ตอนที่ 336 อสุรกายระดับ 10 ดาวคือสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของฉัน

สตรีมเมอร์สาว กินพิชิตอวกาศ

ตอนที่ 336 อสุรกายระดับ 10 ดาวคือสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของฉัน

ตอนที่ 336 อสุรกายระดับ 10 ดาวคือสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของฉัน

“เนื้ออบแห้งอยู่นี่! อย่าไปกินของที่ตกพื้นสิ!” หัวใจของสวี่หลิงอวิ๋นอ่อนยวบทันทีที่รูปลักษณ์ที่น่าสงสารของเสี่ยวอ้าย

มันยังเด็กอยู่มาก!

หากโอคาซีได้ยินคำพูดดังกล่าว เขาจะต้องทุบหัวเธอแน่นอน

เด็กอย่างนั้นเหรอ! ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่มาตั้งปีแล้ว! ยังจะเด็กอยู่อีกเหรอ?!

ทว่าสิ่งมีชีวิตที่มีขนย่อมเป็นเด็กน้อยไม่ว่ามันจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม!

สวี่หลิงอวิ๋นมีอาหารสำรองมากมาย!

ขณะเดียวกัน เจ้าถั่วชมพูยังคงรอคอยสายเรียกเข้าจากสวี่หลิงอวิ๋น! มันรอมานานแล้วแต่ทำไมเจ้าทาสหญิงยังไม่โทรหามันอีก? ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใช่ไหม? จำเป็นต้องเข้าไปดูที่นั่นหรือเปล่า?!

เจ้าถั่วชมพูรู้สึกลังเล!

สวี่หลิงอวิ๋นกับเสี่ยวอ้ายที่อยู่อีกฟากหนึ่งเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย มอร์ริสที่อยู่บนยานอวกาศส่งข้อความมาหาองค์หญิงว่าเธอปลอดภัยหรือไม่

“ฉันปลอดภัยดี ไม่เป็นอะไร!” สวี่หลิงอวิ๋นดึงเสี่ยวอ้ายให้มาโบกมือทักทายมอร์ริส “ดูนี่สิ นี่คือคู่หูคนใหม่ของฉัน มันว่าชื่อเสี่ยวอ้าย!”

สิ่งมีชีวิตขนยาวผู้น่ารักที่มีชื่อว่าเสี่ยวอ้ายยกอุ้งเท้าของมันขึ้น และส่งเสียง ‘โฮ่ง’ ให้มอร์ริสที่อยู่บนหน้าจออย่างเชื่อฟัง “สวัสดีโฮ่ง!”

“ฉันชื่อเสี่ยวอ้าย ยินดีที่ได้รู้จัก โฮ่ง!”

มอร์ริสมองดูคนที่อยู่บนหน้าจอแสดงผลเงียบ ๆ โดยเฉพาะเสี่ยวอ้ายที่กำลังพูดคุยกับเขา “สวัสดี เสี่ยวอ้าย!”

องค์หญิงสาม ท่านยอดเยี่ยมไปเลยพ่ะย่ะค่ะ!

ภาพจินตนาการมากมายปรากฏอยู่ในใจของเขา

หากองค์หญิงสามกับเสี่ยวอ้ายเดินทางข้ามทั้งห้วงดวงดาวด้วยกัน! ไม่ว่าพวกเขาจะไปที่ไหน ทุกคนจะต้องก้มหัวลงให้อย่างแน่นอน!

ชิงเหย้าของพวกเรามีอสุรกายระดับ 10 ดาวแล้วจริง ๆ! นี่เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของห้วงดวงดาวทั้งหมด!

แล้วต่อจากนี้ไปใครจะกล้ารุกรานชิงเหย้า?! ฮึ่ม! พวกเขาถึงกับคิดว่าใครหน้าไหนจะกล้ามาตั้งคำถามเกี่ยวกับตัวตนขององค์หญิงสามอีก?!

มอร์ริสรู้สึกถึงความเย่อหยิ่งที่ยากจะอธิบายอยู่ภายในใจของเขา และนั่นทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้!

เมื่อนึกถึงความทุกข์ทรมานที่ชาวเน็ตสารเลวทั้งหลายจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ส่งมาถึง เขาก็มีกำลังใจฮึกเหิมขึ้น!

ต้องรักษาพวกโง่นั่นให้หายบ้าซะ!

“องค์หญิงสาม เอ่อ ท่านลืมอะไรไปหรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ?” มอร์ริสกระแอมเบา ๆ “คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ตั้งฉายาบนอินเตอร์เน็ตให้ท่าน!”

