ตอนที่ 198 พลังเวท โปรยถั่วเป็นทหาร!(2)

ศิษย์พี่ของข้าจะมั่นคงเกินไปแล้ว

ตอนที่ 198 พลังเวท โปรยถั่วเป็นทหาร!(2)
“ผู้อาวุโส ข้ามีสหายผู้หนึ่ง ไม่รู้ว่า ข้าจะขอให้ท่านช่วยเขา ทำให้การครองคู่ของเขามั่นคงได้หรือไม่ขอรับ”

ในเวลานี้ หลี่ฉางโซ่วยังต้องกริ่งเกรง เขาต้องปฏิบัติตามบัญชาขององค์เง็กเซียนอย่างระวัง ไม่อาจจัดเตรียมเทพเจ้าที่ชอบธรรมของศาลสวรรค์โดยไม่ได้รับอนุญาตได้

เมื่อได้ยินคำขอของหลี่ฉางโซ่ว เทพเฒ่าจันทราก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ยังพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้ม

“แน่นอน แล้วสหาย… ของท่านผู้นี้… ชมชอบสตรีแบบใดหรือ?”

หลี่ฉางโซ่วครุ่นคิดสักพักก่อนจะกล่าวอย่างจริงจังว่า “สหายของข้าผู้นี้คือ อ๋าวอี่ องค์ชายรองแห่งวังมังกรทะเลบูรพา ข้ารู้จักและสนิทเป็นคู่หูกับเขา ข้าได้ยินมาว่า เมื่อไม่นานมานี้ เขาไปทำเรื่องผิดพลาดที่โง่เขลาจนต้องจบลงด้วยการแต่งงาน… กับองค์หญิงเงือกก่อนที่พวกเขาจะแต่งงานกันอย่างเป็นทางการ ข้ารู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่เหมาะสมอยู่สักหน่อย ทั้งยังกังวลว่าพี่อี่จะทำให้องค์หญิงเงือกผู้นี้ผิดหวังเพราะมีเรื่องอื่นๆ เข้ามาแทรกแซง จึงอยากขอให้ท่านช่วยเขา ทำให้การแต่งงานของพวกเขามั่นคงขึ้น ท่านผู้อาวุโส ท่านผู้อาวุโสมีหน้าที่ดูแลสมบัติของเต๋าสวรรค์ หากเป็นท่านดำเนินการ ต้องได้ผลแน่นอน เต๋าสวรรค์ย่อมสัมผัสได้ และทุกอย่างจะส่งเสริมความสัมพันธ์รักระหว่างพวกเขา ทำให้ราบรื่น มั่นคง”

เทพเฒ่าจันทรากะพริบตา ทันใดนั้น ความผิดหวังในหัวใจก็ถูกพัดพาหายไป เขายิ้มและกล่าวว่า “เช่นนั้น ก็เป็นเรื่องสหายของท่านจริงๆ”

“แล้วจะเป็นอันใดอื่นได้อีกหรือขอรับ…”

“โอ้ ฮ่าๆ” เทพเฒ่าจันทราหัวเราะทันทีขณะที่มองหลี่ฉางโซ่วด้วยความรู้สึกชื่นชมมากขึ้นกว่าเดิม

เทพเฒ่าจันทรายิ้มและกล่าวว่า “ได้! ข้าจะช่วยเจ้าในเรื่องนี้เมื่อข้ากลับไป! ไม่ต้องห่วง!”

หลี่ฉางโซ่วรีบโค้งคำนับและกล่าวว่า “ขอบคุณท่านผู้อาวุโส ข้าขอขอบคุณท่านในนามของพี่อี่ด้วยขอรับ!”

เทพเฒ่าจันทรารีบกล่าวทันทีว่า ไม่ต้องมากพิธี ยิ่งเขามองดูหลี่ฉางโซ่วมากเท่าใด เขาก็ยิ่งมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ดั่งได้สอนลูกหลาน เขายิ่งพอใจหลี่ฉางโซ่วมากขึ้นเรื่อยๆ

เคารพครู ผู้อาวุโส เคารพศีลธรรมจรรยามารยาท และภักดีต่อมิตรสหายมาเป็นประการแรก

ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากขอเรื่องการครองคู่เพื่อสหายของเขา เขาไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ขอให้เทพเฒ่าจันทราช่วยพวกเขาเอง หาใช่เพื่อผู้อื่นไม่ โดยอ้างว่าพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายถึงชีวิต แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขาเพียงต้องการร่างกายของชายหรือหญิงอีกคนหนึ่งเท่านั้น!

