“ก่อนหน้านั้นคุณเคยพูดกับฉันว่า ผู้ชายที่แก่กว่า ……จะอยู่ชั่วฟ้าดินสลาย?”
แววตาที่เปล่งประกายของเฉินฮวนฮวนนั้นเบิกกว้าง เอียงคอเล็กน้อย มือทั้งสองข้างพาดอยู่บนไหล่ของผู้ชาย และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ใช่” เฟิงหานชวนพยักหน้าอย่างไม่ลังเล
ก่อนหน้านั้นเพื่อปลอบใจเฉินฮวนฮวน เขาจึงโกหกออกไป นึกไม่ถึงว่าเฉินฮวนฮวนกลับจำขึ้นใจมาโดยตลอด
“งั้น…..งั้นถ้าเราไม่……..” เฉินฮวนฮวนเม้มปากเล็กน้อย ยังไม่ทันพูดจบ ก็ก้มหน้าลงทันที
“ไม่อะไร?” เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนหยุดพูดฉับพลัน เฟิงหานชวนจึงรีบถามทันที
“เรา……” เฉินฮวนฮวนเกิดความลังเลเล็กน้อย แต่ไม่นานก็สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ จากนั้นเงยหน้าขึ้น ดวงตาที่สดใสคู่นั้นได้มองไปยังผู้ชายตรงหน้าด้วยแววตาจริงจัง
“อือ?” เฟิงหานชวนเลิกคิ้วสูงเล็กน้อย
“ความหมายของฉันก็คือ ถ้าเราไม่ได้อยู่กันก่อนแต่งแล้ว เรามาอยู่แบบสามีภรรยากันจริง ๆ ดีไหม? สามีภรรยาจริง ๆ ไม่ใช่อยู่ก่อนแต่งแบบนั้น!” เฉินฮวนฮวนพูดออกมาอย่างกล้าหาญ แต่เพราะความเขินอาย จึงพูดออกไปแบบรวดเร็ว
หลังจากที่ถามจบลง เธอก็รีบก้มหน้าลงทันที ก้มให้ต่ำที่สุด จนแทบจะมุดลงดินหนีหายไปให้รู้แล้วรู้รอด
เฟิงหานชวนอึ้งงันเล็กน้อย ตอนแรกเขาเกือบดึงสติกลับมาไม่ได้ คำพูดของเฉินฮวนฮวนได้ลอยวนเวียนอยู่ในหัวของเขาอีกครั้ง ทำให้มุมปากของเขากระตุกยิ้มทันที
ความโค้งของรอยยิ้มนั้นลึกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ดีสิ” เขาตอบกลับไปอย่างไม่ลังเล
ทันทีที่ได้ยินคำตอบง่าย ๆ นี้ เธอรู้สึกเหมือนได้ยินเรื่องสุดเซอร์ไพรส์อย่างไรอย่างนั้น เฉินฮวนฮวนรีบเงยหน้าขึ้นมาอีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่แดงก่ำ ดวงตาคู่นั้นฉายแววกระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อย
ยังไม่ทันที่เธอจะได้สติกลับมา มือทั้งสองข้างของผู้ชายตรงหน้าก็เอื้อมมาแตะใบหน้าเล็ก ๆ ของเธอ จากนั้นก็ขยับหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ จนสัมผัสกันในที่สุด
และถูกันเล็กน้อย…..
ไม่รู้ว่านานแค่ไหน เฉินฮวนฮวนรู้สึกเพียงแค่ว่าลำคอของเธอนั้นแข็งทื่อไปชั่วขณะ ทำได้แค่เอื้อมมือออกไปผลักหน้าอกของผู้ชายคนนี้
ขืนปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป เกรงว่าคอของเธออาจจะขยับไม่ได้อีกหลังจากนี้
เฟิงหานชวนจำใจต้องปล่อยผู้หญิงในอ้อมกอดคนนี้อย่างอาลัยอาวรณ์ เฉินฮวนฮวนจึงรีบยืนขึ้น จากนั้นก็ลูบผมของตัวเองด้วยความอึดอัดใจ และเบี่ยงหน้าไปมองทางอื่น ก่อนจะพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า : “ฉัน ….. ฉันต้องไปเรียนแล้ว คุณกลับไปก่อนเถอะ”
“กริ๊ง กริ๊ง…..”
