ถึงแม้เสี่ยวซื่อจะหดหู่ใจ แต่เขายังคงส่งพิกัดของตัวเองกับอักษรตัวใหญ่ๆ ว่า ‘ช่วยด้วย’ สองคำให้หลิงเซียวทันที จากนั้นก็แจ้งหลิงหลาน แล้วเขาก็เงียบไป
เสี่ยวซื่อกำลังทบทวนตัวเอง นับตั้งแต่ที่เขารับรู้ถึงสิ่งที่เรียกว่าอารมณ์ของมนุษย์ เขาก็ไม่ได้ให้บริการผู้ทำสัญญาตามกฎเกณฑ์ของมิติการเรียนรู้เหมือนกับการตั้งค่าของโปรแกรมดั้งเดิม หลายครั้งเห็นได้ชัดว่าเขาจำเป็นต้องได้รับการเห็นชอบของผู้ทำสัญญาก่อนลงมือ แต่เขายังคงตัดสินใจคิดเองเออเอง
เมื่อก่อนยังดีที่ไม่เกิดข้อผิดพลาดใหญ่หลวงอะไร ทว่าเมื่อสักครู่นี้ เนื่องจากเขาไม่ได้สอบถามลูกพี่ตัวเอง ไม่ต้องพูดถึงกระทำเรื่องโง่เง่าเลย เขายิ่งถ่วงเวลาช่วยเหลือมากกว่าเดิม แทบจะทำร้ายลูกพี่ตัวเองถึงตาย…เวลานี้เสี่ยวซื่อนึกเสียใจภายหลังอย่างยิ่งยวดจริงๆ เขาตัดสินใจแล้วว่า ต่อไปจะต้องสอบถามลูกพี่ตัวเองเยอะๆ อย่าทำมั่วซั่วอีกเป็นอันขาด
ทางฝั่งหลิงหลานเพิ่งจะพูดคุยกับเสี่ยวซื่อเสร็จ ทางด้านผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันเห็นการโจมตีของตัวเองโดนดาบยักษ์ที่หลิงหลานซัดเข้ามาทำลายแล้ว อารมณ์พลันเปลี่ยนเป็นบูดบึ้งขึ้นมา
“บัดซบ กล้าขัดขืนงั้นเหรอ? ไปตายซะ!” ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันชูกระบอกปืนในมือขึ้นมาอีกครั้งท่ามกลางความเดือดดาล คราวนี้คนที่เขาเล็งคือหลิงหลาน เทียบกับเฉียวถิงแล้ว เขาเกลียดคนที่ทำลายการโจมตีของเขามากกว่า นี่ทำให้เขารู้สึกว่าความน่าเกรงขามของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันอย่างตนเองถูกลบหลู่แล้ว เขาต้องใช้การสังหารอีกฝ่ายมาบอกทุกคนว่า เกียรติยศของผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันเป็นสิ่งที่ไม่อนุญาตให้ล่วงละเมิดได้
“โจมตีพร้อมกัน!” หลิงหลานไม่มีทางยอมจำนนแต่โดยดี เธอตัดสินใจใช้การจู่โจมแทนการป้องกัน ในหมู่ทุกคนในที่แห่งนี้ มีเพียงเธอกับเฉียวถิงเท่านั้นที่อาจจะยังมีความสามารถต้านทานได้นิดหน่อย ส่วนคนอื่นๆ เข้าไป เห็นได้ชัดว่าเป็นการรนหาที่ตาย ดังนั้น คำพูดนี้จึงเป็นคำที่เธอกล่าวกับเฉียวถิง
เมื่อเขาเผชิญหน้ากับผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันที่น่าเกรงกลัวคนเดียว เฉียวถิงอาจจะหวั่นเกรงยอมจำนนแต่โดยดีท่ามกลางความสิ้นหวังเพราะความสามารถที่ห่างชั้นกันมากเกินไป ทว่าเมื่อข้างกายมีสหายร่วมรบที่อยู่ระดับเดียวกันอีกคนตัดสินใจต่อต้านด้วย เฉียวถิงที่หยิ่งทระนงย่อมไม่ยอมให้ตัวเองพ่ายแพ้แก่อีกฝ่ายแน่นอน
