บทที่ 335 Jarvis ต้องการสู้กันอย่างยุติธรรมสักครั้งไหม

ปลอบใจฉัน ด้วยรักเธอ

หมั้นหมาย?!

หลานเสี่ยวถางมองไปอย่างตกใจ แล้วก็เห็นสายตาโอหยางจวิ้นมองมาทางเธอ

สือมูเฉินจับแขนหลานเสี่ยวถางแน่น ในใจเขาพอจะเดาได้แล้ว

ที่แท้ทั้งสองตระกูลใหญ่ที่ต่อสู้กันจบลงกะทันหันเป็นเพราะหมั้นหมาย?!

และก็คือว่า เดิม หลานเสี่ยวถางกับโอหยางจวิ้นหมั้นกันอยู่?!

เพราะฉะนั้น วันนี้ตระกูลเพอร์เซลล์อวดดีขนาดนี้ เข้ามาต่อว่าเย่ซีโจว และเย่ซีโจวเพราะเรื่องนี้เป็นเหตุ ดังนั้นเลยไม่ถือสาท่าทางของอีกฝ่าย!

แป๊บเดียวบรรยากาศตึงเครียดลง จนถึงเย่ซีโจวหยิบมีดสีทองเล่มหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะกาแฟ เขาเช็ดมันช้าๆ พูดกับ

แดเนียลว่า“ในเมื่อเป็นการเจรจา ก็บอกเงื่อนไขพวกคุณออกมา หลานสาวผมแต่งงานแล้ว และพวกเราเพิ่งเจอตัว พวกคุณยังหวังให้เธอแต่งงานกับตระกูลเพอร์เซลล์อีกเหรอ หรือว่าเปลี่ยนการหมั้นหมายครั้งนี้เป็นผลประโยชน์แบบอื่น?”

เห็นชัดว่าแดเนียลที่เป็นคนอเมริกันแท้ๆ ไม่ได้คิดแบบนั้น เขาส่ายหน้าผลักหลานชายคนเดียวของตัวเองออกมา“ในเมื่อที่ผ่านมาเป็นความผิดพลาด อย่างนั้นก็ควรทำให้ถูกต้อง! หลายชายผมBojanไม่ดีตรงไหน? ภรรยาเขาโดนแย่งไป อย่างงั้นก็ควรแย่งกลับมา!”

หลานเสี่ยวถางฟังแล้วไม่อยากจะเชื่อ แต่ในเมื่อเธอเป็นหัวข้อในการโต้เถียง ถ้างั้นก็ควรกล้ายื่นออกมา แสดงเจตนาของตัวเอง!

ดังนั้นเธอเดินหน้าไปหนึ่งก้าว เปิดปากพูด “ตระกูลเพอร์เซลล์ใช่ไหม? ขอโทษ ความหวังดีของพวกคุณฉันรับไว้ด้วยใจ เริ่มต้นเพราะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน พเนจรอยู่ข้างนอก วันนี้กลับบ้านเป็นวันแรก ตอนนี้ ฉันแต่งงานแล้ว ดังนั้นไม่มีวันแต่งกับใครอีก และคุณโอหยางจวิ้นคนนี้อายุยังน้อย ไม่มีความจำเป็นเพราะการหมั้นหมายเมื่อ20กว่าปีก่อน เสียสละความสุขของตัวเอง!”

โอหยางจวิ้นได้ยินยักคิ้ว ใบหน้าแสดงความสนใจ

แต่แดเนียลฟังจบ ใบหน้ากลับบูดบึ้ง “หุบปาก! เธอไม่มีสิทธิ์มาพูดตรงนี้!”

“เธอเป็นหลานสาวผม ทำไมจะไม่มี?!”เย่ซีโจวที่หมุนมีดสีทองในมือตัวเองอย่างสงบก่อนหน้านี้ ลุกขึ้นทันที ท่าทีเปลี่ยนไป ให้ความรู้สึกราชาผู้มีอำนาจ

นี่ถึงเป็นใบหน้าที่แท้จริงของเจ้าพ่อในถนนเส้นขาวดำที่น่าเกรงขามมั้ง? หลานเสี่ยวถางตกใจ ตอนมองไปทางเย่ซีโจว เกิดความรู้สึกใกล้ชิดขึ้นในใจ

ไม่ว่าเย่ซีโจวเป็นยังไง แต่เขากลับโมโหเพราะเธอ เป็นพิสูจน์ชัดเจนแล้ว เขาใส่ใจเธออยู่!

