‘นายพลหลิง’ สามคำนี้เหมือนกับสายฟ้าที่ระเบิดดังลั่นไปทั่วสนามรบ ทำให้หัวใจทุกคนสั่นสะเทือน ทั้งสองฝ่ายไม่ว่ามิตรหรือศัตรูที่เดิมทียังคงอยู่ในสนามรบหยุดต่อสู้พร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เงยหน้ามองไปยังหุ่นรบบนฟ้าที่โผล่พรวดออกมาอย่างไม่คาดฝันตัวนั้น
หุ่นรบตัวนี้ใหญ่โตทรงอำนาจกว่าหุ่นรบระดับราชันมากนัก หุ่นรบระดับราชันที่เดิมทีมีขนาดใหญ่กว่าหุ่นรบทั่วไปหนึ่งรอบ เมื่อเทียบกับฝ่ายตรงข้ามแล้ว มันเหมือนกับเด็กสาวน่ารักกระจุ๋มกระจิ๋ม ดูเปราะบางมิอาจต้านลม มันมีรูปลักษณ์โบราณเรียบง่ายที่แตกต่างจากหุ่นรบตัวอื่นๆ ตราสัญลักษณ์นกฟีนิกซ์ที่ลุกโชนตรงหน้าอก รวมถึงเครื่องหมายดาวห้าดวงที่เป็นตัวแทนของประเทศบนแขนขวา สะท้อนเข้าสู่สายตาของทุกคนอย่างล้ำลึก
ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ทำให้ทุกคนในสนามรบสั่นสะท้าน สิ่งที่แตกต่างกันคือ ทหารของสหพันธรัฐหัวเซี่ยตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น เสียงตะโกนคำว่า ‘นายพลหลิง’ เปลี่ยนจากสับสนปนเปมารวมเป็นหนึ่ง ท้ายที่สุดก็หลอมรวมกลายเป็นเพียงเสียงเดียวกัน…พวกเขายินดีอย่างบ้าคลั่ง ถึงขนาดที่มีทหารมากมายตะโกนไปพลางกระบอกตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาอุ่นๆ ไปพลาง
ตรงกันข้ามกับศัตรู ท่าทีข่มขวัญโอหังแต่เดิมเนื่องจากมีการช่วยเหลือของผู้ควบคุมระดับราชันลดฮวบลงมาในพริบตา ถึงขนาดที่มีทหารหุ่นรบหวาดกลัวจนทำการถอยหนี เห็นได้ว่าความเขย่าขวัญที่หุ่นรบตัวนี้มีต่อพวกเขาใหญ่โตมากเพียงใด
ถ้าหากบอกว่าตอนที่หุ่นรบระดับราชันโผล่ออกมาสองตัวเมื่อสักครู่นี้ทำให้สนามรบจมสู่ความเงียบงันไปหลายวินาที เช่นนั้นการปรากฏตัวของหุ่นรบตัวนี้ก็ทำให้ทั้งสนามรบหยุดการต่อสู้ไปทันที โดยเฉพาะศัตรูที่ไม่กล้าขยับเขยื้อนเลย
เนื่องจากทุกคนต่างรู้ว่า หุ่นรบที่เยื้องกรายมาถึงสนามรบกะทันหันและขัดขวางปืนใหญ่ระยะไกลที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของหุ่นรบระดับราชันตัวนี้คือใคร เขาก็คือหนึ่งในผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะสิบสองคนของสหพันธรัฐ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะที่ถูกยกย่องว่าแข็งแกร่งที่สุดในอนาคต หนึ่งในนายพลทั้งสิบของสหพันธรัฐหัวเซี่ย หลิงเซียว!