หลิงหลานทิ้งคำพูดประโยคนี้ไว้แล้วก็พุ่งเข้าไปทันที ความเร็วของหลิงหลานว่องไวมาก มาถึงข้างกายหุ่นรบระดับราชันแทบจะในพริบตาเดียว ถึงแม้สูญเสียดาบยักษ์ไปแล้ว แต่เธอที่ยังคงมีดาบแสงอยู่ก็ชูดาบแสงขึ้นมาฟาดฟันใส่อีกฝ่ายอย่างอำมหิต
ส่วนอีกทางด้านหนึ่ง เฉียวถิงทะยานขึ้นมาแทบจะพร้อมกัน เขาเปิดใช้เครื่องยนต์ไอพ่นบินขึ้นไปบนฟ้า ปืนลำแสงสองกระบอกที่อยู่ด้านหลังพลันโผล่ขึ้นมาในมือทั้งสองข้างของหุ่นรบ เฉียวถิงเหนี่ยวไกปืนอย่างบ้าคลั่ง ปืนลำแสงสองกระบอกยิงลำแสงออกไปนับไม่ถ้วนในพริบตา ปะทะใส่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันราวกับฝนดาวตกก็ไม่ปาน
เมื่อเผชิญหน้ากับการต่อต้านอย่างรนหาที่ตายของทั้งสองคน ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันหัวเราะกลับอย่างฉุนขาด “ฝีมือต่ำต้อย รนหาที่ตายจริงๆ!” หุ่นรบที่เดิมทีลอยอยู่กลางอากาศพลันหายวับไปจากที่เดิม วินาทีต่อมาก็ปรากฏตัวขึ้นตรงจุดที่ห่างออกไปสามสิบเมตร ทำลายการโจมตีประสานของหลิงหลานกับเฉียวถิงอย่างง่ายดาย
ไม่เพียงแค่นั้น การหายตัวไปของเขาทำให้ห่าฝนลำแสงที่เฉียวถิงยิงออกมาบินไปหาหลิงหลานทั้งหมด เมื่อเห็นการโจมตีของตัวเองกำลังจะยิงพลาดไปโดนเพื่อน เฉียวถิงก็ร้องเสียงหลงท่ามกลางความตื่นตกใจว่า “หลบเร็วเข้า!”
“เพื่อนร่วมทีมสมองหมูดีแท้!” หลี่หลานเฟิงที่นั่งอยู่ข้างๆ หลิงหลานเห็นแบบนั้นก็อดสบถด่าไม่ได้ ทำการโจมตีระยะไกลตอนเผชิญหน้ากับหุ่นรบระดับราชันที่เชี่ยวชาญการโจมตีระยะไกล สมองของเฉียวถิงคงโดนยิงมาก่อนแน่ๆ
หลิงหลานไม่ได้กล่าวอะไร พอเห็นห่าฝนลำแสงที่พุ่งเข้ามาก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เธอบังคับหุ่นรบให้หลบหลีกอย่างรวดเร็วด้วยความใจเย็น ขณะเดียวกันก็เปิดใช้งานโล่แสงพลังงานของหุ่นรบจนถึงขีดสุด ขอเพียงไม่ได้โดนยิงจุดอ่อนซ้ำกัน โล่แสงของหุ่นรบไพ่ราชาที่อยู่ระดับเดียวกันยังคงต้านทานการโจมตีพลังงานลำแสงเหล่านี้ได้
แน่นอนว่าหลิงหลานไม่อยากโดนยิงเลย เนื่องจากถูกยิงแล้ว ต่อให้หุ่นรบไม่เป็นไร แต่พลังงานจะถูกผลาญไปมากมาย และเนื่องจากหลิงหลานทำศึกใหญ่ติดต่อกัน พลังงานของหุ่นรบไพ่ราชาจึงมีไม่มากแล้ว นี่ทำให้เธอจำเป็นต้องวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ ใช้อย่างประหยัด
เนื่องจากความเร็วในการหลบหลีกของหุ่นรบหลิงหลานว่องไวสุดขีด มันจึงเคลื่อนย้ายออกเป็นเงาเลือนรางสายหนึ่ง ห่ากระสุนลำแสงที่ยิงเข้ามาแฉลบผ่านเงาพร่ามัวสายนี้ก่อนจะตกลงไปที่พื้น ระเบิดฝุ่นละอองขึ้นมามากมาย
ในตอนที่ทางฝั่งหลิงหลานเพิ่งจะหลบห่ากระสุนลำแสงพ้น เฉียวถิงยังไม่ทันได้โล่งใจ การโจมตีของหุ่นรบระดับราชันกลับมาถึงอย่างเงียบงัน
