ตอนที่ 296 ไม่อาจเดิมพัน

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 296 ไม่อาจเดิมพัน
คุณธรรมของตระกูลไป๋ ใจที่รักและปกป้องชาวบ้าน ความเมตตาและใจกว้างต่อคนทั่วหล้า นี่ถึงจะเป็นคุณสมบัติที่ผู้ปกครองแคว้นควรจะมี

ไม่ว่าคุณหนูใหญ่จะทำไปเพื่อปูทางให้คุณชายเจ็ดไป๋ชิงเจวี๋ยหรือตั้งตนเป็นจักรพรรดินีเองก็ตาม จี้ถิงอวี๋ยินดีสละชีพของตัวเองเพื่อปูทางให้คุณหนูใหญ่อย่างเต็มที่ แม้ตายก็ไม่เสียดายชีวิต

เมื่อไป๋ชิงเหยียนกลับไปถึงเรือนชิงฮุย ท่านหมอหงมารออยู่ที่เรือนชิงฮุยนานแล้ว

“คุณหนูใหญ่ ท่านหมอหงกลับมาแล้วเจ้าค่ะ…” ถงหมัวมัวเดินเข้าไปรายงานไป๋ชิงเหยียน

เมื่อหมอหงได้ยินว่าไป๋ชิงเหยียนกลับมาแล้ว เขารีบเดินออกมา เข้าไปทำความเคารพไป๋ชิงเหยียน

“จวิ้นจู่”

ชุนเถาอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ตอนนี้จวนของเราเรียกคุณหนูใหญ่สับสนไปหมดเจ้าค่ะ บ้างก็เรียกจวิ้นจู่ บ้างก็เรียกคุณหนูใหญ่”

ไป๋ชิงเหยียนยิ้มพลางผายมือเชิญหมอหง “ท่านหมอหงเรียกข้าว่าคุณหนูใหญ่ตามเดิมเถิดเจ้าค่ะ!”

เมื่อเข้ามาด้านใน ชุนซิ่งที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวรินน้ำชาให้หมอหง จากนั้นเดินออกจากห้องไปพร้อมถงหมัวมัว ชุนเถายืนรอคำสั่งอยู่ที่หน้าประตูห้อง

เมื่อหมองหงตรวจชีพจรให้ไป๋ชิงเหยียนเสร็จ เขาจึงกล่าวออกมาเสียงแผ่วเบา

“ยาพิษในร่างกายของจักรพรรดิต้าเยี่ยนแปลกมากขอรับ เมื่อแสดงอาการดูคล้ายกับยาพิษรู่เจี๋ย แต่ก็คล้ายยาพิษชีซิงซ่าน ทว่า ชีพจรเหมือนถูกยาสมุนไพรประหลาดชนิดหนึ่ง ข้าคิดว่าที่หมอคนอื่นตรวจไม่เจออาการป่วยของจักรพรรดิต้าเยี่ยนคงเป็นเพราะยาพิษทั้งสามชนิดนี้หล่อรวมเป็นยาพิษชนิดใหม่ขึ้นมาในร่างกายของพระองค์ ดังนั้นพวกเขาเลยวินิจฉัยไม่ได้ว่าเป็นยาพิษชนิดใดกันแน่ หากต้องการถอนพิษ…ดูเหมือนจะยากเย็นอยู่เหมือนกันขอรับ หากใช้สมุนไพรผิดชนิดหรือผิดสัดส่วนแม้เพียงนิดเดียว จักรพรรดิต้าเยี่ยนอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ขอรับ”

นี่คือความลับของจักรพรรดิต้าเยี่ยน…

ไป๋ชิงเหยียนเคาะนิ้วลงบนโต๊ะอย่างเป็นจังหวะ “ท่านหมอหงมีวิธีรักษาหรือไม่เจ้าคะ”

“มีขอรับ…” หมอหงพยักหน้า เก็บหมอนตรวจชีพจรของตัวเองให้เรียบร้อย

“ทว่า หากใช้รักษาจักรพรรดิต้าเยี่ยนเท่ากับเป็นการนำแคว้นต้าจิ้นเข้าไปเสี่ยง ข้าเป็นคนต้าจิ้น จักรพรรดิต้าเยี่ยนคงหวาดระแวง แม้จักรพรรดิต้าเยี่ยนตรัสว่าจะลองเก็บไปคิดดู แต่ข้าคิดว่าพระองค์คงไม่ตกลงหรอกขอรับ”

ไป๋ชิงเหยียนคิดว่าไม่แน่เหมือนกัน หญิงสาวยกชาขึ้นจิบเล็กน้อย ถามต่อ

“หากจักรพรรดิต้าเยี่ยนทรงยอมให้ท่านหมอหงรักษา ท่านหมอหงมั่นใจมากเท่าใดเจ้าคะ”

ท่ามกลางแสงไฟที่ริบหรี่ หมอหงชูนิ้วขึ้นสองนิ้ว “สองส่วน”