ชื่อเสียงอันโด่งดังของหลิงเซียว ไม่เพียงเลื่องชื่อระบือนามไปทั่วทั้งสหพันธรัฐ เขายังเป็นตัวตนที่ทำให้ผู้คนทั่วทั้งโลกมนุษย์แหงนหน้ามองด้วยความหวาดกลัวเช่นเดียวกัน ขอเพียงพวกเขาเคลื่อนไหวผิดปกตินิดเดียว หลิงเซียวย่อมกำจัดพวกเขาในพริบตาแน่นอน เมื่อเผชิญหน้ากับอาวุธสุดยอดที่ไม่อาจต้านทานได้เช่นนี้ พวกเขาไม่มีโอกาสชนะใดๆ เลย
ภายในกองบัญชาการภาคพื้นดิน เมื่อเห็นหลิงเซียวปรากฏตัวขึ้นฉับพลัน ผู้บัญชาการตบหน้าตัวเองแรงๆ ทันที ความเจ็บปวดแสนสาหัสทำให้เขาได้สติ ก่อนจะหัวเราะขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง ทว่าดวงตาสองข้างกลับเริ่มแดงฉาน เขาเอ่ยพึมพำกับตัวเองว่า “เป็นนายพลหลิงเซียวจริงๆ ด้วย เขามาแล้ว เขามาแล้ว ชัยชนะต้องเป็นของสพันธรัฐหัวเซี่ยเรา” ประโยคสุดท้าย เขาแผดเสียงตะโกนออกมา เห็นได้ว่าเขาต่อสู้ในสนามรบครั้งนี้อย่างทรมานยากลำบากและอัดอั้นตัวใจมาก ทว่าเวลานี้ ในที่สุดก็ระบายออกมาได้แล้ว
เสียงของเขาเรียกสติทหารทุกคนในกองบัญชาการ พวกเขากระโดดโลดเต้นกู่ร้องท่ามกลางความยินดีอย่างเหลือล้น ภายในช่วงเวลาไม่กี่นาทีสั้นๆ พวกเขาเปลี่ยนจากความสิ้นหวังมาเป็นความหวัง มีทหารหลายคนที่หัวใจไม่แข็งแรงพอ นั่งแข็งทื่ออยู่บนพื้น ลุกขึ้นมาไม่ได้ท่ามกลางเสียงหัวเราะและร้องไห้ไปชั่วขณะหนึ่ง
หลิงเซียวมาถึงสถานที่เกิดเหตุ จุดแรกที่สายตาทอดมองลงไปก็คือตำแหน่งที่หลิงหลานอาศัยอยู่ เมื่อเห็นว่าเขตที่พักอาศัยสับสนอลหม่าน มีควันโขมงขึ้นมาทั่วทุกสารทิศ แววตาของเขาก็เย็นเยียบโดยพลัน รู้ว่าเขายังคงมาช้าไปก้าวหนึ่ง
ในใจหลิงเซียวแค้นเคืองและวิตกกังวล เขาไม่รู้ว่าลูกสาวที่น่ารักของเขาเกิดเรื่องหรือเปล่า ในที่สุดเขาที่เยือกเย็นมาตลอดก็ข่มกลั้นจิตสังหารในใจได้ยากยิ่งแล้ว เขาชูปืนในมือขึ้นมาโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียวก่อนจะเล็งไปยังหุ่นรบระดับราชันที่สร้างหายนะฉากนี้
เขาไม่อนุญาตให้หุ่นรบระดับราชันที่อาจจะทำร้ายลูกสาวสุดที่รักของเขาตัวนี้หนีรอดเงื้อมมือของเขาไปอย่างแน่นอน เขาจะต้องทำให้อีกฝ่ายจ่ายค่าตอบแทนด้วยเลือด!
“หลิงเซียว นายทำแบบนี้ไม่ได้นะ” สัมผัสถึงวิกฤติอย่างรุนแรงสายหนึ่งพรั่งพรูขึ้นมาในใจผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชัน เขารู้ว่าฝ่ายตรงข้ามมีเจตนาคิดสังหารแล้ว เมื่อเข้าสู่ขอบเขตระดับราชันก็จะสามารถสัมผัสถึงจิตสังหารของอีกฝ่ายได้
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันรู้ดีว่า เขาย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะ การต่อกรกับผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะ นอกเสียจากว่าเป็นคู่ต่อสู้ที่อยู่ระดับเดียวกัน หรือไม่ก็อาศัยผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันจำนวนค่อนข้างมากตัดสินใจลากอีกฝ่ายให้ตายตกตามกันอย่างไม่กลัวตายแล้ว บางทีอาจจะยังมีโอกาสาสร้างความเสียหายต่ออีกฝ่ายได้…อ่านให้ชัดๆ นะ ว่าเป็นการสร้างความเสียหาย ไม่ใช่การทำลาย พอถึงระดับอย่างเช่นพวกเขาย่อมไม่มีทางปรากฏปาฏิหาริย์การต่อกรข้ามระดับอย่างแน่นอน
