เหมือนว่าเขาอยากหัวเราะ แต่เนื่องจากแต่ไหนแต่ไรมาเขาได้แต่ยิ้มบางๆ หรือยกมุมปากขึ้นมาเท่านั้น และกล้ามเนื้อใบหน้าก็แข็งทื่อแบบนั้นมาอยู่แล้ว แสดงออกมาไม่ได้มาก

ดังนั้นอาการในตอนนี้ จึงแปลกเป็นอย่างมาก

ในที่สุด หัวใจที่เต้นแรงของนัทธีก็ค่อยๆคืนกลับไป อาการที่ใบหน้าก็เก็บลงไป กลายเป็นสภาพเย็นชาเหมือนปกติ แต่ความตื่นเต้นในแววตานั้นยังไม่หายไป หลังจากลูกกระเดือกขยับไปมา จึงถามด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรนเล็กน้อย“เธอท้อง……จริงๆเหรอ?”

“น่าจะจริงค่ะ”ป้าส้มตอบกลับยิ้มๆ

นัทธียืนขึ้นมา“ผมเข้าใจแล้ว ผมจะกลับไปทันที!”

พูดจบ เขาก็วางโทรศัพท์ลง แล้วเรียกมารุตเข้ามา

“ประธาน มีอะไรจะกำชับไหมครับ?”มารุตเข้ามาถาม

นัทธีหยิบเสื้อคลุมตรงชั้นวางมาพาดไว้ที่แขน เดินผ่านโต๊ะทำงานไปที่ประตูออฟฟิศ“คุณขับรถ กลับไปที่คฤหาสน์”

“มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าครับ?”มองนัทธีที่ก้าวเท้าอย่างรวดเร็ว มารุตจึงคิดว่าที่คฤหาสน์เกิดเรื่องอะไร จึงตามอยู่หลังแล้วรีบถาม

นัทธีกดปุ่มลิฟต์“วารุณีท้อง”

“ที่แท้ก็ท้อง…..อะไรนะ?ท้อง?”หลังจากมารุตตอบสนองคืนมา ก็ตะลึงงันไปหมด แว่นไถลลงมาครึ่งหนึ่ง

นัทธีเห็นเขาตอบสนองอย่างรุนแรงแบบนี้ ริมฝีปากบางๆยกขึ้นเล็กน้อย

ในที่สุดหลังจากได้ยินข่าวนี้ คนที่ตอบสนองอย่างรุนแรง ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว

“ถูกต้อง”นัทธีพยักหน้า

มารุตใจเย็นลง จับแว่นไว้ดีๆ แล้วกลืนน้ำลาย พยายามให้เสียงนั้นนิ่ง“งั้นก็ยินดีกับประธานจริงๆนะครับ”

นัทธีพยักหน้า“อีกเดี๋ยว คุณไปสั่งแหวนคู่หนึ่ง”

“ประธาน คุณจะขอคุณวารุณีแต่งงานเหรอ?”มารุตเดาจุดประสงค์ของเขาออกทันที

นัทธีตอบอือกลับไปโดยไม่พูดสักคำ

“ก็ใช่ เธอท้องแล้วนี่ ถ้าคุณไม่แต่งงานกับเธอ นั่นก็กลายเป็นผู้ชายเลวไม่ใช่หรือไง”มารุตพยักหน้าแล้วพูด

นัทธีหันหน้าไปเล็กน้อย มองเขาด้วยสายตาที่แสนเย็นชา

มารุตรู้สึกถึงสายตาเย็นชาที่นัทธีมองมา ทันใดนั้นก็ตอบสนองได้ว่าตัวเองพูดผิด จึงหดคอลง แล้วหุบปากลงอย่างตระหนักได้

แป๊บเดียว ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ก็ถึงคฤหาสน์

มารุตจอดรถเสร็จ นัทธีก็ลงจากรถ เดินไปที่ประตูคฤหาสน์

พอเข้าไปคฤหาสน์แล้ว เขาก็เห็นวารุณีที่นั่งอยู่บนโซฟา ก้มหน้าลงลูบท้องน้อย

เขาเดินไปเงียบๆโดยไม่รู้ตัว เดินไปนั่งอยู่ข้างเธอ

วารุณีรู้สึกว่าด้านข้างจมลงไป สายตาก็เป็นประกาย ในที่สุดก็ได้สติคืนมา หันหน้ามองไปด้านข้าง

เธอมองหน้าของชายหนุ่ม และฝืนยิ้มออกมา“กลับมาแล้วเหรอ?”

