บทที่ 174 ชีวิตลูกสาวพวกเขาเป็นของเรา

นางน้อยจอมพลังของนายพลบ้านนา

“เจ้าตามหาลูกสาวต้องพาคนมาหาเรื่องพวกเราหมู่บ้านต้าสือมากขนาดนี้ด้วยหรือ? รังแกถึงประตูบ้าน?” โจวกุ้ยหลานตะเบ็งเสียงถามเขา

อีกฝั่งหนึ่ง ครั้นคนหนุ่มหมู่บ้านต้าสือได้ยินสีหน้าก็ยิ่งขึงตึง ทางนี้กำลังมีเรื่อง คนที่ผ่านทางกลับมาจึงเริ่มหยุด

หลิวฝูเห็นสีหน้าพวกเขาแล้วพลันตระหนก อย่างไรนี่ก็คือหมู่บ้านต้าสือ ถ้าคนในหมู่บ้านมากันหมด พวกเขายี่สิบกว่าคนจะลำบาก ตอนนี้ต้องรีบจัดการธุระให้เร็วที่สุด คนตระกูลโจวกล้าลักพาตัวบุตรสาวเขามา แค้นนี้จะให้เขากล้ำกลืนได้อย่างไร?

ดังนั้นเขาจึงเอ่ยด้วยความเดือดดาล “แล้วที่พวกเจ้าลักพาตัวลูกสาวข้ามานี่มีเหตุผลแล้วหรือ? คนอย่างพวกเจ้าสมควรฆ่าให้ตาย! พวกเราจะพานางกลับ ถ้าพวกเจ้าชดใช้ห้าตำลึงเรื่องนี้จะถือว่าจบ!”

“ห้าตำลึง?!” เหล่าไท่ไท่ร้องอุทาน “ทำไมเจ้าไม่ปล้นเลยเล่า?”

ครั้นคนในหมู่บ้านต้าสือเหล่านี้ได้ยินสีหน้าพลันเจื่อน

ห้าตำลึงเป็นรายได้สองปีของครอบครัวหนึ่งเชียวนะ!

“ข้ามาเอง!” หลิวเซียงรีบแก้ต่าง

หลิวฝูโมโหจนเดินเร็วไป ง้างมือแล้วตบใบหน้านางแรงฉาดหนึ่ง ส่งเสียงดัง “เพียะ”

“พวกเขากรอกยาเสน่ห์อะไรให้เจ้า เจ้าถึงได้เข้าข้างคนนอกอย่างนี้? นังเด็กนี่ กลับไปดูสิว่าข้าจะเอาเจ้าให้ตายไหม!”

หลิวฝูชี้จมูกด่าหลิวเซียง

“ก็เพราะข้าหนีออกมาคนเดียว ข้าเลยขอร้องให้ตระกูลโจวรับข้าไว้!” หลิวเซียงเงยหน้าแข็งขืน จ้องหลิวฝู โมโหเอ่ย

นางทำให้หลิวฝูโกรธจัด มือใหญ่ซ้ายขวาง้างแล้วตบไปตรงใบหน้านาง

เมื่อคนในหมู่บ้านต้าสือเห็นก็เงียบ บิดาตีบุตรสาวเป็นเรื่องธรรมดาในโลก ตอนนี้พวกเขาไม่ให้คนของหมู่บ้านหลิวรังแกคนในหมู่บ้านตัวเองก็พอ สำหรับหลิวเซียง ช่างน่าสงสาร

เสียงนั้นดังก้องอยู่ในโสตโจวกุ้ยหลานไม่หยุด ทำให้นางเกิดไฟโกรธพลุ่งพล่านในอก

หลิวฝูเป็นบิดาบังเกิดเกล้าของหลิวเซียง แต่เขาลงมือต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร?

ส่วนหลิวเซียงถูกคนจับไว้ จะหลบก็ทำไม่ได้ เจ็บจนนางร้องไห้โฮ

ทางเหล่าไท่ไท่ นางรู้สึกปวดใจนัก ทำไมถึงใจดำปานนี้? บุตรสาวคนนี้ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของเขาหรือ?

