บทที่ 368 ทำน้ำแข็ง
“พี่สามเก็บไว้เถิดเพคะ ข้ายังมีอีกเยอะ”
หนานกงฉีอวิ๋นยิ้มแหย พลันรู้สึกอุ่นวาบในใจ น้องสาวช่วยเขาเอาไว้ไม่น้อยเลย
“ได้ เช่นนั้นข้าจะเร่งทำสิ่งที่เจ้าต้องการให้เร็วที่สุด”
เสี่ยวเป่ายกมือเกาหน้าท่าทางเกรงใจ “พี่สามไม่ต้องรีบ นี่เป็นเพียงภาพวาดโครงร่างคร่าว ๆ เท่านั้น พวกท่านยังต้องศึกษากลไกข้างในอีกเยอะ แต่เดี๋ยวข้าจะอธิบายให้ท่านพี่ฟัง สิ่งนี้คือพัดลมมือหมุน…”
เสี่ยวเป่าอธิบายกลไกพัดลมมือหมุนและจักรยานเท่าที่ตนพอจะรู้ นางวาดรูปร่างภายนอกได้ แต่ไม่รู้ว่ากลไกข้างในมันทำงานอย่างไร
จักรยานนั้นทำง่ายกว่าพัดลมขึ้นมาหน่อย แต่มันจำเป็นต้องใช้เหล็ก
หลังจากอธิบายให้พี่ชายฟังแล้ว เสี่ยวเป่าก็ไม่ยอมกลับ แต่กลับเดินตามก้นพี่ชายไปที่ห้องตีอาวุธ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“น้องหญิง ที่นั่นร้อนมากนะ”
อากาศย่อมต้องร้อนเป็นธรรมดา เพราะการผลิตอาวุธในยุคสมัยนี้ยังใช้วิธีการตีเหล็กแบบดั้งเดิม จำเป็นต้องใช้ไฟตลอดเวลา
เสี่ยวเป่ากับหนานกงฉีอวิ๋นเข้าไปไม่ถึงห้านาที เหงื่อก็ออกท่วมตัว
“ตีเหล็กลำบากมากเลยเนอะ”
โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนอบอ้าวเช่นนี้
หนานกงฉีอวิ๋นพยักหน้า “ข้าขอให้เสด็จพ่อส่งน้ำแข็งก้อนมาเพิ่มแล้ว แต่ข้างในร้อนเกินไป ผ่านไปครู่เดียวน้ำแข็งก็ละลายหมดแล้ว”
น้ำแข็งในฤดูร้อนเป็นของหายากและมีราคาแพง ถึงเขาจะเอ่ยขอให้เสด็จพ่อส่งมาเพิ่ม แต่ก็ได้มาไม่มาก
หากต้องการให้ข้างในนั้นมีน้ำแข็งอยู่ตลอดเวลา จะต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล
ทันใดนั้นเสี่ยวเป่าก็เอ่ยขึ้น “พี่สาม เสี่ยวเป่ารู้วิธีทำน้ำแข็ง”
หนานกงฉีอวิ๋น “หา???”
เสี่ยวเป่าไม่กล่าวสิ่งใดไปมากกว่านั้น เพียงขอให้เขาส่งคนไปหาซื้อดินประสิวจำนวนมากเท่าที่จะหาได้
ในยุคสมัยนี้ดินประสิวใช้ในการรักษา แต่ไม่ค่อยมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย จึงไม่เป็นที่นิยม จะหาซื้อได้ตามร้านขายยาเท่านั้น
ระหว่างรอดินประสิว เสี่ยวเป่าพูดถึงประเด็นอื่น
“เหตุใดถึงไม่หลอมเหล็กให้เหลว แล้วค่อยเทลงในแม่พิมพ์ วิธีนี้จะทำอาวุธได้เร็วขึ้นนะเพคะ”
หนานกงฉีอวิ๋น “หลอมเหล็กให้เหลวอย่างนั้นหรือ คงเป็นไปไม่ได้ อีกทั้งการหลอมเหล็กต้องใช้ถ่านคุณภาพสูงจำนวนมาก มันมีค่าใช้จ่ายที่สูง กรมโยธาไม่มีเงินมากมายขนาดนั้น”
เสี่ยวเป่า : เข้าใจแล้ว ขาดเงินทุนสินะ
หนานกงฉีอวิ๋นกล่าวเสริม “รอให้เสด็จพ่อได้ทอดพระเนตรหน้าไม้นี้เสียก่อน ข้าถึงจะทูลขอรางวัลได้ ถึงตอนนั้นกรมโยธาคงจะมีเงินมากขึ้น ค่อยศึกษาหาแนวทางอื่น”
จริงด้วย ถึงอย่างไรถ่านก็ไม่สามารถให้อุณหภูมิสูงพอที่จะหลอมเหล็กให้เหลวได้ แต่มีบางสิ่งสามารถทำได้
เสี่ยวเป่าเคาะหัวตนเอง เหตุใดถึงได้โง่งมขนาดนี้ ลืมเรื่องนั้นไปได้อย่างไร
“พี่สาม เสี่ยวเป่ามีเรื่องจะบอก มีถ่านหินชนิดหนึ่ง ให้ความร้อนสูง ทั้งยังเผาไหม้ได้เป็นเวลานาน มันสามารถหลอมเหล็กเป็นเหล็กเหลวได้!”