คำขอของฉางโซ่วนั้นแตกต่างกัน มันแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง… เมื่อเทพเฒ่าจันทรากำลังจะจากไป เขาก็อดจะถอนหายใจไม่ได้เมื่อกล่าวว่า

“ช่างเป็นพรอันประเสริฐจริงๆ น่าดีใจยิ่งที่ได้เป็นสหายกับเจ้า ฉางโซ่ว”

หลี่ฉางโซ่วยิ้มและกล่าวว่า “เพียงผู้เยาว์ได้รู้จักกับผู้อาวุโสเช่นท่าน ก็ย่อมเป็นพรอันประเสริฐสำหรับผู้เยาว์ด้วยเช่นกันขอรับ ท่านผู้อาวุโส”

ทันใดนั้น เทพเฒ่าจันทราก็ฉีกยิ้มแฉ่งจนใบหน้าชราเบ่งบาน

ดังนั้น ชะตากรรมของเผ่ามังกรในเรื่องการเข้าสู่สวรรค์จึงก้าวหน้าขึ้นไปอีกเล็กน้อย

หลี่ฉางโซ่วพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้นจากความฝันและแอบสังเกตความเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมรอบตัวเขา ครั้นเมื่อพบว่าไม่มีผู้ใดสนใจ เขาจึงเดินหน้าทำความเข้าใจและทะลวงด่านต่อไป

ดูเหมือนว่าการทะลวงด่านของเขาจะถูกค้นพบ จากนั้นก็มีข่ายอาคมพลังเซียนปรากฏขึ้นรอบๆ ร่างของ หลี่ฉางโซ่ว ซึ่งจิ่วอูน่าจะเป็นผู้สร้างมันขึ้นมา

ในขณะนั้น หลี่ฉางโซ่วก็อดจะถอนหายใจด้วยความชื่นชมไม่ได้

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังคงใช้ชีวิตไปตามชื่อของเขา!

เขาเป็นคนอิสระ แสนสบาย ทำทุกอย่างตามประสงค์อย่างไร้กังวลใดๆ ทั้งยังละเอียดรอบคอบ สามารถสังเกตรายละเอียดเล็กที่สุดและมองเห็นในมุมที่ปรมาจารย์เต๋าน้อยเช่นเขามองไม่เห็น!

ความจริงแล้ว เขาจัดการเรื่องเผ่ามังกรเข้าสู่สวรรค์โดยขอให้เทพเฒ่าจันทราไปหาเขาและเตือนเขาได้โดยตรงเช่นกัน!

แม้หลี่ชางโชวจะคิดเช่นกันว่า ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่อาจขอให้เทพเฒ่าจันทราส่งมอบของบางอย่างให้เขา เพียงเพราะต้องการให้เทพเฒ่าจันทรามาช่วยเขาเท่านั้น…

แต่เมื่อเทียบกับ ‘ความเกียจคร้านของปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่’ แล้ว หลี่ฉางโซ่วก็เชื่อว่าผู้สนับสนุนของเขานั้น ช่างยากแท้หยั่งถึง!

หลี่ฉางโซ่วถือแหวนเวทเอาไว้ในมือเพื่อดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในอย่างไม่รีบร้อน แต่ก็ยังกังวลว่าปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่จะมีคำแนะนำอื่นๆ ดังนั้นเขาจึงเสี่ยงเล็กน้อยและแอบปรับแต่งมันเงียบๆ

ในไม่ช้า หลี่ฉางโซ่วก็มองเห็นกองสมบัติล้ำค่าและหินวิญญาณเป็นเนินเขา แต่จากประเภทและกลิ่นอายที่หลงเหลือของสมบัติและหินวิญญาณ เหล่านี้ เขาก็คิดว่า น่าจะเป็นของขวัญจากเทพเฒ่าจันทรา

และในตำแหน่งที่สะดุดตาที่สุดตรงกลางแหวน ก็มีถุงผ้าสีเทาใบเล็กๆ ซึ่งดูเหมือนจะมีคัมภีร์โบราณสองเล่มอยู่ข้างใน

สัมผัสเซียนรับรู้ของหลี่ฉางโซ่วแทบจะมองไม่เห็นคำทั้งสี่ที่ด้านนอกของม้วนตำราหยก ทำให้เขารู้สึกกระดากขึ้นมาทันที…

โยน… โยนถั่วเป็นทหารหรือ?