ที่แท้ หลังจากที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันหลบออกไปสามสิบเมตรในชั่วพริบตาแล้ว หลิงหลานกับเฉียวถิงสองคนก็เข้าสู่ภายในระยะการยิงของเขาแล้ว เมื่อเห็นปลาซิวปลาสร้อยสองตัวนั้นเพ่งความสนใจไปที่กันและกัน ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันชูก็ปืนลำแสงในมือขึ้นมาด้วยใบหน้าชั่วร้าย ก่อนจะเหนี่ยวไกติดกันสองทีอย่างฉับไว
เขาอยากกำจัดปลาเล็กปลาน้อยสองตัวนั้นไปด้วยกันเลย เขาที่เดิมทีเก่งกาจการโจมตีระยะไกล เชี่ยวชาญการยิงโจมตีเปลี่ยนทิศทางโดยไม่มีสะดุดแบบนี้
ทันใดนั้นเอง หลิงหลานที่เพิ่งหลบห่ากระสุนลำแสงพ้นกับเฉียวถิงที่เพิ่งจะโล่งใจพลันสัมผัสได้ถึงความเย็นเยียบที่ซึมลึกเข้าไปในกระดูกจู่โจมเข้าที่หัวใจ นี่เป็นการแจ้งเตือนวิกฤติที่ผู้ควบคุมหุ่นรบไพ่ราชาเท่านั้นถึงจะครอบครองได้ ทั้งสองคนรู้ว่า ช่วงเวลาอันตรายที่สุดมาถึงแล้ว…
หลิงหลานสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่าอันตรายมาจากที่ไหน บางทีอาจเป็นวิกฤติถึงแก่ชีวิต ความเร็วนิ้วมือของหลิงหลานเลยระเบิดขึ้นอีกครั้ง เร็วจนกระทั่งมองไม่เห็นนิ้วมืออีกต่อไป หลี่หลานเฟิงรู้สึกว่าดวงตาของตัวเองไล่ตามไม่ทันแล้ว…
หุ่นรบของหลิงหลานเริ่มหมุนทะยานขึ้นมา เนื่องจากความเร็วไปจนถึงขีดสุด ทั่วทั้งร่างของหุ่นรบปรากฏเงาเลือนจำนวนมาก ฉากนี้ทำให้หุ่นรบสิบสองตัวของเหลยถิงตะลึงงัน เพราะพวกเขารู้ว่านี่คือทักษะการหลบหนีชั้นยอดที่สุดของหุ่นรบไพ่ราชา ร่างเงาหลบหลีก! ต่อให้เป็นเฉียวถิงก็ไม่สามารถใช้ทักษะนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่มีทางทำได้อย่างสมบูรณ์แม่นยำขนาดนี้แน่นอน
ส่วนเฉียวถิงก็บังคับหุ่นรบให้ถอยหลังอย่างรวดเร็ว ก่อนจะยกปืนสองกระบอกในมือขึ้นมาแล้วเล็งไปยังลำแสงที่โจมตีมาอย่างบ้าคลั่งสายนั้น ตรงนี้มองออกถึงความแม่นยำระยะไกลของเฉียวถิงได้อย่างสิ้นเชิง แม้ว่าหุ่นรบจะถอยหลังด้วยความเร็วสูง ทว่ามือซ้ายและมือขวายังคงทำการยิงอยู่ กระสุนแต่ละนัดไม่มีพลาดเป้า ตอนที่ลำแสงยังห่างจากเขาสิบกว่าเมตร มันก็ถูกพลังงานปืนสองกระบอกของเขาหักล้างในที่สุด…
การหลบหลีกของหลิงหลานได้ผล ลำแสงที่ยิงใส่เธอสายนั้นเฉียดผ่านร่างเงาสายหนึ่งของหุ่นรบก่อนจะตกลงพื้น มันระเบิดพื้นดินจนกลายเป็นหลุมยักษ์เส้นผ่าศูนย์กลางสิบเมตรทันที เห็นได้ถึงอานุภาพของลำแสงสายนี้ ต่อให้เป็นหุ่นรบไพ่ราชา หากยิงโดนทีหนึ่งก็ย่ำแย่แน่นอน
การรับมือของทั้งคู่ดูเหมือนว่าหลิงหลานจะอันตรายมากกว่า ทว่าความจริงแล้ว เฉียวถิงเหนื่อยมากกว่าหลิงหลานเสียอีก เนื่องจากชั่วพริบตานั้น พลังจิตและแรงกายทั้งหมดของเฉียวถิงต่างเพิ่มสูงขึ้นจนถึงขีดสุดเพื่อรับรองว่าจะยิงโดนลำแสงสายนั้นทุกนัด ดังนั้นเมื่อเขาผลาญพลังงานลำแสงสายนี้จนหมดด้วยพลังงานลำแสงเหมือนกัน ทั่วทั้งร่างของเขาก็ชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อแล้ว รู้สึกได้ชัดเจนว่ามือทั้งสองข้างของตัวเองตกอยู่ในสภาพกระดิกกระเดี้ยไม่ได้แล้ว
