ตอนที่ 342 สถานะของอิ่งจือ

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 342 สถานะของอิ่งจือ

ถึงแม้ว่าภาพยนตร์จะเริ่มถ่ายทำได้ไม่กี่วัน แต่ทุกคนในกองถ่ายก็เห็นพ้องต้องกัน ว่าสุนัขสามสี่ตัวในภาพยนตร์เรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูเป็นสุนัขที่มีทักษะการแสดงดีที่สุดในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของบลูสตาร์ และหากต้องเลือกสุนัขสักตัวมาคว้ารางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมละก็ คงต้องเป็นหนานจี๋!

ไม่ต้องบอกก็รู้

ไม่ว่ายอดบ็อกซ์ออฟฟิศและคำวิจารณ์ของภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไร ผู้ชมจะต้องประหลาดใจกับการแสดงที่ยอดเยี่ยมของสุนัขเหล่านี้อย่างแน่นอน ถึงขั้นที่ในอนาคต หากทีมงานถ่ายทำฉากที่ต้องใช้สุนัข พวกเขาจะต้องนึกถึงสุนัขที่ปรากฏในเรื่องปากง สุนัขยอดกตัญญูเหล่านี้

น้องหมาเหล่านี้ ตีบทแตก!

แน่นอนว่าฝีมือการแสดงของตัวเอกชายอย่างจางซิ่วหมิงก็ยอดเยี่ยม เพียงแต่เดิมทีเขาก็เป็นนักแสดงระดับราชาภาพยนตร์อยู่แล้ว เขาแสดงได้ดีย่อมเป็นเรื่องปกติในสายตาทุกคน พบเห็นได้ง่ายกว่าสุนัขที่เข้าถึงบทบาทได้อย่างดีเยี่ยมสามสี่ตัวนี้

ช่วงเวลาระหว่างการถ่ายทำ

การ์ตูนเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ซึ่งหลินเยวียนเผยแพร่ภายใต้ชื่ออิ่งจือก็ดำเนินมาถึงตอนจบ ท่ามกลางเสียงโอดครวญและคอมเมนต์ของแฟนคลับหลายคน เนื้อหาตอนสุดท้ายของการ์ตูนเรื่องนี้ก็ถูกอัปโหลดสำเร็จ

‘มาถึงตอนจบ’

อิ่งจือโพสต์เช่นนี้ ผู้ที่เขียนประโยคนี้ก็คือหลัวเวย แน่นอนว่าเธอบอกกล่าวกับหลินเยวียนแล้ว ทั้งยังใช้ปู้ลั่วในการเปิดเผยข่าวของการ์ตูนเรื่องใหม่ด้วย ‘กำลังเตรียมการผลิตการ์ตูนเรื่องใหม่ รายละเอียดจะแจ้งให้ทราบต่อไป’

‘จบแล้ว จุดพลุฉลอง!’

‘พอเรื่องจิตวิญญาณสือจี่จบลง หลังจากนี้ก็ยากที่จะมีการ์ตูนแนวอาหารปรากฏขึ้นอีก ไม่รู้ว่าการ์ตูนเรื่องใหม่ของอิ่งจือจะเป็นแนวไหน แต่ทุกคนรู้แล้วล่ะว่าคุณไม่ใช่นักวาดบริสุทธิ์’

‘เป็นนักวาดบริสุทธิ์ไปก็ได้นะ’

‘คนอ่านหน้าใหม่อาจไม่รู้ว่าก่อนหน้าเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ หลายคนคิดว่าอิ่งจือเป็นนักวาดบริสุทธิ์ ดังนั้นตอนที่การ์ตูนเรื่องนี้กำลังเตรียมการเผยแพร่ ไม่ค่อยมีใครคาดหวังเท่าไหร่หรอก ปรากฏว่าการ์ตูนเรื่องนี้กลับดังเปรี้ยง’

‘เซี่ยนอวี๋: อิ่งจือดังเหรอ?’

‘ฉู่ขวง: อิ่งจือดังเหรอ?’

