ตอนที่ 248

Great Doctor Ling Ran

“ บริษัท ประกันภัยแห่งไหนกันที่ส่งเฮลิคอปเตอร์มาถึงโรงพยาบาลหยุนหัวแบบนี้” หมอเรย์และรองผู้อำนวยการแผนฉุกเฉินดู่ นั้นทำท่าทางอยากรู้ใครเป็นเจ้าของเฮลิคอปเตอร์

ผู้อำนวยการฮวงจ้องมองเขาแล้วพูดว่า“ มันต้องเป็นบริษัทประกันภัยด้วยหรอที่สามารถส่งผู้ป่วยด้วยการขึ้นเฮลิคอปเตอร์มา”

“ แล้วผู้ป่วยคนไหนล่ะจะมีเฮลิปคอปเตอร์ถ้าไม่ใช่บริษัทประกันภัย? เพราะมันมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อยสามหมื่นสี่หมื่นหยวนต่อการเดินทางหนึ่งเลยนะ ยิ่งกว่านั้นคนรวยมักจะซื้อประกันด้วยความคุ้มครองที่แบบครอบคลุมอยู่แล้ว…” หมอเรย์สังเกตเห็นใบหน้าที่เยาะเย้ยบนใบหน้าของผู้อำนวยการฮวง มันทำให้เขารู้สึกประหลาดใจ “อย่าบอกนะว่าผู้ป่วยเช่าเอลิปคอปเตอร์มาเอง แล้วเธอมีอาการอย่างไงบ้างล่ะ”

“อาการปวดท้อง . นอกจากนี้ยังมีการบาดเจ็บจากภายนอกอีกด้วย” ผู้อำนวยการฮวง ตอบ

การแสดงออกของหมอเรย์มีท่าทางเปลี่ยนไปอย่างจริงจัง อาการปวดท้องอาจฟังดูเหมือนเป็นสิ่งที่สามารถรักษาได้ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายในโรงพยาบาลเช่นกัน

อาการปวดท้องปกติอาจเกิดมาจากอาหารเป็นพิษหรือปวดประจำเดือนหรือแม้แต่ลำไส้อุดตันหรือไส้ติ่งอักเสบ กรณีที่ซับซ้อนมากขึ้นเท่าไหร่ก็ยิ่งอันตรายมากขึ้นเท่านั้น สำหรับแพทย์ในแผนกฉุกเฉินเคสที่มีปัญหามากที่สุดคือโรคปรสิตโดยเฉพาะที่ไม่ได้เกิดเริ่มต้นที่ท้อง โดยลักษณะของโรคและอาการอาจแตกต่างกันออกไป …

ซึ่งหมอเรย์เป็นแพทย์มานานและโดยปกติเมื่อผู้ป่วยมาถึงโรงพยาบาลเขาจะเป็นคนแรกที่ได้รับผู้ป่วย หัวหน้าแพทย์อื่น ๆ รวมทั้งหัวหน้าแพทย์ทั่วไปจะยืนอยู่ข้างหลังเขาและให้การสนับสนุนหากเกิดเรื่องอะไรขึ้น จนกว่าจะสามารถสรุปอาการได้พวกเขาจะออกมาข้างหน้าและยืนยันโรค

โดยธรรมชาติแพทย์ที่จะต้องทำการทดสอบอาการและข้อผิดปกติให้เสร็จก่อนการวินิจฉัย

สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเช่นนี้ที่สามารถที่เดินทางมาด้วยเฮลิคอปเตอร์มันทำให้เกิดแรงกดดันทางจิตวิทยาต่อแพทย์ที่ต้องทำการการรักษามากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการวินิจฉัยโรคเช่นอาการปวดท้อง หากเขาให้การวินิจฉัยที่ผิดเขาอาจจะต้องเดินออกมาด้วยความอับอายเพียงเท่านั้น และเมื่อคนอื่นๆรู้เขาก็จะกลายเป็นหมอที่ให้การวินิจฉัยที่ผิดพลาดในสายตาของผู้อำนวยการโรงพยาบาลและฝ่ายบริหารอาวุโสทั้งหลายที่ยืนอยู่กับเขา

“ หนึ่งนาที!” ผู้อำนวยการฝ่ายหลี่จากแผนกการแพทย์ก็อยู่ที่นั่นด้วย เขามองไปที่โทรศัพท์ของเขาและตะโกน