การโจมตีติดต่อกันสองครั้งถูกพวกปลาซิวปลาสร้อยที่ไม่เคยเห็นอยู่ในสายตาสองตัวตรงหน้านี้หลบพ้น ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันโมโหจนแทบจะเป็นลม เขารู้สึกว่านี่เป็นการหยามน้ำหน้าอย่างหนึ่ง ดังนั้น เขาจึงหยิบปืนกระบอกหนึ่งออกมาจากด้านหลังอีกครั้ง ปากกระบอกของปืนกระบอกนี้กว้างกว่าปืนกระบอกเดิม ส่วนครึ่งหลังที่เสียบเอเนอร์จอนก็หนากว่ากระบอกก่อนหน้านี้สองสามเท่า
เมื่อหลิงหลานกับเฉียวถิงเห็นปืนกระบอกนี้ สีหน้าก็เปลี่ยนไปฉับพลัน เนื่องจากพวกเขารู้ว่านี่คืออะไร นี่เป็นอาวุธระยะไกลที่มีขอบเขตพื้นที่โจมตีที่ทรงอานุภาพมากสุดในหมู่หุ่นรบระดับราชัน ลำแสงจะปรากฏเป็นรูปพัดขณะที่ยิง เมื่อเจออาวุธประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นร่างเงาหลบหลีก ทักษะหลบของหลิงหลาน หรือว่าลำแสงที่โจมตีผลาญพลังงานของเฉียวถิงล้วนไร้ประโยชน์ เพราะว่าทักษะสองอย่างนี้ไม่มีผลต่ออาวุธโจมตีแบบพื้นที่เช่นนี้
สิ่งที่ทำให้หลิงหลานกังวลยิ่งกว่านั้นคือ ไม่มีใครรู้ว่าลำแสงที่สาดออกไปเหล่านี้จะยิงไปที่ไหนกันแน่ ความไม่รู้และความไม่แน่ใจ ไม่เพียงทำให้หลิงหลานกับเฉียวถิงเป็นอันตราย มันทำให้สมาชิกของทั้งสองทีมตกอยู่สภาวะอันตรายอีกเช่นกัน
หลังจากที่ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันหยิบอาวุธชิ้นนี้ขึ้นมา มุมปากก็แย้มรอยยิ้มโหดเหี้ยมในที่สุด เวลานี้เขาไม่มีความคิดเล่นเกมอีกต่อไปแล้ว เขาคิดแค่ว่าจะกำจัดนักเรียนทหารเหล่านี้ให้หมดสิ้น แบบนี้ถึงจะสามารถให้โทสะที่เต็มท้องของเขาสงบลง
“ไปตายให้หมด!” ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันเหนี่ยวไกทันที เขาไม่ได้ยิงแค่ทีเดียว หากแต่ยิงออกมาหลายนัด เนื่องจากความเร็วฉับไวสุดขีด ลำแสงนั้นจึงเปลี่ยนเป็นครึ่งวงกลม พุ่งมาหาหลิงหลานกับเฉียวถิงรวมถึงบรรดาสมาชิกทีมด้านล่างอย่างอำมหิต
“หลบ!” หลิงหลานกับเฉียวถิงตะโกนออกมาแทบจะพร้อมกัน เมื่อเทียบกับเฉียวถิงแล้ว หลิงหลานกังวลในใจยิ่งกว่า เนื่องจากหุ่นรบที่พวกฉีหลงขับเป็นเพียงหุ่นรบระดับสูงเท่านั้น หากถูกลำแสงเหล่านี้เฉียดผ่านละก็ จะต้องถูกทำลายทั้งคนและหุ่นรบอย่างแน่นอน อานุภาพของอาวุธหุ่นรบระดับราชันแข็งแกร่งมากเกินไปจริงๆ ต่อให้เป็นหุ่นรบไพ่ราชาใช้พลังงานทั้งหมด คาดว่าก็คงต้านทานการโจมตีของพลังงานลำแสงได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหุ่นรบระดับสูงที่ด้อยกว่าหุ่นรบไพ่ราชามากๆ เลย
