ตอนที่ 330 หัตถ์พระเจ้า

เมื่อเผชิญกับผลงานชั้นยอดอย่าง ‘ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส’ นักเขียนวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนทุกคนทำได้เพียงบอกว่าฉู่ขวงฝีมือระดับปีศาจ!

อันที่จริง มันยากที่จะจินตนาการว่างานคลาสสิกที่สามารถทำให้สมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนให้คะแนนสูงเป็นพิเศษนั้น จะเป็นผลงานของนักเขียนที่มีประสบการณ์ในหมวดหมู่สืบสวนสอบสวนไม่มาก

ฉู่ขวงผลิตผลงานอย่างมีประสิทธิภาพจริงๆ

เขียนนิยายแฟนตาซีได้ เชี่ยวชาญการเขียนเรื่องสั้น แค่ผลิตผลงานข้ามสองรูปแบบหลัก ก็เป็นนักเขียนเปี่ยมพรสวรรค์ที่วงการนิยายให้การยอมรับแล้ว

แต่หากกล่าวถึงผลงานแนวสืบสวนสอบสวนที่ฉู่ขวงสร้างสรรค์จริงๆ อันที่จริงมีเพียงเรื่องฆาตกรรมโรเจอร์ แอ็กครอยด์เท่านั้น แต่ปรากฏว่าเพียงครั้งแรกที่ก้าวเข้ามาในวงการนิยายสืบสวนสอบสวน ฉู่ขวงก็ทำให้รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้โด่งดังเป็นพลุแตกได้อย่างงดงาม!

ส่วนเรื่องสั้นชื่อว่าสะพานแขวนตงตงหล่นลงมาซึ่งเผยแพร่ไปเมื่อเดือนก่อน ทุกคนไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก

พูดให้น่าฟังสักหน่อยก็คือ ฉู่ขวงตกแต่งและเสริมอรรถรสให้กับรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้

พูดให้แทงใจดำสักหน่อยก็คือ หมอนี่ไม่มีอะไรทำ ก็เลยปั่นหัวคนอ่านเล่น พลางรับเงินค่าต้นฉบับก้อนโตจากบล็อก ได้รับความสนใจมากจนเต็มอิ่มทีเดียว

จนถึงตอนนี้ ภาพจำที่วงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนมีต่อฉู่ขวงก็คือ เขาเป็นอัจฉริยะที่ชอบปั่นหัวคนอ่าน หลอกลวงคนอ่าน และมักใช้อุบายอย่างรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ก็เท่านั้น

จนกระทั่งฉู่ขวงปล่อยเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส ข้อกังขาทั้งหลายในแวดวงวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนก็พังทลายลงต่อหน้าผลงานเรื่องนี้ทันที

รูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้

ไม่มีใครพูดว่าฉู่ขวงใช้พรสวรรค์หลอกลวงผู้อ่านอีกต่อไป

เขาเหมือนกับหยอกเย้าเป็นครั้งคราวเสียมากกว่า แท้จริงแล้วเขาเป็นปรมาจารย์ด้านวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนผู้ทรงภูมิ!

ประหนึ่งว่าเขาทำการแสดงด้านวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนอันสัตย์ซื่อ ซึ่งเริ่มต้นที่ปัวโรต์ และจบลงที่ปัวโรต์!

จากรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ จนถึงรูปแบบดั้งเดิม…

จากผลงานเพื่อความสนุกสะใจ จนถึงผลงานแนวไขปริศนาสุดคลาสสิก…

ในฐานะผู้ดำเนินเรื่อง ปัวโรต์มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นเทพเจ้าแล้ว!

และในฐานะผู้ให้กำเนิดตัวละครนี้ ฉู่ขวงจึงได้กลายเป็น ‘หน้าใหม่’ ที่มีฝีมือระดับปีศาจในสายตาของเหล่านักเขียนในวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน!

