ตอนที่ 583 ตบหน้าฝูงชน (1) / ตอนที่ 584 ตบหน้าฝูงชน (2)
ตอนที่ 583 ตบหน้าฝูงชน (1)
“พี่ชายของข้า…ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน” จวินอู๋เสียถามเสียงเบาจนเกือบจะกลายเป็นกระซิบ
“ข้าไม่ทราบขอรับ” เยี่ยซาตอบ เสียงของเขาทุ้มต่ำและเคร่งขรึม
จวินอู๋เสียกัดริมฝีปากแล้วพูดว่า “ไปได้”
เยี่ยซายืนขึ้น และเมื่อเขาเดินไปถึงหน้าประตู เขาก็หยุด
“ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าคุณชายอู๋เย่าตอนนี้อยู่ที่ไหน แต่ถ้าข้าน้อยคิดถูก นายน้อยอาจไม่ได้อยู่ในสามโลกเบื้องล่างในตอนนี้ สิ่งที่สามารถรักษาจิตวิญญาณได้นั้น จะพบได้เฉพาะแค่ในสามโลกชั้นกลางเท่านั้นขอรับ”
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นทันที
“พี่ชายมาจากสามโลกชั้นกลางอย่างนั้นหรือ”
นางรู้สึกอยู่เสมอว่าจวินอู๋เย่านั้นลึกลับมากเป็นพิเศษ พลังของเขาแข็งแกร่งมากจนสามารถต้านสวรรค์ได้ อำนาจของจวินอู๋เย่าเหนือกว่าทุกคนที่จวินอู๋เสียเคยพบ เยี่ยซาแสดงพลังของเขาที่เกือบจะอยู่ในระดับเดียวกับคนที่มาจากสิบสองตำหนักที่เทือกเขาเมฆา และในฐานะเจ้านายของเยี่ยซา พลังของจวินอู๋เย่าย่อมไม่ด้อยไปกว่าเยี่ยซาอย่างแน่นอน
ถึงแม้จวินอู๋เสียจะเดาไว้อยู่แล้วก็ตาม ตอนนี้เองที่นางได้ยืนยันข้อสงสัยของนาง
เยี่ยซาไม่พูดอะไรและออกไปจากห้องเงียบๆ
จวินอู๋เสียนอนลงบนเตียง ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะวิ่งเหยาะๆ เข้ามาและกระโดดขึ้นบนเตียง มันถูร่างอ้วนกลมของมันเบียดเจ้าแมวดำตัวน้อยออกไปจากด้านข้างของจวินอู๋เสีย และซุกตัวหาตำแหน่งที่สบายๆ ติดกับจวินอู๋เสียแล้วนอนลง
“ไม่ได้อยู่ในสามโลกเบื้องล่างอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามตัวเองขณะที่ยกมือก่ายหน้าผาก แม้แต่นางก็ไม่รู้ว่าวันนี้ตัวเองเป็นอะไรไป
ทำไมจู่ๆ นางถึงคิดถึงจวินอู๋เย่า
อารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจของนางช่างแปลกและไม่คุ้นเคย ทำให้นางรู้สึกสับสนและหมดหนทาง มีอาการเจ็บแปลบเล็กๆ ในหัวใจของนางซึ่งนางไม่อาจอธิบายหรือหาสาเหตุของมันได้เลย
ขณะที่นอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ ดวงตาของจวินอู๋เสียก็ปิดลงอย่างช้าๆ เข้าสู่นิทรารมณ์
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น ศิษย์ทุกคนของสำนักศึกษาเฟิงหัวถูกเรียกให้มารวมตัวกัน พวกเขาควรจะไปฝึก แต่จู่ๆ ก็ถูกเรียกรวมตัวกันที่ลานชุมนุมของสำนักศึกษาเฟิงหัว
ลานชุมนุมอัดแน่นไปด้วยเหล่าศิษย์ พวกลูกศิษย์เดินตามอาจารย์ของพวกเขาไปยืนเข้าแถวกันอย่างเป็นระเบียบ
สำนักศึกษาเฟิงหัวแทบจะไม่เรียกรวมตัวลูกศิษย์อย่างเป็นทางการมากนัก ลานชุมนุมเต็มไปด้วยเสียงพูดคุยและโต้เถียงกัน ทุกคนกำลังพยายามคาดเดาเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจเรียกรวมตัวศิษย์และอาจารย์ทุกคนอย่างกะทันหันแบบนี้
