บทที่ 305 ยกย่อง

บทที่ 305 ยกย่อง

เมื่อนายท่านหวังเห็นว่า ในที่สุดกู้เสี่ยวหวานก็ชนะคดีและที่ดินก็เป็นของนางด้วย เขาก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก

นายท่านหวังรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย ดูเหมือนว่าการที่เขาใช้เวลามากกว่าสองวันในการมาที่นี่คงไม่เปล่าประโยชน์

“สาวน้อยกู้ ในที่สุดเรื่องนี้ก็คลี่คลายลงได้แล้ว ต่อจากนี้ไปขอให้เจ้าจำไว้ให้ดีว่าอย่าติดต่อกับคนไร้คุณธรรมเช่นนี้อีก” นายท่านหวังมองที่เหลยต้าเซิ่งและซุนซีเอ๋อร์ซึ่งยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยความขุ่นเคือง และกล่าวอย่างมีความหมายว่า “เจ้ายังเป็นเพียงเด็กหญิง ดังนั้นจงระวังตัวเองไว้เสมอ และอย่าปล่อยให้ผู้อื่นมาหลอกเอาได้”

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าอย่างหนักแน่น “นายท่านหวัง ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ!”

“เหลยต้าเซิ่ง ซุนซีเอ๋อร์ เจ้าสองคนโลภ สมรู้ร่วมคิดกับทางการ แย่งชิงทรัพย์สมบัติของผู้อื่น อาชญากรรมเช่นนี้ไม่อาจให้อภัยได้ พวกเจ้าพาสองคนนี้ไปคุมขัง” เมื่อหลิวจือเสี้ยนมองทั้งสองคน น้ำเสียงของเขาเย็นลงทันใด และกล่าวอย่างเฉียบขาด

“นายท่าน นายท่าน ข้าไม่กล้าทำอีกแล้ว สาวน้อยเสี่ยวหวาน เจ้าช่วยข้าด้วย ข้าเป็นป้าของเจ้านะ เจ้าจะไม่ช่วยข้าเช่นนี้ไม่ได้!” ซุนซีเอ๋อร์คลานไปทางกู้เสี่ยวหวานและดึงชายเสื้อของกู้เสี่ยวหวานน้ำมูกและน้ำตาไหลพลางร้องขอความเมตตา “สาวน้อยเสี่ยวหวาน เราเป็นญาติกัน ข้าเป็นป้าของเจ้า เจ้าอย่าเห็นแก่ตัวสิ เราเคยอาศัยอยู่บ้านเดียวกันมาก่อนนะ เจ้าขอความเมตตาจากนายท่านสิ ช่วยข้า ช่วยข้าด้วย!”

ซุนซีเอ๋อร์มีท่าทางน่าสงสาร ถ้าใครไม่รู้ พวกเขาจะคิดว่าซุนซีเอ๋อร์น่าสงสารและรู้สึกสงสารนาง

ในโลกนี้มีคนน่าสงสารมากมาย แต่มีแมรี่ซูมากมายที่ไหนกัน!

กู้เสี่ยวหวานยิ้มเยาะเย้ย ดึงชายเสื้อของนางออกจากมือของซุนซีเอ๋อร์และเยาะเย้ย “ซุนซื่อ ไม่รู้ว่าท่านลืมไปหรือเปล่า ถึงท่านจะเป็นป้าของข้า แต่ท่านเคยทำหน้าที่นั้นบ้างหรือไม่? หากท่านคิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสายเลือดแม้เพียงเล็กน้อย เรื่องเช่นนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น มีคำโบราณกว่าวไว้ว่า คนทำดีฟ้าจะเห็น แต่ท่านทำเรื่องสกปรกเหล่านั้น…” กู้เสี่ยวหวานก้มศีรษะ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่มีแต่ซุนซีเอ๋อร์เท่านั้นที่ได้ยิน “ท่านป้าต้องถูกสวรรค์ลงโทษและไม่ตายดีอย่างแน่นอน!”