ใช่ มองจากจำนวนผลงานแนวสืบสวนสอบสวน ฉู่ขวงยังคงเป็นหน้าใหม่

แต่หน้าใหม่คนนี้น่ากลัวเหลือเกิน ไม่มีนักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนคนไหนกล้าใช้คำว่า ‘หน้าใหม่’ เรียกฉู่ขวงหรอก

เพราะฉะนั้นกล่าวว่า ‘ฝีมือระดับปีศาจ’ เห็นจะเหมาะสมกว่า

นี่กลายเป็นฉายานามประจำตัวฉู่ขวง ใครให้ทุกคนรู้สึกลำบากใจยามที่เรียกฉู่ขวงว่าหน้าใหม่กันล่ะ? หน้าใหม่ที่ไหนเขาเปิดตัวมาได้อย่างยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้?

‘ฉู่ขวงกลายเป็นเส้นคั่นอันเลือนรางของวงการวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน จะบอกว่าเขาเป็นนักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนแนวหน้า ผลงานของเขาก็เข้าไปติดสิบอันดับแรก ผลการประชันวรรณกรรมก็เอาชนะนักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนแนวหน้าอย่างเหลิ่งกวงได้ แต่ถ้าบอกว่าเขาเป็นระดับปรมาจารย์อย่างคาเธอร์ละก็ เขาเพิ่งเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนไปได้สองเรื่องเอง! อื้ม ฉันว่าเรื่องสะพานแขวนตงตงหล่นลงมาไม่นับว่าเป็นแนวสืบสวนสอบสวน’

ในวงการมีความเคยชินในการประเมินระดับนักเขียนที่แตกต่างกัน

แต่ถึงอย่างนั้น ทุกคนก็ไม่อาจประเมินระดับของฉู่ขวงได้

คุณสมบัติของเขาน้อยเกินไป และขีดจำกัดด้านบนสูงเกินไป ตอนนี้ผลงานของฉู่ขวงเพียงแค่น้อยเกินไป ไม่มีใครรู้ว่าในอนาคตเขาจะอยู่ในระดับไหน

ถึงอย่างไรเหลิ่งกวงซึ่งเขาเอาชนะได้อย่างขาดลอยในการประชันวรรณกรรมครั้งนี้ ก็เป็นถึงนักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนที่มีหน้ามีตา นี่นับว่าเป็นปัจจัยอ้างอิงในการประเมินฉู่ขวงอย่างหนึ่ง

มีคนส่ายหน้า “ครั้งนี้เหลิ่งกวงออกจะอเนจอนาจไปสักหน่อย”

มีบางคนไม่เห็นด้วย ‘ถ้าแพ้ให้เรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสละก็ ไม่นับว่าขายหน้านะ เพราะต่อให้เป็นใครก็คงเหมือนกัน’

คนก่อนหน้านี้ทอดถอนใจ ‘แต่ยังไงก็แพ้ กลายเป็นแบ็กดร็อปให้ฉู่ขวง’

คนหลังเอ่ยอย่างจริงจัง ‘คุณไม่รู้สึกเหรอว่าไม่มีใครหัวเราะเยาะเหลิ่งกวงเลย เขาแพ้แล้วจริงๆ แต่เขาแสดงระดับของเขาเอง เพียงแต่คู่แข่งแข็งแกร่งผิดมนุษย์มนาไปหน่อยก็เท่านั้นเอง’

ขณะที่ทั้งสองฝั่งกำลังถกเถียงกัน ผู้อาวุโสท่านหนึ่งก็เอ่ยขึ้น

‘ไม่มีใครมีคุณสมบัติพอที่จะหัวเราะเยาะเหลิ่งกวงหรอก ต่อให้นักเขียนแนวสืบสวนสอบสวนดาหน้ากันมาสู้กับเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส ก็ได้ผลลัพธ์เหมือนกัน’

‘เป็นไง’

‘โดนกันหมด’

