บทที่ 347 ไม่สามารถแต่งงานกับคนที่ต้องการจะแต่ง

Top Star ระบบปั้นเธอให้เป็นดาว

บทที่ 347 ไม่สามารถแต่งงานกับคนที่ต้องการจะแต่ง

บทที่ 347 ไม่สามารถแต่งงานกับคนที่ต้องการจะแต่ง

บนเตียงใหญ่สีขาวราวกับหิมะ ฮันเอินจีรู้สึกตัวตื่นขึ้น ตอนนี้เธอสวมเพียงชุดนอนหลวม ๆ บนคอที่เปลือยเปล่าของเธอมีรอยจูบหลายจุด

ข้าง ๆ กายมีฮันเจ๋อหยางนอนกอดผ้าห่มหลับสนิท เปิดโชว์หลังที่เปลือยเปล่าของเขา

ตอนที่เข้ามา ซูโย่วอี๋ไม่ทันสนใจ เธอเพิ่งจะรู้สึกเอาตอนนี้ว่าเหยียบอะไรบางอย่างเข้า

มันเป็นกางเกงในผู้ชาย

ความดันโลหิตของซูโย่วอี๋เพิ่มสูงขึ้นอย่างกะทันหัน

ตอนนี้ฮันเอินจีไม่ได้ดิ้นรนหรือแก้ตัวใด ๆ คล้ายว่าเธอพร้อมที่จะถูกจับได้ว่าเป็นชู้นานแล้ว

ใช่

เธอเป็นคนที่บอกให้ซูโย่วอี๋มาดูเรื่องตลกครั้งนี้เองไม่ใช่เหรอ?

ฮันเจ๋อเหยียนสูดหายใจเข้าลึก ๆ “น้องสาว หันไปก่อน”

เขาอยากจะเตะฮันเจ๋อหยางออกจากเตียงเสียตอนนี้ แต่กลัวว่าซูโย่วอี๋จะเห็นสิ่งที่ไม่ควรเข้า

ซูโย่วอี๋หันหลังทันที ขณะที่เธอกำลังจะพูด ก็เห็นไป๋เสิ่นเฉียวเดินเข้ามาอย่างสบายใจเสียแล้ว

“เสิ่นเฉียว ทำไมเธอถึง…”

ก่อนที่จะพูดจบ ซูโย่วอี๋ก็รู้สึกตัว

จะเป็นใครได้อีก คนที่ต้องการทำลายงานแต่งงาน ก็มีแต่ฮันเอินจีเท่านั้นแหละ!

ด้วยรอยยิ้มที่มุมปากของไป๋เสิ่นเฉียว เธอมองไปรอบ ๆ ห้อง “ดีจริง ๆ ดูเหมือนว่าฉันยังไม่พลาดจุดไคลแม็กซ์ไปนะเนี่ย”

“ฮันเอินจี เธอนี่เก่งจริง ๆ เลยนะ ขนาดกับพี่ชายเธอยังกล้า”

ในคำพูดมีร่องรอยของการเสียดสีมากมาย

“ในเมื่อทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว อยากจะร้องจะเล่นอะไรก็รีบทำเข้า อ้อ ปลุกเจ้าหมูโง่ที่อยู่ข้าง ๆ นั่นมาด้วย”

ฮันเอินจีเม้มริมฝีปากอย่างไม่พอใจและผลักคนข้าง ๆ “ฮันเจ๋อหยาง ตื่นสิ”

ฮันเจ๋อหยางเมามาก “อย่า ฉันจะนอน…”

“เดี๋ยวต้องตื่นไปแต่งงานกับเจ้าสาวของฉัน…”

ฮันเอินจีพูดอย่างเย็นชา “พี่แต่งงานไม่ได้อีกแล้ว”

ไม่รู้ว่าประโยคนี้ทำร้ายจิตใจฮันเจ๋อหยางเกินไปหรือเปล่า แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็ลืมตาขึ้น

“ทำไมจะแต่งไม่ได้”

เขาเห็นไป๋เสิ่นเฉียวเป็นคนแรก ตามด้วยฮันเจ๋อเหยียน ซูโย่วอี๋ และฮันเอินจี

เมื่อเขาพบว่าตัวเองนอนบนเตียงเดียวกันกับฮันเอินจี ฮันเจ๋อหยางก็ตกตะลึง

จิตใต้สำนึกบอกให้ตัวเองลุกจากเตียงและอธิบาย

แต่ไป๋เสิ่นเฉียวกลับเข้ามาใกล้ ผลักเขากลับไปที่เตียงและดึงผ้าห่มขึ้นให้เขาด้วย

ปกคลุมตั้งแต่คอลงไปอย่างแน่นหนา

“อย่าขยับ โย่วอี๋กับฉันไม่อยากเจ็บตา”