“นี่ต้องเกี่ยวข้องกับจวินเสียเป็นแน่” ศิษย์คนหนึ่งกระซิบเสียงดัง ดึงดูดความสนใจของศิษย์คนอื่นๆ อีกหลายคน
“เป็นไปได้อย่างไร เจ้าคิดว่าเขาจะเป็นสาเหตุให้เรียกระดมพลพวกเราทุกคนขนาดนี้เลยหรือ”
“นี่แสดงว่าเจ้าไม่รู้เรื่องอะไรเลยสินะ สหายร่วมหอพักของข้าเป็นศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ เขาเล่าให้ข้าฟังว่าจู่ๆ จวินเสียก็โผล่ไปที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณเมื่อวานนี้ เจ้าไม่ได้ยินเรื่องนี้เลยรึ” ศิษย์อีกคนพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
ศิษย์ทุกคนที่อยู่รอบตัวเขามีสีหน้าแปลกไปในทันที ดวงตาของพวกเขาเป็นประกายจากข่าวซุบซิบที่พวกเขาเพิ่งได้ยิน
“จริงหรือ แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง เล่าเร็ว!”
ทันทีที่พบว่าสายตาทุกคู่หันมาสนใจเขา ศิษย์ผู้นั้นก็รู้สึกเหมือนตัวจะลอยและเขาชอบความรู้สึกนี้จริงๆ เขาภูมิใจที่ตกอยู่ในความสนใจของผู้คน และถามทุกๆ คนว่า “เมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเจ้าได้ยินข่าวลือเรื่องจวินเสียสังหารหลี่จื่อมู่ใช่หรือไม่ พวกเจ้ายังจำได้หรือเปล่า”
เหล่าศิษย์ทุกคนรอบตัวเขาพยักหน้าอย่างแรง มันก่อให้เกิดความวุ่นวายครั้งใหญ่ พวกเขาจะลืมได้อย่างไรกัน
“หลี่จื่อมู่เป็นศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณ เขาถูกเลือกจากกู้หลีเซิงเป็นการส่วนตัวในตอนที่ผู้อาวุโสยอมทำผิดกฎและรับศิษย์เพียงคนเดียวในปีนี้ หลี่จื่อมู่เป็นศิษย์คนโปรดที่กู้หลีเซิงให้การดูแลและแสดงความห่วงใยเขามากที่สุด และยังให้การสั่งสอนเขาเป็นการส่วนตัวอีกด้วย แต่อยู่ๆ ศิษย์โปรดคนนี้ก็เสียชีวิตในป่าประลองวิญญาณอย่างลึกลับ พวกเจ้าคิดว่ากู้หลีเซิงจะพอใจอย่างนั้นรึ เพราะฉะนั้นเขาถึงได้สั่งให้มีการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันมานี้ และพบว่าจวินเสียมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของหลี่จื่อมู่!” ศิษย์ผู้นั้นพูดเสียงดังจนน้ำลายแตกฟอง กระเด็นใส่หน้าผู้ฟังที่ตั้งใจฟังอย่างจดจ่อ
เมื่อศิษย์คนอื่นๆ ได้ฟังข่าวใหม่นี้ เหล่าศิษย์บางคนที่แกล้งทำเป็นไม่สนใจในตอนแรกก็เข้ามาร่วมฟังด้วย
ตอนที่ 584 ตบหน้าฝูงชน (2)
เมื่อศิษย์คนอื่นๆ ได้ฟังข่าวใหม่นี้ เหล่าศิษย์บางคนที่แกล้งทำเป็นไม่สนใจในตอนแรกก็เข้ามาร่วมฟังด้วย
เมื่อเร็วๆ นี้ มีเหตุการณ์สำคัญสองอย่างเกิดขึ้นในสำนักศึกษาเฟิงหัว เหตุการณ์แรกคือลู่เว่ยเจี๋ยถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาพร้อมกับศิษย์คนอื่นอีกกลุ่มใหญ่ และเขาก็ได้กล่าวประณามหนิงซินก่อนที่เขาจะจากไป อีกเหตุการณ์หนึ่งก็คือข่าวลือที่เชื่อกันว่าจวินอู๋เสียสังหารหลี่จื่อมู่!
