ตอนที่ 581 เตรียมพร้อมตบหน้า (4) ตอนที่ 582 ความปรารถนาเล็กๆ

ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร

ตอนที่ 581 เตรียมพร้อมตบหน้า (4) / ตอนที่ 582 ความปรารถนาเล็กๆ
ตอนที่ 581 เตรียมพร้อมตบหน้า (4)

เจ้าแมวดำตัวน้อยบ่นพึมพำอย่างหงุดหงิดไม่หยุด

จวินอู๋เสียยกมือขึ้นตบหลังเจ้าแมวดำตัวน้อยเบาๆ ก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองหนิงซินที่ตีสีหน้าแสร้งทำเป็นห่วงใยอย่างลึกซึ้ง

“อะไรถูกอะไรผิด เราจะได้รู้กันพรุ่งนี้ เจ้าไม่ต้องกังวลหรอก” พูดจบ จวินอู๋เสียก็สาวเท้าเดินจากไปในทันที

อย่างที่เจ้าแมวดำตัวน้อยพูด ถ้านางสนทนากับหนิงซินต่อไป มันจะเป็นการดูถูกสติปัญญาของนางเปล่าๆ!

หนิงซินมองตามจวินอู๋เสียที่เดินจากไปอย่างตกใจและประหลาดใจ นางไม่คาดคิดว่าจวินอู๋เสียจะยังคงเย็นชาและห่างเหินภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันนี้! นางพลันรู้สึกเหมือนโดนดูถูกเหยียดหยามอย่างรุนแรง!

“จวินเสีย! เจ้ากล้าดูถูกข้าถึงเพียงนี้! ฝากไว้ก่อนเถอะ! วันหนึ่ง ข้าจะให้เจ้าคลานเข่าเข้ามาอ้อนวอนขอให้ข้าช่วยเจ้า!” หนิงซินกัดฟันขณะที่จ้องตามหลังของจวินอู๋เสียอย่างเกรี้ยวกราด ปรารถนาอย่างแรงกล้าว่าจะสามารถฉีกกระชากแผ่นหลังนั่นให้ขาดเป็นชิ้นๆ ได้

“อิ่นเหยียน!” หนิงซินตะโกนเสียงดัง

อิ่นเหยียนที่ซ่อนอยู่ในเงามืดก็ปรากฏตัวขึ้นทันที

“ศิษย์พี่หนิง”

“ถ่ายทอดคำสั่งข้าให้ทุกคน! ข้าต้องการให้เรื่องที่จวินเสียฆ่าหลี่จื่อมู่กระพือออกไปให้เต็มที่! ภายในสามวัน ข้าอยากได้ยินประกาศจากฟ่านฉีว่าจวินเสียถูกไล่ออก!”

อิ่นเหยียนตัวสั่นและถามอย่างลังเลว่า “ศิษย์พี่หนิง นั่นจะไม่เกินไปหน่อยหรือ…แล้วยอดฝีมือขั้นสีม่วงพวกนั้น…”

หนิงซินตอบพร้อมหัวเราะอย่างเย็นชาว่า “เจ้าจะกลัวอะไร ข้าไม่ได้มีส่วนอะไรด้วยสักหน่อย ข้าไม่ได้พูดไปแล้วหรอกหรือ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะกู้หลีเซิงออกคำสั่งให้สืบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น ข้าไม่เชื่อว่าจะมีใครในโลกกล้าต่อต้านกู้หลีเซิง ผู้คิดค้นทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณ เพื่อปกป้องเจ้าหนูนั่น”

อิ่นเหยียนกลืนน้ำลาย เขาตกใจที่หนิงซินเอาชื่อของกู้หลีเซิงมาใช้ในแผนการของนางด้วย

นั่นออกจะบ้าระห่ำเกินไปสำหรับเขา

……

ในขณะที่จวินอู๋เสียกลับไปที่ลานป่าไผ่ ฟ่านจิ่นก็ทำท่าราวกับมีถ่านร้อนๆ อยู่ในกางเกง เขานั่งไม่ติดที่และเดินไปมาอยู่หน้าเรือนหลังเล็กไม่หยุด

เมื่อเขาเห็นจวินอู๋เสีย เขาก็รีบพุ่งเข้าหานางราวกับลูกธนูและมองจวินอู๋เสียตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า หลังจากที่แน่ใจแล้วว่านางไม่ได้บาดเจ็บตรงไหน เขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

“เจ้าไปไหนมา” ฟ่านจิ่นถามอย่างเป็นห่วง

“ไปพบกู้หลีเซิงมา” จวินอู๋เสียชำเลืองมองฟ่านจิ่นและเห็นว่าเขาร้อนใจมากแค่ไหน นางรู้ว่าเขาแค่เป็นห่วงความปลอดภัยของนาง