ฮันเจ๋อหยางรู้สึกกังวล “เสิ่นเฉียว มันไม่ใช่อย่างที่เธอเห็น เอินจีเป็นน้องสาวของฉัน ไม่มีทางที่ฉันจะมีความสัมพันธ์อย่างนั้นกับเธอได้”

“งั้นเหรอ?”

ไป๋เสิ่นเฉียวเตะถังขยะข้าง ๆ จนถุงยางที่ใช้แล้วกระเด็นออกมา

ใบหน้าของฮันเจ๋อหยางซีดลงทันที

เขารีบหันหน้าไปมองฮันเอินจี พูดด้วยเสียงสั่นเครือ “มันเกิดอะไรขึ้น?”

ฮันเอินจีไม่กล้ามองอีกฝ่าย “ฉันเมา”

ฮันเจ๋อหยางกำลังจะคลั่ง

เขาเมาแล้วมีเพศสัมพันธ์กับน้องสาวตัวเองงั้นเหรอ?

นี่มันเรื่องบ้าอะไรวะ!

ฮันเจ๋อหยางจับมือของไป๋เสิ่นเฉียวอย่างร้อนรน “เสิ่นเฉียว ตอนนี้ทุกอย่างยังไม่ชัดเจน ให้โอกาสฉันด้วยเถอะนะ”

“อย่าเพิ่งทิ้งฉัน ตกลงไหม?”

ดวงตาที่ไม่แยแสของไป๋เสิ่นเฉียวเลื่อนตกลงบนใบหน้าของเขา “ฮันเจ๋อหยาง การหมั้นของเราถือเป็นโมฆะ”

ฮันเจ๋อหยางตื่นตระหนก “ไม่ ฉัน… ฉันไม่ได้…”

“เชื่อฉันสิ ฉันไม่มีทางทำผิดต่อเธอแน่”

น้ำเสียงของเขาดูกระวนกระวาย “ฉันอยากแต่งงานกับเธอจริง ๆ และในที่สุดฉันก็ได้โอกาสนี้มา เธอจะยอมแพ้กับฉันง่าย ๆ ไม่ได้นะ”

ไป๋เสิ่นเฉียวชักมือออกด้วยความรังเกียจ “ฮันเจ๋อหยาง ฉันไม่ได้ต้องการแต่งงานกับนายตั้งแต่แรก”

“เหตุการณ์นี้มันบังเอิญทำให้ฉันเห็นว่าการตัดสินใจแต่งงานกับนายมันผิดพลาดแค่ไหน”

“นายต้องทำตัวแมน ๆ หน่อย ตอนนี้ นายควรดูว่าเกิดอะไรขึ้น แทนที่จะมาอ้อนวอนขอการให้อภัยจากฉันอยู่แบบนี้”

“อีกอย่าง ผู้หญิงข้าง ๆ นายบอกว่าเธอเมา แต่เธอจงใจส่งข้อความมาหาฉันและครอบครัวของนาย”

“เจตนาของเธอคืออะไร คิดดูให้ดีเถอะ”

ฮันเจ๋อหยางมองฮันเอินจีด้วยความตกใจ “เธอทำอย่างนั้นเหรอ?”

ดวงตาของฮันเอินจีไม่สั่นไหวหรือหลบซ่อน ไม่มีทั้งร่องรอยของความตื่นตระหนกหรือรู้สึกผิด

เธอใจเย็นมาก

รอยฟกช้ำที่คอทิ่มแทงสายตาฮันเจ๋อหยาง เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าในช่วงเวลาแบบนี้ น้องสาวที่เขาพยายามปกป้องมาตลอดจะแทงข้างหลังเขา

ทำลายความฝันทั้งหมดในชีวิตของเขา

ฮันเจ๋อหยางยกมือขึ้นตบฮันเอินจี “ทำไมกัน?”

ใบหน้าซีกหนึ่งของฮันเอินจีบวมฉึ่ง

เธอมองไปที่ฮันเจ๋อหยางด้วยความไม่เชื่อ “พี่ตบฉันเหรอ?”

