ตอนที่ 297 อนุญาต

สตรีแกร่งตระกูลไป๋

ตอนที่ 297 อนุญาต
แม้ชุนซิ่งจะไม่ได้งดงามมากนัก ทว่า หน้าตาสะอาดสะอ้าน หลายวันก่อนคุณหนูใหญ่ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ ฐานะของนางจึงสูงส่งขึ้นด้วย เพราะนางกลายเป็นสาวใช้ใหญ่ข้างกายของเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่

สองวันก่อน ท่านแม่มาเยี่ยมนาง กล่าวว่าป้าหวังซึ่งเป็นเพื่อนบ้านและผู้ดูแลจวนเสนาบดีกรมการคลังมาที่บ้าน บอกว่าเดือนที่แล้วภรรยาเอกของบุตรอนุของเสนาบดีกรมการคลังแท้งจนไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก ดังนั้นจวนเสนาบดีกรมการคลังจึงอยากหาอนุดีๆ ให้บุตรอนุของเสนาบดีกรมการคลังสักคน ป้าหวังสนิทสนมกับภรรยาของผู้ดูแลจวนเสนาบดีกรมการคลัง นางจึงแนะนำชุนซิ่งซึ่งเป็นสาวใช้ใหญ่ข้างกายของเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ ผู้ใดจะคิดว่าเมื่อสอบถามแล้วถึงได้รู้ว่าชุนซิ่งขายตัวเป็นทาสไปแล้ว

ผู้ดูแลจวนเสนาบดีกรมการคลังได้ฟังจึงหันหลังเตรียมจากไปทันที ทว่า ป้าหวังกลับรั้งไว้เสียก่อน ป้าหวังพร่ำพรรณนาความดีของชุนซิ่งให้ผู้ดูแลจวนเสนาบดีกรมการคลังฟังมากมาย กล่าวว่าชุนซิ่งเป็นที่โปรดปรานของเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่อย่างไรบ้าง หากชุนซิ่งเอ่ยปากขอสัญญาทาส เจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ต้องอนุญาตอย่างแน่นอน

มารดาของชุนซิ่งกลัวว่าวาสนาดีๆ เช่นนี้จะหลุดลอยไป จึงรีบมาหาชุนซิ่ง กล่าวว่าครอบครัวหวังว่านางจะได้เป็นอี๋เหนียงของตระกูลสูงศักดิ์ นางจะได้ส่งเสียน้องชายทั้งสองร่ำเรียนต่อได้

ชุนซิ่งได้ยินก็ใจเต้นรัว นางเคยเจอบุตรอนุของเสนาบดีกรมการคลังมาก่อน หลายวันก่อนที่คุณหนูใหญ่จะกลับมาถึงเมืองหลวง นางขออนุญาตฮูหยินกลับไปเยี่ยมบ้าน ระหว่างทางถูกขโมยถุงเงินจนไม่มีเงินจ่ายค่าของ เกือบถูกเข้าใจผิดว่าเป็นโจร บุตรอนุของเสนาบดีกรมการคลังผู้นั้นเป็นคนช่วยนางเอาไว้

ดังนั้นนางจึงเข้าใจว่าบุตรอนุของเสนาบดีกรมการคลังผู้นั้นหลงรักนาง

เมื่อท่านแม่เห็นว่านางไม่คัดค้านจึงสั่งให้นางมาขอความเมตตาจากจวิ้นจู่ ขอไถ่ตัวกลับไปอยู่บ้าน มิเช่นนั้นหากเดินทางไปซั่วหยางกับจวิ้นจู่ นางจะดูแลครอบครัวได้อย่างไร

หลายวันนี้ชุนซิ่งไม่รู้จะเอ่ยปากกับจวิ้นจู่อย่างไรดี ในเมื่อวันนี้จวิ้นจู่เมตตาให้ถงหมัวมัวช่วยหาคู่ครองที่เหมาะสมให้แก่นาง นางควรถือโอกาสนี้ขอความเมตตาไถ่ถอนตัวจากจวิ้นจู่