“ตาแก่ มาตีคนปากประตูบ้านข้าทำไม? ตีให้ข้าดูหรือ?” เหล่าไท่ไท่อดใจไม่อยู่ พลันตวาดใส่หลิวฝู

โจวกุ้ยหลานที่อยู่ข้างๆ หันไปมองนางแวบหนึ่ง ลอบเห็นด้วยกับวิธีการทำของเหล่าไท่ไท่ในใจ

หลิวฝูเงยหน้าเหลือบมองเหล่าไท่ไท่ด้วยความเย็นชาทีหนึ่ง “ข้าตีลูกข้าเกี่ยวอะไรกับเจ้า? ต่อให้ข้าตีนางจนตาย นั่นก็เป็นชะตาของนาง ต่อให้เป็นทางราชการก็เข้ายุ่งไม่ได้!”

ว่าแล้วก็ยกเท้าขึ้นถีบตรงอกของหลิวเซียงอย่างจัง หลิวเซียงร้องครวญเสียงหนึ่ง อ่อนกำลังลงไม่น้อย

โจวกุ้ยหลานเห็นภาพนี้แล้วก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “เจ้าคิดจะเอาอย่างไรกันแน่?”

“ทำไม? คนหมู่บ้านพวกเจ้าล้อมอยู่นี่ทำอะไร? จะรังแกพวกเราคนหมู่บ้านหลิวหรือ? ลักพาตัวลูกสาวข้าแล้วยังจะตีพวกเราอีก?” หลิวฝูมองคนหมู่บ้านต้าสือที่กำลังล้อมพวกเขาอยู่ ตวาดเสียงดัง

ชายหนุ่มยี่สิบกว่าคนจากหมู่บ้านหลิวจ้องคนหมู่บ้านต้าสือเขม็ง พร้อมลงไม้ลงมือตลอดเวลา

“ใครรังแกพวกเจ้า? เป็นพวกเจ้าหมู่บ้านหลิวยกโขยงมาหมู่บ้านต้าสือเราต่างหาก เจ้าว่าอย่างนี้ ถ้าพวกเราหมู่บ้านต้าสือไปล้อมคนหมู่บ้านหลิวเขาพวกเจ้าเยอะขนาดนี้บ้าง พวกเจ้าจะไม่ออกมาหรือ?”

เมื่อนั้นก็มีชายอายุยี่สิบต้นๆ ของหมู่บ้านต้าสือคนหนึ่งตะโกนกับหลิวฝู

หลิวฝูตีบุตรสาวของตัวเอง พวกเราย่อมพูดอะไรไม่ได้ แต่ถ้าเขากล้าเบนหัวหอกมาทางพวกเขาหมู่บ้านต้าสือ เช่นนั้นก็คือให้คนขี่ขึ้นหัวแล้ว!

“พวกเจ้าหมู่บ้านต้าสือลักพาตัวลูกสาวข้ามามีเหตุผลหรือ? พวกเจ้าหมู่บ้านต้าสือเป็นหมู่บ้านโจรขโมยใช่ไหม? ไปลักพาตัวลูกสาวหมู่บ้านอื่นใช่ไหม?”

หลิวฝูตะคอกกลับอีกฝ่าย

คนของหมู่บ้านต้าสือเงียบ เรื่องนี้ตระกูลโจวไม่มีเหตุผลจริง

ใครก็ไม่ให้เด็กสาวที่ยังไม่ออกเรือนอยู่บ้านตัวเอง หลายวันนี้พวกเขาก็คุยเรื่องนี้ลับหลังอยู่เหมือนกัน คิดว่าโจวต้าไห่ตบแต่งภรรยาแล้วใช่หรือไม่

“อะไรนะ? ข้าลักพาตัวลูกสาวเจ้า ข้าอยู่แต่ในหมู่บ้านต้าสือไม่ได้ออกไปไหน จะลักพาตัวลูกเจ้าได้อย่างไร?เป็นลูกสาวเจ้าที่กลัวว่าเจ้าจะจับนางแต่งงานกับเจ้าโง่เพื่อที่ดินผืนเดียว ก็เลยมาบ้านข้า ขอร้องข้า ให้ข้าช่วยชีวิตนาง พวกเราใจดีรับนางไว้สองสามวันต่างหาก!”

เหล่าไท่ไท่ไม่อนุญาตให้คนอื่นให้ร้ายนาง ดังนั้นจึงเอ็ดกลับไป

เมื่อกล่าวเช่นนี้ คนของหมู่บ้านต้าสือก็ฮือฮาขึ้น ต่อให้บุตรสาวเป็นตัวสิ้นเปลืองเงินทอง แต่นั่นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ทำไมเขาถึงตัดใจทำลายชีวิตของบุตรสาวตัวเองได้?