“นายฆ่าฉันก็จะฝ่าฝืนปฏิญญาสากลนะ” ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันกล่าวด้วยเสียงหวาดกลัว
“ตอนที่นายตัดสินใจยิงโจมตี ก็ไม่มีคุณสมบัติพูดประโยคนี้กับฉันแล้ว” หลิงเซียวตอบกลับอย่างเย็นเยียบ กล้าแตะต้องลูกสาวของเขาก็ต้องเตรียมตัวตาย
หลิงเซียวเหนี่ยวไกปืนในมือโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว ลำแสงสีฟ้าอ่อนสายหนึ่งสาดออกมาจากกระบอกปืน ยิงตรงไปที่หุ่นรบของฝ่ายตรงข้าม
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันบังคับหุ่นรบให้หลบออกทันที พริบตาเดียว ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันก็หลบหนีออกห่างจากที่เดิมไปเกือบหลายร้อยเมตร ทุกคนบนพื้นต่างเห็นว่าหุ่นรบระดับราชันหลบลำแสงที่หลิงเซียวยิงออกมาสายนั้นพ้นแล้ว ทหารสหพันธรัฐที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้นอดคิดทอดถอนใจไม่ได้ ขณะที่ศัตรูโห่ร้องด้วยความยินดี วินาทีถัดมา ทุกคนจ้องมองหุ่นรบระดับราชันตัวนั้นด้วยความตื่นตะลึงและส่งเสียงไม่ออกอีกเลย
ที่แท้ หุ่นรบระดับราชันที่หลบออกไปร้อยเมตร แขนขวาของเขาถูกทำลายแล้ว เส้นทางแห่งความตายกระบอกมหึมาที่เดิมทีติดตั้งอยู่บนแขนขวาของเขาร่วงลงพื้นทันทีเนื่องจากไม่มีแรงประคับประคอง มันกระแทกลงไปอย่างหนักหน่วง ส่งเสียงดังสนั่น
นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทหารหุ่นรบที่ตระหนักได้อย่างรวดเร็วรู้ดีว่า สิ่งที่ทำลายแขนขวาหุ่นรบระดับราชันต้องเป็นลำแสงที่หลิงเซียวยิงออกมาแน่นอน ทำไมลำแสงที่ถูกหลบพ้นแล้วอย่างเห็นได้ชัดถึงยังโจมตีโดนแขนของฝ่ายตรงข้ามได้อีกล่ะ?
แทบทุกคนต่างไม่เข้าใจ พวกเขาคิดไม่ออก เนื่องจากพวกเขาไม่เชื่อว่าตัวเองจะมองผิดพลาดไป มีเพียงถังอวี้คนเดียวเท่านั้นที่สายตาเปล่งประกาย ดวงหน้าปรากฏร่องรอยความสงสัย และคล้ายกับตระหนักอะไรบางอย่างได้ ทว่าบอกสาเหตุออกมาไม่ได้
มีเพียงตัวหุ่นรบระดับราชันที่โดนยิงเท่านั้นที่เข้าใจว่า เขาโดนยิงได้อย่างไร เพราะว่าตอนที่ฝ่ายตรงข้ามยิงนั้นได้ใช้ทักษะการยิงสูงสุด เงาเวลา!
อันที่จริงแล้วเงาเวลาคือภาพลวงตาอย่างหนึ่ง ซึ่งลำแสงรวมถึงความเร็วที่ผู้โดนโจมตีเห็นนั้น อันที่จริงทั้งหมดเป็นของปลอม หรือพูดอีกอย่างก็คือ ตอนที่ยิงโจมตีนั้นได้มอบความเข้าใจผิดให้กับอีกฝ่าย ความสามารถนี้มีเพียงผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะเท่านั้นถึงจะสามารถครอบครองได้ สาเหตุที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันรู้เป็นเพราะว่าเขาเคยได้รับการชี้แนะจากผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะคนหนึ่งในประเทศตัวเอง ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันคิดว่า เขาอาจจะโดนยิงก่อนหน้าที่จะหลบแล้ว เพียงแต่เขาเพิ่งสังเกตเห็นหลังจากที่หลบแล้วเท่านั้น