ไป๋ชิงเหยียนเอนพิงเก้าอี้นวมข้างหน้าต่าง มือหนึ่งถือตำรา อีกมือถือถ้วยชาสีขาวลายดอกบัวคู่ ไม่ได้ถามว่าเหตุใดวันนี้ชุนซิ่งจึงขยันเป็นพิเศษ

เมื่อชุนซิ่งเช็ดผมไป๋ชิงเหยียนจนแห้งสนิทแล้ว เห็นว่าชุนเถาเดินออกไปแล้ว นางจึงคุกเข่าลงแทบเท้าไป๋ชิงเหยียนพลางเอ่ยเรียกหญิงสาวเสียงแผ่วเบา “จวิ้นจู่…”

“เรียกข้าว่าคุณหนูใหญ่เถิด” ไป๋ชิงเหยียนวางถ้วยชาลง พลิกตำราไปอีกหน้า “เจ้ามีเรื่องอยากจะขอร้องข้าอย่างนั้นหรือ”

ชุนซิ่งกัดริมฝีปากแน่น “เจ้าค่ะ วันที่หนึ่ง เดือนห้าคุณหนูใหญ่จะเดินทางกลับไปซั่วหยางแล้ว ทว่า พ่อแม่ของบ่าวล้วนอยู่ที่นี่ บ่าวอยากขอความเมตตาไถ่ถอนตัวจากคุณหนูใหญ่เจ้าค่ะ…”

ไป๋ชิงเหยียนเงยหน้าขึ้นมองชุนซิ่งที่ก้มหน้าคุกเข่าอ้อนวอนอยู่ที่พื้น กล่าวเสียงแผ่วเบา “เจ้ากับข้าเป็นนายบ่าวกัน เมื่อหมัวมัวหาคู่ครองที่เหมาะสมให้เจ้าได้แล้ว ตอนแต่งงานหมัวมัวจะคืนสัญญาทาสให้เจ้าเอง เจ้าไม่ต้องรีบร้อนไป”

ไป๋ชิงเหยียนชะงักไปครู่หนึ่งจากนั้นเอ่ยถาม “หรือว่าเจ้ามีคนที่ชอบพอกันอยู่แล้ว”

“เรียนคุณหนูใหญ่ แม่ของบ่าวช่วยบ่าวหาคู่ครองที่เหมาะสมไว้แล้วเจ้าค่ะ…” ชุนซิ่งกล่าวถึงตรงนี้ก็หน้าแดงก่ำ

เดิมทีนางไม่ควรจะกล่าวเช่นนี้ นางเป็นสาวใช้ที่ขายตัวเป็นทาส พ่อแม่ของนางไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายเรื่องการแต่งงานของนาง นางจะแต่งงานกับผู้ใดล้วนเป็นสิทธิ์ของเจ้านาย

เมื่อได้ยินชุนซิ่งกล่าวเช่นนี้ ไป๋ชิงเหยียนปิดตำราลงทันที หญิงสาวเอ่ยถามยิ้มๆ “นี่เป็นเรื่องดี คู่ครองที่แม่เจ้าหาให้ไว้ใจได้หรือไม่ ทำงานอันใด แม่สามีเป็นเช่นไร”

ไม่ใช่เพราะไป๋ชิงเหยียนใส่ใจเรื่องนี้สักเท่าใด ทว่า นางเคยได้ยินถงหมัวมัวเอ่ยถึงนิสัยของพ่อแม่ของชุนซิ่ง หญิงสาวกลัวว่าพ่อแม่ของชุนซิ่งจะยกชุนซิ่งให้ผู้ใดก็ไม่รู้เพื่อเงิน อย่างไรเสียก็เป็นเจ้านายกับบ่าว หญิงสาวไม่อาจทนเห็นชุนซิ่งเดินเข้าไปในกองไฟได้

ใบหน้าของชุนซิ่งแดงก่ำ “คุณชายหกที่เป็นบุตรอนุของเสนาบดีกรมการคลังเจ้าค่ะ ภรรยาเอกของคุณชายหกแท้งจนไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก พวกเขาจึงอยากได้อนุไปตั้งครรภ์สืบทอดทายาทเจ้าค่ะ”

บุตรอนุของเสนาบดีกรมการคลังฉู่จงซิ่งอย่างนั้นหรือ!