คำพูดทีละคำที่ออกมาจากปากของกู้เสี่ยวหวานราวกับมีดเย็น ๆ เฉือนเข้าหูของนางทีละคำ

โดยเฉพาะคำพูดสุดท้ายเมื่อซุนซีเอ๋อร์ได้ฟัง นางก็รู้สึกราวกับว่ามีผีที่คลานออกมาจากขุมนรก ร่างกายสั่นสะท้านไปด้วยความหวาดกลัวและทรุดลงกับพื้น นางมองดูกู้เสี่ยวหวานด้วยความสยดสยอง นางไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากู้เสี่ยวหวานจะทำกับนางได้ถึงเพียงนี้

กู้เสี่ยวหวานที่เคยอยู่ในกำมือของนาง เมื่อไรกันที่กลายเป็นคนที่น่ากลัวขนาดนี้?

ซุนซีเอ๋อร์มองไปที่กู้เสี่ยวหวานที่กลับมาเป็นปกติอย่างหวาดผวา ราวกับว่าสิ่งที่นางเพิ่งกล่าวไปเพียงแค่บอกว่าอากาศดี

ก่อนที่ซุนซีเอ๋อร์จะคิดได้ นางก็ถูกทหารลากออกไป เสียงกรีดร้องยังคงดังออกมาจากปากของนาง แต่ถูกผ้าขนหนูที่มีกลิ่นแปลก ๆ อุดไว้ และเสียงกรีดร้องที่เหลือก็ถูกกลืนกลับเข้าไปในท้องของนาง และกลิ่นก็ส่งตรงไปที่จมูกของนาง ซุนซื่อที่คุ้นเคยกับเสื้อผ้าที่มีกลิ่นหอม เมื่อได้กลิ่นแปลกเช่นนี้ก็รู้สึกขยะแขยง

เมื่อนายท่านหวังเห็นว่าเหลยต้าเซิ่งและซุนซีเอ๋อร์ถูกคุมตัวไปขังแล้ว เขาก็มีความสุขมาก เหลยต้าเซิ่งผู้นั้นควรได้รับความทุกข์ทรมานมานานแล้ว นี่เป็นเรื่องจริง ทำชั่วได้ชั่ว ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้รับผลกรรม แต่แค่ยังไม่ถึงเวลา

“สาวน้อย มีคนมาเช่าที่ดินของเจ้าหรือยัง?” เมื่อตอนที่เขามา อาโม่กล่าวกับนายท่านหวังแล้ว โดยบอกว่าครึ่งหนึ่งของที่ดินของกู้เสี่ยวหวานถูกเช่าไปแล้ว และนางเก็บค่าเช่าเพียงสามส่วนและในปีที่แห้งแล้งจะเก็บเพียงสองส่วน

นายท่านหวังรู้สึกประหลาดใจ แต่เขาไม่คิดว่าสาวน้อยผู้นี้จะเป็นคนใจดีเช่นนี้ และหัวใจของเขาก็พองโตด้วยความชื่นชม

กู้เสี่ยวหวานพยักหน้าและกล่าวว่า “อืม มีคนมาเช่ามาบ้างแล้วเจ้าค่ะ”

ในวันนี้หลิวต้าจ้วงและเถาต๋าก็มาที่นี่ พวกเขามาที่นี่เพื่อให้กำลังใจกู้เสี่ยวหวาน เมื่อเห็นเจ้าของคนก่อนที่ดินถามคำถามนี้ พวกเขาก็รีบก้าวไปข้างหน้าและกล่าวว่า “นายท่านหวัง เราเป็นคนที่เช่าที่ดินของสาวน้อยผู้นี้”

นายท่านหวังมองดูทั้งสองคน พวกเขาดูซื่อสัตย์และมีความสามารถ เขาพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ และเอ่ยถามอย่างรู้เท่าทันว่า “เช่าที่ดินนี้ได้อย่างไร?”

เมื่อหลิวต้าจวงได้ยิน เขากล่าวอย่างตื่นเต้นทันที “ข้าได้พบกับพระโพธิสัตว์ที่กลับชาติมาเกิด สาวน้อยกู้เก็บค่าเช่าในแบบที่ข้าไม่เคยได้ยิน ในปีปกติเก็บเพียงสามส่วน และในปีแห้งแล้งก็เก็บเพียงสองส่วน พวกเราจึงเช่าที่ดินสิบหมู่ และยังบอกให้ญาติมาเช่าด้วยกันอีกด้วย ตอนนี้ทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว บ่ายนี้เราจะกลับไปหว่านเมล็ด”

“อะไรนะ? เก็บค่าเช่าแค่สามส่วน? น้อยขนาดนั้นเลย?”