ความกังวลก่อนหน้านี้หายไปในทันที หลานเสี่ยวถางรู้สึกแค่เพียงห้องโถงที่กว้างใหญ่มีกลิ่นอายของบ้านมากขึ้น

การยืนขึ้นของเย่ซีโจว ในห้องโถงใหญ่ยิ่งเพิ่มความตึงเครียดขึ้น เหมือนจะเกิดการนองเลือดได้ตลอดเวลา

เวลานี้ โอหยางจวิ้นที่ไม่ออกเสียงเลยก่อนหน้านี้กลับพูดขึ้น “คุณปู่ ฟังความคิดเห็นของผมหน่อยได้ไหม?”

แดเนียลมองหลานชายตัวเองก่อนแล้วพยักหน้า

โอหยางจวิ้นมองทางหลานเสี่ยวถาง ยกมุมปากขึ้น “พูดก็พูด ผมกับคุณผู้หญิงคนหน่อยมีวาสนาต่อกันอยู่ ก่อนหน้านี้เคยเจอกันหนึ่งครั้งที่สนามบินหนิงเฉิง และผมยังเคยช่วยเธอ”

ทุกคนประหลาดใจ มองไปทางทั้งสองคนด้วยความพร้อมเพรียง

“ประเทศจีนไม่ใช่มีคำโบราณอยู่ประโยคหนึ่งเหรอ พูดประมาณว่าหากมีวาสนาต่อกัน ห่างกันพันลี้ยังพบกัน?” ดวงตาสีทองของโอหยางจวิ้นหรี่ลง “หรือผมกับเธอเข้ากับประโยคนี้พอดี!”

เดิมหลานเสี่ยวถางยังรู้สึกซาบซึ้งที่โอหยางจวิ้นช่วยเหลือเธอและลูกในท้อง แต่ได้ยินคำพูดเวลานี้ของโอหยางจวิ้น รู้สึกไม่พอใจนิดๆ เธอพิงบนตัวสือมูเฉิน ท่าทีชัดเจน

“Jarvis ต้องการสู้กันอย่างยุติธรรมสักครั้งไหม?” โอหยางจวิ้นพูด “ในเมื่อคนยังมีชีวิตอยู่ อย่างนั้นทุกอย่างก็เป็นไปได้! มาดู สุดท้ายใครจะชนะใครจะแพ้ แบบนั้นคุณหลานก็เป็นของใคร!”

สือมูเฉินมุมปากยิ้มออกมา แต่นัยน์ตากลับไม่ยิ้ม เขาพูดเรียบๆ “ขอโทษด้วย ภรรยาของผม ไม่สามารถเอามาเดิมพัน หวังว่า คุณโอหยางให้ความเคารพจุดนี้ก่อน!”

“ใช่ บางทีผมอาจใช้ศัพท์ไม่ถูก”โอหยางจวิ้นพูดอยู่ หันไปพูดข้างหูกับแดเนียลหลายคำ

แดเนียลเปิดปากพูดทันที “ในเมื่อเป็นเรื่องของหนุ่มสาว ก็ให้หนุ่มสาวมาแก้ปัญหา! แต่การหมั้นหมายยังมีหลายตระกูลเป็นพยาน ถ้าหากพวกคุณเป็นฝ่ายถอนหมั้น ก็ไม่ให้เกียรติตระกูลเพอร์เซลล์ เหยียบย่ำศักดิ์ศรีตระกูลเพอร์เซลล์!”

พูดอยู่ เขาลากโอหยางจวิ้น เดินออกไปด้วยความโมโห

จนถึงคนหลายคนของตระกูลเพอร์เซลล์ออกไป ออเนอร์ถึงวางปืนลง

“คุณพ่อ มีการหมั้นหมายนี้ตั้งแต่เมื่อไร ทำไมฉันไม่รู้เรื่องเลย ?!”เย่เหลียนอีเห็นทุกคนเดินไปแล้ว พูดด้วยความร้อนใจ

เย่ซีโจวนั่งลง พูดว่า“เริ่มแรก ปีที่ลูกอายุ19 พวกเราทั้งสองฝ่ายลงนามเงื่อนไขร่วมกัน ในนั้นก็ระบุไว้แล้ว รุ่นต่อจากลูกและหลานชายของแดเนียล ขอแค่เป็นคนละเพศ ก็ถือเป็นการหมั้นหมาย”

เย่ซีโจวพูดต่อ “ต่อมาลูกตั้งท้อง หลังจากพวกเรารู้ ก็วางแผนให้ลูกกลับมาคลอดลูกแล้วหมั้นหมาย แต่ลูกกลับคลอดถางถางที่อื่น ยังพลัดพรากกัน ต่อมาพวกเราให้คนไปตามหาผลปรากฏว่าถางถางตายแล้ว ดังนั้นก็ไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก”

