บทที่ 328 สามีภรรยาที่สมบูรณ์
บทที่ 328 สามีภรรยาที่สมบูรณ์
เฉียวเสวี่ยอิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะแนะนำฉู่ชูเหยียนเช่นกัน “คุณหนูฉู่ ท่านควรรู้เกี่ยวกับชะตากรรมอันเลวร้ายที่ตระกูลฉู่กำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้ ท่านจะปกป้องตระกูลฉู่ไม่ได้อีกต่อไปหากกลายเป็นคนพิการ ซูอันเกือบตายหลายครั้งแล้วเพื่อช่วยชีวิตท่าน ท่านจะปล่อยให้ทุก ๆ สิ่งที่เขาทำเพื่อท่านสูญเปล่างั้นเหรอ? ซูอันคือสามีของท่าน และวันแบบนี้จะต้องมาถึงในสักวันอยู่แล้ว ท่านจะปฏิเสธเขาแม้ว่าจะส่งผลเสียต่ออนาคตของตัวเองงั้นเหรอ?”
“ไม่ นั่นไม่ใช่… มันเป็นแค่…” เปลือกตาของฉู่ชูเหยียนสั่นไหวเมื่อความขัดแย้งภายในเกิดขึ้นในใจของนาง
หมี่ลี่เหลือบมองซูอัน และส่งเสียงถึงเขาผ่านทางพลังชี่ “เจ้าเป็นผู้ชายหรือเปล่า? ยืนงงไปเพื่ออะไร?! เจ้าหวังให้ผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเหรอ?”
ในที่สุดซูอันก็รวบรวมความมุ่งมั่นของเขาก่อนที่จะเดินไปหาฉู่ชูเหยียน และอุ้มร่างกายที่อ่อนนุ่มของนางขึ้นมาก่อนที่จะกระซิบที่หูนางเบา ๆ ว่า “เจ้ารังเกียจข้านักเหรอ?”
“ม…ไม่ใช่ นั่นไม่ใช่ ข้าก็แค่…” ฉู่ชูเหยียนพูดตะกุกตะกัก
“ฟังข้าสักครั้งเถอะนะ เพื่อผลประโยชน์ของเราทั้งคู่…” ซูอันพูดขณะจ้องเข้าไปในดวงตาของนาง
ฉู่ชูเหยียนไม่เคยเห็นสีหน้าจริงจังของซูอันมาก่อน นางหน้าแดงก่ำ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพยักหน้าในที่สุด
เมื่อเห็นเช่นนี้ เฉียวเสวี่ยอิงก็ถอนหายใจก่อนจะเดินออกไป
หมี่ลี่บอกวิธีให้ฉู่ชูเหยียนอย่างรวดเร็วก่อนที่จะพูดว่า “เจ้าน่าจะจำได้ทั้งหมดแล้ว อย่าลืมทำตามอย่างเคร่งครัดซะล่ะ”
ก่อนเดินจากไป นางสังเกตเห็นว่าทหารดินเผาจำนวนไม่น้อยยังคงแอบดูอยู่ นางจึงหัวเราะเยาะและพูดว่า “พวกเจ้าอยากดูกันมากเหรอ?”
ทหารดินเผาหันหน้าหนีทันทีและหยุดนิ่ง ราวกับว่ากลายเป็นรูปปั้นธรรมดา
หมี่ลี่กางแขนเสื้อออกและสร้างม่านพลังชี่ รอบแท่นบูชา
ภายในม่าน ซูอันวางฉู่ชูเหยียนไว้บนแท่นศิลาขณะที่เขาค่อย ๆ คลายเข็มขัดของนาง เผยให้เห็นผิวที่ขาวกระจ่าง
ความรู้สึกหนาวเหน็บทำให้ขนของฉู่ชูเหยียนลุกชัน นางอดไม่ได้ที่จะลังเล “เดี๋ยวก่อน ซูอัน! ข้า…ข้าไม่รู้…”
ซูอันถอนหายใจและพูดว่า “เจ้าเกลียดข้าเหรอ?”