หนานกงฉีอวิ๋นเบิกตากว้าง “ถ่านหิน?”
“ใช่เพคะ แต่คงต้องส่งคนไปตามหาเสียก่อน หากพบแหล่งถ่านหิน เราก็จะประหยัดได้เยอะเลย”
“จริงหรือ”
เสี่ยวเป่าพยักหน้า “จริงเพคะ”
หนานกงฉีอวิ๋นเชื่อนาง แต่เขาต้องปรึกษาเสด็จพ่อก่อน
เขาตื่นเต้นจนต้องสะบัดหัวถึงสองครั้งถึงตั้งสติได้
“ต้องรีบทูลเรื่องนี้ให้เสด็จพ่อทรงทราบ จะได้ส่งคนไปตามหา”
เสี่ยวเป่าพยักหน้าเห็นด้วย ต้องรีบบอกท่านพ่อ
แต่วันนี้คงไม่ทันแล้ว หนานกงฉีอวิ๋นจึงตั้งใจว่าจะทูลเรื่องนี้กับเสด็จพ่อตอนที่เขานำหน้าไม้ไปถวาย
ส่วนรูปร่างหน้าตาของถ่านหินนั้น ค่อยให้เสี่ยวเป่าไปอธิบายอีกที เพราะนางไม่รู้จะวาดอย่างไร
“มันก็เหมือนกับหินทั่วไป รูปร่างหลากหลาย มีทั้งก้อนเล็กก้อนใหญ่ วาดไม่ได้จริง ๆ เพคะ แต่ที่สำคัญคือมันดำมาก ดำเหมือนถ่าน เป็นแร่ชนิดหนึ่ง พบได้ที่ใต้ดินเหมืองแร่ชนิดอื่น แต่ก็มีบางส่วนโผล่ขึ้นมาบนพื้นดิน”
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็พูดต่อ “น่าจะพบแหล่งถ่านหินได้เยอะทางเหนือ แต่ข้าไม่รู้ว่ามันคือที่ใด”
เนื่องจากชีวิตที่แล้วผ่านมานานมากแล้ว ชื่อสถานที่บางแห่งย่อมลืมเลือนไปตามกาลเวลา
เลยต้องส่งคนไปตามหา
หนานกงฉีอวิ๋นจดทุกอย่างที่น้องสาวอธิบายไว้อย่างละเอียด
หลังได้ดินประสิวมาแล้ว เสี่ยวเป่าก็ลากพี่สามไปทำการทดลองทันที
นางไม่รู้ว่าต้องใช้ดินประสิวมากเพียงใดน้ำถึงจะเริ่มแข็งตัว ทั้งสองจึงค่อย ๆ เติมลงไปทีละนิด
หลังจากเพิ่มครั้งที่สาม น้ำก็เริ่มเกิดไอเย็นและควบแน่นเป็นผลึกน้ำแข็ง
หนานกงฉีอวิ๋นจ้องน้ำที่เริ่มควบแน่นเป็นน้ำแข็งตาไม่กะพริบ ถึงขั้นต้องขยี้ตาแล้วมองอีกหน วิธีการสุดมหัศจรรย์นี้เกิดขึ้นได้อย่างไรกัน
“น้ำเย็นและแข็งตัวจริงด้วย”
หนานกงฉีอวิ๋นพึมพำกับตัวเอง
เสี่ยวเป่า “ท่านพี่ น้ำแข็งนี้กินไม่ได้นะเพคะ มันมีพิษ หากต้องการน้ำเย็น จะต้องใส่น้ำสะอาดในภาชนะอื่นแล้ววางลงบนน้ำแข็งอีกที”
หนานกงฉีอวิ๋นหันมองเสี่ยวเป่าพร้อมแววตาเป็นประกาย “เหตุใดถึงรู้วิธีการพวกนี้”
พร้อมยกมือเรียวประคองแก้มทั้งสองข้างของเสี่ยวเป่าหันซ้ายขวา “เจ้าคือน้องสาวของข้าจริงหรือ ไม่ใช่เทพธิดาตัวน้อยลงมาจุติจริงหรือ”
เสี่ยวเป่า “…”
ท่านมาสงสัยข้าเช่นนี้ได้อย่างไร!