“ดังนั้น หลังจากฉันคลอดจื่อเฉิน แต่อีกฝ่ายก็เป็นเด็กผู้ชาย ดังนั้นเรื่องนี้ก็ปล่อยทิ้งไป?”เย่เหลียนอีถาม

“เพียงแค่ปล่อยทิ้งไว้”เย่ซีโจวพูด“เพราะทั้งสองตระกูลพูดกันไว้แล้ว การหมั้นเลื่อนไป ก็คือรุ่นต่อจากBojanกับจื่อเฉิน แต่ตอนนี้ถางถางกลับมา ดังนั้น…”

หลานเสี่ยวถางฟังจบ ก็เข้าใจทั้งหมดแล้ว

เห็นที ตระกูลเพอร์เซลล์รู้สึกว่าทางออเนอร์ผิดสัญญา เหมือนโอหยางจวิ้นถูกทอดทิ้งแบบนั้น ดังนั้นถึงหารือกัน

“คุณพ่อ งั้นตอนนี้จัดการยังไงดี?”เย่เหลียนอีพูด “ถางถางและมูเฉินไม่ง่ายที่จะได้อยู่ด้วยกัน พวกเราไม่ควรจับพวกเขาแยกกัน”

“ในเมื่อพูดว่าเป็นเรื่องของหนุ่มสาว งั้นก็ให้พวกเขาจัดการกันเอง”เย่ซีโจววางมีดสีทองในมือ “ทางเพอร์เซลล์ให้ความร่วมมืออย่างดีกับทางทหาร ถ้าหากลงมือ ไม่มีอะไรดีทั้งสองฝ่าย”

“ก็ได้ ฉันเข้าใจแล้ว”เย่เหลียนอีพยักหน้า กลัวหลานเสี่ยวถางกังวล ดังนั้นพูดกับเธอ “ถางถาง、มูเฉิน พวกเธอก็อย่าคิดเรื่องความรับผิดชอบ ทางเพอร์เซลล์ศักยภาพไม่ธรรมดา แต่ทางพวกเราก็แตะต้องไม่ง่ายเหมือนกัน!”

หลานเสี่ยวถางได้ฟังก็ยิ้ม “คุณแม่ หนูรู้แล้ว หนูไม่กังวล! อีกอย่าง พวกเขาอาจไม่ยอมในช่วงสั้นๆ หนูแต่งงานแล้วยังตั้งท้อง จะมาแย่งหนูได้ยังไง?”

“ไม่กังวลก็ดีแล้ว ท้องอยู่ก็ทำใจให้สบาย แบบนี้ลูกคลอดออกมาถึงจะขาวๆอ้วนๆ!”เย่เหลียนอีพูดอยู่ สายตาที่มองทางหลานเสี่ยวถางมีความรู้สึกผิด “ไม่เหมือนตอนแม่ตั้งท้อง เอาแต่วิ่งเต้น ตอนลูกเกิด น้ำหนักแค่2500กรัม รูปร่างทั้งผอมทั้งเล็ก เห็นแล้วแม่ยังน้ำตาไหล”

“คุณแม่ ไม่เป็นไรแม่ดูหนูตอนนี้ก็เติบโตมาอย่างดีถูกไหม?” หลานเสี่ยวถางหมุนตัวหนึ่งรอบ “ผอมก็ไม่เป็นไร แข็งแรงก็พอ!”

คืนนั้น หลานเสี่ยวถางและสือมูเฉินพักที่บ้านหลังเล็กที่เย่ซีโจวจัดไว้ นึกถึงเรื่องตอนกลางวัน หลานเสี่ยวถางรู้สึกตลก

“มูเฉิน คุณไม่รู้สึกว่าแดเนียลนั่นดูเหมือนเฒ่าทารกเหรอ?”

“เฒ่าทารก?” สือมูเฉินสงสัย

หลานเสี่ยวถางพูด “ใช่สิ คุณดูเส้นผมเขาขาวหมดแล้ว ยังเชิดคอหน้าแดงอยู่ในห้องโถงใหญ่ ไม่ตลกเหรอ?”

สือมูเฉินนึกอะไรได้ หยิบแก้มหลานเสี่ยวถางพูดว่า “แต่พูดตามความจริง เมียเป็นที่ต้องการขนาดนี้ ผมรู้สึกเครียดจริงๆ!”

หลานเสี่ยวถางยิ้ม “จริงด้วย ถ้าหากก่อนหน้านี้ฉันไม่หายตัวไป ไม่แน่ว่าคงเป็นคุณผู้หญิงของผู้สืบทอด

ตระกูลเพอร์เซลล์อะไรแบบนั้น!”

“อ๊ะ?” สือมูเฉินหรี่ตา “ยังกล้าคิด?”