‘ฮ่าๆๆๆๆๆ พวกคุณก็อย่าเกินไปสิครับ ชอบลากเซี่ยนอวี๋กับฉู่ขวงมาเปรียบเทียบกับอิ่งจืออยู่เรื่อย เซี่ยนอวี๋ใต้ ฉู่ขวงเหนือเป็นสิ่งที่คนธรรมดาเทียบได้เหรอ อิ่งจือเองก็กลายเป็นที่รักในวงการการ์ตูนเหมือนกัน!’

‘…’

ผู้อ่านกล่าวได้ถูกต้อง

ในแง่ของการจัดอันดับและอิทธิพลต่างๆ ที่ได้รับระหว่างการเผยแพร่ จิตวิญญาณสือจี่นั้นยอดเยี่ยมแจ่มจรัสอย่างไม่ต้องสงสัย ใช้คำว่ากลายเป็นที่รักในวงการการ์ตูนก็ไม่ได้มากเกินไป ต้องเข้าใจว่าการ์ตูนเรื่องนี้เริ่มเรื่องมาก็ได้กลายเป็นหนึ่งในสามผลงานเสาหลักของปู้ลั่วแล้ว!

เพียงแต่น่าเสียดาย

เรื่องราวเผยแพร่มาจนถึงช่วงกลางและปลาย เนื่องจากความเหนื่อยล้าด้านอรรถรสซึ่งเป็นผลมาจากการประลองติดต่อกันและความซ้ำซากจำเจในเนื้อเรื่อง กอปรกับการผนวกรวมของฉู่โจว อุตสาหกรรมการ์ตูนแทบเผชิญกับการถูกรีเซ็ตใหม่ครั้งประวัติศาสตร์ และนั่นทำให้การ์ตูนเรื่องนี้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันเพื่อชิงสถานะเสาหลักไป ประสิทธิภาพในแง่อื่นๆ ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

ทว่าเมื่อมองโดยภาพรวมแล้วไม่เลวเลย

นี่เป็นการ์ตูนสายหลักที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเรื่องหนึ่งในวงการ อีกทั้งเร็วๆ นี้จะถูกนำไปดัดแปลงเป็นอนิเมชัน มีบริษัทกำลังผลิตอยู่ ผู้อ่านและแฟนคลับหลายคนก็คาดหวังกับอนิเมชันดัดแปลงเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ไว้สูงเช่นกัน

อิ่งจือดังหรือไม่?

สำหรับคนนอก ที่อิ่งจือแลดูไม่ดัง ก็เพราะคนที่เขานำไปเปรียบด้วยมักจะเป็นเซี่ยนอวี๋ใต้ ฉู่ขวงเหนืออยู่ร่ำไป หากมองจากอิทธิพลของตัวเขาในอุตสาหกรรมการ์ตูน ก็จัดอยู่ในอาจารย์นักวาดการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จมากแล้ว นอกจากนั้นยังมีแฟนคลับของอิ่งจือโพสต์อธิบายไว้ว่า

‘อิ่งจือนับว่าโด่งดัง’

‘เราสามารถนำข้อมูลขึ้นมาถกเถียงกันได้ ขอถือโอกาสที่เรื่องจิตวิญญาณสือจี่จบลงพอดี หยิบยกตัวเลขการกดติดตามการ์ตูนเรื่องนี้ออนไลน์ ผลงานในระยะแรกของการ์ตูนเรื่องนี้จัดอยู่ในห้าอันดับแรกของทั้งปู้ลั่วการ์ตูน เมื่อลองพิจารณาว่าปู้ลั่วการ์ตูนเป็นแพล็ตฟอร์มการ์ตูนที่ใหญ่ที่สุดในวงการ เช่นนั้นในขณะเดียวกัน ทั่วทั้งวงการการ์ตูน อิทธิพลของผลงานของอาจารย์อิ่งจือชิ้นนี้ก็สามารถจัดอยู่ในสิบอันดับแรกได้ หลังจากนั้นเป็นเพราะทำผลงานได้ธรรมดาไม่โดดเด่น บวกกับเหตุผลสำคัญที่สุดซึ่งก็คือการผนวกรวมของฉู่โจว อุตสาหกรรมการ์ตูนและอนิเมชันของฉู่โจวก้าวหน้ามาก คนเก่งๆ ก็มากเช่นกัน’

