ตอนที่ 332 เปิดสี่กล่องรวด

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 332 เปิดสี่กล่องรวด

กล่องสมบัติทองแดงสามใบ และกล่องสมบัติเงินหนึ่งใบ

ทำภารกิจซึ่งกินระยะเวลายาวนาน และระดับความยากสูงเช่นนี้ รางวัลตอบแทนจึงมีมากมาย

เพียงแต่ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะเปิดออกมาเป็นอะไร

ด้วยนิสัยของหลินเยวียนแล้ว โดยมากเขามักจะรอเปิดรางวัลเมื่อมือขึ้น

แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยบอกไปแล้ว ว่าความคิดของหลินเยวียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย

บางครั้งกล่องสมบัติก็ต้องเปิดตอนออกมาสดๆ ร้อนๆ!

ทิ้งไว้นาน ไม่แน่ว่ากล่องสมบัติอาจเย็นชืดไม่น่าพิสมัย

ฉะนั้นเขาจึงไม่คิดให้มากความ เปิดซะเลย

หลินเยวียนเอ่ยปาก พร้อมกับความคิดเช่นนี้ “เริ่มเปิดกล่องสมบัติทองแดงก่อน”

ระบบ [ยินดีด้วย โฮสต์ได้รับบทเพลง ‘ร้อนรน[1]’]

‘ร้อนรน’?

อื้ม เพลงนี้ไม่เลวเลย

สำหรับกล่องสมบัติทองแดงแล้ว รางวัลนี้นับว่ามีมูลค่าสูงมาก

หลินเยวียนไม่ได้คิดมาก

เริ่มเปิดกล่องใบที่สองต่อ

ระบบ [ยินดีด้วย โฮสต์ได้รับความสามารถพื้นฐานในการบรรเลงเครื่องดนตรีทุกประเภท!]

ชั่วขณะนั้น หลินเยวียนสัมผัสได้ว่าในห้วงสำนึกของตนมีความรู้ด้านเครื่องดนตรีนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น

กีตาร์ ไวโอลิน กู่เจิง ฉินโบราณ ซอเอ้อร์หู…

เขาเล่นได้อย่างละนิดหน่อย…

เอาเถอะ

ครั้งนี้นิดหน่อยจริงๆ ทั้งหมดล้วนเป็นความรู้ความเข้าใจระดับพื้นฐาน

ที่เรียกว่าความรู้ความเข้าใจระดับพื้นฐานก็คือ ตอนนี้หลินเยวียนเล่นเครื่องดนตรีได้ทุกประเภท แต่ไม่ได้เชี่ยวชาญในเครื่องดนตรีสักชิ้น เพียงแค่หยุดอยู่ในระดับที่เล่นได้เท่านั้น

ทว่ารางวัลนี้ สำหรับนักประพันธ์เพลงที่ชอบเรียบเรียงเพลงด้วยตัวเองอย่างหลินเยวียนแล้ว นับว่าใช้งานได้จริง!

เครื่องดนตรีมีตั้งกี่ชนิด?

ถ้าหากไม่มีรางวัลนี้จากระบบ ยากที่จะจินตนาการว่าหลินเยวียนจะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะเรียนรู้เครื่องดนตรีทีละชนิด!

เพราะฉะนั้น หลินเยวียนไม่มีทางไม่พอใจรางวัลอย่างความสามารถพื้นฐานด้านดนตรีทุกชนิดอย่างแน่นอน

ในทางกลับกัน

หลินเยวียนรู้สึกว่าเปิดกล่องสมบัติทองแดงมาได้รางวัลระดับนี้ มูลค่าก็สูงมากแล้ว!

โชคดีมากทีเดียว

หลินเยวียนตัดสินใจเปิดสามกล่องรวด!

เขาเอ่ยเสียงดังลั่น “เปิดกล่องสมบัติทองแดงอีกใบ”

หลินเยวียนสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของการถือโอกาสเปิดกล่องตั้งแต่ยังร้อน ก็เหมือนกับการจับสลากนั่นแหละ จับขึ้นมาติดต่อกันหลายครั้งถึงจะตื่นเต้น!

“ติ๊งต่อง!”

ระบบเปิดรางวัลจากกล่องสมบัติทองแดงใบที่สาม [ยินดีด้วย โฮสต์ได้รับทักษะการเขียนตัวอักษรระดับมืออาชีพ!]

พรึบ

ทันทีที่เปิดกล่องสมบัติใบที่สาม ในห้วงสำนึกของหลินเยวียนก็พลันมีความรู้ด้านการเขียนตัวอักษรเพิ่มขึ้นมาในชั่วพริบตา

นั่นหมายรวมทั้งการเขียนตัวอักษรด้วยพู่กัน และการเขียนตัวอักษรด้วยปากกา

“ทักษะการเขียนตัวอักษร?”

