ตอนที่ 331 แฟนคลับฉู่ขวงทะลุร้อยล้าน
‘สาวกฉู่ขวงมืออาชีพมาแล้วจ้า’
‘อวยไปอีกสองร้อยปี’
‘แค่อ้าปากก็รู้แล้วว่าเป็นสาวกฉู่ขวง’
‘…’
ฉายานาม ‘สาวกฉู่ขวง’ ของเซินเจียรุ่ยนับว่าเป็นที่รู้กันทั่วทั้งโลกออนไลน์
ถึงขั้นที่มีชาวเน็ตซึ่งเป็นสาวกฉู่ขวงเหมือนกัน ก็ตามมาอวยฉู่ขวงบนพื้นที่แสดงความคิดเห็นด้วย เห็นได้ชัดว่าเซินเจียรุ่ยกลายเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณไปแล้ว
ในพื้นที่แสดงความคิดเห็น หลายคนใช้การพูดซึ่งเซินเจียรุ่ยใช้ในครั้งก่อน
‘มีใครทำได้อีกไหม’
เซินเจียรุ่ยกดไลก์และตอบกลับด้วยอิโมจิชนแก้ว
‘มีใครทำได้อีกไหม’ ของฉู่ขวงได้หยั่งรากลึกในหัวใจของผู้คน ผ่านคำโฆษณาของเซินเจียรุ่ย
ตอนนี้ เป็นวันที่สามหลังจากเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสวางขาย
และในเวลาสั้นๆ เพียงสามวัน ยอดขายเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสก็ทะลุสิบล้านเล่มเป็นที่เรียบร้อย!
บรรดาร้านขายหนังสือได้เห็นพลังอันน่าสะพรึงกลัวในการขายหนังสือของฉู่ขวงอีกครั้ง!
ขณะเดียวกัน
จำนวนแฟนคลับของฉู่ขวงบนปู้ลั่วก็กำลังทะยานสู่หลักร้อยล้าน คาดว่าจะทะลุร้อยล้านภายในเวลาเพียงสองวัน
จะเห็นได้ว่านี่คือความดีความชอบของเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส
ผลงานชิ้นนี้เอาชนะใจแฟนนิยายสืบสวนสอบสวนรูปแบบดั้งเดิมจำนวนมากได้สำเร็จ!
เนื่องจากปัวโรต์ในหนังสือได้รับความนิยมสูงมาก จึงมีแฟนคลับซึ่งสันทัดการวาดภาพ ตั้งใจวาดภาพปัวโรต์ขึ้นมาจากคำบรรยายและคำแนะนำตัวละครของในนิยาย
มีแบบสมจริง
มีแบบการ์ตูน
การปรากฏขึ้นของภาพเสมือนของปัวโรต์เหล่านี้ แสดงถึงความรักของผู้อ่านและความสนใจอย่างกว้างขวางที่มีต่อปัวโรต์
และในช่วงเวลาสำคัญนี้เอง
ยังมีข่าวว่าบริษัทผลิตภาพยนตร์และโทรทัศน์หลายแห่งมีความคิดที่จะซื้อลิขสิทธิ์เรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส และติดต่อผู้จัดการของฉู่ขวงไปด้วยเรื่องนี้
เรื่องนี้กระตุ้นความคาดหวังของผู้อ่านจำนวนมาก ถึงขั้นที่เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อ!
ในความจริงแล้ว บนโลก เรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสก็ถูกนำไปฉายบนจอเงินหลายครั้งเช่นกัน
เป็นผลงานที่เหมาะแก่การดัดแปลงเป็นภาพยนตร์อย่างยิ่ง!