ทุกคนต่างหลบหนี ทว่าระดับของหุ่นรบยังคงทำให้คนจำนวนไม่น้อยตกอยู่ในสภาวะอับจน หลิงหลานบินอย่างสุดชีวิตไปหาหุ่นรบระดับสูงตัวหนึ่งที่อยู่ใกล้เธอมากที่สุด เธอช่วยเหลือทุกคนไม่ได้ ได้แต่ช่วยลูกทีมที่อยู่ใกล้เธอมากที่สุดเท่านั้น
ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า หลิงหลานนึกเสียใจอยู่บ้าง ถ้าเกิดเธอรู้ว่าศัตรูคราวนี้แข็งแกร่งมากขนาดนี้ละก็ บางทีเธอควรจะให้ทุกคนซ่อนตัวอยู่ในจุดป้องกันการโจมตีทางอากาศ…
‘ตูม’ ลำแสงสีฟ้าอ่อนสายหนึ่งพลันเข้ามาสกัดลำแสงที่สาดยิงโจมตีเหล่านี้ พริบตาเดียวก็ทำให้พลังงานพวกนี้หายไปจนหมด ไม่เพียงเท่านั้น พลังงานลำแสงสีฟ้าอ่อนยังไม่ได้ลดลงมากเท่าไหร่ มันยิงใส่พื้นดินอย่างหนักหน่วงจนปรากฏเป็นหลุมขนาดใหญ่ประมาณห้าสิบเมตร มีลูกทีมหลายคนที่อยู่ค่อนข้างใกล้กับตรงจุดนั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกทีมของหลิงหลานหรือว่าของกลุ่มหุ่นรบเหลยถิงต่างถูกแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงนี้สั่นคลอนจนพลิกคว่ำ คนที่มีทักษะการควบคุมอ่อนด้อยนิดหน่อยถึงขนาดถูกพลังงานนั้นกระแทกจนลอยออกไป
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันเห็นการโจมตีสั่งตายของตนถูกลำแสงเล็กๆ ทำลาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันใด ก่อนจะหันไปยังทิศทางที่ลำแสงยิงเข้ามา ในตอนนี้เอง บนท้องฟ้าที่เดิมทีว่างเปล่าไร้ผู้คนพลันบิดเบี้ยว ทันใดนั้นหุ่นรบมหึมาที่ดูล้ำลึกโบราณเรียบง่ายตัวหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นตรงที่แห่งนั้น
ด้านหลังของมันมีปีกสิบสองข้างกำลังสยายออกอย่างสง่างามพราวพร่าง นกฟีนิกซ์สีแดงเพลิงกำลังบินร่อนอยู่ท่ามกลางเปลวไฟที่ลุกโชนเป็นตัวแทนสถานะของเขา สัญลักษณ์ดาวห้าดวงสีเหลืองทองตรงไหล่ขวาบ่งบอกชัดเจนว่าเขามาจากประเทศใด…
หุ่นรบที่เขาคุ้นจนไม่อาจคุ้นไปมากกว่านี้ทำให้ในใจผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันหนาวเหน็บโดยพลัน ในฐานะที่เป็นผู้ควบคุมหุ่นรบระดับท็อป ทุกคนต่างมีรายละเอียดข้อมูลผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะของแต่ละประเทศ รูปลักษณ์และตราสัญลักษณ์ตรงหน้าอกของหุ่นรบตัวนี้ เขาย่อมไม่มีทางจำผิด เขาก็คือผู้ควบคุมหุ่นรบขั้นเทวะที่ถูกประเทศระบุว่าแข็งแกร่งที่สุดในหนึ่งร้อยปีข้างหน้าของสหพันธรัฐหัวเซี่ย นกอมตะหลิงเซียว!
ผู้ควบคุมหุ่นรบระดับราชันตื่นตะลึง นอกจากหลิงหลานแล้ว ลูกทีมของหลิงหลานรวมถึงคนของเฉียวถิงก็ตะลึงงันไปเช่นเดียวกัน