โชคดีที่ตอนนี้ เสียงสัญญาณเตือนบอกเวลาในคาบเรียนสุดท้ายของวิชาภาคค่ำก็ได้ดังขึ้น
“ทำไมเวลาถึงได้เร็วขนาดนี้เนี่ย!” เฉินฮวนฮวนอดบ่นพึมพำไม่ได้ ตอนนี้ 3 ทุ่มแล้วเหรอ?
เธอรู้สึกว่าตัวเองเพิ่งจะพูดกับเฟิงหานชวนได้ไม่กี่ประโยคเอง เวลาเรียนผ่านไปเร็วขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย?
เมื่อเฟิงหานชวนได้ยินคำบ่นของเฉินฮวนฮวน เขาก็ลุกขึ้น จากนั้นก็โน้มตัวลงมา ยื่นปากเข้าไปข้างหูของเธอ มุมปากกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ เป่าลมร้อนออกมาอย่างช้า ๆ
“ไม่อยากแยกจากผมใช่ไหม?”
เฉินฮวนฮวนรู้สึกจั๊กจี้ที่ลำคอและใบหู สีหน้าที่ตึงเครียดเดิมทีก็ค่อย ๆ เริ่มแดงระเรื่อขึ้น เพียงแต่เพราะภายในห้องพักแห่งนี้ค่อนข้างสลัวเกินไป ดังนั้นเธอจึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกอีกครั้ง
“เหลือเวลาอีก 6 วัน คุณห้ามมาหาฉันเด็ดขาด” เฉินฮวนฮวนรีบอ้าปากพูด : “ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว ฉันต้องรีบกลับไปอาบน้ำและพักผ่อน หลังจากที่ฉันออกไปแล้วคุณค่อยออกไปทีหลังนะ”
เมื่อเฉินฮวนฮวนพูดจบ ก็หมุนตัวและเตรียมเดินไปยังประตูทันที เพียงแต่ยังไม่ทันที่เธอจะก้าวเดินออกไป ก็ถูกมือใหญ่คว้าตัวไว้ ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกดึงกลับมา
เธอรู้สึกได้ถึงแผ่นอกที่ร้อนรุ่มของผู้ชายที่อยู่ด้านหลัง เธอถูกเฟิงหานชวนสวมกอดจากด้านหลัง และกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“ฉันต้องกลับหอพักแล้วจริง ๆ” เฉินฮวนฮวนเม้มปากเล็กน้อย และพูดอีกครั้งว่า : “ความสัมพันธ์ของเรา ฉันยังไม่อยากเปิดเผยให้สาธารณะรู้ ไม่ได้บอกว่าฉันจะไม่อยากเปิดเผยเรื่องคุณหรอกนะ แต่เป็นเพราะ………”
“ผมเข้าใจ และเชื่อฟังคุณ” เฟิงหานชวนตัดบทพูดของฝ่ายหญิง และเอ่ยปากพูดต่อ
“คุณเข้าใจอะไร?” เฉินฮวนฮวนตื่นตกใจ หรือว่าเฟิงหานชวนเดาออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่?