ในออฟฟิศวาดการ์ตูน
จินมู่เอ่ยถามหลินเยวียนอย่างยิ้มแย้ม
“ผมได้รับการสอบถามเรื่องลิขสิทธิ์มาเป็นจำนวนมาก จะลองพิจารณาดูสักหน่อยไหมครับ”
มีบริษัทที่ให้ความสนใจดัดแปลงเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสเป็นภาพยนตร์จริงๆ แต่ไม่ใช่แค่เรื่องนี้
การสอบถามเรื่องลิขสิทธิ์ที่จินมู่กล่าวนั้น หมายรวมไปถึงการ์ตูนเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ และนิยายแปดเล่มอย่างคนขุดสุสาน หรือแม้แต่เรื่องกระบี่เทพสังหารก็ยังมีคนสนใจซื้อลิขสิทธิ์ ทั้งยังมีฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสซึ่งเป็นผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดอีก
มีคนสอบถามเรื่องที่เกี่ยวข้องกับลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และอนิเมชัน เพียงแต่ที่ผ่านมาหลินเยวียนไม่ได้ตอบรับ
เหตุผลที่ไม่ตอบรับนั้นเรียบง่าย
หลินเยวียนกลัวว่าผลงานจะถูกทำเสียหาย
ถ้าถูกดัดแปลงโดยไม่คงเค้าเดิมก็ออกจะน่าเสียดายลิขสิทธิ์เกินไป
แม้ว่าตอนนี้หลินเยวียนจะยังชอบเงิน แต่ก็ไม่ได้ขัดสน เพราะฉะนั้นหลินเยวียนจึงให้จินมู่ตรวจสอบข้อมูลบริษัทสักหน่อย
ถ้าหากบริษัทมีชื่อเสียงในทางที่ดี เขาก็สามารถขายลิขสิทธิ์ให้ได้
“ตรวจสอบแล้วหรือยังครับ”
“ตรวจสอบข้อมูลมาชัดเจนแล้วครับ มีบางบริษัทที่น่าเชื่อถือ ตัวอย่างเช่นบริษัทที่อยากซื้อลิขสิทธิ์ผลิตเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ เป็นบริษัทผลิตอนิเมชันอันดับสามของมณฑลฉู่ ฝีมือของพวกเขานับเป็นแนวหน้าของวงการ อีกอย่างคือพวกเขาเสนอราคามาไม่ธรรมดาเลยครับ”
“ครับ”
“แล้วก็มีบริษัทผลิตภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อว่า ‘สือกวงโปรดักชัน’ พวกเขาอยากซื้อลิขสิทธิ์เรื่องคนขุดสุสานตอนเมืองโบราณกลางทะเลทราย นี่เป็นเล่มแรกของหนังสือชุดคนขุดสุดสาน เพราะฉะนั้นความต้องการในการซื้อลิขสิทธิ์จึงมีมากที่สุด ในสัญญาที่บริษัทนี้เซ็นกับเรา สามารถกำหนดผู้กำกับและนักแสดงได้ เป็นทีมที่ค่อนข้างมีฝีมือในวงการนี้ สามารถรับประกันความจริงจังในการถ่ายทำได้”
“…”
หลังจากการปรึกษาหารือระหว่างจินมู่และหลินเยวียน หลินเยวียนก็ตัดสินใจเรื่องลิขสิทธิ์บางส่วน
อย่างไรก็ดี เขาตั้งกฎไว้อย่างชัดเจนว่าลิขสิทธิ์เหล่านี้ต้องจำกัดจำนวนปี
ในโลกเดิม เนื่องจากนักเขียนเรื่องคนขุดสุสานติดลิขสิทธิ์ที่ทำไว้ แม้ว่าผลงานดัดแปลงภาพยนตร์จะโด่งดังเป็นพลุแตก แต่กลับทำรายได้ไม่มาก ส่วนเหตุผลโดยละเอียดทุกคนลองไปสืบค้นดูได้
ดังนั้นหลินเยวียนจึงระมัดระวังเรื่องลิขสิทธิ์อย่างมาก
ตัวอย่างเช่นเรื่องคนขุดสุสานตอนเมืองโบราณกลางทะเลทราย แม้เขาคิดจะขายลิขสิทธิ์ แต่จะให้เวลาเพียงสามปีเท่านั้น
ภายในเวลาสามปี บริษัทซึ่งซื้อลิขสิทธิ์ไปสามารถถ่ายทำเรื่องนี้ออกมาเป็นซีรีส์ได้
ไม่ว่าพวกเขาจะถ่ายทำหรือไม่ถ่ายทำ หลังจากสามปี หลินเยวียนจะยึดลิขสิทธิ์คืน บริษัทนี้จะไม่สามารถดำเนินการถ่ายทำต่อไปได้ นอกเสียจากว่าพวกเขาซื้อลิขสิทธิ์จากหลินเยวียนอีกครั้ง
แน่นอน ลิขสิทธิ์ในการผลิตอนิเมชันเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ก็สามารถใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้ได้เช่นกัน
เวอร์ชันการ์ตูนของเรื่องนี้กำลังจะจบลงแล้ว การสร้างอนิเมชันต่อนับเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลย
ขณะเดียวกันก็ยังมีแผนเกี่ยวกับเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสเช่นกัน
เรื่องเดียวที่ไม่มีใครยอมซื้อลิขสิทธิ์ก็คือฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ แต่นั่นเป็นเพราะตัวผลงาน ปัญหาไม่ได้อยู่ที่หลินเยวียน
เห็นได้ชัด
ว่าเสน่ห์ของเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์นี้อยู่ที่รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านตัวอักษร รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้นั้นจำเป็นต้องใช้การอ่านถึงจะได้อรรถรส
ฉะนั้น บนโลกจึงมีคำกล่าวที่ว่า ‘คุณย่าเขียนเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์ออกมาตั้งนานหลายปี บริษัทผลิตภาพยนตร์ใช้เวลาหลายสิบปี กลับคิดไม่ตกว่าจะถ่ายทำเรื่องนี้ออกมาอย่างไร’
“รายละเอียดราคา อาจินไปเจรจาเลยครับ”
หลินเยวียนไหว้วานให้จินมู่ไปจัดการเรื่องนี้
หากราคาและเงื่อนไขเป็นที่น่าพอใจ ก็เพียงนำสัญญามาให้หลินเยวียนเซ็น
ค่าลิขสิทธิ์เหล่านี้รวมกันก็เกินหลักร้อยล้านแล้ว!