ครั้งนี้หลินเยวียนรู้สึกประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีก แต่กลับไม่ได้ดีใจมากนัก

เพราะเวลาของหลินเยวียนในตอนนี้ล้ำค่ายิ่ง เขาไม่สามารถสอนลูกศิษย์ครั้งละมากๆ สอนนักเรียนคนโน้นคนนี้วาดภาพเพื่อหาเงินเหมือนกับแต่ก่อนได้แล้ว

การเขียนตัวอักษรก็เช่นเดียวกัน

ต่อให้สามารถเปิดสอนการเขียนตัวอักษรระดับมืออาชีพได้ แต่เขาก็ไม่สามารถไปเปิดสอนคลาสการเขียนตัวอักษรในมหาวิทยาลัยไหนได้ เพราะฉะนั้นประโยชน์เพียงอย่างเดียวของรางวัลนี้…

คงจะอยู่ตรงที่ หลังจากนี้เมื่อเขาแจกลายเซ็นให้กับคนอ่าน จะไม่ถูกคนอ่านหัวเราะเยาะอีกต่อไป

ก็ดูแล้วกันว่านับแต่นี้เป็นต้นไป จะมีใครกล้าบอกว่าเขาลายมือเหมือนเด็กประถมอีก

ไม่สิ

ในเมื่อมีทักษะการเขียนตัวอักษรแล้ว ทำไมไม่จัดกิจกรรมแจกลายเซ็นซะเลยล่ะ ไม่แน่ว่าอาจเพิ่มยอดขายของเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสก็ได้

หลินเยวียนตื่นเต้นแล้ว

อาจเป็นเพราะหลินเยวียนใส่ใจเรื่องที่ลายมือถูกเยาะเย้ยจริงๆ จึงติดต่อจินมู่ไปทันที และให้จินมู่นำหนังสือมาห้าสิบเล่ม

เขาจะจัดกิจกรรมขายหนังสือแจกลายเซ็นอีกครั้ง เพื่อลบคำสบประมาทเรื่องลายมือของตน!

“ได้ครับ”

ทางจินมู่ตอบรับ

หลังจากวางสาย หลินเยวียนก็มองไปยังกล่องสมบัติใบสุดท้ายจากระบบ

กล่องสมบัติใบนี้ เป็นกล่องสมบัติเงิน!

เปิดกล่องสมบัติทองแดงติดต่อกันสามใบ ตอนนี้หลินเยวียนรู้สึกใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ อยากเปิดกล่องสมบัติเงินใบนี้เช่นกัน

เปิดง่ายๆ เลยเหรอ?

แบบนี้เท่ากับเปิดสี่ใบรวดเลยนะ?

หลินเยวียนกัดฟัน เอ่ยบอก “เปิดกล่องสมบัติสีเงิน!”

“ติ๊งต่อง”

เสียงแจ้งเตือนจากระบบดังขึ้นเป็นครั้งที่สี่ [ยินดีด้วย โฮสต์ได้รับรหัสคดีทั้งหมดของนักสืบปัวโรต์!]

หลังจากที่ระบบแจ้งเตือน หลินเยวียนก็ตะลึงงัน

ที่แท้การเปิดกล่องสมบัติตั้งแต่ได้มาสดๆ ร้อนๆ นั้นดีอย่างนี้นี่เอง?

ทั้งเพลง ทั้งพื้นฐานด้านเครื่องดนตรี ล้วนแต่ไม่เลวเลย

แต่รางวัลจากกล่องสมบัติทองแดงรวมกัน ก็ยังเทียบไม่ได้กับรางวัลจากกล่องสมบัติเงินชิ้นนี้!

นี่มันรหัสคดีของปัวโรต์ทั้งชุดเชียวนะ!

ต้องเข้าใจว่าก่อนหน้านี้หลินเยวียนสั่งผลิตนิยายทีละเรื่อง แต่ละเรื่องต้องจ่ายเงินทั้งนั้น!

ปรากฏว่าครั้งนี้ถึงกับดวงดีเป็นพิเศษ เปิดได้นิยายรหัสคดีของปัวโรต์ทั้งชุด!

แค่นี้ก็รวมนิยายสืบสวนสอบสวนของคุณย่าไว้สามสิบกว่าเรื่องเชียวนะ

ในนั้นรวมไปถึงผลงานชื่อดังระดับโลกอย่างฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์ด้วย!

โชคหล่นทับแท้ๆ!

สมแล้วที่เป็นกล่องสมบัติสีเงิน

หลินเยวียนรู้สึกอิ่มเอมใจเหลือเกิน

ครั้งก่อนเปิดกล่องสมบัติเงินได้เรื่องสมุดมรณะ เก็บไว้ให้อิ่งจือใช้

แต่ในแง่ของมูลค่า ถึงจะเป็นรางวัลจากกล่องสมบัติเงินเหมือนกัน แต่สมุดมรณะเทียบไม่ได้กับรหัสคดีของปัวโรต์เลย!

ช่วยไม่ได้

นิยายรหัสคดีของปัวโรต์มีตั้งเยอะแยะ

ตัวอย่างเช่นฆาตกรรมบนลำน้ำไนล์ที่เพิ่งกล่าวถึงไป

คุณค่าของนิยายเรื่องนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสเลย

นอกจากนั้นก็ยังมี ฆาตกรรมเอบีซี และฆาตกรรมบนชายหาดอีก

นิยายเหล่านี้หากหยิบมาทีละเล่ม ย่อมไม่ใช่คู่แข่งของเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส แต่หากมาทั้งชุดละก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง!

