ตอนที่ 356 พบเวินม่านเป็นครั้งแรก
ตอนที่ 356 พบเวินม่านเป็นครั้งแรก
คำพูดเหล่านี้ทำให้หัวใจของหม่าต้าเพ่าอุ่นวาบ ใช่แล้ว เถ้าแก่จะไม่ไว้ใจครอบครัวของเธอได้ยังไง? ไม่ว่าความสัมพันธ์กับคนนอกจะดีแค่ไหน พวกเขาก็เป็นคนนอก แต่พวกเขาคือชาวเถาหยาง!
“ผมเข้าใจแล้วเถ้าแก่ ในอนาคตมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก จะไม่มีวันใช้ความคิดที่ไม่รอบคอบนี้เพื่อคาดเดาสิ่งต่าง ๆ อีก” จู่ ๆ หม่าต้าเพ่าก็เห็นแสงสว่าง
ซูเถาพยักหน้าก่อนจะ เปลี่ยนหัวข้อ และนำประเด็นการจัดซื้ออุปกรณ์สำหรับฐานการทดลองขึ้นมา
หม่าต้าเพ่าทุบหน้าอกของเขาและสัญญาว่า “ไม่ต้องกังวล ผมมีวิธี ผมยังพอมีคอนเนคชั่นอยู่”
เมื่อเห็นว่าเขาจากไปด้วยความมั่นใจ ซูเถาก็อารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย หม่าต้าเพ่าที่คอยชักชวนลูกค้าทุกหนทุกแห่งเพื่อค่าคอมมิชชั่นเล็กน้อยนั้นเป็นเรื่องของอดีตไปแล้ว
ตอนนี้เขาสามารถยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง และเขายังสามารถใช้ทักษะการสื่อสารที่ยอดเยี่ยมของตนเองเพื่อช่วยเถาหยางแก้ปัญหาสำคัญ ๆ ได้
คืนนั้นซูเถาบอกสือจื่อจิ้นเกี่ยวกับผู้คนจากฐานเชียนอันที่กำลังจะเดินทางมาที่เถาหยาง
“เหตุและผลก็ประมาณนี้ ถ้าฉันไม่ต้องการขายเสียวหั่วเยี่ยนพวกเขาจะบังคับเอาตัวมันไปไหม”
สือจื่อจิ้นกล่าวอย่างหนักแน่น “ลั่วเหยียนจะไม่ทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้ เขาเป็นนักธุรกิจที่รอบคอบ แม้ว่าเขาจะชอบภรรยาที่อายุน้อยกว่าเขาถึงสิบปี แต่เขาจะไม่ปล่อยให้เธอทำอะไรอย่างไม่มีเหตุผล นอกจากนี้พ่อตาของลั่วเหยียนเป็นผู้บริหารอาวุโสในฉางจิง เขาจะไม่มีทางปล้นสะดมเพื่อทำลายชื่อเสียงแน่นอน อย่างน้อยที่สุดพวกเขาน่าจะแสดงสีหน้าออกมาเท่านั้น แต่พวกเขาจะไม่ถือโกรธและแก้แค้นในภายหลัง”
“คุณรู้จักลั่วเหยียนไหม” ซูเถาเอียงศีรษะแล้วถามเขา
สือจื่อจิ้นนอนลงข้างเธอพูดอย่างเกียจคร้าน “ไม่ถึงกับรู้จัก แต่ผมเคยเจอเขาสองสามครั้ง พรุ่งนี้คุณก็จะได้เจอเขาแล้ว ยังไงก็กลับมาเล่าให้ผมฟังด้วยนะ ไว้ผมจะหาเวลาสักคืนที่มืดและมีลมแรงเพื่อ ‘คุยกับเขา’”
“ตอนนี้คุณก็ทำให้เขาหวาดกลัวได้เท่านั้นแหละ” ซูเถายิ้มและทรุดตัวลงบนพื้น
สือจื่อจิ้นพยุงร่างกายของเขาขึ้นและพูดอย่างจริงจัง “อย่าคิดว่าการทำให้ผู้คนกลัวนั้นไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต ลั่วเหยียนกลัวผีและเหตุการณ์เหนือธรรมชาติ จริง ๆ เขาเคยเข้าร่วมขบวนกับเราตอนที่เขายังไม่ร่ำรวยแบบนี้ เขาไม่กล้าเข้าห้องน้ำกลางดึก และเขาก็ต้องพาเฉินเหล่าเอ้อร์ไปด้วยทุกครั้ง เวลานั่งยอง ๆ ในหลุม เฉินเหล่าเอ้อร์ต้องยื่นเท้าข้างหนึ่งให้เขาเห็น ไม่งั้นเขาจะขับถ่ายไม่ออก”