ในฐานะหัวหน้าแผนกการแพทย์ผู้อำนวยการฝ่ายหลี่ มักจะรับผู้ป่วยและส่งเขาหรือเธอออกไปในแผนกอื่น ปกติเขาจะไม่ได้รอที่ด้านบนของอาคารเพื่อมารับลมเย็นๆเช่นนี้

ในโรงพยาบาลเช่นโรงพยาบาลหยุนหัวหัวหน้าส่วนหนึ่งของแผนกปกติแล้วการเข้ารับการรักษาจะไม่ทำให้คนอย่างผู้อำนวยการหลี่ต้องรอพวกเขาเช่นนี้ เมื่อ หมอเรย์คิดถึงเรื่องนี้การแสดงออกของเขาก็ยิ่งจริงจังมากขึ้น

เฮลิคอปเตอร์จอดอย่างช้าๆและฝุ่นก็ปลิวไปตามลมที่เกิดมาจากใบพัดของเฮลิคอปเตอร์

เมื่อลมกลายเป็นควันฝุ่นหมอพยาบาลและหมอประจำบ้านเพศหญิงก็ผลักเปลหามและวิ่งไปที่เฮลิคอปเตอร์

ผู้อำนวยการฮวงพยักหน้าเมื่อเห็นว่าถึงเวลาที่เหมาะสม

ในโรงพยาบาลพยาบาลชายเปรียบเหมือนสมบัติล้ำค่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่เช่นแผนกฉุกเฉิน พยาบาลชายมีประโยชน์มากในแง่ของการใช้แรงงานอย่างหนักและดีกว่าพยาบาลหญิงเมื่อต้องเข้ามารับผู้ป่วยหรือสิ่งของหนักๆ

แม้แต่แพทย์ก็ยังไม่เก่งเท่าพยาบาลชายในการดูแลผู้ป่วยเลย พยาบาลปกติสามารถฉีดยาได้ดีกว่าแพทย์และพยาบาลผู้ชายสามารถทำได้ดีกว่าในการจัดการแผลที่เกิดจากอาการกดทับ พวกเขาอาจไม่ชำนาญในการเริ่มต้น แต่พวกเขาสามารถเชี่ยวชาญงานฝีมือได้อย่างรวดเร็ว

“ เสื้อชาแนลใช่มั้ย” หมอเรย์เห็นคนลงมาจากเฮลิคอปเตอร์ในระยะไกล เธออุ้มท้องของเธอและนั่งลงบนเปล จากนั้นเธอก็นอนลงอย่างช้า ๆ และไม่ทำอะไรได้ได้นอกจากเอามืออุ้มท้องเอาไว้

“ คุณรู้ถึงว่าแบรนด์นั้นแบรด์อะไร” เนื่องจากหมอโจวถูกบังคับให้ต้องโอทีเขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่อยากจะพูดคุยกับใคร แต่เพราะเรื่องนี้เขาเริ่มสนใจมากขึ้นก่อนที่เขาจะเริ่มซุบซิบอะไรบางอย่าง

หมอเรย์พยายามอวดและพูดว่า“ ภรรยาของผมเพิ่งซื้อกระเป๋าชาแนลเมื่อสองสามวันก่อน มันแพงมาก แม้ว่าคุณไม่เต็มใจที่ซื้อมันก็ตาม แต่กระเป๋าก็ดูดีทีเดียว แต่มันแพงมากๆ ”

คุณหมอโจวดูที่ป้ายชื่อของ หมอเรย์ก่อนที่เขาจะพูดด้วยความสงสาร“ มันเทียบเท่ากับเงินเดือนสองเดือนของคุณเลยรึเปล่า?”

“ เงินเดือนของผมไม่พอหรอกต่อให้ผมจะใช้เงินอย่างประหยัดก็ตาม โชคดีที่ทางโรงพยาบาลมีการแจกโบนัส…อืมแต่ถ้าไม่มีโบนัสเธอก็คงขอชาแนลผมอยู่ดี ” หมอเรย์อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องกระเป๋าขอภรรยาในขณะที่เขาเฝ้าดูผู้ป่วยที่ใกล้เข้ามาและกล่าวว่า“ จากสิ่งที่ผมรู้นั้นคือเสื้อเชิ้ตชาแนลราคาแพงมาก นี้มันพึงเป็นเสื้อเชิ๊ตตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวในซีซันนี้ เสื้อเพียงอย่างเดียวนั้นมีค่าใช้จ่ายอย่างน้อยห้าหมื่นถึงหกหมื่นและรองเท้าจะมีราคาหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่น แม้แต่อุปกรณ์เสริมทั่วไปก็มีราคาอยู่ระหว่าง 2-3 พันถึงหมื่น ชุดค่าผสมแบบสุ่มจะมีค่าใช้จ่ายประมาณหนึ่งแสน ถ้าคุณบวกค่าซักรีดคุณต้องเสียปีละเท่าไหร่ลองคิดดูซิ?”

