ตอนที่ 359 น้ำตาของหญิงสาว

ฉันเป็นเศรษฐีอสังหาฯในวันสิ้นโลก

ตอนที่ 359 น้ำตาของหญิงสาว

ตอนที่ 359 น้ำตาของหญิงสาว

ก่อนที่เวินม่านจะตอบ ลั่วเหยียนก็โพล่งออกมา

“ไม่ คุณสุขภาพไม่ดี และคุณยังมีแผลเป็น ผมไม่อยากให้คุณเสี่ยง”

เวินม่านต้องการจะบอกว่าตนเองยอมรับได้ และไม่กลัวที่จะถูกกัดหรือข่วน แต่ลั่วเหยียนจับมือเธอไว้แน่น โดยที่สีหน้าของเขาปรากฏความจริงจังอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เวินม่านหมดกำลังใจในทันใด

หากเป็นพ่อแม่ของเธอที่พาเธอมาในวันนี้ พวกเขาก็คงไม่เห็นด้วยที่เธอจะนำแมวที่มีความเสี่ยงสูงกลับบ้าน

เธอสามารถแสดงความเอาแต่ใจและไม่มีเหตุผลออกมาได้ โดยที่ร้องไห้เพื่อร้องขอสิ่งต่าง ๆ แต่เมื่อเธอเจ็บปวด อาเหยียนจะเป็นกังวลและเสียใจ อีกอย่างเธอก็ไม่อยากทำให้พ่อแม่ของเธอเจ็บปวด เธอไม่สามารถเห็นแก่ตัวขนาดนั้นได้

แต่สุดท้ายเธอก็ยังพูดคำว่ายอมแพ้ไม่ได้ ก่อนหยาดน้ำตาจะไหลลงมาทีละหยดโดยไม่อาจกลั้นไว้ได้

หัวใจของลั่วเหยียนกำลังจะแตกสลาย

ในใจของของเขาสาปแช่งทั้งโคตรตระกูลของซ่งเยว่ปิน และสาปแช่งเขาอย่างรุนแรง ถ้าไม่ใช่เพราะซ่งเยว่ปิน ภรรยาของเขาคงไม่ต้องเจ็บปวดเหมือนตอนนี้

“เถ้าแก่ซู รอจนลูกแมวโตกว่านี้ก่อนแล้วลองแยกจากแม่แมวได้ไหม”

ก่อนที่ซูเถาจะพูด เวินม่านก็ดุเขาเจือเสียงสะอื้น

“ทำไมคุณถึงใจร้ายจัง ผู้ชายทุกคนก็เหมือนกัน คุณไม่เคยเป็นแม่คน คุณไม่เข้าใจความเจ็บปวดของการสูญเสียลูกหรอก”

หลังจากที่เธอพูดจบ เธอก็คุกเข่าลงและก้มหน้าทั้งน้ำตา

ลั่วเหยียนรู้ว่าตนเองพูดผิด เขาเฝ้าขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่า ลุกลี้ลุกลนจนกำลังจะคุกเข่าลงไปกับเธอ

ซูเถาเองก็รู้สึกสูญเสียเหมือนกัน

เวินม่านร้องไห้อย่างเศร้าสร้อย ซึ่งตรงกันข้ามกับรอยยิ้มที่สดใสเหมือนดอกทานตะวันเมื่อครู่

ไม่ ไม่สิ… ต้องมีเหตุผลอื่นที่ทำให้เธอร้องไห้อย่างหนัก

น้ำตาของหญิงสาวคนนี้ เมื่อคนเป็นสามีเห็นก็รู้สึกว่ามันช่างน่าเจ็บปวดยิ่งนัก

หลังจากที่เวินม่านระบายอารมณ์เสร็จแล้ว เธอก็ขอตัวไปห้องน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์ ลั่วเหยียนก็พูดกับซูเถาในขณะที่เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุด

“เถ้าแก่ซู ยกโทษให้ผมด้วย ม่านม่านแท้งลูกเมื่อปีที่แล้ว และเธอก็ล้มป่วยอยู่นาน หมอบอกว่าเธอสุขภาพไม่ค่อยดี และคงเป็นเรื่องยากที่จะมีลูกอีกครั้ง และเพื่อป้องกันไม่ให้เธอท้องแล้วเกิดแท้งอีก ผมก็เลยไปทำหมัน แต่ม่านม่านชอบเด็กมาก เธอเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเหมือนลูก คำพูดของผมเมื่อครู่…มันเลยทำให้เธอผิดหวัง”

ซูเถาตกตะลึง

ที่แท้เรื่องราวก็เป็นแบบนี้

ดังนั้นในตอนที่ลั่วเหยียนเสนอที่จะแยกลูกแมวออกจากแม่แมว เวินม่านจึงทรุดตัวลงทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น