“ข้าก็คือน้องสาวของท่านอย่างไรเล่า เอาละ ในเมื่อท่านรู้วิธีแล้ว ต่อไปก็ทำน้ำแข็งเองได้ อยากใช้มากน้อยเพียงใดก็ได้เท่าที่ท่านต้องการ”
ทว่าจู่ ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นมาในหัว “น้ำแข็งนี้ขายได้หรือไม่เพคะ”
หนานกงฉีอวิ๋นพยักหน้า ในขณะที่สายตาจับจ้องน้ำที่กำลังแข็งตัวในอ่างด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยคำถาม แต่ก็ยังเอ่ยตอบคำถามนาง
“สภาพอากาศเช่นนี้ น้ำแข็งย่อมมีราคาแพงมาก”
น้ำแข็งผลิตได้ในฤดูหนาวเท่านั้น ไม่ว่าห้องเก็บความเย็นหรือวิธีการผลิตล้วนมีค่าใช้จ่ายสูง ผู้ดีมีอันจะกินยังแทบซื้อหาไม่ได้ ชาวบ้านตาดำ ๆ อย่าได้หวังเลย
เสี่ยวเป่า “เช่นนั้นต้องรีบไปบอกวิธีนี้ให้พี่ใหญ่ด้วย!”
ตอนนี้พี่ใหญ่เป็นองค์รัชทายาทแล้ว เขาจะต้องดูแลกิจการบ้านเมืองและสารทุกข์สุกดิบของราษฎรช่วยท่านพ่อ
ช่องทางสร้างรายได้เข้าท้องพระคลังนี้คงต้องฝากไว้ที่พี่ใหญ่แล้ว
หนานกงฉีอวิ๋นไม่มีความคิดที่จะคัดค้านแต่อย่างใด เขากำลังตั้งหน้าตั้งตากับการทดลองด้วยตัวเอง
เสี่ยวเป่าเห็นว่าเขายังสนุกสนานกับการทดลอง จึงเอ่ยขอตัวก่อน
หนานกงฉีอวิ๋น “ระวังตัวด้วย อย่าเที่ยวเถลไถลไปทั่วล่ะ”
หนานกงฉีอวิ๋นไม่กังวลเท่าใดนัก เพราะรอบกายน้องสาวมีผู้คุ้มกันฝีมือดีมากมาย
เสี่ยวเป่าโบกมือลาพร้อมเอ่ยตอบเสียงหวาน “ทราบแล้วเพคะ”
หลังจากบอกลาพี่สามแล้ว เสี่ยวเป่าก็ออกเดินทางมาเลือกซื้อของ รวมถึงของว่างนานาชนิด
ระหว่างเดินซื้อของ เหล่าผู้ติดตามก็เดินตามคอยคุ้มกันให้นางไม่ห่าง ขอเพียงนางไม่วิ่งวุ่นไปทั่วจนคลาดสายตา ย่อมไม่มีสิ่งใดทำอันตรายนางได้
“เอ๋… ตรงนั้นเขากำลังทำอันใดกันหรือ”
ผู้คนต่อแถวยาวเหยียด เสี่ยวเป่าเดินเข้าไปดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“กิจการขนส่งเทียนเป่าอย่างนั้นหรือ”
เสี่ยวเป่า : รู้สึกคุ้น ๆ แฮะ คนในแถวเหล่านั้นต่างหอบหิ้วข้าวของกล่องน้อยใหญ่ ความรู้สึกคุ้นเคยก็ยิ่งทวีคูณ
“องค์หญิงเพคะ หม่อมฉันได้ยินมาว่ากิจการขนส่งที่เพิ่งเปิดใหม่นี้มีความเชี่ยวชาญในการขนส่งเป็นอย่างมาก เป็นกิจการจัดส่งด่วนที่มีความปลอดภัยสูง รับส่งของทุกประเภท และจะจัดส่งทุก ๆ สามวัน เข้าถึงทุกเมืองทุกตำบล ยกเว้นถิ่นทุรกันดารบางแห่ง เรียกได้ว่าครอบคลุมเกือบทั้งอาณาจักรต้าเซี่ยเลยเพคะ”
เสี่ยวเป่า : เข้าใจแล้ว นี่เป็นความคิดของนางเองนี่นา!
“ไปกัน กลับวังกันเถิด”
เอ่ยพร้อมเป็นแววตาเปล่งประกายสดใส นางไม่คิดว่าท่านพ่อกับพี่ใหญ่จะจัดการให้รวดเร็วขนาดนี้ กิจการขนส่งเปิดแล้ว ทั้งยังดูไปได้สวยเสียด้วย