ตอนที่ 376 กลิ่นหอมร้อยชนิด

อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร

ตอนที่ 376 กลิ่นหอมร้อยชนิด

ตี้อู๋เปียนไม่ได้นอนทั้งคืน พยายามตามหารังกบหลากสีที่งูมังกรเขาขาวชอบกินมากที่สุด

มังกรเขาขาวถูกล่อออกจากบริเวณที่มันอยู่ไปหาอาหารอันโอชะแล้ว

ฝั่งหนึ่งไปใต้ อีกฝั่งไปเหนือ เส้นทางไกลกันมาก ตี้อู๋เปียนไม่กังวลว่าช่วงสองวันนี้มันจะกลับมา

พอมู่เถาเยาตื่น เขาถึงแสร้งทำเป็นลืมตาตื่นนอน

“ตี้อู๋เปียน คุณก็ตื่นเช้าด้วยเหรอ”

“อืม”

ลู่จือฉินยิ้ม “อู๋เปียนไม่ได้นอนทั้งคืนเลยหรือเปล่า เสียงลมหายใจเวลานอนกับตื่นมันไม่เหมือนกันหรอกนะ”

ตี้อู๋เปียน “…”

มู่เถาเยาอึ้ง เธอถาม “ตี้อู๋เปียน คุณคงไม่ได้กลัวจนนอนไม่หลับใช่ไหม”

“เปล่านะ! ฉันคงไม่ชินที่ต้องนอนในป่าน่ะ…แต่ว่าเมื่อคืนฉันได้กลิ่นสมุนไพรหลายชนิดเลยนะ พวกเรารีบไปเก็บกันเถอะ”

เถาวัลย์ตี้หวังบอกเขาว่า ดอกของหญ้าร้อยรสจะบานแล้ว

พอกลิ่นหอมกระจายก็จะดึงดูดสัตว์จำนวนมาก ดีไม่ดีได้มากันเป็นฝูง!

พอถึงตอนนั้นก็ใช่ว่าเขาจะล่อสัตว์ตั้งเยอะแยะออกไปได้

อีกทั้งไม่มีงูมังกรเขาขาวเฝ้าหญ้าร้อยรส พวกสัตว์ต้องแย่งชิงกันแน่นอน คงได้มีตายกันไปข้าง พวกเขาก็อาจชิงหญ้าร้อยรสมาไม่ได้

มู่เถาเยาพยักหน้า “อืม รีบไปหน่อยก็ดี”

ล้างหน้าแปรงฟัน กินขนมปังกับนมแบบง่ายๆ เก็บของ ทักทายงูเถาวัลย์แล้วเดินหน้าต่อ

วันนี้ตี้อู๋เปียนไม่ได้เดินตรงกลาง แทบจะเดินเคียงข้างมู่เถาเยาไป

ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์สนใจสมุนไพรชนิดอื่นแล้ว เพราะดอกของหญ้าร้อยรสกำลังจะบาน!

“ซาลาเปาน้อย อาจารย์สามครับ ผมได้กลิ่นหอมที่ดูพิเศษมาก”

มู่เถาเยาพยักหน้า “ฉันก็ได้กลิ่น เป็นกลิ่นแบบที่มีกลิ่นหอมหลายชนิดปะปนกัน กลิ่นแรงด้วย แต่ไม่ฉุน กลับทำให้รู้สึกสบายกายสบายใจ”

ตี้อู๋เปียนแสร้งทำเป็นถามด้วยความไม่เข้าใจ “ซาลาเปาน้อย จะเป็นกลิ่นดอกหญ้าร้อยรสหรือเปล่า”

“หญ้าร้อยรสมีดอกด้วยเหรอ ไม่เห็นมีบอกในตำราโบราณ…”

ลู่จือฉินยิ้ม “อาจารย์ว่าเป็นไปได้นะ กลิ่นหอมนี้เหมือนเป็นกลิ่นของดอกไม้ ผลไม้ สมุนไพร ปะปนกัน หญ้าร้อยรสอาจมีร้อยกลิ่นหอมก็เป็นได้”

มู่เถาเยาพูดด้วยสีหน้าเบิกบาน “งั้นพวกเรารีบไปกันค่ะ เกิดมีสัตว์อะไรชอบกลิ่นนี้ด้วย…พวกเราจะให้พวกมันแย่งไปไม่ได้”

“อืม เสี่ยวเยาเยา อู๋เปียน ระวังหน่อยนะ ไม่แน่อาจมีสัตว์อะไรเฝ้าอยู่ที่นั่น”