“ไม่ ไม่ ไม่ใช่…” ฉู่ชูเหยียนไม่แม้แต่จะสบตากับซูอัน นางหันศีรษะไปทางด้านข้างในขณะเดียวกับที่เรือนร่างของนายกลายเป็นสีแดงระเรื่อ “ก็แค่…ก็แค่…”
ฉู่ชูเหยียนรู้สึกปั่นป่วนจนไม่สามารถพูดอะไรได้เป็นเวลานาน
ซูอันโน้มตัวเข้ามาใกล้และปิดริมฝีปากสีเชอร์รี่ของนางเบา ๆ ดวงตาของฉู่ชูเหยียนเบิกกว้างขึ้น ทันใดนั้นในหัวของนางก็ขาวโพลน
ฉู่ชูเหยียนครางเล็กน้อยเมื่อถูกจูบอย่างกะทันหัน นางยกมือขึ้นเพื่อผลักซูอันออกไปตามสัญชาตญาณ แต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่งนางก็ไม่ได้ผลักไสเขาอีก…
เมื่อเห็นว่านางไม่ได้ขัดขืนเขา ซูอันจึงถอดเสื้อผ้าของนาง ผืนผ้านุ่มที่ไหลลงมาสู่พื้น ทำให้หัวใจของนางเต้นเร็วขึ้น
ข้าจะเสียความบริสุทธิ์ไปให้เขาจริง ๆ เหรอ?
ตั้งแต่เด็กนางเป็นความภาคภูมิใจของตระกูลฉู่ รูปลักษณ์ที่งดงามและความสามารถในด้านการบ่มเพาะทำให้ไม่ว่านางจะไปที่ไหนนางก็จะเป็นศูนย์กลางของความสนใจ เป็นนางในฝันของผู้ชายแทบทุกคน แต่พวกเขาไม่กล้าเข้าใกล้นางเพราะคิดว่าไม่คู่ควร ดังนั้นพวกเขาจึงเก็บความปรารถนาของตนไว้ในส่วนลึกของหัวใจ
แน่นอนว่ามีผู้ชายที่เพียบพร้อมแสดงความรักต่อนางเช่นกัน เพียงแต่ไม่มีใครทำให้นางหวั่นไหวได้…
ชายในฝันของนางคือใครบางคนที่เก่งกล้าจนสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับนาง แต่ในขณะเดียวกันก็รักและเอ็นดูนาง…
อย่างไรก็ตาม ด้วยความที่นางเป็นอัจฉริยะอย่างหาใครเปรียบได้ยาก นางจึงคิดว่าชายในฝันไม่มีอยู่ในชีวิตจริง และได้แต่อ่านนิยายเพื่อเติมเต็มความต้องการในส่วนลึกของตัวเอง
แต่ยิ่งตัวละครเอกในนิยายเหล่านั้นโดดเด่นมากเท่าไหร่ หัวใจของนางก็ยิ่งปิดมากขึ้น นางก็ยิ่งไม่แยแสกับผู้ชายที่พบในชีวิตจริงมากขึ้นเรื่อย ๆ
นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมนางจึงไม่ลังเลใจที่จะมองหาคนไม่เอาไหนสักคนมาเป็นสามีในนาม เพราะในสายตาของนางผู้ชายทุกคนก็เหมือนกันอยู่ดี
และนางก็ตกลงใจเลือกซูอันซึ่งเหมาะสมสำหรับสถานการณ์ของตระกูลฉู่ และนางก็ยินดีที่จะยอมรับเขาเป็นญาติหรือเพื่อนคนหนึ่งเพราะคงต้องอยู่ด้วยกันหลายสิบปี นางไม่เคยคิดว่าจะมีสักวันที่นางจะมองซูอันในฐานะชายหนุ่มด้วยซ้ำ นับประสาอะไรกับการเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ
ในมิติลับหยกจรัสนี้มีหลายเหตุการณ์เกิดขึ้น ภาพที่ซูอันยืนกรานที่จะอยู่กับนางแม้ว่าพวกเขาจะเจอชะตากรรมที่เลวร้าย และกอดนางแน่นกว่าที่เคยในขณะที่ปัดป้องศัตรู ยังคงฝังลึกในความทรงจำของนาง…