ไป๋ชิงเหยียนหรี่ตาแคบลง แม้ภายนอกเสนาบดีกรมการคลังฉู่จงซิ่งอาจเคยเป็นคนของซิ่นอ๋อง…ทว่า แท้จริงแล้วเขาเป็นคนของอัครเสนาบดีฝ่ายซ้ายหลี่เม่า แม้ฉู่จงซิ่งจะปกปิดตัวตนเป็นอย่างดี ทว่า เนื่องจากผ่านเหตุการณ์จากชาติที่แล้วมาแล้ว ไป๋ชิงเหยียนจึงรู้เรื่องนี้

ไป๋ชิงเหยียนก้มหน้ามองชุนซิ่งที่คุกเข่าอยู่บนพื้น แววตาราบเรียบลง

ไม่อยากเป็นภรรยาเอกของตระกูลธรรมดา แต่กลับอยากเป็นอนุของบุตรอนุของเสนาบดีกรมการคลัง

ไป๋ชิงเหยียนไม่ได้โมโห วางตำราลงบนโต๊ะสีดำด้านข้าง “ชุนซิ่ง นี่คือความต้องการของแม่เจ้าหรือของเจ้ากันแน่”

ชุนซิ่งไม่แน่ใจว่าไป๋ชิงเหยียนกำลังโมโหอยู่หรือไม่ นางไม่กล้ากล่าวอันใดออกมาทั้งสิ้น กัดริมฝีปากก้มหน้างุดไม่กล่าเอ่ยสิ่งใด

“ชุนซิ่ง อนุของตระกูลสูงศักดิ์ ต่อให้เป็นอนุชั้นดีแต่ก็เป็นเพียงบ่าวคนหนึ่งเท่านั้น ต่อไปบุตรของเจ้าไม่อาจเรียกเจ้าว่าแม่ ไม่อาจใกล้ชิดเจ้าได้ หากเจ้ากล่าวว่าภรรยาเอกของบุตรอนุเสนาบดีกรมการคลังแท้งจนไม่อาจตั้งครรภ์ได้อีก เช่นนั้นเจ้ายิ่งไม่อาจเลี้ยงดูบุตรของเจ้าได้เอง กระทั่งตอนคลอดพวกเขาอาจเก็บเพียงเด็กไว้แล้วจัดการแม่ทิ้ง เรื่องชั่วร้ายของจวนหลังเหล่านี้ แม้จวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่ของเราจะไม่มี แต่ไม่ได้หมายความว่าจวนอื่นจะไม่มีเช่นเดียวกัน” ไป๋ชิงเหยียนกล่าวโน้มน้าว

ไป๋ชิงเหยียนกลัวว่าหากกล่าวลึกไปกว่านี้ชุนซิ่งอาจไม่เข้าใจ หญิงสาวจึงพยายามอธิบายในสิ่งที่ชุนซิ่งสามารถเข้าใจได้

เพราะอย่างไรเสีย ตั้งแต่ที่ชุนซิ่งมาปรนนิบัติรับใช้ข้างกายนาง ชุนซิ่งไม่เคยทำเรื่องที่ผิดต่อนาง หากอธิบายให้เข้าใจได้ นายบ่าวจะได้ไม่ต้องผิดใจกัน ถือเป็นการตอบแทนน้ำใจของชุนซิ่ง

