฉียนเจ๋อเฟยก็จะทิ้งเธออย่างแน่นอน และหลินอวี่หยางก็จะไม่มีทางคบเพื่อนคนนี้อีกเลย เธอจะไม่เหลืออะไรเลย

“ผมบังคับคุณ คุณสวยแค่ไหนหรือรูปร่างดีเท่าไหร่ ผมถึงต้องบังคับคุณ” ซวนเลี่ยงรู้สึกตลกขบขัน

ในเรื่องนี้ แท้จริงแล้วเป็นหลิวเฟยเฟยที่ยั่วยวนซวนเลี่ยงก่อน แต่นิสัยของซวนเลี่ยงก็เป็นอย่างนั้น แค่ตกก็ติดเบ็ด ทั้งสองเลยถูกจุดอารมณ์ง่ายดายดั่งฟืนที่ยังมีเชื้อไฟ

ดังนั้นจึงไม่มีใครถูกหรือผิด

“เป็นเพราะคุณ คุณหาข้ออ้างเพื่อพาฉันเข้าไปในสำนักงานก่อน แล้วคุณก็ใช้กำลังกับฉัน ฉันไม่กล้าพูดออกมา ฉันเลยถูกคุณข่มขู่ครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งหมดเป็นเพราะคุณ…” หลิวเฟยเฟยพูดอย้างบ้าคลั่ง

เพื่อรักษาที่ยืนตอนนี้ของเธอ เธอพยายามสาดโคลนใส่ซวนเลี่ยง ทั้งสองปัดความรับผิดชอบของกันและกัน ทำให้คนที่กำลังดูอยู่เต็มไปด้วยความสงสัย

เพราะทุกคนไม่รู้ว่าใครถูกใครผิดกันแน่

“พอได้แล้ว! หยุดเถียงกันได้แล้ว!” หนี่ซวงตะโกนขึ้นเธอรำคาญสองคนนี้เหลือเกิน

หลิวเฟยเฟยและซวนเลี่ยงไม่กล้าพูดต่ออีก

“สามีมีเหตุผลของสามี ภรรยาก็มีเหตุผลของภรรยา ถ้าใครมีหลักฐานแสดงว่าตัวเองเป็นผู้ถูกกระทำก็เอาออกมา ไม่เช่นนั้น พวกคุณจะถูกลงโทษทั้งคู่!” ตอนนี้หนีซวงหัวโตไม่มีทางออกเรื่องนี้จริงๆ

เด็กฝึกทั้งร้อยคนถูกจัดตำแหน่งตายตัว ถ้าขาดไปคนนึงต้องหาคนมาแทนที่อีก ยิ่งกว่านั้นซวนเลี่ยงเป็นที่ปรึกษาของงานเบื้องหลัง ถ้าเขาถูกไล่ออก บริษัทไม่สามารถหาอาจารย์ที่ปรึกษาชั่วคราวเก่งๆ แบบนี้มาได้

หนีซวงนวดที่ขมับ ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความหงุดหงิด เธอจ้องมองไปที่เฉินฮวนฮวนแล้วถามว่า “เฉินฮวนฮวนเมื่อคืนที่คุณผ่านพื้นที่เขตสีเขียว คุณเห็นพวกเขาทั้งสองอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ด้วยตาของคุณเอง……ใช่ไหม?”

“ใช่ค่ะ อาจารย์หนี” เฉินฮวนฮวนตอบทันที

“งั้นเธอบอกฉันสิว่าพวกเขาใครที่ถูกบังคับ ใครเป็นคนเริ่ม และสถานการณ์ของทั้งสองคน” แม้ว่าหนีซวงจะถามอย่างผู้พิพากษา แต่ภายในใจเธอรู้สึกชังน้ำหน้าเฉินฮวนฮวน

ถ้าไม่ใช่เพราะเฉินฮวนฮวนก่อเรื่องเช่นนี้ขึ้นมา เธอคงไม่ต้องปวดหัวขนาดนี้

“อาจารย์หนี โดยส่วนตัวแล้วฉันรู้สึกว่าพวกเขายินยอมทั้งสองฝ่าย” เฉินฮวนฮวนตอบอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่มีความลำเอียงเลย

“ยินยอมทั้งสองฝ่ายบ้าบออะไร” ซวนเลี่ยงอยากจะพุ่งเข้าไปต่อยเฉินฮวนฮวนสักหมัด เขาชี้ไปที่เฉินฮวนฮวนหน้าตาเอาเรื่อง

กู้ไหว่ยืนขวางหน้าเฉินฮวนฮวน บดบังสายตาของซวนเลี่ยง เขาพูดอย่างเฉยเมย: “อาจารย์ซวนทำสิ่งที่น่าละอายอย่างนี้ ไม่เพียงแต่จะไม่สำนึก ยังจะปัดความรับผิดชอบ ทั้งยังโกรธเคืองนักเรียนคนอื่นอีกด้วย

กู้ไหว่ไม่พอใจกับการกระทำของซวนเลี่ยงมาตั้งนานแล้ว เดิมเขาไม่อยากสนใจเรื่องนี้ แต่เนื่องจากเรื่องนี้ถูกรายงานขึ้นมาโดยเฉินฮวนฮวน เขาจึงมาจัดการ

“กู้ไหว่ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ นายไม่ถูกชะตาฉันตั้งนานแล้ว นายมันสารเลวชอบซ้ำเติม!” ซวนเลี่ยงตะคอกเสียงดังขึ้นมา

“อาจารย์ซวน คุณเงียบๆหน่อย!” หนีซวงปวดหัวเพราะเสียงทะเลาะวิวาท เธอตบโต๊ะทีนึงพร้อมตะโกน

เพิ่งพ้นจากความคิดที่ว้าวุ่นของเธอ เธอคิดพิจารณาอย่างรอบคอบและพูดกับหลายคนที่อยู่หน้าโต๊ะทำงานว่า: “ค่ายฝึกใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว และหลังจากนี้จะต้องเตรียมตัวเพื่อเริ่มการถ่ายทำ การเปลี่ยนครูที่ปรึกษาและเด็กฝึกเป็นการชั่วคราวเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ”

“ฉันคิดว่าฉันจะขอให้เจ้าหน้าที่ออกประกาศเพื่อตักเตือนอาจารย์ซวนและหลิวเฟยเฟย ไม่อนุญาตให้พวกเขามีสัมพันธ์ส่วนตัวกันอีก พวกคุณเป็นผู้ตรวจสอบให้กับพวกเขา พวกคุณคิดอย่างไรกับวิธีการนี้”