“ใช่ คนเขาพูดถูก ถ้ามีไป๋เสิ่นเฉียว พี่ก็คงไม่สนใจฉันอีกแล้ว”

เธอไม่มีความสำนึกเสียใจเลย

ณ จุดนี้ ทุกอย่างมันชัดเจนแล้ว

ฮันเจ๋อเหยียนไม่ต้องการยุ่งกับน้องชายที่ไร้ประโยชน์และฮันเอินจีผู้ชั่วร้ายอีก เขาจึงพาซูโย่วอี๋และไป๋เสิ่นเฉียวไปที่ห้องนั่งเล่น

“คุณไป๋ ผมจะแจ้งให้แขกทราบว่าพิธีจะถูกยกเลิก ตระกูลฮันเป็นฝ่ายผิด และคุณจะไม่ต้องรับภาระใด ๆ”

“สำหรับค่าชดเชย ตระกูลฮันสามารถจ่ายได้ คุณเรียกราคามาได้เลย”

ไป๋เสิ่นเฉียวเลิกคิ้วด้วยท่าทีสบาย ๆ “คุณฮัน ฉันต้องการสามี”

“การแต่งงานระหว่างตระกูลฮันและไป๋ยังคงดำเนินต่อไป แต่คุณเป็นเจ้าบ่าว อย่างนี้เป็นไง?”

ซูโย่วอี๋นิ่งไปสองวินาที “เสิ่นเฉียว เธอเอาจริงเหรอ?”

“แน่นอน เท่าที่ฉันรู้ ประธานฮันยังไม่มีแฟน ก็พอดีเลยไม่ใช่เหรอ”

นี่มันการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์โดยไม่มีความรู้สึกเข้ามาเกี่ยวข้องชัด ๆ

ฮันเจ๋อเหยียนยิ้ม “คุณไป๋ คุณต้องการใครสักคนมาแต่งงาน แต่ผมไม่ใช่”

ที่ฮันเจ๋อหยางเต็มใจจะแต่งงานกับเธอเพราะเขาชอบเธอ

แต่ฮันเจ๋อเหยียนไม่ได้ชอบเธอด้วยนี่

ไป๋เสิ่นเฉียวไม่รู้สึกกระอักกระอ่วนแม้แต่น้อยที่ถูกปฏิเสธ “คุณแต่งงานกับตระกูลไป๋ ไม่ใช่ฉัน”

ฮันเจ๋อเหยียนพูดต่อ “คุณไม่กลัวเหรอว่าตระกูลฮันจะควบรวมตระกูลไป๋?”

ตระกูลไป๋ไม่มีผู้สืบทอดที่เป็นผู้ชาย มีเพียงไป๋เสิ่นเฉียวเท่านั้น

ถ้าผู้เฒ่าไป๋เสียชีวิต สถานการณ์ในตระกูลไป๋คงวุ่นวายกว่านี้แน่

ทุกคนต่างต้องการเค้กชิ้นใหญ่นี้

นั่นเป็นเหตุผลที่ผู้เฒ่าไป๋จึงกังวลที่จะหาผู้สนับสนุนให้กับตระกูลไป๋และเสิ่นเฉียว

ใบหน้าของไป๋เสิ่นเฉียวเย็นชาเล็กน้อย “นั่นขึ้นอยู่กับความสามารถของคุณ”

ใบหน้าเธอแฝงความดุดันที่หาได้ยากในผู้หญิง

ฮันเจ๋อเหยียนยื่นมือขวาออกมา “คุณไป๋ ขอให้การร่วมมือกันในครั้งนี้เป็นไปด้วยดีนะครับ”

ไป๋เสิ่นเฉียวจับมือกลับ “ขอบคุณคุณฮันที่ร่วมมือ”

เรื่องสำคัญอย่างการแต่งงานได้ถูกตัดสินจากเพียงแค่บทสนทนาที่แสนธรรมดานี้

ซูโย่วอี๋ต้องการเกลี้ยกล่อมอีกฝ่าย แต่เธอไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน

แต่ไม่นาน ทั้งสองคนในห้องพากันแต่งตัวและเดินออกมา ฮันเจ๋อหยางดูเลื่อนลอยราวกับวิญญาณหลุดออกจากร่าง

เขาเดินไปหาเสิ่นเฉียว “เสิ่นเฉียว ฉันขอโทษ”

“ฉันรู้ว่าเธอไม่ต้องการแต่งงานกับฉัน ฉันจะยกเลิกการหมั้น แต่เธอ… อย่าเกลียดฉันนะ”

ไป๋เสิ่นเฉียวตบไหล่เขา “ไม่ต้องหรอก ดำเนินการได้ตามปกติเลย”

ฮันเจ๋อหยางเงยหน้าขึ้นด้วยความประหลาดใจ “เธอไม่ว่าอะไรเหรอ?”