นอกจากนั้น รายรับต่อปีของหลินเยวียน ก็ทะลุร้อยล้านได้อย่างไม่ยากเย็น!
เมื่อผลงานของทั้งสามตัวตนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รายรับของหลินเยวียนในตอนนี้ จึงน่าสะพรึงกลัวขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
“เห็นทีฉันน่าจะเรียกร้องเพิ่มได้สักหน่อย”
เมื่อคำนวณเงินที่จะได้รับจากการขายลิขสิทธิ์ หลินเยวียนตัดสินใจที่จะเปิดกว้างมากขึ้นในอนาคต และใช้ระบบในการปรับปรุงคุณภาพผลงานของเขาให้มากขึ้น
ตัวอย่างเช่นภาพยนตร์
งั้นพวกไอเทมที่ช่วยยกระดับภาพยนตร์ของเขา ทำไม่ไม่หยิบมาใช้ล่ะ
ถึงอย่างไร สำหรับรายรับในปัจจุบันของหลินเยวียนแล้ว ไอเท็มราคาไม่กี่แสนไม่กี่ล้าน นับว่าน้อยนิดจนไม่จำเป็นต้องเอ่ยถึง
หลินเยวียนกำลังตั้งสติ ปรับสภาพจิตใจ
เรื่องนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับที่ในระยะนี้หลินเยวียนใช้ไอเทมจำพวกยาชูกำลังเพื่ออ่านหนังสือจำนวนมากด้วย
เมื่ออ่านหนังสือมาก เขารู้สึกว่าวิสัยทัศน์ของเขากว้างขึ้นมา เขาไม่ใช่เจ้าคนขี้งกอย่างที่เคยเป็นก่อนหน้านี้อีกต่อไป
หลังจากที่ทัศนคติเปลี่ยนไป หลินเยวียนจึงลงมือจัดการอีกหลายเรื่อง
ขึ้นเงินเดือนให้จินมู่
ขึ้นเงินเดือนให้หลัวเวย
เพิ่มพื้นที่บันเทิงและเกมต่างๆ ในบ้าน
เพิ่มเงินค่าขนมให้น้องสาว
เปลี่ยนรถคันใหม่ที่ดีกว่าเดิมให้พี่สาว
แล้วก็…
คิดสะระตะไปมา เหมือนว่าเขาจะไม่ได้ทำแค่สองสามเรื่อง แถมแต่ละเรื่องก็ล้วนเกี่ยวข้องกับการใช้เงิน
‘ปัญหาแก้ได้ด้วยเงินไม่เรียกว่าเป็นปัญหา’
เมื่อก่อนหลินเยวียนดูหนัง และเห็นนักแสดงกล่าวประโยคนี้ เขามักรู้สึกว่าโกหกทั้งเพ ทว่าในตอนนี้เขาเริ่มจะเข้าใจประโยคนี้มากขึ้นแล้ว
อย่างไรเสีย หากสุ่มเลือกหนึ่งในสามตัวตนของหลินเยวียนในตอนนี้มา รายรับของแต่ละตัวตนก็น่าดูชมมากทีเดียว
ต่อให้เป็นอิ่งจือซึ่งไม่ค่อยมีตัวตนสักเท่าไหร่นัก ลำพังเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ บวกกับค่าลิขสิทธิ์ที่จะได้รับหลังจากนี้ ในเวลาหนึ่งปีน่าจะทำรายได้หลายสิบล้าน
ขณะกำลังขบคิดเช่นนี้
จู่ๆ หลินเยวียนก็ได้รับข้อความแจ้งเตือน
[ติ๊งต่อง! ยินดีด้วย โฮสต์ทำภารกิจบัญชีผู้ใช้ของฉู่ขวงมีแฟนคลับทะลุหนึ่งร้อยล้านสำเร็จ ได้รับรางวัลเป็นกล่องสมบัติเงินหนึ่งใบ และกล่องสมบัติทองแดงสามใบ!]
……………………………………………………..