“ผมเข้าใจว่าคุณอยากจะผ่านการประกวดด้วยความพยายามของคุณเอง ไม่อยากพึ่งอำนาจใด ๆ ” เฟิงหานชวนสัมผัสได้ถึงความหมายนี้จากน้ำเสียงก่อนหน้านั้นของเฉินฮวนฮวน
เพียงแต่เฉินฮวนฮวนในตอนนั้น ยังคงรักษาระยะห่างกับเขา คอยย้ำเตือนเสมอว่าห้ามเปิดเผยเรื่องนี้ออกไป และคอยย้ำว่าเราสองคนอยู่ในสถานะอยู่ก่อนแต่งเท่านั้น เขาเลยรู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนไม่อยากยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขา
แต่ตอนนี้ คนที่เสนอขอเปลี่ยนสถานะกลายเป็นสามีภรรยากันจริง ๆ เป็นคนแรกก็คือเฉินฮวนฮวน
ดังนั้นเมื่อเฉินฮวนฮวนบอกว่ายังไม่อยากเปิดเผยออกไป เขาเองก็ไม่ได้รู้สึกลำบากใจแต่อย่างใด
“อื้อ!” เมื่อได้ยินเสียงตอบรับของเฟิงหานชวน เฉินฮวนฮวนก็พยักหน้านั้นฉับพลัน ก่อนจะคลี่ยิ้มฟันขาวที่เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ พร้อมกับสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสุข
“แล้วแต่คุณเลย คุณอยากจะทำอะไรก็ทำเลย” ตอนที่เฟิงหานชวนพูดประโยคนี้ ความรักที่แฝงอยู่ในคำพูดนั้นแทบจะล้นทะลักออกมาเลยทีเดียว
เขาปล่อยเฉินฮวนฮวน ทันทีที่เฉินฮวนฮวนเป็นอิสระแล้ว เธอก็หมุนตัวและเดินมาตรงหน้าของเฟิงหานชวน จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองดวงตาสีดำทมิฬของเขาและพูดว่า : “งั้นฉันไปจริง ๆ แล้วนะ”
“ผมอยากไปส่งคุณ แต่…..คุณคงไม่อนุญาต” แววตาของเฟิงหานชวนหม่นหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
เขารู้ว่าความสัมพันธ์ของเราสองคนไม่สามารถเปิดเผยออกไปได้ ดังนั้น ตอนนี้แม้แต่สิทธิ์ที่จะส่งภรรยากลับหอพักก็ยังไม่มี
จู่ ๆ ความโศกเศร้าก็พลันเกิดขึ้นอีกครั้ง
“ทางแค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอกค่ะ” เฉินฮวนฮวนพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็โบกมือไปทางเฟิงหานชวน และหมุนตัวเตรียมเดินจากไป
วินาทีนี้ เฟิงหานชวนไม่มีเหตุผลอะไรไปรั้งเธอไว้อีกแล้ว เขาได้แต่มองแผ่นหลังของเธอ และทอดถอนใจออกมาเบา ๆ
การแยกกันครั้งนี้ กว่าจะได้เจอกันอีกครั้งก็อีกตั้ง 6 วัน จะบอกว่านานมันก็ไม่นาน แต่จะบอกว่าสั้นมันก็ไม่สั้น
เฉินฮวนฮวนเดินพ้นประตูออกไป เธอเอื้อมมือออกไปจับลูกบิดประตู แต่จู่ ๆ เหมือนจะคิดอะไรได้ จึงรีบหันไปมองเฟิงหานชวน และพูดว่า : “ตอนที่ฉันกลับไปแล้ว คงมีหลายคนเข้ามาถามเรื่องคุณแน่ ๆ ”
“อือ? แล้วคุณจะตอบว่ายังไง?” เฟิงหานชวนเดินไปหาเธอ จากนั้นก็เอนตัวพิงผนังข้างประตูด้วยท่าทางขี้เกียจ แต่น้ำเสียงนั้นขี้เกียจยิ่งกว่า
แค่เห็นเฟิงหานชวนยืนด้วยท่าทางขี้เกียจอยู่ตรงหน้าของตัวเอง เฉินฮวนฮวนก็รู้เหมือนกำลังชื่นชมภาพวาด จนเกือบจากเคลิบเคลิ้มคล้อยตามแล้ว
เธอรีบเรียกสติกลับมา และพูดว่า : “ฉันตั้งใจจะบอกว่าคุณคือหุ้นส่วนรายใหญ่ของบริษัทหวาเถิง เพราะคิดว่าฉันทำเรื่องที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับภาพลักษณ์ของบริษัท ดังนั้นจึงได้เรียกฉันมาที่ห้องพักเป็นการส่วนตัว และสั่งสอนฉันไปฉากหนึ่ง”