“ไม่ แค่ต่อไปนายต้องเรียกฉันว่าพี่สะใภ้ก็พอ”

พี่สะใภ้?

สีหน้าของฮันเจ๋อหยางนิ่งค้าง “เธอจะแต่งงานกับพี่ชายฉันงั้นเหรอ?”

“อืม”

ฮันเจ๋อหยางสติหลุด “ไม่ เธอจะแต่งงานกับพี่ชายฉันได้ยังไง?”

“เสิ่นเฉียว อย่ามาทำเรื่องบ้า ๆ แบบนี้นะ”

แต่ฮันเจ๋อเหยียนมองอีกฝ่ายอย่างเย็นชา “นายนั่นแหละที่ก่อปัญหา”

“ไว้ค่อยคุยกันหลังพิธี”

ฮันเจ๋อเหยียนโบกมือไปที่ประตู จากนั้นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสองคนก็เข้ามา “พวกนายคอยดูเธอให้ดี วันนี้ทั้งวันห้ามปล่อยเธอออกไป”

ฮันเอินจีหน้าเสีย “พี่จะขังฉันเหรอ?”

ฮันเจ๋อเหยียนไม่ตอบและเดินออกไปที่ประตู

ส่วนซูโย่วอี๋และไป๋เสิ่นเฉียวตามไปจากข้างหลัง

แต่ฮันเจ๋อหยางกลับยืนนิ่งอยู่อย่างนั้น

ฮันเจ๋อเหยียนหันกลับมา “ฮันเจ๋อหยาง เรื่องนี้ฉันจะไม่ช่วยนาย”

“นายแก้ปัญหาเอาเอง”

“แต่ถ้านายกล้าปล่อยให้ฮันเอินจีออกมาสร้างปัญหาและทำลายงานแต่ง นายเจอดีแน่”

หลังออกจากห้องสวีทแล้ว ทั้งสามคนก็ลงลิฟต์ไปยังที่จอดรถ

ฮันเจ๋อเหยียนเอามือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า “คุณไป๋ ผมต้องพาคุณกลับบ้านไหม?”

ไป๋เสิ่นเฉียวมองนาฬิกา นี่ตีสี่ครึ่งแล้ว

“ไม่รบกวนคุณฮันดีกว่าค่ะ ฉันเลื่อนเวลาไม่ได้ แต่หวังว่าจะได้พบทีมงานแต่งงานของคุณที่ประตูบ้านของไป๋ในเวลาแปดโมงนะคะ”

“แน่นอนครับ”

ซูโย่วอี๋เข้าไปในรถของฮันเจ๋อเหยียน “พี่คะ…”

เธออยากพูดบางอย่างแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง

ฮันเจ๋อเหยียนปลอบใจเธอว่า “ต้องมีคนเก็บกวาดให้ฮันเจ๋อหยาง อันที่จริง ไป๋เสิ่นเฉียวก็เป็นคู่แต่งงานที่ดี”

“พี่ไม่เป็นไร”

ในที่สุดสุนัขจิ้งจอกตัวเหม็นก็เปล่งเสียงออกมา [ซู่จู่]

[ฮันเจ๋อหยางไม่ได้นอนกับฮันเอินจี]

ซูโย่วอี๋ตกตะลึง

“แล้วถุงยางอนามัย?”

[ฮันเอินจีใส่เจลอาบน้ำเข้าไป]

“รอยจูบบนตัวเธอ?”