“ฉายา?” สวี่หลิงอวิ๋นเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “ฉายาอะไร?”

“เรียกท่านว่าองค์หญิงนักชิ่งพ่ะย่ะค่ะ!” มอร์ริสติเตียน “บอกว่าท่านกลัวเสี่ยวอ้ายจนชิ่งหนีไป!”

เสี่ยวอ้ายที่ยกอุ้งเท้าค้างไว้ตกตะลึง! ทำไมถึงโยนความผิดให้มันล่ะ? แต่เมื่อคิดดูอีกที มันก็วิ่งไล่ตามยานอวกาศของนายท่านจริง ๆ…มันจึงเอาอุ้งเท้าลงด้วยความอาย

โอ้พระเจ้า นี่มันทำเรื่องยุ่งยากให้นายท่านตอนที่วิ่งออกมาเหรอ รู้สึกละอายแก่ใจจัง!

โอคาซีเปิดดูกล่องแสดงความคิดเห็น เฮอะ ๆ ไร้สมองสิ้นดี!

ผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์รู้สึกว่าการเสพข่าวซุบซิบไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร! แต่ควรจะรู้สึกกันไม่ใช่หรือไง? องค์หญิงสามถูกอสุรกายระดับ 10 ดาวขับไล่หมายความว่าอย่างไร?!

สวี่หลิงอวิ๋นยิ้มเมื่อเห็นเช่นนั้น!

“ง่ายมาก!” สวี่หลิงอวิ๋นตบไหล่ของเสี่ยวอ้าย “หลังจากนี้ฉันรบกวนขอให้เสี่ยวอ้ายแปลงร่างเป็นขนาดใหญ่ทีนะ แล้วก็ไปวิ่งเล่นอยู่ที่จักรวรรดิปีกพิสุทธิ์สักพักหนึ่ง”

มอร์ริสพยักหน้า อย่างนี้สิถึงจะถูกต้อง!

อย่าปล่อยให้พวกเขาหัวเราะเยาะองค์หญิงสาม!

อย่าแม้แต่จะคิดว่าองค์หญิงสามเป็นอย่างไร!

ผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์เฝ้าดูอสุรกายยักษ์วิ่งไล่ตามองค์หญิงสามแห่งชิงเหย้า ขณะที่ผู้คนจากจักรวรรดิชิงเหย้าบอกว่าอย่างน้อยองค์หญิงสามก็ขับไล่สัตว์ประหลาดออกไป!

ยังถือว่าเป็นคุณงามความดี!

พวกเขาเริ่มช่วยชีวิตด้วยความประหม่าอีกครั้ง!

เอเลี่ยนระดับ 9 ดาวทั้งหลายยืดตัวขึ้น เตรียมตัวจะออกไปหาอาหาร!

ก่อนหน้านี้ทหารระดับ 9 ดาวจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์เฝ้าดูอสุรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวที่แสนโหดร้าย แต่แล้วก็ต้องถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อเอเลี่ยนระดับ 9 ดาวเริ่มออกมาเก็บเกี่ยวมนุษย์ที่ยังมีชีวิตรอดเหลืออยู่!

มันเป็นวัฏจักรที่ไม่มีที่สิ้นสุด!

สเปนเซอร์สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อรับรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นบนพื้นด้านนอก ก่อนจะออกคำสั่งสุดท้ายอย่างไม่เต็มใจ “ทุกคนออกไป!”

“อย่าปล่อยให้การเสียสละของทหารกล้าของเราต้องเสียเปล่า!” สเปนเซอร์พูด “สำหรับกลุ่มคนที่อยู่ในชั้นใต้ดิน ช่วยได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น ถ้าทำไม่ได้ก็ถอนตัวมาซะ!”

“แต่ว่าพวกนักเรียนจากสถาบันการทหารของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จะต้องได้รับการช่วยเหลือ! พวกเขาคือความหวังของจักรวรรดิ!”

จอมพลทั้งหลายที่อยู่ในชั้นใต้ดินพยักหน้าอย่างหนักแน่น เดิมทีพวกเขามีความคิดที่หลากหลายเกี่ยวกับฝ่าบาทองค์นี้ ทว่าตอนนี้สามารถบอกได้ว่าคนที่กำลังจะสิ้นชีพลงก็พูดได้ดีเช่นกัน

ทุกคนพร้อมอพยพทันที ผู้คนที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นไปยังยานอวกาศ พวกเขาต่างคำนึงถึงชีวิตที่เหลืออยู่และต้องการจะเฉลิมฉลองการเกิดใหม่กับญาติของพวกเขา

แต่ขณะที่ยานอวกาศกำลังจะทะยานขึ้น อสุรกายยักษ์ที่แสนคุ้นเคยก็กลับมาอีกครั้ง!