‘เอาเป็นว่ายังไม่ต้องพูดถึงฉู่โจว’

‘เรามาดูสถานการณ์ของเจ้าชายลูกสักหลาด ผลงานเดบิวต์ในฐานะนักวาดการ์ตูนบริสุทธิ์ของอาจารย์อิ่งจือ ถึงแม้ว่าผลงานชิ้นนี้จะเผยแพร่ให้อ่านฟรีๆ แต่ก็สามารถเห็นได้จากการจัดอันดับตัวการ์ตูนยอดนิยม ชื่อเสียงของหลัวหม่าและสมาชิกคนอื่นๆ ในโรงเรียนชิงชุนก็ไม่เป็นสองรองใคร!’

‘หลังจากนั้น จะขอพูดถึงผลงานของอนิเมชันดัดแปลงสักหน่อย’

‘ยอดเข้าชมของเรื่องเจ้าชายลูกสักหลาดเวอร์ชันอนิเมชันนั้นสูงมากรู้ไหมครับ ผู้พากย์เสียงตัวเอกอย่างหลัวหม่าก็เป็นนักพากย์หน้าใหม่ ลำพังตัวละครนี้ ก็พาให้เขาโด่งดังไปไม่รู้เท่าไหร่ การที่เขาได้รับเชิญไปพากย์เสียงการ์ตูนดังอีกหลายเรื่องก็พอจะตอบคำถามเรื่องนี้ได้แล้วล่ะครับ’

‘ขอสรุปสักหน่อย’

‘ถ้าไม่ใช่เพราะฉู่โจวผนวกรวมเข้ามา อาจารย์อิ่งจือก็คงจะติดหนึ่งในสิบอันดับแรกของบุคลากรในอุตสาหกรรมการ์ตูนอย่างมั่นคงแล้ว แต่ต่อให้มีฉู่โจวผนวกรวมเข้ามา ฉันก็คิดว่าอาจารย์อิ่งจือก็ยังคงเป็นบุคคลที่อุตสาหกรรมการ์ตูนไม่อาจมองข้ามได้ ยอดขายของผลงานเขาก็ติดยี่สิบอันดับแรกแล้ว เพื่อความเป็นธรรม เราอย่านำอิ่งจือไปเปรียบเทียบเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงเลยครับ อิ่งจือกับอาจารย์สองท่านนี้คล้ายว่าจะเป็นเพื่อนสนิทกัน แต่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้อยู่ในวงการเดียวกัน’

โพสต์นี้นับว่ามีความเป็นกลางมากทีเดียว

อิ่งจือนับว่าเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตาในอุตสาหกรรมการ์ตูน ปล่อยการ์ตูนดังออกมาสองเรื่องติดต่อกัน โดยเฉพาะเจ้าชายลูกสักหลาด ก็ยิ่งได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายเพราะอนิเมชันดัดแปลง ต่อให้นำไปเทียบกับอนิเมชันของฉู่โจวแล้วก็ยังไม่ตกเป็นรอง

แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือ

หลังจากฉู่โจวผนวกรวม ตลาดอนิเมชันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิตอนิเมชัน หรืออุตสาหกรรมการ์ตูนก็ล้วนปรากฏคนเก่งหน้าใหม่มาอีกมหาศาล ด้วยสภาวการณ์เช่นนี้ เป็นเรื่องจริงที่สถานะของอิ่งจือได้ถูกการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ทำให้อ่อนแอลง เช่นเดียวกับเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงที่เผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ เช่นกัน

ความแตกต่างอยู่ที่…

ไม่ว่าจะเป็นเซี่ยนอวี๋หรือฉู่ขวง การเผชิญความท้าทายจากบุคลากรเปี่ยมพรสวรรค์คนอื่นๆ ที่มาพร้อมกับการผนวกรวมทวีป ก็มักจะจัดการได้อย่างอยู่หมัด ไม่ว่าจะเป็นคนจากทวีปใด ท้ายที่สุดแล้วก็จะกลายเป็นแฟนคลับของพวกเขา แต่อิ่งจือกลับยังไม่แสดงให้ผู้คนได้เห็นถึงความสำเร็จในการรับมือเช่นนี้