นิสัยของฟ่านจิ่นไม่ได้เลวร้าย เขาแค่…แสดงออกชัดเจนเกินไปหน่อย

ถ้าเขาฉลาดได้สักครึ่งของฟ่านจัว จวินอู๋เสียจะไม่รู้สึกเป็นภาระมากขนาดนี้เวลาคุยกับเขา

“ท่านลุงกู้หรือ” อย่างที่คาด ฟ่านจิ่นตามไม่ทันความคิดของจวินอู๋เสียและยังคงสับสนงุนงง

ฟ่านจัวยืนมองพี่ชายผู้ซื่อบื้อของเขาอยู่หน้าเรือนไผ่หลังเล็กและได้แต่ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา

“เจ้าจะลงมือเมื่อไร” ฟ่านจัวถามโดยไม่จำเป็นต้องให้จวินอู๋เสียอธิบาย เขารู้ว่าจวินอู๋เสียไปหากู้หลีเซิงทำไม

“พรุ่งนี้” อย่างที่นางคิด คุยกับคนฉลาดนั้นง่ายกว่ามาก

“เร็วขนาดนั้นเชียว” ฟ่านจัวถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น

“กองทัพรุ่ยหลินจะมาถึงวันมะรืน” พอพูดถึงกองทัพรุ่ยหลิน ดวงตาเย็นชาของจวินอู๋เสียก็อ่อนลงเล็กน้อย บรรยากาศและสีหน้าท่าทางของนางก็ดูเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย

“กองทัพรุ่ยหลิน? เกิดอะไรขึ้นหรือ ข้าได้ยินเจ้ากับพี่ใหญ่พูดถึงพวกเขาก่อนหน้านี้ แต่เจ้าไปเกี่ยวข้องอะไรกับกองทัพรุ่ยหลินอย่างนั้นหรือ” เมื่อสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของจวินอู๋เสีย ฟ่านจัวก็ค่อนข้างแปลกใจ

กองทัพรุ่ยหลินมีอำนาจอะไร เพียงแค่เอ่ยถึงพวกเขาก็สามารถทำให้บรรยากาศรอบตัวจวินอู๋เสียกับท่าทีของนางเปลี่ยนไปได้

พอได้ยินชื่อของกองทัพรุ่ยหลิน สีหน้าของฟ่านจิ่นก็แข็งทื่อ

ระหว่างงานล่าวิญญาณ ฟ่านจัวอยู่ในลานป่าไผ่จึงไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นในป่าประลองวิญญาณ

ตอนที่ 582 ความปรารถนาเล็กๆ

เมื่อพวกเขากลับมาที่สำนักศึกษา ฟ่านจิ่นไม่ต้องการให้เรื่องสกปรกทั้งหมดมาแปดเปื้อนหูของน้องชายเขา เขาเลยไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนั้นเลยสักครั้ง

ส่วนเรื่องตัวตนที่แท้จริงของจวินอู๋เสีย นอกจากเฉียวฉู่กับพรรคพวกของเขาแล้ว ทั้งสำนักศึกษาเฟิงหัวเกรงว่ามีเพียงฟ่านจิ่นคนเดียวที่รู้เรื่องนี้

คุณหนูใหญ่ของกองทัพที่โจมตีได้ดุดันที่สุด! บุตรสาวของสกุลจวินแห่งจวนหลินอ๋อง!

เรื่องที่หนิงซินพยายามทำให้คนของกองทัพรุ่ยหลินถูกฆ่าตายในป่าประลองวิญญาณ ฟ่านจัวจึงไม่รู้เรื่องเลยแม้แต่น้อย

“เกี่ยวข้องกันอยู่” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับพยักหน้าเล็กน้อย

ฟ่านจัวเชื่ออย่างจริงจังเลยว่า คำว่า ‘กองทัพรุ่ยหลิน’ นั้นมีความหมายเป็นพิเศษต่อจวินอู๋เสีย

“กองทัพรุ่ยหลิน…ข้าเคยได้ยินชื่อพวกเขามาก่อน ใช่กองทัพของรัฐชีหรือเปล่า” ฟ่านจัวเกิดอยากรู้อยากเห็นเรื่องของกองทัพรุ่ยหลินขึ้นมากะทันหัน

“ใช่…ใช่…” ฟ่านจิ่นตอบตะกุกตะกัก มองไปที่ฟ่านจัวอย่างกระวนกระวาย เขาไม่ต้องการให้ฟ่านจัวมาเกี่ยวข้องกับเรื่องเช่นนั้น เขาต้องการให้ฟ่านจัวได้พักฟื้นอย่างสงบ เขาไม่ควรได้ยินเรื่องแผนการชั่วร้ายพวกนี้และไม่จำเป็นต้องรู้ด้วย

ถึงตอนนี้สุขภาพของฟ่านจัวจะดีขึ้นบ้างแล้ว ฟ่านจิ่นก็ไม่ต้องการให้มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้น

ด้วยความที่เป็นคนฉลาด เมื่อจวินอู๋เสียและฟ่านจัวเห็นสีหน้าอึดอัดใจของฟ่านจิ่น ทั้งสองก็หยุดทันทีและไม่พูดถึงกองทัพรุ่ยหลินอีก