ครั้นหันไปมองหลิวเซียงทางนั้นก็เห็นนางหลับตาอย่างเจ็บปวด กระซิกสะอึกสะอื้น ดวงตาทั้งสองบวมโต

คนของหมู่บ้านต้าสือเดือดพลุ ต่างเดินขึ้นหน้าหนึ่งก้าว ล้อมคนหนุ่มที่กำลังล้อมเหล่าไท่ไท่กับโจวกุ้ยหลานอยู่ ความกดดันเพิ่มขึ้นอีก

หลิวฝูสะดุ้ง อยากจะพูดอะไรแต่ถูกเหล่าไท่ไท่ที่อยู่ข้างๆ แทรกก่อน “เจ้าไอ้แก่หนังเหนียวคิดจะทำร้ายลูกสาวตัวเอง พวกเราใจดีช่วยชีวิตนาง ยังไม่ได้เอาธัญญาหารกับเจ้า เจ้ายังจะคิดถามเอาเงินจากเราอีกหรือ? ลูกสาวเจ้ากินไข่ไก่บ้านข้าสิบฟอง ข้าวขาวหนึ่งจิน แล้วยังมีข้าวโพดอีกยี่สิบกว่าจิน เจ้ารีบคืนข้ามา!”

สมกับที่เป็นแม่ของนาง!

โจวกุ้ยหลานแอบกดไลก์ให้มารดา

“อะไรนะ? ไข่ไก่? ข้าวขาวอีก? เจ้าหลอกใคร? เจ้ามีปัญญาให้นางกินดีอย่างนั้นเชียวหรือ?” หลิวฝูโมโหย้อนถาม

เหล่าไท่ไท่หึเย็น “เจ้าไม่เห็นแผลเป็นตรงหน้าผากนางหรือ? นั่นเป็นแผลที่นางใช้หัวโหม่ง ถ้าไม่ใช่ไข่ไก่กับข้าวขาวข้า นางก็ตายไปแล้ว! ข้าช่วยชีวิตลูกสาวเจ้าไว้ เจ้าไม่ต้องให้เงินขอบคุณข้าหรอก คืนของข้ามาก็พอ!”

อย่างไรหลิวฝูก็คิดไม่ถึงว่าทีแรกเขามาเรียกร้องเงินกับอีกฝ่าย แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นยายแก่นี่มาเรียกร้องเงินกับเขาแทน?

คนที่มาจากหมู่บ้านหลิวต่างพากันมองกันไปมองกันมา สุดท้ายสายตาก็ตกอยู่กับหลิวฝู ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่รู้ว่าหลิวฝูแทบจะบีบบุตรสาวตัวเองตายแล้ว!

เมื่อคนของหมู่บ้านต้าสือได้ฟังก็พากันตะโกน “คืนของ!”

สีหน้าหลิวฝูพลันเปลี่ยน โก่งคอเป็นเอ็น “ข้าให้เจ้าช่วยหรือ? เจ้าทำของเจ้าเอง ไม่ได้ให้ข้ากินสักหน่อย ทำไมข้าต้องคืนของด้วย!”

“ชีวิตลูกสาวเจ้าเราเป็นคนช่วย ชีวิตที่เจ้าให้นางมันจบไปแล้ว ตอนนี้นางควรถือเป็นคนบ้านข้างต่างหาก ต้องทำงานทดแทนบุญคุณบ้านข้า” โจวกุ้ยหลานสอดปาก

เมื่อครู่หลิวฝูถีบไปตรงอกหลิวเซียง ไม่รู้ว่าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว จากเสียงของนาง คาดว่าคงเจ็บหนัก

หากให้นางกลับไปอย่างนี้ หลิวฝูต้องไม่รักษานางแน่ กลัวแต่สุดท้ายจะต้องตายไปจริงๆ

“อะไรนะ? คนของเจ้า?” หลิวฝูร้องตกใจอีกครั้ง

ทำไมบุตรสาวที่เขาเลี้ยงกลายเป็นคนของพวกนางไปได้?

ไม่ บุตรสาวคนนี้ยังแลกที่ดินได้หนึ่งผืน อย่างไรก็ยอมให้ไม่ได้!

“นี่เป็นลูกของข้า ข้าเลี้ยงโตมา พวกเจ้าคิดจะเอาไข่ไก่ไม่กี่ฟองมาแลกตัวนางไปหรือ? อย่าแม้แต่จะคิด!” หลิวฝูตวาดอีกครั้ง