การผนวกรวมยังคงดำเนินต่อไป

หลังจากสิ้นปีผ่านพ้นไป เยี่ยนโจวจะตามมา

หลัวเวยวิเคราะห์ว่า “อุตสาหกรรมด้านกีฬาของเยี่ยนโจวล้ำหน้ามากที่สุด นักกีฬาของเยี่ยนโจวเป็นแนวหน้าของบลูสตาร์ และนอกจากด้านกีฬาแล้ว ความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมด้านต่างๆ ของพวกเขาก็ไม่นับว่าแย่ เพราะสิ่งที่พวกเขาถนัดที่สุดก็คือการแข่งขัน การแข่งขันสามารถผลักดันให้อุตสาหกรรมก้าวหน้า แม้แต่วงการวรรณกรรมของพวกเขาก็ยังชอบใช้วิธีประชันวรรณกรรม พวกเขาเป็นที่ยอมรับของทั่วทั้งบลูสตาร์ว่าเป็นผู้กระหายการแข่งขัน กระแสนี้ยังแพร่ไปยังวงการการ์ตูน ในรูปแบบของการแข่งขัน ดังนั้นพอเยี่ยนโจวผนวกเข้ามาแล้ว เราก็น่าจะต้องเผชิญกับความท้าทายของการแข่งขัน โชคดีที่เรื่องสมุดมรณะไม่กลัวความท้าทาย”

“ฮันนีแบดเจอร์[1]?”

หลินเยวียนนึกถึงสัตว์ชนิดหนึ่ง

หลัวเวยชะงักไป “อะไรเจ้อๆ นะคะ?”

หลินเยวียนอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับฮันนีแบดเจอร์ จนหลัวเวยหัวเราะท้องแข็ง “คนเยี่ยนไม่ได้โง่ ถึงพวกเขาจะมีการแข่งขันอยู่ในสายเลือด แต่โดยพื้นฐานแล้วพวกเขาก็เลือกคู่แข่งที่มีระดับสูสีกับตัวเอง เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ พวกเขาย่อมไม่กล้าท้าทาย อย่างน้อยคนอย่างฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋ ในเยี่ยนโจวมีไม่กี่คนหรอกที่กล้าท้าทายพวกเขา คนที่กล้าท้าทายเซี่ยนอวี๋กับฉู่ขวงจะต้องเป็นบุคคลเทียบเท่าระดับหัวกะทิของเยี่ยนโจว”

หลินเยวียน “…”

เขาใช้ตัวตนในฐานะฉู่ขวงลงสังเวียนประชันวรรณกรรมกับเหลิ่งกวง พอจะเข้าใจรูปแบบของมันอยู่บ้างว่าการประชันวรรณกรรมดึงดูดสายตาผู้คนได้ง่าย เพียงแต่หลินเยวียนนึกไม่ถึงว่าที่แท้เยี่ยนโจวก็ไม่ได้แข่งขันกันเพียงแค่ในวงการวรรณกรรม พวกเขาฟาดฟันกันในทุกๆ ด้าน

ช่างเถอะ

รอให้เรื่องสมุดมรณะปล่อยออกไป ต่อให้อิ่งจือจะห่างชั้นกับเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวง อย่างน้อยก็จะไม่มีใครกล้าพูดว่าอิ่งจือเป็นเงาจืดจางอะไรทำนองนั้นอีก เรื่องนี้หลินเยวียนมีความเชื่อมั่นเต็มเปี่ยม

……………………………………………….

[1] ฮันนีแบดเจอร์ เป็นสัตว์บกที่ได้ชื่อว่าดุร้ายที่สุดในโลก ไม่เกรงกลัวสัตว์ประเภทอื่น หรือที่มักเรียกกันว่าเป็นสัตว์ที่ ‘ห้าว’ หรือเป็น ‘ตัวตึง’ ที่สุดในโลก