ซูเถาหัวเราะจนน้ำตาไหล
หลังจากที่เขาพูดติดตลก เธอก็ไม่กังวลเกี่ยวกับการมาเยือนของแขกในวันพรุ่งนี้อีกต่อไป
เธอกอดเสียวหั่วเยี่ยนที่คร่ำครวญและพูดด้วยรอยยิ้ม “เสียวหั่วเยี่ยน ความสวยงามของแกทำให้ฉันเจอปัญหาใหญ่ แต่โชคดีที่ปัญหาอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้ ไม่ต้องกังวล แม้ว่าในอนาคตจะยังคงมีปัญหาแบบนี้อีก ฉันก็จะไม่ยอมแพ้และไม่ยอมสูญเสียแกไป ฉันอยากเห็นแกเติบโตและแข็งแรงเหมือนเฮยจือหม่า”
“ไป๋จือหม่าอ้วนเกินไป ผมคิดว่าที่มันหยุดเป็นเพราะว่ามันเหนื่อยจากการไล่ตีกับล่าเจียว ผมแนะนำว่าหลังจากวันนี้เป็นต้นไปให้ควบคุมการกินอาหารของมัน ไม่อย่างนั้นมันต้องอ้วนขึ้นอย่างแน่นอน และจะส่งผลต่อสุขภาพของมันด้วย” สือจื่อจิ้น
ซูเถายอมรับคำแนะนำของเขาอย่างง่ายดาย และลดอาหารไป๋จือหม่าลงครึ่งหนึ่งทันทีภายในวันนั้น
เมื่อเห็นว่าอาหารในชามข้าวหายไปครึ่งหนึ่ง ไป๋จือหม่าก็คร่ำครวญทันที
เช้าวันต่อมา ซูเถาที่กำลังแปรงฟันก็ได้ยินเสียงกึกก้องอยู่ข้างนอก เธอเปิดหน้าต่างออกไปก็เห็นเครื่องบินเล็กลดระดับการบินลงในระยะไกล
เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวมากเกินไป คนของเถาหยางและตงหยางจึงวิ่งไปดู
แม้แต่เซียวเหวินอวี้ที่หมกมุ่นอยู่กับการออกแบบวิลล่าด้วยตัวเอง ก็วางปากกาลงและวิ่งออกไปดู
เมื่อเธอเห็นเครื่องหมายบนเครื่องบินก็ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้ววิ่งเข้าไปทักทายเธอก่อนด้วยความยินดี “ม่านม่าน?”
เวินม่านสวมชุดลูกไม้สีขาวนวลเดินลงจากเครื่องบินโดยมีลั่วเหยียนถือร่มคอยให้เธอ นอกจากนี้เธอก็ยังรู้สึกประหลาดใจและมีความสุขเมื่อเห็นเซียวเหวินอวี้
“เหวินอวี้ เธอก็อยู่ที่เถาหยางด้วยเหรอ? ฉันกำลังคิดว่าจะไปงานแต่งงานของพ่อเธอในเดือนหน้าอยู่เหมือนกัน”
เซียวเหวินอวี้รู้จักเธอเป็นอย่างดี อดไม่ได้ที่จะมุ่ยปากเมื่อเวินม่านพูดถึงการแต่งงานครั้งใหม่ของบิดาบราวนี่ออนไลน์
“ฉันเพิ่งซื้อที่ดินในเถาหยางได้ไม่นาน ฉันอาศัยอยู่ที่เถาหยาง แล้วเธอมาทำอะไรที่เถาหยางเหรอ อย่าบอกว่ามาซื้อที่ดินเหมือนกันนะ ฉันบอกเธอให้ว่าเถ้าแก่ซูขายที่ดินผืนนี้ให้ฉันแล้ว”
เธอพูดออกมาด้วยความภาคภูมิใจ
เวินม่านจับมือเธออย่างตื่นเต้น “เถ้าแก่อยู่ที่ไหน พาฉันไปหาเธอหน่อย”
“อยู่นี่ค่ะ” ซูเถายกมือขึ้น
เวินม่าน ลั่วเหยียนและกลุ่มคนที่มาจากเชียนอัน ต่างก็มองไปที่ซูเถาอย่างพร้อมเพรียงกัน
เวินม่านตกตะลึงด้วยความไม่เชื่อ
“คุณคือเถ้าแก่ซูจากเถาหยางเหรอ หัวหน้าทีมซ่งจากทีมเยว่หลิ่งเป็นคนแนะนำเถ้าแก่ซูให้ฉันรู้จักค่ะ”
ลั่วเหยียนก็รู้สึกประหลาดเช่นเดียวกัน และแอบมองเธอหลายครั้ง