ชั่วชีวิตของอกาธา คริสตี เธอเผยแพร่ผลงานแนวสืบสวนสอบสวนราว 80 เรื่อง

ในนั้นเป็นนิยายสืบสวนสอบสวนซึ่งมีปัวโรต์เป็นตัวเอกไปแล้ว 38 เรื่อง!

กล่าวอีกอย่างก็คือ

หลินเยวียนมีรหัสคดีของปัวโรต์ทั้งชุด ก็เท่ากับครึ่งหนึ่งของผลงานทั้งชีวิตของคุณย่า!

แน่นอน

ในนั้นไม่ได้หมายรวมถึงเรื่องจนศพสุดท้าย เพราะน่าเสียดายที่ในผลงานชิ้นนี้ ปัวโรต์ของพวกเราไม่ได้มีส่วนร่วม

แต่ถึงอย่างนั้น หลินเยวียนก็ไม่ได้คาดหวังมากถึงขนาดนั้นแล้ว

ถึงอย่างไรเมื่อตัดเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส และฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ซึ่งเผยแพร่ไปแล้ว ครั้งนี้หลินเยวียนได้รับผลงานของคุณย่าถึง 36 เรื่องในคราวเดียว!

เขาได้กำไรเต็มๆ!

หลินเยวียนเริ่มวางแผนเวลาเผยแพร่ ‘รหัสคดีของปัวโรต์’ ของตนแล้ว

เขาถึงขั้นพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะเผยแพร่รหัสคดีทั้งชุดในคราวเดียว

แต่ขณะที่หลินเยวียนกำลังขบคิดอยู่นั้น จินมู่ก็ให้คนนำเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสซึ่งยังไม่ได้วางแผงห้าสิบเล่มเข้ามาในออฟฟิศ

“เริ่มเซ็นเลยแล้วกัน”

หลินเยวียนหยิบปากกาบนโต๊ะขึ้นมา

‘ฉู่ขวง’

ตัวอักษรฉวัดเฉวียนคล้ายกับรูปแบบตัวอักษรเฉ่าซูปรากฏลงบนหน้าแรกของนิยาย และเป็นพื้นที่ว่างด้านล่างคำนิยมของคาเธอร์

เมื่อเซ็นชื่อเสร็จแล้ว หลินเยวียนจึงนำไปให้จินมู่บรรจุกลับไปใหม่

จินมู่รับหนังสือมา ตรวจสอบรอบหนึ่งตามสัญชาตญาณ ขณะเดียวกันก็เตรียมตัวเตรียมใจกับฟอนต์นักเรียนประถม

เป็นที่รู้กันว่า ลายมือของหัวหน้านั้นดูไม่ได้จริงๆ ผู้อ่านยอมรับโดยทั่วกันว่าเป็นลายมือของเด็กประถม

ทว่ายามที่จินมู่เห็นลายเซ็นของหลินเยวียนในครั้งนี้ ดวงตาของเขาก็พลันเบิกกว้าง!

ลายเซ็นนี้มีพลังและลื่นไหล น้ำหนักย้ำลงไปถึงด้านหลังแผ่นกระดาษ!

ประหนึ่งมังกรเคลื่อนตัว ลายเส้นของปากกาและน้ำหมึกลากเลื้อยได้จังหวะ แปลกใหม่เฉียบคม ต่อเนื่องและพลิ้วไหวราวเต้นรำ!

เมื่อหันกลับไปมอง

เขาเห็นหลินเยวียนถือปากกา ขีดๆ เขียนๆ นามปากกาของตน ตวัดเส้นสั้นบ้างยาวบ้าง ปราศจากท่วงท่าขณะเขียนลายมือนักเขียนประถมเฉกเช่นก่อนหน้านี้

จินมู่ตกตะลึง

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเหนื่อยใจขึ้นมา

หรือว่าสิ่งที่หลินเยวียนเขียนก่อนหน้านี้ จะเพียงเพื่อหลอกให้เขาดีใจ

ตนก็ดันซื้อสมุดคัดลายมือมาให้หัวหน้าแล้วด้วย น่ากลัวว่าอาจารย์ที่ผลิตสมุดคัดลายมือเหล่านี้ออกมา ฝีมืออาจไม่ได้เหนือไปกว่าหัวหน้าก็ได้ล่ะมั้ง?

……………………………………………..

[1] ร้อนรน หรือที่รู้จักกันในชื่อเพลง ‘ถั่นเท่อ (《忐忑》)’ ประพันธ์โดยโรเบิร์ต โซลลิตช์ ขับร้องโดยกงหลินน่า เป็นเพลงซึ่งไม่มีเนื้อร้อง แต่ใช้คำอุทานในการขับร้อง เพื่อแสดงความรู้สึกร้อนรนและกระวนกระวาย ทั้งนี้ยังใช้เครื่องดนตรีหลากหลายชนิดในการประพันธ์ เช่น เซิง (แคนจีน) ตี๋ (ขลุ่ยจีน) หยางฉิน ไวโอลิน เป็นต้น