ทั้งสองคนขานรับพร้อมกัน

ตามกลิ่นหอมเข้าไปใกล้ขึ้นเรื่อยๆ มู่เถาเยากับลู่จือฉินก็ได้ยินเสียงฝีเท้าจำนวนมากเคลื่อนเข้ามา

ตี้อู๋เปียนใช้งูมังกรเขาขาวขู่สัตว์อื่นจนหนีเตลิดไปได้กลุ่มแล้วกลุ่มเล่า แต่ก็ยังคงมีพวกที่ไม่กลัวตายกับขี้สงสัยอย่างหนักมุ่งหน้ามาต่อ

ก็แค่อยากลองดู เผื่อมีส่วนแบ่งด้วย พวกสัตว์น่าจะคิดแบบนี้กันหรือเปล่า

แต่พวกสัตว์ก็มีส่งข่าวบอกกันว่าตรงนั้นเป็นอาณาเขตของงูมังกรเขาขาว จึงไม่กล้าทำกระโตกกระตาก ทำตัวผลุบโผล่มุ่งหน้า

“อาจารย์สามอยู่กับตี้อู๋เปียนนะคะ หนูจะเข้าไปดูคนเดียว”

ได้ยินเสียงฝีเท้ามากขึ้นเรื่อยๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ มู่เถาเยาเริ่มร้อนใจ

“ไม่ได้ ถ้าไม่อาจารย์ไปก็ไปให้หมดสามคน” ข้างหน้ามีอะไรรออยู่ยังไม่รู้ เธอจะปล่อยให้ลูกศิษย์ไปเสี่ยงอันตรายคนเดียวไม่ได้

สองชาติรวมกัน ประสบการณ์เดินป่าของเธอก็ยังมากกว่าลูกศิษย์ เหมาะที่จะไปดูลาดเลาก่อน

ตี้อู๋เปียน “พวกเราไปพร้อมกันเถอะครับ”

“อืม”

มู่เถาเยากับลู่จือฉินจับแขนตี้อู๋เปียนคนละข้างแล้วรีบพุ่งไปตามกลิ่น

พอหยุดลงตี้อู๋เปียนก็ชี้ไปจุดหนึ่งแล้วพูด “ซาลาเปาน้อย ฉันเห็นแล้ว ตรงนั้น”

มู่เถาเยายิ้มตาโค้ง หันไปพูดกับลู่จือฉิน “อาจารย์คะ หนูจะไปเก็บ คุ้มกันให้ด้วยนะคะ” เธอว่องไวกว่า

“ได้จ้ะ”

มู่เถาเยาใช้พลังคลื่นลมต่อเนื่องจนพวกต้นไม้ใบหญ้าข้างหญ้าร้อยรสเอนล้มเป็นแถว

เมื่อแน่ใจว่าไม่มีตัวอะไรแล้วก็เหาะหายไปจากจุดเดิม

แค่สามวินาทีก็กลับมา

“นี่ใช่หญ้าร้อยรสไหมคะอาจารย์ หอมมาก!”

“ลักษณะเหมือนหญ้าร้อยรสมาก ยกเว้นดอกสีเหลืองเล็กๆ นี่”

ตี้อู๋เปียน “หญ้าร้อยรสแน่นอนครับ! ซาลาเปาน้อย พวกเราไปกันเถอะ พวกสัตว์จะมาถึงตรงนี้กันแล้ว”

“ได้ พวกเรากลับไปที่งู…”

“ซาลาเปาน้อย พวกเรากลับไปหางูเถาวัลย์ไม่ได้แล้ว เกิดมีสัตว์ร้ายเฝ้าหญ้าร้อยรส มันจะตามกลิ่นไป สร้างความยุ่งยากให้งูเถาวัลย์ได้นะ”

อย่างน้อยก็คุยกันมาค่อนคืน ตี้อู๋เปียนไม่อยากให้งูมังกรเขาขาวได้กลิ่นหอมแล้วตามไปหาเรื่องงูเถาวัลย์

ไม่มีใครรู้ว่ากลิ่นหอมนี้คงอยู่ได้นานเท่าไร

ป้องกันไว้ก่อน อย่ากลับทางเดิม

ในเมื่องูมังกรเขาขาวเฝ้าอยู่ที่นี่ได้ก็แสดงว่าดูของดีเป็น ดีไม่ดีจะออกตามหาด้วยความไม่ยอม…