เมื่อชุนซิ่งได้ยินคำกล่าวของไป๋ชิงเหยียน ร่างของนางสั่นเทิ้ม

“ถึงแม้จะเป็นจวนของเรา แม้ข้างกายของอี๋เหนียงจะมีคนคอยรับใช้ ไม่ต้องกังวลเรื่องชีวิตประจำวัน ทว่า เจ้าเห็นบุตรอนุคนใดสนิทสนมกับอี๋เหนียงบ้าง เจ้าเห็นอี๋เหนียงคนใดในจวนเจิ้นกั๋วจวิ้นจู่กล้าไปหาคุณหนูคุณชายโดยไม่กลัวตายบ้าง แม้อี๋เหนียงจะไม่ต้องไปปรนนิบัติรับใช้ภรรยาเอกทั้งวัน ทว่า พวกเขาไม่สามารถออกมาจากเรือนของตัวเองได้ด้วยซ้ำ”

ไป๋ชิงเหยียนถอนหายใจออกมาเบาๆ “ชุนซิ่ง คนเราจะโลภมากไม่ได้ แต่ไรมาการเป็นอี๋เหนียงไม่ได้เป็นกันง่ายๆ ยิ่งอี๋เหนียงของตระกูลสูงศักดิ์ยิ่งไม่ได้เป็นกันได้ง่ายๆ หากไม่ระวังตัวอาจตายเมื่อใดก็ได้! ไม่สู้ให้ถงหมัวมัวหาคู่ครองที่เหมาะสมให้แก่เจ้า เจ้าแต่งไปเป็นภรรยาเอกของครอบครัวธรรมดาจะใช้ชีวิตสุขสบายกว่า”

ชุนซิ่งนึกถึงบุรุษรูปงามที่เคยช่วยแก้ไขสถานการณ์ให้ตน นางกัดริมฝีปากแน่น นางเชื่อว่าคุณชายหกจริงใจต่อนาง หากมีคุณชายหกอยู่ เขาต้องปกป้องนางอย่างแน่นอน

ขอบตาของชุนซิ่งร้อนผ่าว ก้มศีรษะคำนับแนบพื้นให้ไป๋ชิงเหยียนอย่างตัดสินใจแน่วแน่ จากนั้นเงยหน้าขึ้น “หวังว่าคุณหนูใหญ่จะอนุญาตเจ้าค่ะ”

ไป๋ชิงเหยียนเม้มปาก มือที่วางอยู่บนปกตำราลูบไปที่ขอบตำราอย่างแผ่วเบา เมื่อเห็นท่าทีแน่วแน่ของชุนซิ่งจึงเอ่ยถามต่อ “ชุนซิ่งเจ้าเคยคิดหรือไม่ว่าที่จวนเสนาบดีกรมการคลังเลือกเจ้าเป็นอนุอาจเป็นเพราะเจ้าเป็นสาวใช้ใหญ่ข้างกายของข้า”

“ไม่ใช่เจ้าค่ะคุณหนูใหญ่! ไม่ใช่แน่นอนเจ้าค่ะ วันก่อนตอนบ่าวกลับบ้านบ่าวถูกขโมยถุงเงิน บ่าวไม่มีเงินจ่ายค่าของจนเกือบถูกจับไปที่จวนว่าการเพราะเข้าใจผิดคิดว่าบ่าวเป็นโจร ทว่า คุณชายหกของจวนเสนาบดีกรมการคลังช่วยบ่าวเอาไว้เจ้าค่ะ!” ชุนซิ่งรีบอธิบายอย่างร้อนรน

ไป๋ชิงเหยียนชะงักมือที่ลูบสันตำราทันที

หากเมื่อครู่นางยังไม่แน่ใจว่าเสนาบดีกรมการคลังพุ่งเป้ามาที่นาง เช่นนั้นตอนนี้…นางมั่นใจแล้วว่าเขาพุ่งเป้ามาที่นางจริงๆ