กลุ่มแช็ตของนักเขียนวรรณกรรมสืบสวนสอบสวนก็พลันเงียบลง

ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสของฉู่ขวงนี้ เข้าใกล้ผลงานระดับไร้พ่าย เช่นเดียวกับที่ผู้อาวุโสท่านนี้บอก นี่ไม่ใช่ปัญหาของเหลิ่งกวง เพราะไม่ว่าใครเจอกับนิยายเรื่องนี้เข้า ก็คงไม่รอดเหมือนกัน

……

ระลอกคลื่นยังคงขยายตัวออกไป โดยมีอุตสาหกรรมนิยายสืบสวนสอบสวนเป็นจุดเริ่มต้น สุดท้ายก็ซัดสาดไปยังแพล็ตฟอร์มอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

บนสิบอันดับแรกของเว็บไซต์ทางการสมาคมวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสได้รับการบันทึกไว้ในนั้นแล้ว

พื้นที่แสดงความคิดเห็นของนิยายนั้นเต็มไปด้วยคอมเมนต์ชื่นชมและอวยยศ เช่นเดียวกับนิยายสืบสวนสอบสวนเรื่องอื่นๆ ซึ่งได้รับคะแนนประเมินที่สูง

‘ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสของฉู่ขวงใช้รูปแบบดั้งเดิมที่บริสุทธิ์ ถ่ายทอดความยิ่งใหญ่ของแนวสืบสวนสอบสวนแก่ผู้ชม!’

‘ขณะที่นิยายสืบสวนสอบสวนในท้องตลาดเริ่มใช้วิธีการที่คล้ายคลึงกันมากขึ้นเรื่อยๆ เรามักจะเห็นโศกนาฏกรรมเกิดขึ้น นักสืบไปยังสถานที่เกิดเหตุ เพื่อสืบคดีที่ไม่มีใครเข้าใจ หลังจากนั้นก็ทำการสืบคดีอย่างลึกลับซับซ้อน หรือไม่ก็ใช้เวลาไปหลายวันเพื่อหาเบาะแส ภายหลังความจริงปรากฏ เปิดเผยความลับอันน่าตกใจ ในฐานะคนอ่าน ผมทำได้แค่คิดว่าถึงจะไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ยอดเยี่ยมมาก แต่สิ่งที่ฉู่ขวงนำพามาให้คนอ่าน ก็คือการเผชิญหน้ากับความยุติธรรมของทุกคนและนักสืบ แถมยังทำให้เราขบคิดเรื่องมนุษยธรรมนอกเหนือจากในคดีด้วย ผมว่าหาได้ยากจริงๆ’

‘ใช่แล้ว เพื่อทำให้ตอนจบเหนือความคาดหมายมากพอ ก่อนหน้านี้บรรดาผู้เขียนไม่ได้สนใจว่าจะเป็นคดีหรือการสืบคดีของนักสืบ ทำให้คาดไม่ถึงได้มากแค่ไหนก็ทำให้คาดไม่ถึงมากเท่านั้น เพราะฉะนั้นตอนจบจึงเหนือความคาดหมายก็จริง แต่ทำให้ผมรู้สึกว่าเนื้อหาที่อ่านมาก่อนหน้านี้ไร้ประโยชน์ แค่อ่านสิ่งที่เกิดขึ้นในคดี และการไขความลับของนักสืบในตอนสุดท้ายก็เพียงพอแล้ว รู้สึกเหมือนผมเป็นคนงี่เง่าเมื่ออ่านส่วนการสืบคดีก่อนหน้านี้ และเมื่อนักสืบไขปริศนาได้ในที่สุด ถึงได้เข้าใจในที่สุดว่าเกิดอะไรขึ้นในคดีนี้’

‘และเมื่อเอ่ยถึงการเผชิญหน้ากับความยุติธรรมของทุกคนและนักสืบน่ะหรือ?’