หลานเสี่ยวถางจงใจพูดเล่น “ใช่สิ คุณดูโอหยางจวิ้นคนนั้น เป็นผู้ชายคนเดียวของตระกูล จุๆ ทรัพย์สินทั้งหมดต้องตกเป็นของเขาแน่นอน!”

“เขาเด็กกว่าคุณ คุณก็ไม่ถือ?” สือมูเฉินเข้าใกล้กัดที่หูหลานเสี่ยวถางไปหนึ่งที

“เด็กกว่าฉัน?”หลานเสี่ยวถางพูดอย่างสนใจ “เขาอายุเท่าไหร่?”

“เหมือนว่าจะ24-25”สือมูเฉินพูด “ผ่านปีใหม่ คุณก็26ปีแล้ว แก่กว่าเขาปีสองปี”

หลานเสี่ยวถางเห็นสือมูเฉินหึงชัดๆกลับไม่แสดงออก อดพูดอย่างจงใจไม่ได้ “เสียดาย ไม่ใช่แก่กว่าสามปี ไม่งั้นก็ถือว่าได้ทองไปครอง!”

“ยังคิดเรื่องได้ทอง?อ๊ะ?”สือมูเฉินพูดอยู่ก็ใกล้เข้าไป กดทับบนตัวหลานเสี่ยวถาง “ผมจำได้เมื่อวานคุณหมอบอกแล้ว ครรภ์ปกติดีทุกอย่าง และผมก็ไม่ถูกสั่งห้ามแล้ว…”

หลานเสี่ยวถางเข้าใจความหมายของเขาทันที เบิกตากว้างทันที “ไม่ได้ ไม่ได้ ถ้าเกิดโดนลูกจะทำยังไง?”

“งั้นก็คือพ่อเขากำลังเซย์ฮัลโหลกับเขา” สือมูเฉินพูดอยู่ ยื่นมือเหนี่ยวเอวของหลานเสี่ยวถาง

เดิมเธออยู่ต่อหน้าเขาก็ต้านทานอะไรไม่ได้อยู่แล้ว หากไม่ใช่เพราะมีลูก เป็นปราการในการปฏิเสธเขาไป

ดังนั้น หลานเสี่ยวถางก็ยอมแพ้ในเวลาอันสั้น ตอนได้สติกลับมา ก็ถูกสือมูเฉินถอดชุดเหลือตัวเปล่าแล้ว

แก้มของเธอแดงนิดๆ น้ำเสียงอ่อน “คุณเบาหน่อย”

“ได้” สือมูเฉินก้มไปจูบเธอ ถึงเข้าไปอย่างช้าๆ

ทั้งสองเว้นมา3เดือน รู้สึกตื่นเต้นนิดๆ บวกกับมีลูกอยู่ สือมูเฉินก็ไม่กล้าทำนาน ดังนั้นก็เลยไม่ได้เปลี่ยนไปท่าอื่น

ตอนปลดปล่อย เขากอดหลานเสี่ยวถางไว้ พูดข้างหูเธอ “รู้ว่าผัวตัวเองไปใครแล้วใช่ไหม? อยากเป็นคุณผู้หญิงของผู้สืบทอดตระกูลอะไรชาติหน้าก็อย่าหวัง!”

หลานเสี่ยวถางตอนนี้ตัวอ่อนอยู่ในอ้อมกอดสือมูเฉิน เธอยื่นนิ้วกดไปที่เขา กะพริบตา “หึงใช่ไหม?”

สือมูเฉินยักคิ้ว พูดออกมาโต้งๆ “ไม่ใช่เคยบอกคุณไปแล้ว ผัวคุณขี้หึง ขอแค่เป็นผู้ชายก็หึงแล้ว”

พูดจบ ก็พูดเสริมอีก “ผู้หญิงที่รสนิยมทางเพศผิดเพี้ยน ก็หึงเหมือนกัน!”

หลานเสี่ยวถางอยากจะร้องไห้ “มีที่ไหนหึงยังพูดด้วยความมั่นใจขนาดนี้?”

แต่ในใจเธอกลับรู้สึกมีความสุข เธอกัดริมฝีปากล่าง พูดว่า “มูเฉิน คุณสบายใจได้ โอหยางจวิ้นคนนั้นถึงแม้จะเคยช่วยฉัน แต่ฉันมีแค่ความซาบซึ้งใจให้เขา ไม่มีความรู้สึกอย่างอื่น เมื่อกี้ฉันแค่พูดเล่นเท่านั้น คุณผู้หญิงของผู้สืบทอดอะไร สำหรับฉันแล้วมันไม่มีความหมาย! คุณก็รู้ อันที่จริงตอนคุณสร้างAT ฉันก็ชื่นชมคุณแล้ว!”