ขณะที่นางยังคงครุ่นคิดอยู่ลึก ๆ กับตัวเอง นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเสน่ห์ของผิวที่เปลือยเปล่าของนางนั้นรุนแรงเพียงใดต่อชายที่กำลังอยู่ตรงหน้าของนาง เมื่อนางหลุดออกจากภวังค์ความคิด หัวใจของนางก็เต้นรัวเหมือนตีกลองเมื่อเห็นการกระทำของซูอัน
และในที่สุดเมื่อซูอันเอาชนะอุปสรรคสุดท้ายของนางได้ นางรู้สึกว่ากำแพงที่เคยปิดกั้นเขาไว้เริ่มแตกสลาย…
นางมองชายที่อยู่ข้างหน้านางขณะที่น้ำตาสองสายไหลลงมาจากหางตา นางไม่รู้ว่าทำไมนางถึงร้องไห้ แต่ร่างกายของนางดูเหมือนจะสูญเสียการควบคุมไปแล้ว
…
ในขณะเดียวกัน เฉียวเสวี่ยอิงกำลังนั่งอยู่นอกม่านพลังที่หมี่ลี่สร้างขึ้นด้วยสีหน้าว่างเปล่า
สายสัมพันธ์ครึ่งชีวิต เป็นวิชาลับที่มีเพียงเผ่าพันธุ์ของนางเท่านั้นที่สามารถใช้ได้ และส่วนใหญ่จะไม่ใช้มันตลอดชีวิต หรือใช้กับคู่ที่แท้จริงของตนเองเท่านั้น เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ
“ไม่น่าเลย!” เฉียวเสวี่ยอิงกัดริมฝีปากขณะที่นางเขวี้ยงหินก้อนเล็ก ๆ อย่างไม่พอใจ นางไม่เคยคิดเลยว่านางจะลงเอยด้วยการใช้วิชาลับนี้กับสามีของคนอื่น และนั่นทำให้นางขุ่นเคืองอย่างเหลือเชื่อ
ความจริงที่ว่าคนทั้งสองคนนั้นกำลังผูกพันกันอย่างล้ำลึกต่อกันโดยห่างจากนางเพียงไม่กี่ก้าว ทำให้นางรู้สึกหงุดหงิดและเขวี้ยงก้อนหินเหล่านั้นแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม ทำให้ผนังด้านตรงข้ามเต็มไปด้วยรู
…
ในเวลาต่อมา ฉู่ชูเหยียนก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลง น้ำตาของนางเหือดแห้งไปแล้ว แต่ดวงตาของนางยังคงส่องประกายสวยงามเช่นเคย นางรู้สึกถึงพลังที่หวนคืนสู่แขนขาของนาง
นางคิดจะผลักเขาออกไป แต่ร่างกายของนางยังไม่สมบูรณ์และขาดแคลนกำลังอยู่มาก
นางไม่เคยรู้สึกหมดหนทางเช่นนี้มาก่อนทั้งชีวิต หากเป็นสถานการณ์ปกติ นางใช้นิ้วมือเพียงนิ้วเดียวก็สามารถดีดซูอันให้กระเด็นออกไปได้ ฮึ่ม! เมื่อข้าฟื้นตัวเต็มที่ ข้าจะแสดงให้เขาเห็นว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงเป็นยังไง!
แต่ไม่นานหลังจากที่ความคิดเหล่านั้นผุดขึ้นในใจของนาง มันก็สลายไปพร้อมกับแรงกระแทกที่ทรงพลังของซูอัน
แก้มของนางแดงระเรื่อราวกับเปลวเพลิง ขณะที่การต่อต้านเริ่มแรกของนางค่อย ๆ กลายเป็นการโอนอ่อนผ่อนตามความปรารถนาทางร่างกาย
…
หลังจากนั้นไม่นาน นางก็ได้ยินเสียงของหมี่ลี่ดังก้องในหูว่า “รักษาสติของเจ้าให้นิ่งไว้ จากนี้ไปให้หมุนเวียนพลังชี่ในร่างกายโดยใช้วิธีที่ข้าบอกก่อนหน้านี้ ให้แน่ใจว่าเจ้าดูดซับแก่นแท้โลหิตอันล้ำค่าจากเขาทั้งหมด”
ฉู่ชูเหยียนแดงไปทั้งร่างด้วยความอาย นางมองเราอยู่ตลอด?
ความรู้สึกละอายและความอึดอัด เริ่มทำให้จิตใจของนางปั่นป่วนมากขึ้นเรื่อย ๆ