มู่เถาเยาฟังตี้อู๋เปียนพูดก็รู้สึกว่ามีเหตุผล

เธอปลดเข่งออกจากบ่า ถอดเสื้อกันหนาวห่อหญ้าร้อยรสที่แผ่ซ่านกลิ่นหอมคละคลุ้ง หยิบเสื้อกันหนาวขนเป็ดยื่นให้ตี้อู๋เปียนแล้ววางหญ้าร้อยรสลงไปด้วยความระมัดระวัง

ลู่จือฉิน “พวกเราเดินขึ้นหน้าอีกหน่อย ลองดูว่ากลิ่นหอมจะลอยออกมาอีกไหม พยายามออกห่างจากอาณาเขตของงูเถาวัลย์หน่อย”

“ค่ะ ตี้อู๋เปียน ใส่เสื้อกันหนาวไว้ พวกเราเตรียมขึ้นต้นไม้แล้ว”

ตี้อู๋เปียนรีบสวมเสื้อกันหนาวขนเป็ดตัวหนาแล้วรูดซิปขึ้น

มู่เถาเยาส่งเข่งของตัวเองให้ลู่จือฉินเพื่อบอกให้อาจารย์ไปก่อน จากนั้นเธอจะพาตี้อู๋เปียนตามหลังเพื่อดูว่ายังได้กลิ่นหอมอยู่ไหม

ลู่จือฉินเข้าใจ ถือเข่งของมู่เถาเยาไว้ แตะปลายเท้าเหาะขึ้นยอดต้นไม้ในชั่วพริบตา

มู่เถาเยายื่นมือไปคล้องแขนตี้อู๋เปียนแล้วพาเขาเหาะ

แทบจะในขณะเดียวกันที่พวกสัตว์จำนวนมากมาถึงจุดที่พวกเขายืนอยู่เมื่อครู่

พวกมันพากันมองหา แต่กลับไม่พบอะไร

พวกมู่เถาเยามองที่พื้นสักพักก็ยิ้มแล้วเหาะต่อ

พวกเขาลงสู่พื้นในจุดที่ห่างจากตรงนั้นราวหนึ่งร้อยกิโลเมตร

มู่เถาเยาขยับจมูกพลางพูด “ยังมีกลิ่นหอมอยู่หน่อย แต่ไม่แรงแล้วค่ะ”

ลู่จือฉินถอดเสื้อกันหนาวออก ห่อทับเสื้อกันหนาวของมู่เถาเยาอีกชั้น

“แบบนี้คงได้แล้ว”

ตี้อู๋เปียนมองสองศิษย์อาจารย์ที่สวมแค่ชุดตัวบาง เขาถามด้วยความเป็นห่วง “ซาลาเปาน้อย อาจารย์สามครับ แบบนี้ไม่หนาวกันเหรอครับ”

มู่เถาเยากับลู่จือฉินส่ายหน้าพร้อมกัน

“งั้นตอนนี้พวกเราหาที่นั่งกินอะไรหน่อยแล้วค่อยกลับกันดีไหมครับ”

มู่เถาเยาพูดด้วยความอารมณ์ดี “อืม ตรงนี้ห่างจากหมู่บ้านเถาหยวนไกลมาก เดี๋ยวพวกเรากลับกันกว่าจะถึงก็ทุ่มสองทุ่มเลย แต่ตอนนี้ไม่รีบแล้ว เย็นหน่อยไม่เป็นไร”

ลู่จือฉินยิ้มพลางพยักหน้า “ใช่ พวกเราออกจากเขตป่าชั้นในพักที่เขตป่าชั้นนอกปลอดภัยกว่า จากนั้นค่อยกลับกัน”

พาตี้อู๋เปียนที่ ‘ไม่มีประโยชน์’ เข้ามาด้วย พวกเธอตึงเครียดกันไม่น้อย

พวกเขาหาที่นั่งเตรียมกินอาหารกลางวัน แต่แล้วก็ได้ยินเสียงเลื้อยคลาน

สองศิษย์อาจารย์เก็บของกลับเข้าเข่งอีกรอบ

ตี้อู๋เปียนไม่ได้ยินเสียงผิดปกติ แต่ก็ตระหนักได้ถึงบางอย่างจากท่าทางของพวกเธอ

“ซาลาเปาน้อย มีตัวอะไรมางั้นเหรอ”

“อืม ฟังจากเสียงดูรีบร้อนด้วย”

ลู่จือฉินสะพายเข่งขึ้นยอดต้นไม้ก่อน

มู่เถาเยาก็พาตี้อู๋เปียนขึ้นต้นไม้เช่นกัน