[เธอหยิกตัวเอง รวมทั้งเสื้อผ้าด้วย เธอถอดมันเองทั้งหมด]

ซูโย่วอี๋รู้สึกสับสน แต่ในที่สุดเธอก็พูดออกไปว่า “ลืมมันไปเถอะ”

“แม้ว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ฮันเจ๋อหยางก็ไม่คู่ควรกับเสิ่นเฉียว”

ดังนั้น ปล่อยมันไปซะ

อย่างน้อยฮันเจ๋อเหยียนก็จะไม่ปล่อยให้ไป๋เสิ่นเฉียวตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไร้สาระแบบนี้

เมื่อพวกเขากลับถึงบ้าน คู่สามีภรรยาฮันก็ตื่นกันแล้ว ฮันเจ๋อเหยียนอธิบายเรื่อง

ที่เกิดขึ้นเพียงสั้น ๆ

แต่คุณนายฮันมีสีหน้าดูซีดเซียว “ฉันคิดมาตลอดว่าเจ๋อหยางกับเอินจียังเป็นเด็ก”

“เจ๋อเหยียน แม่ทำผิดต่อลูกซะแล้ว”

ก่อนหน้านี้ ฮันเจ๋อเหยียนได้ไล่ฮันเอินจีออกจากตระกูลฮัน โดยไม่ได้ถามความเห็นใคร และขอให้ทุกคนอย่าติดต่อเธออีก

แน่นอน คู่สามีภรรยาฮันไม่เห็นด้วยนัก

จนกระทั่งตอนนี้ พวกเขาจึงเข้าใจเจตนาของฮันเจ๋อเหยียนดี

“ลูกจะทำอะไรก็ได้ เจ๋อหยาง… เขาคงต้องมีโชคชะตาแบบนี้”

งานแต่งงานจัดขึ้นที่เกาะส่วนตัว

สถานที่จัดงานเต็มไปด้วยดอกกุหลาบสีแดงสด มันเป็นดอกไม้สดและถูกขนส่งมาทางอากาศ

เฮลิคอปเตอร์ลงจอดบนลานบิน ฮันเจ๋อเหยียนเดินลงไปพร้อมกับเสิ่นเฉียวที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาว

จิวจิวและซุ่ยซุ่ยยืนอยู่ข้างหน้า ทั้งสองถือกระเช้าดอกไม้ ดูน่ารักราวกับตุ๊กตานำโชคในวันปีใหม่

คู่บ่าวสาวเดินไปที่เวที ส่วนพวกแขกพากันเลิ่กลั่ก

ทำไมเจ้าบ่าวถึงเปลี่ยนคน?

โชคดีที่ญาติและเพื่อนสนิทมาที่นี่ทุกคนและไม่มีใครก่อปัญหา

เมื่อถึงตอนแลกแหวน

ฮันเจ๋อเหยียนหยิบแหวนเพชรหกเหลี่ยมออกมาจากถาดมาใส่ที่นิ้วของไป๋เสิ่นเฉียว

ขนาดพอดีเลย

แต่เมื่อถึงตาของฮันเจ๋อเหยียนแหวนกลับติดอยู่ตรงกลางนิ้ว

แหวนวงนี้ยังเป็นขนาดของฮันเจ๋อหยาง

ไป๋เสิ่นเฉียวพยายามออกแรงดัน แต่ฮันเจ๋อเหยียนจับมือไปไป๋เสิ่นเฉียวไว้ “ไม่ต้องฝืนหรอก มันเข้าไปไม่ได้”

ฮันเจ๋อหยางที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้จากระยะไกล เฝ้าดูคนสองคนบนเวทีอย่างเงียบ ๆ อดที่จะร้องไห้ไม่ได้

ในชีวิตของเขา เขาไม่สามารถแต่งงานกับคนที่เขาต้องการจะแต่งได้ด้วยซ้ำ

พิธีสิ้นสุดลง

งานเลี้ยงฉลองบนเกาะที่ถูกเตรียมไว้อย่างดิบดีกลายเป็นหมันเสียแล้ว

คู่สามีภรรยาฮันส่งแขกทั้งหมดออกไปและมาหาผู้เฒ่าไป๋

ฮันเจียงพูดด้วยน้ำเสียงขอโทษ “ผมขอโทษ”

ใบหน้าที่เหี่ยวย่นของผู้เฒ่าไป๋ยกยิ้ม “ตอนนี้ฉันพอใจกับตอนจบมากแล้วแหละ”

อย่างไรเจ๋อเหยียนก็ดีกว่าเจ๋อหยาง

ไป๋เสิ่นเฉียวต้องการส่งคุณปู่กลับไปโรงพยาบาล แต่ผู้เฒ่าไป๋ส่ายหัวและจับมือเธอ “หลานกลับบ้านไปกับเจ๋อเหยียนเถอะ ไม่ต้องกังวลทางนี้”