นี่ก็คือผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะ ไม่มีช่องทางให้ต้านทานเลย! ในที่สุดผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันก็สัมผัสได้ถึงความไร้กำลังที่ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเผชิญหน้ากับเขา…ยังไม่ทันที่เขาจะมีปฏิกิริยาตอบสนอง เงาดำสายหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเขา
ฟิ้วๆๆๆ! ลำแสงเย็นสี่สายส่องวาบติดต่อกันในชั่วพริบตา วินาทีถัดมา แขนขวาที่เหลืออยู่เพียงข้างเดียวของหุ่นรบระดับราชันถูกลำแสงเย็นสายนี้ตัดขาด ดาบสุดท้ายโจมตีทะลุห้องคนขับของอีกฝ่ายอย่างไร้ความปรานี ความจริงแล้ว จากความสามารถของหลิงเซียว เขาสามารถสังหารศัตรูให้สิ้นซากได้ในกระบวนท่าเดียว เพียงแต่ใช้กระบวนท่าเดียวจัดการศัตรูยากจะกำจัดความแค้นในใจหลิงเซียวได้…
หุ่นรบระดับราชันที่เดิมทีสำแดงแสนยานุภาพข่มขวัญไปทั่วทั้งสนามรบถูกจัดการอย่างคล่องแคล่วว่องไวขนาดนี้ ทุกคนที่อยู่ในที่แห่งนี้ต่างตกใจกับฉากนี้ไปแล้ว ถึงแม้พวกเขารู้อยู่แก่ใจมาตลอดว่า หุ่นรบขั้นเทวะคืออาวุธสุดยอดของโลกมนุษย์ แต่ถึงยังไงก็เป็นเพียงเรื่องเล่าขานเท่านั้น ทหารมากมายไม่อาจเห็นการต่อสู้ของผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะได้ชั่วชีวิต ไม่อาจทำเข้าใจความหมายลึกซึ้งของคำพูดประโยคนี้ ยามนี้พวกเขาได้เห็นพลังรบของผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะอย่างแท้จริง ในที่สุดก็เข้าใจแล้วว่าทำไมมีเพียงหุ่นรบขั้นเทวะที่ถูกเรียกขานว่าเป็นอาวุธสุดยอดของโลกมนุษย์…หุ่นรบระดับราชันที่ทำให้พวกเขาสะพรึงกลัว เมื่ออยู่ต่อหน้าหุ่นรบขั้นเทวะก็ไม่ใช่อะไรทั้งนั้น เขาไม่ต่างจากหุ่นรบตัวอื่นๆ ที่มีตัวตนราวกับมดเลย
ความโกรธเกรี้ยวของหลิงเซียวไม่ได้พอใจขึ้นเพราะว่ากำจัดหุ่นรบระดับราชันไปหนึ่งตัวเลย วินาทีต่อมา เขาปรากฏตัวขึ้นบนฟ้าเหนือกองทัพหุ่นรบ
“เปิดใช้งานระบบเทวทัณฑ์!” ลูกสาวสุดที่รักของเขาไม่รู้ว่าเป็นหรือตายเพราะผู้รุกรานเหล่านี้ ในใจหลิงเซียวบังเกิดจิตสังหาร เขาปลดปล่อยระบบเทวทัณฑ์ อาวุธที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดของหุ่นรบขั้นเทวะออกมาโดยไม่ลังเลเลยสักนิดเดียว
“Belief รับคำสั่ง เปิดใช้งานเทวทัณฑ์!” ไม่ถึงหนึ่งวินาที ด้านหลังหุ่นรบขั้นเทวะ Belief พลันกางปีกอันงดงามออกมาสิบสองข้าง ปีกดูดซับพลังงานอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็ไปจนถึงขีดสูงสุด
“ยิง!” หลิงเซียวกล่าวประโยคนี้ออกมาอย่างเย็นชา ขณะเดียวกันก็กดไกปืนในมืออย่างไร้ความปรานี จากนั้นก็เห็นลำแสงสิบสองสายกวาดไปที่ขบวนหุ่นรบศัตรูซึ่งต้านทานหน่วยรบหุ้มเกราะเอาไว้ พริบตาเดียวก็ทำให้สายตาของทุกคนมืดมัวไปหลายวินาที…เมื่อรัศมีแสงหายไป เมื่อสายตาของทุกคนกลับมาเป็นปกติ ก็เห็นว่าพื้นดินถูกกวาดล้างออกเป็นเส้นทางที่ว่างเปล่าสิบสองสาย มองไม่เห็นซากของหุ่นรบใดๆ ในพื้นดินที่ว่างเปล่าเลยสักนิดเดียว ราวกับว่าพวกมันระเหยไปในพริบตา