หลังจากนั้นไม่นาน ซูเถาก็ถามอย่างไม่แน่ใจ

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะกวนนะ ฉันแค่อยากจะถามว่าทำไมคุณไม่รับเลี้ยงเด็ก”

“เถ้าแก่ซู ในวันสิ้นโลกแบบนี้หัวใจของผู้คนไม่แน่นอน ผมรับประกันได้ว่าแมวและสุนัขที่เราเลี้ยงจะไม่ทรยศเราเมื่อพวกมันโตขึ้น แต่ผมไม่สามารถรับประกันได้ว่าเด็กที่ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของเราจะไม่หักหลังเรา มีเรื่องตลกร้ายเรื่องหนึ่ง มีญาติสนิทมิตรสหายของเราสองคน แทบจะเอาลูกของตัวเองมายกให้เราเลี้ยง เพื่อที่จะได้แบ่งทรัพย์สินภายใต้ชื่อของผมไป” ลั่วเหยียนหลุบตาลง

“เพราะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น จึงเป็นการดีกว่าที่จะประกาศและเปิดเผยต่อสาธารณะว่าเราปฏิเสธการรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมทั้งหมด ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาและข้อพิพาทได้อย่างมาก”

ซูเถาเข้าใจและทันใดนั้นก็รู้สึกเศร้ามาก

คนนอกเห็นเวินม่านเต็มไปด้วยความสดใสและความสุข แต่ไม่มีใครรู้ว่าการที่ไม่มีลูก มันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดสำหรับเธอ

อาจกล่าวได้ว่าไม่มีใครมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง ทุกคนจะต้องเผชิญกับเรื่องที่เศร้าเสียใจ

“คุณลั่ว คุณจะได้พบกับสัตว์เลี้ยงที่เหมาะสมแน่ ๆ ค่ะ แต่อาจต้องรอคอยโชคชะตา”

ลั่วเหยียนเงียบไปครู่หนึ่งแล้วถามว่า

“ในอนาคตแมวตัวเมียของคุณจะมีลูกอีกไหม ผมขอสั่งจองล่วงหน้าได้ไหม มันจะต้องมีลูกมากกว่าหนึ่งตัวแน่นอน คงไม่ได้คิดจะมีลูกแมวแค่ตัวเดียวหรอกใช่ไหม”

ซูเถาตกตะลึง

เธอไม่เคยคิดอยากจะให้ล่าเจียวมีลูกอีก เธออยากจะทำหมันด้วยซ้ำ แต่เธอยังไม่เคยหาสัตวแพทย์ที่เชื่อถือได้

“เอ่อ…จริง ๆ ถ้าคุณต้องการซื้อลูกแมว คุณสามารถหาซื้อได้นะคะ โดยเฉพาะในฉางจิง ลูกแมวหน้าตาดีน่าจะมีเยอะพอสมควร ฉันไม่อยากให้ล่าเจียวของฉันขยายพันธุ์ต่อไป ฉันไม่อยากให้มันทรมาน” ซูเถา

แต่รูปร่างหน้าตาเหมือนเสียวหั่วเยี่ยนอาจจะหายาก แต่ลูกแมวหน้าตาดีธรรมดาทั่วไปไม่ขาดแคลนอย่างแน่นอน

จริง ๆ ในวันสิ้นโลกแบบนี้ มีร้านขายแมวและร้านขายสัตว์เลี้ยงมากมายที่ทำการเพาะพันธุ์ลูกแมว เนื่องจากเงินตอบแทนนั้นสูงทีเดียว ผู้คนสามารถซื้อพวกมันได้ถ้ามีเงิน

การแสดงออกของลั่วเหยียนอึกอัก เขาไม่รู้จะพูดยังไงต่อ

“เมื่อเห็นแมวของคุณ ผมรู้สึกว่าแมวข้างนอกนั้นน่าเกลียดไปเลย ภรรยาของผมก็คงคิดเหมือนกัน ตอนแรกผมไม่ชอบมันด้วยซ้ำ เพราะแมวตัวเมียของคุณดุไปหน่อย แต่เธอก็ยังบอกว่ามันน่าเอ็นดู แต่ผมจะไม่ขอให้แม่ของหั่วเยี่ยนมีลูกแบบหั่วเยี่ยนอีก แต่ขอสักหนึ่งในสามของหั่วเยี่ยนก็พอ”

ซูเถาเอามือก่ายหน้าผาก หนึ่งในสามเหรอ เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเขาจินตนาการถึงยีนเด่นของล่าเจียว