“อือ”นัทธีพยักหน้า จากนั้นละสายตาลงไปมองไปที่ท้องน้อยของเธอ

วารุณีตระหนักได้ถึงการกระทำของเขา ทันใดนั้นก็กังวลขึ้นมา ร่างกายก็อดไม่ได้เกร็ง“คุณ……คุณมีความเห็นอะไรไหม กับเด็กคนนี้?”

“ความเห็น?”นัทธีมองไปที่เธอ

วารุณีบีบฝ่ามือ“เช่น เอาออกหรือเก็บไว้?”

นัทธีขมวดคิ้ว

เขาดูเขาขมวดคิ้วแล้ว ในใจของวารุณีก็หม่นลง

เขาหมายความว่าไง

ไม่ใช่ว่าเขาคงไม่อยากได้เด็กคนนี้หรอกนะ?

ตอนที่เธอไม่กระวนกระวายใจอยู่นั้นเอง ในที่สุดนัทธีก็พูด และคิ้วก็คลายลง ลูบท้องของเธออยู่ด้านหลัง การกระทำนั้นอ่อนโยนและระมัดระวังมาก เหมือนกลัวทำแรงไป จะทำร้ายเธอกับเด็กในท้องเธออย่างนั้น

“คลอดออกมาเถอะ”นัทธีตอบ เสียงอบอุ่นมาก

ดวงตาวารุณีค่อยๆเบิกโตขึ้นมา อารมณ์ข้างในใจ จากอึมครึมก็กลายเป็นสดใส จากไม่สบายใจกลายเป็นสุขใจ

“คุณอยากได้เด็กคนนี้ จริงๆเหรอ?”เธอถามด้วยเบ้าตาที่เปียกชื้น

นัทธีเอามือออกมาจากท้องเธอ“ลูกของผม ทำไมผมถึงไม่อยากได้ล่ะ?”

นี่เป็นลูกของเขา

เด็กที่เกี่ยวข้องทางสายเลือดกับเขา

มองความจริงจังในสายตาของนัทธีออก เวลานี้ ในที่สุดวารุณีก็เชื่อเขา และจะเก็บเด็กในท้องเธอไว้จริงๆ ความกังวลในใจ ในที่สุดก็หายไป

“ขอบคุณนะนัทธี”วารุณีถลาเข้าใส่อ้อมแขนของนัทธีก่อน

เธอมีความสุขมากกับการเลือกของเขา

ถึงแม้เธอจะรู้สึกกะทันหันมาก กับการมาของเด็กในท้องคนนี้ แต่เธอกลับอยากเก็บไว้ และเขาก็ทำให้ความปรารถนาของเธอเป็นจริง เธอขอบคุณเขามากจริงๆ

ตอนนี้เอง ป้าส้มก็เสิร์ฟถาดออกมาจากครัว ในถาดมีนมแก้วหนึ่ง และชาแดงแก้วหนึ่งวางไว้

เธอเอาชาแดงให้นัทธีก่อน จากนั้นจึงเอานมให้วารุณี พูดอย่างหัวเราะไปว่า:“คุณวารุณี ฉันบอกแล้วไงคะว่าคุณผู้ชายจะต้องมีความรับผิดชอบมาก”

“อือ”วารุณีถือนมไวแล้วพยักหน้า

นัทธีจิบชาแดงไป“ตอนนี้คุณน่าจะตกลงแต่งงานกับผมแล้วสินะ?”

วารุณีคิดไม่ถึงว่าจู่ๆเขาจะมาพูดเรื่องแต่งงาน ก็ตะลึงงัน

ป้าส้มเห็นเธอไม่ตอบ คิดว่าเธอไม่อยากตอบ จึงรีบพูดโน้มน้าวไปว่า:“คุณวารุณี คุณรีบตอบสิคะ”

นัทธีหรี่ตาลง“ทำไม ตั้งหลายวันแล้ว คุณยังคิดไม่ได้อีกเหรอ?”

ริมฝีปากของวารุณีขยับ“ไม่ใช่ ฉันคิดได้แล้วค่ะ”

นัทธีเลิกคิ้วขึ้น“งั้นคำตอบของคุณล่ะ?”