ทั้งสองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นติดๆ กันนี้ ทำให้เกิดความปั่นป่วนโกลาหลขึ้นในสำนักศึกษา และข่าวลือทั้งสองก็ล้วนแต่พูดกันว่าคนร้ายมุ่งเป้าสังหารศิษย์ร่วมสำนักทั้งคู่ พวกมันจึงดึงดูดความสนใจของทุกคนมาก
“ความสำคัญของกู้หลีเซิงในสำนักศึกษาทำให้เขาเป็นคนที่ไม่อาจแตะต้องได้ และกระทั่งอาจารย์ใหญ่ก็ยังไม่สามารถห้ามเขาได้หากเขาอยากจะทำอะไร และเมื่อศิษย์คนโปรดของกู้หลีเซิงถูกสังหารอย่างลึกลับ พวกเจ้าคิดว่าเขาจะปล่อยคนร้ายไปง่ายๆ หรือไง การที่จวินเสียไปที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณเมื่อวานนี้ ก็เพื่อไปอ้อนวอนขอความเมตตาจากกู้หลีเซิง แต่ตอนที่เขาออกไป พูดกันว่าหน้าของเขาซีดเผือดเลย จวินเสียต้องถูกปฏิเสธอย่างไม่ต้องสงสัย คิดดูสิ จวินเสียไปที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณเมื่อวานนี้ แล้ววันนี้เราทุกคนก็ถูกเรียกรวมตัวกันที่นี่กะทันหัน มันจะเป็นอะไรอย่างอื่นไปได้อีก ข้าเดาว่าเจ้าสวะโง่เง่านั่นจะต้องทำให้กู้หลีเซิงโกรธมาก เขาถึงต้องการสะสางเรื่องทั้งหมดในวันนี้และแก้แค้นให้กับการตายของศิษย์คนโปรดของเขา!”
“พอฟังได้เรื่องราวทั้งหมดที่เจ้าพูดมา มันก็เป็นไปได้อยู่นะ ข้าได้ยินว่ากู้หลีเซิงเป็นคนขอให้ทุกคนมารวมตัวกันที่นี่วันนี้ และจากที่เจ้าเล่ามา ก็ดูเหมือนทุกอย่างจะเหมาะเจาะพอดี” ศิษย์อีกคนพูดเสริม
เหล่าศิษย์พวกนั้นพลันประสานเสียงหัวเราะเบาๆ อย่างชั่วร้าย
ไม่มีใครอยากจะเรียนอยู่ที่เดียวกับคนที่อาจจะแทงข้างหลังพวกเขาได้ทุกเมื่อโดยไม่มีการเตือน
“เฮ้! ดูตรงนั้นสิ! ใครอยู่ตรงนั้น” ศิษย์ที่ตาแหลมคนหนึ่งตะโกนขึ้นเมื่อเห็นร่างสองร่างกำลังเดินมาที่ลานชุมนุม
หนึ่งในนั้นเป็นคนที่ทุกๆ คนรู้จักและจำได้ นั่นคือฟ่านจิ่น ขณะที่อีกคนที่อยู่ข้างๆ ฟ่านจิ่นคือเด็กหนุ่มตัวเล็กที่มีใบหน้าละเอียดอ่อน
“อะไร! นี่เขายังกล้าโผล่หน้ามาอีกรึ! ไม่กลัวตายเลยหรือไง”
“เจ้าคิดว่าเขาจะสามารถหลบซ่อนจากเรื่องทั้งหมดนี้ได้รึ ถ้ากู้หลีเซิงต้องการแก้แค้นให้หลี่จื่อมู่ จวินเสียก็ไม่สามารถหลบหนีไปไหนได้หรอก ต่อให้เขาจะไปจากสำนักศึกษาเฟิงหัวก็ตาม!”