‘ผลงานในครั้งนี้ของฉู่ขวงต่างออกไป คุณไม่จำเป็นต้องเสียแรงคาดเดาว่านักสืบสืบคดีอย่างไร นักเขียนจะนำเสนอทุกขั้นตอนของการสืบสวนของนักสืบ และหลักฐานที่เขาได้รับแก่ผู้อ่าน เพื่อให้ผู้อ่านและนักสืบไขคดีร่วมกัน คุณจะมีส่วนร่วมโดยไม่รู้ตัว นักเขียนไม่ได้ทำให้ผู้อ่านลำบากใจเกี่ยวกับความรู้เฉพาะทางและสถานการณ์การสืบสวน หรือแม้แต่หลักฐาน ทว่าพยายามชดเชยความเสียเปรียบในการอ่านของผู้อ่าน ให้พื้นที่แก่ผู้อ่านในการขบคิด และจากนั้นจะไม่สร้างประเด็นจากคำถามต่างๆ ระหว่างการสืบคดี แต่จะทำให้เกิดทั้งความแปลกประหลาดจากจุดพลิกผัน และ สมเหตุสมผล ผู้อ่านสามารถคาดเดาและคิดตามการดำเนินไปของเรื่องราวและหลักฐานที่ค่อยๆ เพิ่มขึ้น ได้ข้อสรุป และหักล้างข้อสรุปของตนเอง จากนั้นก็คาดเดา และขบคิดต่อไป…จนกระทั่งสุดท้ายแล้วได้คำตอบ ความคิดของผู้อ่านจะได้รับการพัฒนาไปพร้อมกับเรื่องราวดำเนินไป โดยที่คำตอบที่ได้รับนั้นทั้งสมเหตุสมผลและเหนือความคาดหมาย ดังนั้นผมจึงอดไม่ได้ที่จะชื่นชมความคิดอันละเอียดลออและแนวคิดที่แยบยลของนักเขียน’

‘ผมว่าพวกนิยายนักสืบไม่กล้าบอกผู้อ่านถึงแนวทางการสืบสวน วิธีการ และหลักฐานของคดี เพียงเพราะกลัวว่าผู้อ่านจะเดาผลออกมาเร็วเกินไป และหมดความสนใจในเนื้อเรื่อง แต่สิ่งนี้ควรดำเนินไปในแง่ของโครงเรื่องและพล็อต แทนที่จะใช้เล่ห์เหลี่ยมหลอกลวงผู้อ่าน และมักชอบทำให้นักสืบกลายเป็นเทพเจ้า อันที่จริง มันไม่ได้ทำให้ผู้อ่านรู้สึกเท่าเทียมกับตัวละครในเรื่อง ด้วยวิธีนี้ผู้อ่านจะไม่เพียงสูญเสียความสนุก แต่จะยิ่งไม่รู้สึกเคารพอีกด้วย’

‘พูดมาตั้งยาว ที่จริงแล้วสรุปได้ความว่า ครั้งนี้ฉู่ขวงคือเทพ’

คำพูดคล้ายกับเป็นช่องของตนเอง ฟังดูคล้ายว่ากำลังชื่นชมระคนตำหนิ แต่กลับเผยให้เห็นความจริงอย่างหนึ่ง

ฉู่ขวงได้ชนะใจแฟนนิยายสืบสวนสอบสวนรูปแบบดั้งเดิมที่เรื่องมากได้แล้ว

ไม่นานก่อนหน้านี้ เพราะเรื่องสะพานแขวนตงตงหล่นลงมา ชื่อเสียงของฉู่ขวงจึงไปห้อยต่องแต่งอยู่หน้าปากเหวของโลกวรรณกรรมสืบสวนสอบสวน

ปรากฏว่าทันทีที่ฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสเผยแพร่ออกไป วงการนี้ก็คล้ายว่าจะเปลี่ยนไปทันที

และบนโลกนี้ มีหนึ่งคนที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง

คนคนนี้ก็คือสาวกฉู่ขวงผู้เลื่องชื่อ เซินเจียรุ่ย เขาเขียนบนปู้ลั่วไว้เช่นนี้ ‘กล่าวกันว่ามีหัตถ์พระเจ้าในการเล่นหมากล้อม เช่นนั้นฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส ก็มาจากหัตถ์พระเจ้าของฉู่ขวง!’

……………………………………………..