“ ผู้ป่วยที่อยู่ตรงหน้าพวกเราเธอก็เหมือนธนาคารเดินได้ดีๆนั้นเอง ” หมอโจวยิ้ม เขาหยุดครู่หนึ่งแล้วยกคิ้วขึ้น “ แต่เธอค่อนข้างสวย ”

“ นั่นก็จริง! ใบหน้าของเธอเรียวยาว ผมคิดว่าการแต่งหน้าของเธอทำโดยช่างแต่งหน้าชื่อดังแน่ คุณเคยได้ยินไหมว่ามันอาจมีค่าใช้จ่ายสักสองสามพันเหรียญสหรัฐสำหรับคนดังในการจัดแต่งทรงผมของพวกเขา? นั่นมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการผ่าตัดเปิดกะโหลกอีกนะสำหรับโรงพยาบาลของเรา ฉันคิดว่าคนดังในยุคของเราคงโดนล้างสมองจนหมดแล้ว…” หมอเรย์อดไม่ได้ที่จะพูดเพิ่มเติม“ เธอดูไม่เหมือนคนดังเธอจะรู้สึกอย่างไรที่ได้ใส่เสื้อเชิ้ตที่มีราคาอย่างน้อย 100,000 หยวน?”

“ หมอเรย์…” เขาได้ยินเสียงอันลึกซึ้งของ ผู้อำนวยการฮวงจากด้านหลังพวกเขา

หมอเรย์คุ้นเคยกับเสียงของ ผู้อำนวยการฮวงมาก

เขายังสามารถบอกได้ว่าในปัจจุบัน ผู้อำนวยการฮวงกำลังรู้สึกอะไรอยู่จากวิธีที่เขาพูดออกมา

ตัวอย่างเช่นในขณะนั้นเสียงของ ผู้อำนวยการฮวงทำให้ หมอเรย์คิดในหลายสถานการณ์ทันที ในเวลาเช่นนั้นเขาดูเหมือนจะจำบางอย่างที่ผู้อำนวยการฮวงพูดเช่น “ดูผิวของคุณเอง!

“ ผมสามารถฉีกผิวหนังของคุณออก คุณเชื่อฉันไหม?

“ คุณต้องการที่จะบริจาคผิวของคุณไหม?”

รอยยิ้มแห่งปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของหมอเรย์เขาตอบด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ผู้อำนวยการแผนก?”

เขาพูดสองคำนี้พร้อมกับน้ำเสียงที่สูงขึ้นเพื่อบ่งบอกถึงคำถามและมันเป็นสัญญาณที่แสดงว่าเขาเคารพ ผู้อำนวยการฮวงในอดีตซึ่งเคยเป็นคนที่ค่อนข้างดุมากๆ

แน่นอนว่าเป็นผู้อำนวยการฝ่ายแน่นอน ผู้อำนวยการฮวงเมื่อเจ็ดถึงแปดปีก่อน ตั้งแต่ หมอเรย์ได้กลายเป็นแพทย์ผ่าตัดเต็มตัวเขาไม่ค่อยเห็น ผู้อำนวยการฮวงดุด้วยนำเสียงที่ดุดันเช่นนี้มาก่อน อาจเป็นเพราะในช่วงเวลานั้นผู้อำนวยการฮวงยังเป็นคนที่เป็นมิตรกว่านี้ …

ผู้อำนวยการฮวงเห็นผู้ป่วยที่ถูกผลักและพูดว่า“ ระวังๆหน่อย…”