“ผมยังไม่ได้สั่งสอนคุณเลยนะ” เฟิงหานชวนมองยังไปผู้หญิงตรงหน้าอย่างไม่ลดละ และเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ไม่ใช่ ฉันไม่ได้บอกให้คุณสั่งสอนฉันจริง ๆ สักหน่อย ฉันแค่บอกว่าจะอธิบายแบบนี้กับพวกเธอ บอกว่าคุณสั่งสอนฉัน ทำให้ฉันร้องไห้ แต่ภายใต้การอ้อนวอนของฉัน คุณก็เลยไม่ไล่ฉันออก” เฉินฮวนฮวนวิเคราะห์ออกมาอย่างจริงจัง
“ผมสั่งสอนคุณ ทำคุณร้องไห้? ภายใต้การอ้อนวอนของคุณ ผมก็เลยปล่อยคุณไป?” เฟิงหานชวนพูดทวนประโยคของเฉินฮวนฮวนแทบจะทั้งหมดอีกครั้ง
“อื้อ ๆ ถูกต้อง แบบนี้แหละ นี่เป็นเหตุผลที่ฉันจะอธิบายให้พวกเธอฟัง” เฉินฮวนฮวนพยักหน้าอย่างจริงจัง โดยไม่ได้สังเกตเห็นถึงความไม่ชอบมาพากลแต่อย่างใด
เฟิงหานชวนกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อย พร้อมกับหัวเราะเบา ๆ จากนั้นก็ก้มหน้าลง และยื่นหน้าไปตรงหน้าของเธอ ก่อนจะถามว่า : “ฮวนฮวน ทำไมผมรู้สึกคุ้น ๆ ฉากนี้จัง?”
“อะไร?” เฉินฮวนฮวนไม่เข้าใจ จึงถามอีกครั้งว่า : “ฉากอะไร?”
เพียงแต่ทันทีที่ถามจบ เธอก็เห็นมุมปากของผู้ชายตรงหน้ากระตุกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ และตระหนักได้ถึงความไม่ชอบมาพากล เฟิงหานชวนกำลังทำรุ่มร่ามกับเธอ!
“ให้ผมเตือนสติคุณไหม? คืนก่อนที่จะเข้ามาในค่าย ฉากในห้องนอนของเรา…….” ยังไม่ทันที่เฟิงหานชวนจะพูดจบ ก็ถูกผู้หญิงตรงหน้าใช้มือปิดปากของเขาแล้ว
เฉินฮวนฮวนถลึงตาใส่เขาอย่างตำหนิ ก่อนจะพูดด้วยความขุ่นเคืองใจว่า : “คุณ หยุดพูดเดี๋ยวนี้!”
เฟิงหานชวนมองไปยังแก้มป่อง ๆ ของผู้หญิงตรงหน้า ท่าทางโกรธแก้มป่องนี้ น่ารักมากจริง ๆ
เขาดึงมือของเฉินฮวนฮวนออก จากนั้นก็ใช้นิ้วชี้ลูบไปบนหลังมือของเธอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า : “ผมจะรอคุณกลับมา ถึงตอนนั้น………”
“เฟิงหานชวน คุณนี่มันหน้าไม่อายจริง ๆ !” เฉินฮวนฮวนหน้าแดงด้วยความเขินอาย เธอสะบัดมือของผู้ชายทิ้ง จากนั้นก็พรวดพราดเปิดประตูออกไป
เมื่อเห็นแผ่นหลังของผู้หญิงที่รีบร้อนวิ่งออกไป เฟิงหานชวนก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
ไม่รีบก็ได้ ระยะเวลา 6 วัน ไม่นานเท่าไหร่!
…….
เฉินฮวนฮวนเพิ่งวิ่งมาถึงหน้าบันไดได้ไม่นาน ก็ถูกใครบางคนคว้าแขนไว้
เธอตกใจจนเกือบส่งเสียงร้องออกมา แต่เมื่อหันกลับไปมองและเห็นว่าเป็นหลินอวี่หยาง จึงได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
“หยางหยาง คุณมาทำอะไรตรงนี้?” เฉินฮวนฮวนรีบถามขึ้น
“ผมก็มารอคุณไงครับ! ผมหลบซ่อนตัวจากคนอื่นอยู่เงียบ ๆ” หลินอวี่หยางเงี่ยหูฟังเสียงด้านล่างของบันได ก่อนจะพูดด้วยเสียงเบา ๆ ว่า : “เวลานี้คนส่วนใหญ่ต่างก็น่าจะกลับหอพักกันแล้ว เราเองก็ไปกันเถอะ”
“หยางหยาง คุณ…..” เฉินฮวนฮวนตั้งใจจะถือโอกาสตอนที่อยู่ด้วยกันสองคนถามขึ้นว่า : “คุณรู้ความสัมพันธ์ระหว่างฉันกับเฟิงหานชวนไหม?”