ก่อนที่ผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์จะได้เฉลิมฉลองกันอย่างมีความสุข ใบหน้าของพวกเขาก็กลับมาแข็งทื่อเสียก่อน!

อสุรกายเทพสังหารกลับมาอีกแล้ว!

ทำไมมันถึงโปรดปราณจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์นัก?! ทำไมไม่ไปไกล ๆ บ้าง?!

เสี่ยวอ้ายกลับมาที่นี่อีกครั้งด้วยความเบื่อหน่ายเต็มทน มันถอนหายใจเมื่อมองดูซากปรักหักพัง ก่อนจะเหยียดขาออกและร้องคำรามลั่นท้องฟ้า

เสียงคำรามนี้ไม่สำคัญอะไร เพียงแต่ผู้คนทั่วทั้งจักรวรรดิรู้สึกว่าหูของพวกเขากำลังจะหนวก!

‘ปังปัง’ เสี่ยวอ้ายลงมาเดินวนทั่วพื้น ทั่วทั้งพื้นดินสั่นสะเทือนด้วยความน่าสะพรึงกลัว

ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้าง และวิ่งไปรอบ ๆ ด้วยความตื่นตระหนก

เสี่ยวอ้ายเป็นเหมือนผู้เผด็จการอาวุโสที่เดินวนเวียนอยู่บนพื้น มันจะบดขยี้ทุกอย่างที่รู้สึกไม่เข้าตา และใช้อุ้งเท้าตะปบสองครั้งเมื่อเห็นอะไรที่ถูกใจ

มนุษย์รู้สึกราวกับพวกเขากำลังมองดูจอมมาร ไม่มีใครกล้าขยับเขยื้อน

และสวี่หลิงอวิ๋นไม่พลาดที่จะปรากฏกายต่อหน้าทุกคน

ผู้คนที่อยู่นอกเมืองหลวงของจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์คิดว่าอสุรกายยักษ์ระดับ 10 ดาวได้จากเมืองหลวงไปแล้ว รวมถึงกลืนกินองค์หญิงสามเข้าไปด้วย!

ทว่าใบหน้าที่ไร้ความกังวลของสวี่หลิงอวิ๋นกลับปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน เธอโบกมือให้พวกเขา!

“สวัสดีทุกคน!” สวี่หลิงอวิ๋นหยิบเค้กออกมา และเอาเป็ดกุนดักเข้าไปย่างก่อนจะนำมาใส่แป้งแผ่นบาง อีกทั้งยังมีหอมหั่นฝอย และซอสเปรี้ยวหวาน ห่อรวมกันและยัดใส่ไปในปากด้วยความปีติยินดี

“ที่รัก เป็ดกุนดักที่เอามาฝากฉันอร่อยมากเลยค่ะ! ไม่รู้ว่าจะเหลือพอไปอีกนานแค่ไหน?”

ชาวเน็ตทั้งหลายละสายตาไปมองทางพลเอกโอคาซีที่กำลังห่อแผ่นแป้งให้สวี่หลิงอวิ๋น

“อีกประมาณครึ่งปีครับ!” ถ้าไม่มีสงครามน่ะนะ!

ชาวเน็ตทั้งหลายต่างอิจฉาตาร้อน!

ผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์ตกตะลึง!

[ทำไมเธอถึงยังมีชีวิตอยู่? แล้วอสุรกายระดับ 10 ดาวที่ไล่ล่าเธอล่ะ?!]

[ใช่ แล้วอสุรกายระดับ 10 ดาวล่ะ? ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่?]

[ทำไมท่านถึงไม่ไปช่วยเมืองหลวงของเรา?]

ผู้คนจากจักรวรรดิปีกพิสุทธิ์รู้สึกถึงลางสังหรณ์ใจที่ไม่ดี

สวี่หลิงอวิ๋นพูดอย่างเกียจคร้านว่า “พวกคุณพูดถึงอสุรกายตัวนั้นเหรอ? ใครจะไปรู้ล่ะ! พวกคุณก็รู้ว่าใครจะไปคาดเดาความคิดของอสุรกายได้?”

“บางทีมันอาจจะไม่สนุกที่ต้องไล่ตามฉัน หรือว่าเมืองหลวงของพวกคุณจะทำให้มันรู้สึกสนุกกว่านะ?”