“ ใช่ ” หมอเรย์เกร็งและก้าวไปข้างหน้าเพื่อรับผู้ป่วย

ลมที่เกิดจากใบพัดของเฮลิคอปเตอร์ยังสามารถสัมผัสได้จากระยะไกล

“ สวัสดีผมคือหมอเรย์ คุณคือต้าเทียนฉีใช่ไหม?” หมอเรย์เดินหน้ารับผู้ป่วยโดยไม่รอผู้อำนวยการที่อยู่ข้างหลังเขา นั่นคือขั้นตอนการปฏิบัติงานมาตรฐานในแผนกฉุกเฉิน มันเป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาที่จะให้ผู้ป่วยฟังพวกผู้บริหารแนะนำตัวทีละคน

“ ใช่ ” เทียนฉีดูเหมือนจะอยู่ในวัยยี่สิบต้น ๆ ของเธอ การแต่งหน้าของเธอทำให้เธอดูใบหน้าเรียวยาว เธอมีขนตายาวและผมยาวแม้ว่าแพทย์ไม่ทราบว่าเป็นของจริงหรือปลอม แต่ขาของเธอนั้นยาวมากจริงๆ …

“ ดังนั้นเทียนฉีร่างกายส่วนไหนของคุณที่รู้สึกไม่ดี?” หมอเรย์อยากรู้ชื่อของเธอ แต่เขายังไม่ทันที่จะถาม

เทียนฉีขมวดคิ้วและพูดว่า“ ฉันแค่มีอาการปวดท้อง นอกจากนี้มือของฉันก็ได้รับบาดเจ็บ ”

หมอเรย์เห็นผ้าพันแผลเล็ก ๆ บนนิ้วของผู้ป่วย เขาถอดมันออกแล้วดูที่บาดแผลก่อนที่เขาจะถามว่า“ การผ่านี้เกิดจากมีดผลไม้ไหม?”

“ ไขควง ”

“ ไขควงหรอ เดียวผมจะจัดการกับแผลนี้ที่หลัง ” หมอเรย์เพิกเฉยต่อบาดแผลเล็ก ๆ ในขณะที่เขาพูด เขาถามว่า“ ท้องของคุณเจ็บอย่างไง? มันปวดท้องหรือป่าว? เดียวผมจะลองกดลงไปสุ่มดูว่าคุณจะมีอาการเจ็บตรงไหน? ความเจ็บปวดที่ทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าคุณเหมือนท้องกำลังจะฉีกไหม? หรือจุดไหนเป็นจุดที่เจ็บที่สุด?”

ทั้งคู่คุยกันระหว่างที่เดินไปด้านหลังผู้อำนวยการของโรงพยาบาลจับมือกันและทักทายผู้คนที่มาพร้อมกับเทียนฉี พวกเขาปรากฏตัวหลังจากที่เธอลงจากเฮลิคอปเตอร์

เทียนฉีใช้มือซ้ายของเธอที่ไม่ได้ทำอะไรเพื่อกดท้องของเธอแล้วเธอก็พูดว่า“ ฉันรู้สึกท้องป่อง ”

“ท้องป่อง?”

“ ใช่ฉันรู้สึกท้องป่อง…”

“ โอ้…ความรู้สึกนั้นเป็นอย่างไร? มันแข็งๆหรือป่าว?” หมอเรย์แสดงการให้คำปรึกษาขั้นพื้นฐานขณะที่เขายังคงประเมินสถานการณ์ในสมองของเขา วิธีในการเข้ารับการรักษาคือโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการแสดงความสามารถของเขา เมื่อผู้ป่วยมาถึงห้องปฏิบัติหรือห้องช่วยชีวิตเขาจะต้องทำการวิเคราะห์ตามสภาพของผู้ป่วยและทำการตัดสินใจที่สอดคล้องกันสำหรับการรักษาของเธอ

ในการตัดสินใจหนึ่งในนั้นคือใบสั่งยาสำหรับผู้ป่วย นอกจากนี้เขายังต้องตัดสินใจว่าจะทำการผ่าตัดใดซึ่งแผนกที่เกี่ยวข้องที่ผู้ป่วยควรขอคำปรึกษาและเขาจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะส่งผู้ป่วยโดยตรงไปยังแผนกที่เกี่ยวข้องหรือห้องผ่าตัดปฏิบัติการหรือไม่

หลายสิ่งหลายอย่างอาจทำให้เกิดอาการปวดท้องได้ แต่ถ้าเป็นลำไส้อุดตันหรือไส้ติ่งอักเสบเขาจะต้องตัดสินใจว่าจะให้การดูแลแบบประคับประคองส่งผู้ป่วยไปที่ห้องผ่าตัดปฏิบัติการทันทีหรือขอคำปรึกษาจากแผนกศัลยกรรมทั่วไป ตรงกันข้ามถ้าปวดท้องเกิดจากการติดเชื้อชนิดอื่นแพทย์จากภาควิชาอายุรศาสตร์จะเป็นทางเลือกให้เขาแทน