“ไอหยา! ชู่!” หลินอวี่หยางเลื่อนนิ้วชี้ออกไปตรงปากของเฉินฮวนฮวน จากนั้นก็พูดด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า : “ความสัมพันธ์ของคุณกับเฟิงหานชวนยังเปิดเผยออกไปไม่ได้ เราค่อยกลับไปคุยกันดีกว่า ตอนนี้กลับไปอาบน้ำก่อนเถอะ”
“ก็ได้” เฉินฮวนฮวนพยักหน้า ทั้งสองคนเดินออกจากตึกเรียนไป
หลังจากที่มาถึงหอพักแล้ว หลินอวี่หยางและเฉินฮวนฮวนก็แยกกันตรงหน้าบันได เฉินฮวนฮวนรีบกลับไปยังหอพักของตัวเอง
ในเวลานี้ มีคนกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เฉินฮวนฮวนกวาดตามองไปรอบ ๆ พบว่าทุกคนอยู่ที่นี่กันหมด มีแค่ติงเซียงเท่านั้นที่ไม่อยู่ เธอจึงรู้ว่าติงเซียงกำลังอาบน้ำอยู่ข้างใน
“เฮ้ เฉินฮวนฮวนกลับมาแล้ว?” จ้าวซีลุกขึ้นยืนจากเตียงนอน จากนั้นก็ก้าวขาที่เรียวยาวคู่นั้นไปหาเฉินฮวนฮวนทันที เธอยิ้มเยาะเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า : “เธอไม่ได้เข้าเรียนภาคค่ำ ทำไม หรือว่ากลับไปเก็บกระเป๋ามาใช่ไหม?”
“เก็บกระเป๋า? ทำไม จ้าวซี เธอคิดว่าฉันจะหอบผ้าหอบผ่อนกลับบ้านเหรอ?” เฉินฮวนฮวนอดหัวเราะไม่ได้ จ้าวซีคนนี้พยายามโจมตีเธออย่างไม่ลดละจริง ๆ
“เธอถูกเฟิงหานชวนสั่งสอนทั้งคืน แถมยังร้องไห้ขี้มูกโป่งด้วย ร้องไห้อย่างน่าสงสารขนาดนั้น ก็ควรจะต้องถูกไล่ออกสิ?” น้ำเสียงของจ้าวซีเต็มไปด้วยความอวดเก่ง
ถูกเฟิงหานชวนสั่งสอนทั้งคืน…..ทันทีได้ยินประโยคนี้ เฉินฮวนฮวนกลับไม่ได้โกรธแต่อย่างใด ตรงกันข้ามกลับยังหน้าแดงระเรื่อด้วย
ประเด็นก็คือ เพราะคำพูดเมื่อสักครู่ของเฟิงหานชวน เธอก็เลยไขว้เขวกับคำพูดของจ้าวซี
เมื่อเห็นเฉินฮวนฮวนหน้าแดงโดยไม่พูดอะไร จ้าวซีจึงคิดว่าตัวเองนั้นจี้จุดได้ถูกต้อง ส่วนเฉินฮวนฮวนยังถูกตัวเองมองได้อย่างทะลุปรุโปร่ง เพราะความอึดอัดใจและหน้าที่แดงระเรื่อ ในเวลานี้จ้าวซีจึงยิ่งภาคภูมิใจ
“ในเมื่อถูกไล่ออกแล้ว ก็รีบ ๆ ไสหัวไปสิ” จ้าวซีกลอกตาไปมา จากนั้นก็บ่นพึมพำเบา ๆ ว่า : “วันนี้ก็ยังไม่เห็นหลินอวี่หยางมาหาเธอเลยนี่ ดูท่าเขาคงช่วยเธอไม่ได้แล้วละ!”