“ท่านหมอหงเตรียมพร้อมไว้แต่เนิ่นๆ ดีกว่าเจ้าค่ะ หากจักรพรรดิต้าเยี่ยนเชิญท่านไปรักษาขึ้นมา ท่านจะได้เตรียมตัวทัน” ไป๋ชิงเหยียนมองหมอหง “ท่านหมองหงอยากกล่าวสิ่งใดอีกใช่หรือไม่เจ้าคะ”

หมอหงกล่าวเสียงเบา “วันนี้ข้าเห็นคนของหรงตี๋ปลอมตัวเข้าไปในในจวนตัวประกัน ตอนที่ข้าเข้าไปด้านใน คนหรงตี๋ผู้นั้นกล่าวขอบคุณจักพรรดิต้าเยี่ยนอย่างสุดซึ้งแล้วเดินออกไปด้านนอก ต้าเยี่ยนน่าจะให้การช่วยเหลือหรงตี๋ขอรับ เพียงแค่ไม่รู้ว่าต้าเยี่ยนสนับสนุนเป่ยหรงหรือหนานหรงกันแน่”

หลังจากได้ยิน ไป๋ชิงเหยียนเงียบไปครู่ใหญ่

ด้วยสติปัญญาของเซียวหรงเหยี่ยน นางยังรู้ว่าการช่วยเหลือหรงตี๋ในครั้งนี้มีแต่ผลดี เหตุใดเซียวหรงเหยี่ยนจะไม่รู้กัน

บัดนี้ทูตของเป่ยหรงและหนานหรงล้วนอยู่ในเมืองหลวง ท่าทีของต้าจิ้นไม่ชัดเจน ไม่ตกลงว่าจะช่วยเหลือเป่ยหรง แต่ก็ไม่รับปากว่าจะดูอยู่เฉยๆ หนานหรงยังพออดทนได้ ทว่า เป่ยหรงขอความช่วยเหลือไปทั่วทุกสารทิศอย่างทนไม่ไหวแล้ว

ปณิธานของจักรพรรดิต้าจิ้นไม่ใช่ใต้หล้า เขาแค่อยากรักษาความเจริญรุ่งเรืองตรงหน้าไว้เท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าเดิมพัน…และไม่อาจเดิมพันได้!

แตกต่างกับต้าเยี่ยน เซียวหรงเหยี่ยนมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่ เขาอยากครอบครองใต้หล้า เขาจึงกล้าเดิมพัน!

ส่วนจักรพรรดิต้าเยี่ยนสนับสนุนเป่ยหรงหรือหนานหรง เดาได้ไม่ยากนัก!

จักรพรรดิของหรงตี๋สิ้นพระชนม์ที่วังหิมะเนื่องจากได้รับบาดเจ็บหนักตอนไปล่าสัตว์ ตามหลักแล้วรัชทายาทควรได้ขึ้นครองบัลลังก์ต่อ ทว่า พระอนุชาของจักรพรรดิหรงตี๋ อาฟูมู่ปลอมแปลงพินัยกรรม ตั้งตนเป็นจักรพรรดิอย่างไม่ชอบธรรม

ตอนที่ต้าเยี่ยนยึดครองหนานเยี่ยน เขาอ้างเรื่องการฟื้นฟูระบอบการปกครองของต้าเยี่ยน เช่นนั้นต้าเยี่ยนย่อมต้องช่วยเหลือเป่ยหรงซึ่งมีสิทธิ์โดยชอบธรรมในการขึ้นครองราชย์ เช่นนี้ถึงจะสมเหตุสมผล

สำหรับต้าเยี่ยนแล้ว นี่ถือว่าเป็นการเดิมพันครั้งยิ่งใหญ่ หากตอนนี้ต้าเยี่ยนส่งกองทัพไปช่วยเหลือหรงตี๋ แล้วแคว้นอื่นรุกรานต้าเยี่ยน…ต้าเยี่ยนคงตกอยู่ในอันตราย

น่าเสียดายที่ตอนนี้นางไม่มีกองกำลังที่สามารถเรียกใช้ได้ มิเช่นนั้นนี่คงเป็นโอกาสที่ดีที่กองทัพของนางจะเข้าไปแทรกแซงหรงตี๋ในขณะที่หรงตี๋กำลังวุ่นวายได้

ไป๋ชิงเหยียนกำมือแน่น หากพลาดโอกาสนี้ไป นางคงไม่มีโอกาสที่ดีเช่นนี้อีก ทว่า นางไม่มีกองทัพ…ไม่มีสิทธ์ทำเช่นนั้น หากฝืนส่งคนไปยังหรงตี๋คงได้ไม่คุ้มเสีย

ไป๋ชิงเหยียนถอยหายใจออกมาเบาๆ “วันนี้ลำบากท่านหมอหงแล้ว ท่านรีบกลับไปพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ”

หมอหงพยักหน้า เอ่ยกำชับไป๋ชิงเหยียน “แม้ร่างกายคุณหนูใหญ่จะแข็งแรงขึ้นแล้ว แต่ก็ยังคงอ่อนแอกว่าคนปกติอยู่ดี เดี๋ยวข้าจะจัดยาให้ใหม่ ให้ถงหมัวมัวต้มให้คุณหนูทานทุกวันนะขอรับ”