พลังปืนใหญ่ที่น่ากลัวนี้ทำให้ทุกคนเข้าใจอีกครั้งว่า ทำไมหุ่นรบขั้นเทวะถึงถูกเรียกว่าอาวุธสุดยอดของโลกมนุษย์ ไม่มีของสิ่งใดสามารถต้านทานพลังปืนใหญ่ที่น่าสะพรึงนี้เลย
เทวทัณฑ์หนึ่งครั้งก็แทบจะกำจัดหุ่นรบศัตรูไปมากกว่าครึ่ง ค่ายทหารทั้งหมดของศัตรูพลันดูเหมือนโหรงเหรงวังเวง ไฟโทสะของหลิงเซียวถึงค่อยเบาบางลงเล็กน้อย เขาเก็บมือเทเลพอร์ตกลับไปที่กลางอากาศอีกครั้ง ติดต่อช่องสื่อสารของทหารทั้งหมดอย่างเฉียบขาด และสั่งการลงไปว่า “บุกโจมตีทุกด้าน กวาดล้างสนามรบ!” ในเมื่อกล้าบุกเข้ามาก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะตาย หลิงเซียวไม่เคยคิดให้ศัตรูพวกนี้มีรอดชีวิตกลับไปเลย
“ครับ ท่านนายพล!” เมื่อได้ยินคำสั่งของหลิงเซียว ทหารหัวเซี่ยทุกคนบนสนามรบก็ตอบกลับด้วยความตื่นเต้น ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้พวกเขาเปลี่ยนจากความสิ้นหวังมาเป็นความหวัง และก็มองเห็นผลแห่งชัยชนะจากในความหวัง เวลานี้พวกเขาเปี่ยมไปด้วยความฮึกเหิม ความอัดอั้นตันใจที่เดิมทีถูกฝ่ายตรงข้ามกดดันมลายหายไปในที่สุด ทหารทุกคนต่างระเบิดพลังออกมา ถาโถมไปหาหุ่นรบที่เหลืออยู่พวกนั้นราวกับหมาป่าที่หิวกระหายก็ไม่ปาน...
ขณะที่ทุกคนพุ่งไปหาศัตรูที่เหลือ มีเพียงถังอวี้ที่เลือกบินไปหาหลิงเซียว ตะโกนเสียงดังว่า “นายพลหลิง ยังมีหุ่นรบระดับราชันอีกตัวลอบเข้าไปในโรงเรียนทหารแล้วครับ…”
เดิมทีหลิงเซียวอยากไปเขตที่พักตรวจสอบสถานการณ์ของหลิงหลาน เมื่อเขาได้ยินคำพูดของถังอวี้ หัวใจพลันกระตุก หุ่นรบระดับราชันอีกตัวละทิ้งผลงานการรบที่กำลังจะมาถึงมือทางนี้แล้วลอบเข้าไปในโรงเรียนทหารอย่างลับๆ เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?
หลิงเซียวก็เหมือนกับหลิงหลาน สิ่งแรกที่เขาคิดคือ เรื่องที่ลูกสาวเขาทำในฐานที่มั่นซวิ่นหลงถูกจับได้แล้วหรือเปล่า? แต่หลิงเซียวลบความเป็นไปได้นี้ทิ้งอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ช่วงเวลานี้เขาอยู่ในโรงเรียนทหาร แต่เขาก็รู้เรื่องทุกอย่างในโลกภายนอกเป็นอย่างดี ไม่พบเค้าลางว่าจักรวรรดิซีซาร์สังเกตเห็นเรื่องนี้เลย…
ตอนนี้เอง สีหน้าของหลิงเซียวเปลี่ยนไปเล็กน้อย วินาทีถัดมาเขาก็หายไปจากในคลองสายตาของถังอวี้ ทิ้งเพียงคำพูดที่ตอบเขาในอากาศว่า “ฝากด้วยนะ!”
หลิงเซียวผลาญพลังงานของหุ่นรบโดยไม่เสียดายเลยสักนิดเดียวเพื่อใช้งานระบบวายุเทพ เนื่องจากเมื่อสักครู่นี้ เขาได้รับข้อความจากลูกสาวตัวเอง ซึ่งมีเพียงพิกัดแห่งหนึ่งรวมถึงตัวอักษรใหญ่ๆ แค่สองคำว่า ‘ช่วยด้วย!’
หลิงเซียวร้อนใจและเดือดดาล เขาแทบจะแน่ใจได้ว่า หุ่นรบระดับราชันที่สมควรตายตัวนั้นอยู่ที่พิกัดนี้อย่างแน่นอน
“หลานเอ๋อร์ อดทนอีกห้าวินาทีนะ พ่อรีบมาแล้ว~!” หลิงเซียวพึมพำกับตัวเอง เขาย่อมไปถึงสถานที่แห่งนั้นได้ในอีกห้าวินาทีให้หลังโดยอาศัยระบบวายุเทพ แต่เขาก็รู้เช่นเดียวกันว่า เมื่อเผชิญหน้ากับหุ่นรบระดับราชัน มีความเป็นไปได้สูงว่าช่วงเวลาห้าวินาทีก็ตัดสินความเป็นความตายของลูกสาวเขาได้แล้ว…