อย่างไรก็ตามก็ต้องมีการเปรียบเทียบกับการปฐมพยาบาลซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติที่สมเหตุสมผลมันจะดีที่สุดถ้าเขาสามารถรักษาผู้ป่วยได้โดยตรง

หมอเรย์ไม่สามารถหยุดการวิเคราะห์เคสในใจของเขาและเขาวินิจฉัยว่า ‘มันเป็นไปไม่ได้สำหรับผู้ป่วยที่มีสถานะเช่นนี้เพียงแค่ได้รับอาหารเป็นพิษ การติดเชื้อปรสิตที่ซับซ้อนที่สุดนั้นอาจจะเป็นไปได้ ทุกวันนี้เด็ก ๆ หลายคนกฌไม่สนใจเรื่องเนื้องอกในช่องท้อง หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ ก็อาจทำให้ท้องอืด มันจะยิ่งแย่กว่านี้ถ้ามีน้ำในช่องท้อง … ‘

หมอเรย์ไตร่ตรองขณะที่ถามว่า“ คุณกินอะไรมาเมื่อวานและวันนี้”

“ ฉันกินหอยนางรมที่ฝรั่งเศส จากนั้นฉันก็กินเกี๊ยวเนื้อ, ไวน์แดง, ของหวานรวมถึงชีสและปลาของอิตาลี ในตุรกีฉันกินเนื้อสัตว์ทั้งหมดและซุปผัก ในตอนบ่ายฉันกินไส้กรอกเยอรมันประมาณห้าถึงหกชิ้นระหว่างเที่ยวบินและพวกมันก็อร่อยมาก เมื่อฉันกลับมาที่หยุนหัวฉันกินบะหมี่กับชามเล็ก ๆ มันอร่อยมากเลยทีเดียว…” เทียนฉีคำนวณอาหารที่เธอกินไปด้วยนิ้วมือของเธอ

หมอเรย์พูดว่า“ แค่บอกอาหารที่คุณกินเมื่อวานและวันนี้ ”

“ ฉันทานอาหารที่ฝรั่งเศสและอิตาลีเมื่อวานนี้ เราออกเดินทางไปตุรกีวันนี้ ผู้ช่วยของฉันมีรายละเอียดกำหนดการของฉัน…”

“ อืมคุณไปสามประเทศในสองวัน นอกจากในประเทศจีนแล้วนั่นจะมีทั้งหมดสี่อย่างด้วยกันที่คุณทานเข้าไป?”

เทียนฉีพยักหน้า

“ เราจะตรวจสอบระบบย่อยอาหารของคุณก่อน ” หมอเรย์พบว่าชีวิตของเขามันน่าเบื่อ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลและพวกผู้บริหารระดับสูงสนใจแค่ให้เด็กๆที่มีฐานะดีเข้ามารักษาตัวที่นี้แต่ไม่เคยสนใจแพทย์อย่างพวกเขาว่าจะต้องรับมือกับเด็กพวกนี้ยังไง

อย่างไรก็ตามเทียนฉีพยักหน้าและถามอย่างหงุดหงิด“ นิ้วของฉันล่ะ”

“ คุณบอกว่านิ้วของคุณได้รับบาดเจ็บจากไขควงใช่ไหม”

“ ใช่ เพื่อนของฉันส่งหอยนางรมจากญี่ปุ่นมาให้ฉันเพื่อที่ฉันจะได้เปรียบเทียบพวกมันกับหอยจากฝรั่งเศส ใครจะรู้ว่าฉันจะทำร้ายตัวเองเมื่อฉันพยายามเปิดหอยนางรม?”

“ โอ้…ผมจะพาคุณไปรักษา…”

“เขาเป็นหมอ? ฉันต้องการให้เขารักฉัน ” เทียนฉีชี้นิ้วไปที่หลิงรัน

หมอเรย์รู้ได้เลยว่า ผู้ป่วยคนนี้นั้นเป็นคนมีฐานะและคงจะเป็นพวกที่เอาแต่ใจสุดๆอย่างแน่นอน