“ไม่ ไม่ ไม่ ความน่าจะเป็นที่จะเกิดแบบหั่วเยี่ยนนั้นน้อยมาก นับประสาอะไรกับคอกต่อไป เป็นไปไม่ได้ที่คอกต่อไปจะมีรูปลักษณ์ที่คล้ายกัน”

ลั่วเหยียนรู้สึกผิดหวังมาก เขาสูบบุหรี่ในมือหมดภายในไม่กี่ที

“ก็จริง ลืมมันไปเถอะ ไว้พวกเราจะพยายามหาอีกครั้ง แต่เถ้าแก่ซู ถ้าคุณเพาะลูกแมวสีสวยคุณภาพสูงในอนาคต ได้โปรดนึกถึงผมนะ ผมจะขอบคุณมาก”

ในเวลานี้เวินม่านที่ล้างหน้าออกมาจากห้องน้ำ ตาของเธอบวมเป็นลูกเชอร์รี่ลูกใหญ่สองลูก

ลั่วเหยียนรีบพาเธอไปรับประทานอาหารอย่างสบายใจ จากนั้นพูดคุยกับเธอ หลังจากได้รับเสบียงแล้ว พวกเขาก็พักผ่อนก่อนหนึ่งคืน จากนั้นก็เดินทางกลับในวันรุ่งขึ้น

เวินม่านไม่เต็มใจนัก เธอมองไปที่ซูเถา “เถ้าแก่ซู ฉันคงไม่มีดวงกับเสียวหั่วเยี่ยนจริง ๆ ฉันจะไม่ฝืนเอามันไป แต่ฉันขออยู่ที่เถาหยางอีกสักสองสามวันเพื่อดูมันได้ไหม”

ซูเถาพยักหน้าและแนะนำเธอ

“ได้สิคะ บังเอิญมากที่วิลล่าของเสี่ยวเหวินอวี้เพื่อนรักของคุณจะสร้างเสร็จพอดี และเธอน่าจะย้ายเข้าไปอยู่ในคืนพรุ่งนี้ คุณสามารถบอกเธอ เพื่อขอพักอาศัยอยู่ด้วยสักสองสามวัน แบบนี้มันจะทำให้บ้านของเธอดูอบอุ่นมากยิ่งขึ้นด้วยนะคะ”

เวินม่านไม่ได้คิดถึงคำว่าวิลล่า เพราะบ้านที่เธออาศัยอยู่ก็ไม่ได้เลวร้ายก็เลยไม่ได้สนใจมากนัก

เมื่อเหวินอวี้มีที่อยู่อาศัย เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมีความสุข และมองไปที่ลั่วเหยียนทันที

แม้ว่าลั่วเหยียนต้องการพาภรรยากลับบ้านอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อมองไปที่ดวงตาที่เปียกชื้นของเธอ คำพูดที่ออกจากปากของเขากลายเป็น “ได้สิ คุณอยู่ได้ถ้าคุณต้องการ ผมจะไปกับคุณ”

“ไม่ คุณกลับไปก่อน คุณเป็นผู้ชายนะ จะเข้าไปในบ้านของเหวินอวี้ได้ยังไง?”

“….ผมจะไม่อยู่กับพวกคุณ เดี๋ยวผมจะไปหาโรงแรมหรือเกสต์เฮ้าส์ก็ได้ ผมไม่สบายใจที่จะปล่อยให้คุณอยู่ในตงหยางตามลำพัง”

สุดท้ายซูเถาก็ต้องเปิดห้องแบบ 1 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่นให้เขาอาศัยอยู่เป็นเวลาสามวัน

แน่นอนว่ามีค่าใช้จ่าย และลั่วเหยียนผู้ร่ำรวยก็จ่ายค่าเช่าเหมาไปทั้งเดือน

ในตอนเย็น ลั่วเหยียนและเวินม่านย้ายกระเป๋าเดินทางที่เรียบง่ายของพวกเขาเข้าไปในห้องชุด 1 ห้องนอนและ 1 ห้องนั่งเล่น เมื่อเห็นการตกแต่งที่ประณีตและเฟอร์นิเจอร์ใหม่เอี่ยมภายใน เวินม่านก็พูดด้วยความงุนงง

“เกรงใจเถ้าแก่ซูจังเลยค่ะ พวกเราจะมาอยู่แค่สามวันแต่คุณเตรียมสิ่งต่าง ๆ ไว้ให้เราอย่างดี พวกโซฟาหนังกลับนี้ที่บ้านพวกเรายังไม่มีเลยค่ะ ไหนจะโต๊ะน้ำชาที่เป็นกระจกรูปทรงพิเศษสองชั้นนี้อีก ดีไซน์ดีมากเลย ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน…”

ลั่วเหยียนถามออกมาด้วยเสียงแผ่วเบา “หรือว่าห้องพักในเถาหยางจะเป็นแบบนี้หมด”