ลานชุมนุมเต็มไปด้วยผู้คนที่พากันเย้ยหยันและกระตือรือร้นที่จะเติมเชื้อไฟ และยังมีคนที่ซ่อนตัวเพื่อรอชมและสนุกกับการแสดงนี้
จวินอู๋เสียเดินเข้ามาใกล้ลานชุมนุมมากขึ้นเรื่อยๆ สายตาทุกคู่ในลานชุมนุมก็หันไปจ้องมองนาง
หนิงซินและอิ่นเหยียนยืนอยู่ในกลุ่มศิษย์ ใบหน้าของพวกเขามีรอยยิ้มยินดีและชั่วร้าย
“ดูเหมือนเราไม่จำเป็นต้องทำอะไรเพื่อกำจัดมันเลย ตั้งแต่มันไปหากู้หลีเซิง มันก็ปิดผนึกชะตากรรมของตัวเองแล้ว ไม่มีทางที่กู้หลีเซิงจะปล่อยเจ้าเด็กเลวนั่นเอาไว้” หนิงซินกระซิบ ดวงตาทอประกายชั่วร้าย แต่รอยยิ้มของนางยังคงอ่อนโยน
“ท่านอาจารย์ของข้าเป็นคนประกาศเรียกรวมตัวพวกเราทุกคนในวันนี้อย่างนั้นหรือ” อิ่นเหยียนเอ่ยถาม
หนิงซินพยักหน้า
“จะเป็นใครไปได้นอกจากเขา”
“หมายความว่าท่านอาจารย์จะเล่นงานจวินเสียวันนี้หรือ”
“แน่นอน จวินเสียคิดว่าตัวเองเป็นใคร เขาคิดว่าเขาจะเกลี้ยกล่อมกู้หลีเซิงให้ปล่อยเขาไปได้แค่เพราะไปอ้อนวอนเขาที่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณน่ะรึ ช่างซื่อจริงๆ” หนิงซินพูดอย่างมีความสุข
อิ่นเหยียนลดเสียงลงและกระซิบว่า “ศิษย์พี่หนิง ถ้ากู้หลีเซิงเล่นงานจวินเสียวันนี้…นั่นจะไม่ผิดแผนของพวกเราอย่างนั้นรึขอรับ”
หนิงซินตั้งใจจะให้จวินอู๋เสียยอมรับความพ่ายแพ้และคลานเข้ามาอ้อนวอนนาง นางจะได้มีโอกาสชักชวนจวินอู๋เสียให้เข้าเป็นคนของนาง แต่ถ้าจวินอู๋เสียถูกฆ่าที่นี่วันนี้…แผนการของนางก็จะพังพินาศ
หนิงซินไม่ใส่ใจ นางพ่นลมออกทางจมูกอย่างดูถูกเย้ยหยันพร้อมกับกอดอกแล้วพูดว่า “กู้หลีเซิงอาจจะปกป้องศิษย์ของเขามาก แต่เขาไม่ใช่คนที่จะยอมให้มือตัวเองเปื้อนเลือด การที่เขาเรียกให้ทุกคนมารวมตัวกันก็เพื่อแก้แค้นให้หลี่จื่อมู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าจวินเสียจะถูกฆ่า ถ้าเขาอยากให้จวินเสียตายจริงๆ เขาก็ใช้วิธีที่เป็นความลับมากกว่านี้ได้ ที่เขาจะทำกับจวินเสียได้มากที่สุด ก็คือการประณามด่าว่าอย่างรุนแรงก่อนจะไล่เขาออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัวไป แต่…”