“รบกวนท่านหมอหงแล้ว” ไป๋ชิงเหยียนยิ้มพลางเรียกชุนเถาให้ไปส่งหมอหง จากนั้นเรียกถงหมัวมัวเข้ามา

ถงหมัวมัวถือขนมรักนกเข้ามา กล่อมให้ไป๋ชิงเหยียนทานราวกับหญิงสาวเป็นเด็ก

“ช่วงที่ข้าไม่อยู่ หมัวมัวคิดว่าชุนซิ่งทำงานเป็นอย่างไรบ้าง” ไป๋ชิงเหยียนทานเค้กรักนกเข้าไปหนึ่งชิ้น ยกน้ำชาขึ้นจิบพลางเอ่ยถงหมัวมัวเสียงเบา

“เด็กนี่ใช้ได้ทีเดียวเจ้าค่ะ รับผิดชอบงานในส่วนของตัวเองได้ดี ทว่า หากไม่ใช่งานที่นางรับผิดชอบ นางไม่เคยทำเกินหน้าที่เลยเจ้าค่ะ”

ถงหมัวมัวกล่าวอย่างมีนัยแฝง หากไม่ใช่งานที่รับผิดชอบ ไม่เคยทำเกินหน้าที่…หมายความว่าหากน้ำหก แต่นั่นไม่ใช่งานที่นางต้องทำ นางก็ไม่มีทางยื่นมือเข้าไปช่วยเช็ดเด็ดขาด

มีสาวใช้เช่นนี้อยู่ข้างกาย นางทำได้เพียงคอยปรนนิบัติรับใช้เท่านั้น ไม่อาจทำสิ่งอื่นได้อีก

สิ่งที่ไป๋ชิงเหยียนต้องการคือ…สาวใช้ที่ใช้งานได้ แม้ชุนซิ่งจะไม่ได้ทำสิ่งใดผิด ทว่า ไม่เหมาะสมที่จะอยู่รับใช้ข้างกายนาง

เมื่อชุนซิ่งแต่งงานออกเรือนไป ตำแหน่งสาวใช้ใหญ่ข้างกายนางก็จะว่าง สามารถสรรหาคนที่เหมาะสมกว่านี้มารับใช้ได้

ไป๋ชิงเหยียนจิบชาอึกหนึ่ง เงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยถามขึ้น “ปีนี้ชุนซิ่งอายุสิบหกแล้วใช่หรือไม่”

“เรียนคุณหนูใหญ่ สิบเจ็ดแล้วเจ้าค่ะ…” ถงหมัวมัวเข้าใจความหมายของไป๋ชิงเหยียนในทันที “คุณหนูใหญ่ต้องการหาคนที่เหมาะสมให้ชุนซิ่งแต่งงานออกเรือนใช้หรือไม่เจ้าคะ”

ไป๋ชิงเหยียนพยักหน้า ลูบถ้วยชาในมืออย่างแผ่วเบา นึกถึงสถานะทางครอบครัวของชุนซิ่ง หญิงสาวยิ้มออกมาบางๆ

“ข้าเชื่อใจสายตาการมองคนของถงหมัวมัว หาครอบครัวสามีที่เรียบง่าย พอมีฐานะ แม่สามีน่าคบหาให้ชุนซิ่งสักครอบครัว ทว่า ต้องให้ชุนซิ่งเห็นด้วยนะ”

“คุณหนูใหญ่วางใจได้เจ้าค่ะ บ่าวจะจัดการอย่างเหมาะสมเจ้าค่ะ”

ก่อนไป๋ชิงเหยียนจะเข้านอน หญิงสาวเพิ่มน้ำหนักถุงทรายที่แขน ฝึกยืนม้ากลางลานหญ้า นางอยากยกหอกได้ในเร็ววัน

เมื่อไป๋ชิงเหยียนฝึกซ้อมเสร็จ ชุนเถาสั่งให้คนเตรียมน้ำให้ไป๋ชิงเหยียนอาบตามปกติ

วันนี้ไม่ใช่เวรของชุนซิ่ง ทว่า นางกลับไม่ยอมไปพักผ่อน เสนอตัวช่วยเช็ดผมให้ไป๋ชิงเหยียน

ชุนซิ่งรู้มาจากถงหมัวมัวว่าคุณหนูใหญ่สั่งให้ถงหมัวมัวหาคู่แต่งงานที่เหมาะสมให้นาง ชุนซิ่งได้ยินก็หน้าซีดในทันที นึกว่าคุณหนูใหญ่รังเกียจนาง ทว่า ถงหมัวมัวกล่าวว่าคุณหนูใหญ่กำชับมาว่าต้องให้นางตกลงด้วย ชุนซิ่งรู้สึกดีใจมาก

คุณหนูใหญ่สาบานไว้ว่าจะไม่แต่งงานตลอดชีวิต ความหวังที่ว่านางจะติดตามคุณหนูใหญ่ไปเป็นอี๋เหนียงจึงไม่มีอีกแล้ว ดังนั้นนางจึงไม่อยากอยู่รับใช้ข้างกายคุณหนูใหญ่ให้เสียเวลาอีกต่อไป