“ฉันแต่งค่ะ!”วารุณีสูดหายใจลึกๆ เอามือวางไว้ในฝ่ามือของเขาก่อนเอง

ถ้าเป็นก่อนหน้าวันนี้ เธอจะต้องตอบแน่ว่าตัวเองยังคิดไม่ได้ แต่ตอนนี้เธอท้องแล้ว เธอมีคำตอบแค่ทางเดียว เพราะว่าแบบนี้ เด็กในท้องเธอถึงจะเป็นลูกที่ถูกต้องตามกฎหมาย ถึงแม้จะเป็นลูกที่ท้องก่อนแต่งก็ตาม ในสายตาของคนทั่วไปแล้ว ก็ไม่เป็นไร แต่ในแวดวงไฮโซแล้ว แค่ไม่ใช่คลอดหลังแต่ง ก็ถือว่าเป็นลูกนอกกฎหมาย

อารัณกับไอริณเคยถูกคนบางกลุ่มเดาว่าใช่ลูกนอกสมรสของคุณชายไฮโซคนไหนใช่ไหม เธอไม่อยากให้เด็กคนนี้ ได้รับการวิจารณ์พวกนี้ ดังนั้นเธอยอมแต่งงาน เพื่อลูก และเพื่อตัวเอง

ได้ยินวารุณีตอบตกลงคำขอแต่งงานของตัวเองแล้ว ใบหน้านัทธีก็ปรากฏรอยยิ้มบางๆ

ป้าส้มอยู่ข้างๆ ก็ดีใจกับทั้งสองคน

ตอนนี้เอง ออดที่ประตูก็ดัง

“เดี๋ยวป้าไปเปิดประตูเอง”ป้าส้มไม่รบกวนโลกของทั้งสองคน พอพูดเสร็จ ก็ไปเปิดประตูเลย

สองนาทีถัดมา เธอก็พามารุตเข้ามา เข้ามาก็เห็นวารุณีกับนัทธีกำลังกอดและจูบกันบนโซฟา

เวลานั้น ป้าส้มกับมารุตก็ตะลึงทั้งคู่ จากนั้นรีบหยุดฝีเท้าไว้ที่เดิม เดินก็ไม่ใช่ ไม่เดินไปก็ไม่ใช่ เขินอายสุดๆ

พวกเขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะเข้ามาในเวลาที่ไม่สมควรขนาดนี้ เข้ามาตอนที่พวกเขากำลังกอดจูบกันพอดี

วารุณีเห็นป้าส้มกับมารุตก่อน เพราะว่านัทธีหันหลังให้พวกเขา แต่เธอไม่ใช่ ดังนั้นลืมตามาก็เห็นพวกเขาเลย

หน้าเล็กๆแดงๆของเธอผลักชายหนุ่มออกเบาๆ“พอแล้ว ป้าส้มกับผู้ช่วยมารุตมองอยู่”

นัทธีได้ยินคำนี้ นิ้วหัวแม่มือก็เช็ดละอองน้ำบนริมฝีปากบางๆ แล้วหันไปมองเขาสองคนอย่างไม่พอใจ

ป้าส้มกับมารุตส่งยิ้มเล็กน้อยกลับไป

“ขอโทษนะคะคุณผู้ชาย พวกเราไม่อยากรบกวนพวกคุณ เอ่อ ในครัวยังตุ๋นซุปไว้อยู่ ฉันไปดูก่อนนะคะ”

พูดจบ ป้าส้มก็ทิ้งมารุตเผชิญหน้ากับนัทธีคนเดียว แล้วหันกลับเข้าครัว

มุมปากของมารุตกระตุก จากนั้นรีบหยิบกล่องเล็กในกระเป๋าออกมา“ประธาน ผมมาเพราะเรื่องนึ้ครับ”

เขาเดินเข้ามา เอากล่องเล็กๆนั้นให้นัทธี

วารุณีมองไปอย่างแปลกใจ มองเห็นนั่นเป็นกล่องแหวนกำมะหยี่สีแดง หัวใจที่เต้นอย่างยากที่จะสงบลงนั้น ก็เต้นตึกตักขึ้นมาอีกครั้ง

กล่องแหวน ไม่ใช่ว่าเขาจะ……

วารุณีกลืนน้ำลาย ระงับความตื่นเต้นในใจไว้ แล้วมองไปที่นัทธีเงียบๆ

เธอไม่กล้าที่จะให้ดูชัดเจนมากเกินไป

ถ้าสุดท้ายเธอเข้าใจผิด เขาไม่ได้จะขอเธอแต่งงาน ก็คงน่าอาย

กำลังคิดอยู่นั้น นัทธีก็หยิบกล่องมาเปิด เผยให้เห็นแหวนเพชรผู้หญิงที่แวบวับวงหนึ่งด้านใน

ส่วนวงแหวนทำมาจากทองคำขาว ด้านบนล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กๆ จัดวางเป็นระเบียบ ส่วนหัวของแหวนนั้นกลับเป็นเพชรสีชมพู น่าจะประมาณสามกะรัต อยู่กับเพชรเล็กๆที่วงแหวนแล้วส่องประกายแวววาวระยิบระยับ สวยงามอย่างมาก