ซูเถาพยักและผายมือออก “เชิญทางนี้ค่ะ” กับพวกเขาอย่างสุภาพ โดยไม่แสดงอาการไม่พอใจอะไรออกมา
“เข้าไปข้างข้างกันเถอะค่ะ”
สายตาของเวินม่านมองไปที่ซูเถาตลอดทางไม่กะพริบ และเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ซูเถาเองก็หันไปมองเวินม่านบ้างเป็นครั้งคราว
เวินม่านอายุรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอ ผิวพรรณยังเต่งตึงเต็มไปด้วยคอลลาเจน ไม่แปลกใจเลยว่าเธอเป็นภรรยาที่ลั่วเหยียนหลงใหลได้ยังไง
ความประทับใจแรกที่เธอมีต่อเวินม่าน คือ สะอาด
ไม่เพียงแต่หมายถึงผิวที่เรียบเนียนและขาวใสของเธอ และชุดสีขาวนวลนั้น แต่ยังหมายถึงนิสัยใจคอของเธอด้วย
เธอเปรียบเสมือนสตรีผู้มั่งคั่งและมีชื่อเสียงอย่างแท้จริงที่เกิดในยุคที่สงบสุข มีการเป็นอยู่ที่สูงส่ง มีจิตใจที่บริสุทธิ์ ปราศจากมลทินจากความมืดมิดและสิ่งสกปรกแม้แต่น้อย
ซึ่งหาได้ยากมาก
ซูเถาลดการระมัดระวังลงโดยสัญชาตญาณ
เมื่อเห็นว่าดวงตาของเวินม่านเอาแต่จับจ้องไปที่ซูเถา เซียวเหวินอวี้ก็พูดออกมาตรง ๆ “คุณมีเรื่องอะไรที่เกรงใจและต้องการพูดกับเถ้าแก่ซู บอกฉันได้นะ ฉันจะช่วยพูดให้”
ลั่วเหยียนจ้องมองที่เซียวเหวินอวี้ ซึ่งหมายความว่าคุณควรพูดกับภรรยาของผมอย่างนุ่มนวล
เซียวเหวินอวี้กลอกตามองไปที่เขา “เพื่อนของฉัน แสดงอาการดี ๆ หน่อย” เวินม่านผลักลั่วเหยียน
จากนั้นเธอก็หันหน้าไปและแสดงรอยยิ้มให้ซูเถา “เถ้าแก่ซูคุณอายุเท่าไหร่เหรอ?”
ซูเถาบอกอายุและวันเดือนปีเกิดของเธอไป จากนั้นก็ถามต่อว่า “แล้วคุณล่ะคะ”
“ฉันแก่กว่าคุณหนึ่งปีกับสามเดือน คุณได้เป็นหัวหน้าฐานตอนอายุสิบแปดปีเหรอ? มันน่าทึ่งมาก” เวินม่านตกตะลึง
เธอรู้สึกชื่นชมซูเถาจากก้นบึ้งของหัวใจ
ตั้งแต่เด็กจนโต เธอไม่ใช่คนเรียนหนังสือเก่งและไม่ได้มีทักษะความสามารถพิเศษ นับประสาอะไรกับพลังวิเศษ ก่อนแต่งงาน เธอพึ่งพ่อของเธอตลอด และหลังแต่งงานเธอก็พึ่งสามีของเธอ อาจกล่าวได้ว่าถ้าเธอไม่มีพื้นฐานทางครอบครัว เธอก็คงไม่มีชีวิตอยู่ถึงวันนี้
ก่อนออกเดินทางลั่วเหยียนบอกเธอว่า เถาหยางเริ่มต้นจากศูนย์และเถ้าแก่เถาหยางนั้นเก่งมาก ที่สามารถเอาชนะใจผู้คนได้ และได้ยินมาว่าเธอมีความสามารถมากมาย
ซึ่งความสามารถเหล่านั้นเป็นที่น่าเชื่อถือมาก
เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องจริง
เวินม่านรู้สึกชื่นชมในความแข็งแกร่งของเธอ และถอดซูเถาออกจากกลุ่มเพื่อนหญิงในทันที และจัดเธอให้อยู่ในระดับเดียวกับสามีและพ่อของเธอแทน
เมื่อพูดถึงตรงนี้ กลุ่มคนก็ได้เข้าสู่ประตูเขตเถาหยางแล้ว ความเย็นที่กระทบใบหน้าของพวกเขาทำให้ทุกคนที่เดินทางมาที่นี่ตกใจ
“มีเครื่องปรับอากาศเหรอ? ในที่โล่งจะเย็นขนาดนี้ได้ยังไงกัน” เวินม่านมองไปรอบ ๆ
————————-