ทันทีที่ฟ่านจิ่นจากไปแล้ว รอยยิ้มอ่อนโยนของฟ่านจัวก็หายไปและถูกแทนที่ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเต็มที่

“เจ้าจะไม่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในป่าประลองวิญญาณให้ข้าฟังหน่อยหรือ กองทัพรุ่ยหลินต้องเกี่ยวข้องกับเจ้าใช่หรือไม่” ฟ่านจัวถามจวินอู๋เสียด้วยความอยากรู้

จวินอู๋เสียเหลือบมองฟ่านจัว นางเริ่มขมวดคิ้ว

มันไม่มีอะไรให้เล่ามากนัก แต่ก็ไม่น้อยเช่นกัน การอธิบายจะเกี่ยวพันกับหลายสิ่ง ถ้านางคิดจะอธิบายเรื่องนี้…

จวินอู๋เสียรู้สึกว่ามันจะต้องใช้ความพยายามมากสักหน่อย

“ไปถามเฉียวฉู่วันอื่นเอาเองก็แล้วกัน” จวินอู๋เสียโยนภาระในการอธิบายให้เฉียวฉู่หน้าตาเฉย ทำเอาฟ่านจิ่นอยากจะร้องไห้

“เจ้าต้อง…เกลียดการสนทนาเอามากๆ เลยสินะ” หลังจากใช้เวลาอยู่กับจวินอู๋เสียมานาน ฟ่านจัวก็เข้าใจนิสัยของจวินอู๋เสียเป็นอย่างดีแล้ว แทนที่จะพูดว่านางเย็นชาและหยิ่งยโส ต้องบอกว่านางขาดความสามารถในการเข้าสังคมกับคนอื่นมากกว่า

ในการพูดคุยประจำวันและการติดต่อกันตามปกติ จวินอู๋เสียจะเป็นคนตอบเสียมากกว่า แต่เมื่อต้องพูดยาวๆ เพื่ออธิบาย นางจะปิดปากเงียบ ไม่อย่างนั้นก็จะโยนหน้าที่ให้คนอื่นแทน

จวินอู๋เสียย่นจมูกและลุกขึ้นเดินจากไป

นางไม่รู้ว่าทำไม แต่ภาพใบหน้าอันงดงามสมบูรณ์แบบทว่าทรงเสน่ห์ราวปีศาจพลันก็ปรากฏขึ้นในหัวใจของนาง

คนผู้เดียวที่มักจะปรากฏตัวโดยไม่คาดคิดและหายตัวไปอย่างกะทันหันอยู่เสมอ คนที่มักจะบังคับให้นางเปิดปากพูด คนที่นางไม่ได้พบมานานแล้ว

ในตอนแรกจวินอู๋เสียพูดน้อยกว่าที่นางเป็นอยู่ในตอนนี้ แต่คนผู้นั้นก็ตามก่อกวนนางไม่หยุด ทำให้นางเรียนรู้อารมณ์ต่างๆ เช่น ความไม่พอใจ อย่างช้าๆ และสอนให้นางระบายมันออกมา นางจึงค่อยๆ พูดมากขึ้นทีละนิด

หลังจากกันเป็นครั้งสุดท้ายที่สำนักศึกษาหงส์อมตะ นางก็ไม่ได้พบเขามานานแล้ว

มีหลายอย่างเกิดขึ้นที่สำนักศึกษาเฟิงหัว นางจึงไม่ได้คิดถึงคนผู้นั้นมากนัก

แต่จู่ๆ ภาพใบหน้าของคนผู้นั้นก็ผุดขึ้นมาในใจของนาง

สิ่งที่มากระตุกหัวใจของนางอย่างกะทันหันนั้นทำให้นางพูดขึ้นเสียงเบาว่า “เยี่ยซา”

เงาร่างหนึ่งพุ่งผ่านหน้าต่างลงมาคุกเข่าอยู่ต่อหน้าจวินอู๋เสีย

“คุณหนูโปรดออกคำสั่งขอรับ”

จวินอู๋เสียไม่ได้เงยหน้าขึ้น ดวงตาของนางยังคงจ้องมองฝ่ามือของตัวเอง ด้วยการสะบัดนิ้วมือครั้งเดียว เข็มสีเงินก็พลันปรากฏขึ้นในมือของนาง

ที่จวนหลินอ๋อง นางใช้เข็มพวกนี้แทงเข้าที่จุดตายของคนผู้นั้น ตอนนั้นเลือดอุ่นๆ ของเขาไหลลงมาตามเข็มจนเปื้อนมือของนาง นั่นเป็นเรื่องนานมากแล้ว…นางไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไม แต่จู่ๆ ก็ราวกับว่านางยังรู้สึกถึงความอุ่นที่เข็มเงินแบบเดียวกับที่นางรู้สึกเมื่อตอนนั้น