“โอ้สวรรค์ นั่นน้อยกว่าผู้ให้เช่าทั่วไปหนึ่งถึงสองส่วนเลยนะ สาวน้อยผู้นี้ใจดีเสียจริง!”

“ใช่แล้ว สิ่งที่คนจนอย่างพวกเราต้องการที่สุดคือการได้พบกับเจ้าของที่ดินที่มีเหตุผล สาวน้อยผู้นี้ แม้จะอายุยังน้อย แต่นางก็เป็นคนมีเหตุผลมาก”

“ไม่เลว พอดีเลย น้องชายของข้าก็อยู่ในเมืองหลิวเจีย เขาก็ต้องการเช่าที่ดินเหมือนกัน” หนึ่งในนั้นเอ่ยถาม “สาวน้อย เจ้ายังมีที่ดินให้เช่าหรือไม่? ข้าขอจองที่ดินสิบหมู่ให้น้องชายของข้า”

เมื่อได้ยินว่ามีคนต้องการเช่าที่ดิน กู้เสี่ยวหวานก็ยิ้มออกมา เหลือที่ดินอีกยี่สิบกว่าหมู่ให้เช่าพอดี และคนที่นี่ก็ต้องการเช่า

อีกเสียงหนึ่งมาจากด้านข้าง “สาวน้อย ข้าก็อยากเช่าที่ดินสักสิบหมู่ด้วย”

มีชาวบ้านจำนวนหนึ่งต้องการเช่าที่ดินหรือญาติในครอบครัวที่ต้องการเช่าที่ดิน ทุกคนบอกกู้เสี่ยวหวานว่าต้องการเช่าที่ดิน แต่นางมีที่ดินเพียงยี่สิบห้าหมู่เท่านั้น หลังจากที่ผู้คนจองที่ดินยี่สิบห้าหมู่ไว้แล้ว กู้เสี่ยวหวานจึงทำได้เพียงขอโทษผู้ที่มาภายหลังเท่านั้น

กู้เสี่ยวหวานได้รับค่าเช่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในเมืองรุ่นเสียนนี้มีที่ให้เช่าไม่มากนัก คนยากจนบางคนอาศัยอยู่ด้วยการเช่าที่ดินไม่กี่หมู่ตลอดทั้งปี หากเป็นปีที่ดีก็จะมีอาหารให้แก่ครอบครัวได้มาก หากเป็นปีที่แห้งแล้ง ทุกคนก็จะแบ่งกันกินและใช้ชีวิตร่วมกันได้

เมื่อรู้ว่าที่ดินของกู้เสี่ยวหวานถูกเช่าหมดไปแล้ว บรรดาผู้ที่มาทีหลังต่างพากันรู้สึกเสียใจที่มาช้าไป เรื่องที่จะได้จ่ายค่าเช่าน้อยลง นี่เป็นเรื่องที่หาได้ยากมาก!

หลิวจือเสี้ยนที่ยืนอยู่ด้านข้างโดยไม่พูดอะไรมาตลอด ในโถงมีเสียงดังเล็กน้อยเพราะเป็นเสียงของผู้คนที่เฝ้าดู แต่หลิวจือเสี้ยนไม่ได้กล่าวอะไร แต่ปล่อยให้พวกเขาพูดคุยกันจนจบ จากนั้นหลิวจือเสี้ยนจึงกล่าวว่า “สาวน้อยกู้ ไม่คิดว่าเจ้าจะเป็นคนใจดีและชอบธรรมเช่นนี้”

ที่ดินผืนนี้จ่ายค่าเช่าน้อยลงหนึ่งถึงสองส่วน ถ้าจ่ายน้อยลงก็สามารถเลี้ยงคนเพิ่มได้อีกหนึ่งคน หรือสามารถเพิ่มข้าวครึ่งชามให้ทั้งครอบครัวได้ หากเป็นปีที่แห้งแล้งก็ถือเป็นเรื่องสำคัญในการช่วยชีวิตคน