ไม่แปลกเลยที่ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้หยุดเทพเฒ่าจันทราจากการยุ่งกับสำนักเซียนของสำนักบำเพ็ญเต๋าหยิน เพราะปรากฏว่าปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่ได้ค้นพบว่า มีหลี่ฉางโซ่วเป็นมนุษย์เครื่องมือเวทคนเดียว ก็เท่ากับมีมนุษย์เครื่องมือเวทถึงสี่หรือห้าตัวแล้ว!

ตอนนี้ อยากให้เขา… ขยายขนาด…

หลี่ฉางโซ่วส่ายศีรษะพลางถอนหายใจเบา ๆ แล้วเปิดใช้ตุ๊กตากระดาษจำลองมนุษย์ใต้วิหารเทพทะเล และพบมุมหนึ่งสำหรับเขียนบันทึกฉบับที่สองของเขา

บัดนี้ศาลสวรรค์ยังไม่ได้จ่ายค่าจ้างเลย แต่เขาก็เริ่มทำงานไปก่อนแล้ว

เหมือนกับว่า ทำงานเป็นผู้ช่วยผู้จัดการในช่วงทดลองงาน…

บันทึกนี้เป็นข้อเสนอแนะให้องค์เง็กเซียนทรงพิจารณาจัดเตรียมให้เทพเฒ่าจันทราไปแสดงความยินดีกับอ๋าวอี่และองค์หญิงเงือกน้อย

หลี่ฉางโซ่วใคร่ครวญเรื่องนี้ในขณะที่ยกพู่กันขึ้น เขาต้องพิจารณาสถานการณ์ต่างๆ อย่างรอบคอบเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้องค์เง็กเซียนไม่พอพระทัยและไม่ทำให้เผ่ามังกรเกลียดชังศาลสวรรค์…

ในเวลาเดียวกัน ณ โถงด้านหลังของตำหนักเทพเฒ่าจันทราแห่งศาลสวรรค์ สิ่งแรกที่เทพเฒ่าจันทราทำหลังจากกลับมาจากหอเสิ่นเว่ย คือ ตรงไปยังสถานที่นั้นและนำรูปปั้นครองคู่ขององค์ชายรองแห่งวังมังกรทะเลบูรพา อ๋าวอี่ออกมา และยังนำรูปปั้นของคนทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับเขาออกมาด้วย

เมื่อมองให้ละเอียดแล้ว มีมากถึงสามคน

ในบรรดารูปปั้นทั้งสามตัวที่อยู่รายล้อมอ๋าวอี่นั้น รูปปั้นที่ใกล้ชิดกับอ๋าวอี่มากที่สุดก็คือ หานจื่อ ผู้ฝึกบำเพ็ญบนเกาะเต่าทอง

ส่วนที่ไกลที่สุดก็คือ สตรีมังกร

ส่วนองค์หญิงเงือกนั้นอยู่ไม่ไกลหรือใกล้เขามากเกินไป

รูปปั้นดินเหนียวครองคู่ของอ๋าวอี่ ยังเป็นร่างเด็กหนุ่มน้อยรูปงามอีกด้วย เขามีคิ้วคมชัดเจนและสวยงาม ในขณะนั้น ด้ายแดงที่สั้นที่สุดจากสามเส้นที่บินออกจากร่างของเขาก็คือ เส้นที่ตรงกับสตรีมังกร ซึ่งมีเพียงส่วนปลายเท่านั้นที่ก่อตัวขึ้น

แม้ว่าด้ายแดงของสตรีมังกรจะยาว แต่ก็ไม่อาจเอื้อมไปถึงอ๋าวอี่ได้เลย

มันเป็นความรักข้างเดียวของสตรีมังกร และอ๋าวอี่ก็รู้สึกประทับใจนางเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ในบรรดาด้ายแดงทั้งสามเส้นของอ๋าวอี่ เส้นของหานจื่อยาวที่สุด ด้ายแดงของหานจื่อก็ขยายออกไปเช่นกัน ทว่าด้ายแดงทั้งสองเส้นนั้น ไปผิดทิศทางและไม่พันกัน

อันที่เป็นด้ายแดงขององค์หญิงเงือกน้อยที่ทรงพลังอย่างน่าอัศจรรย์

ดูเหมือนว่า ด้ายแดงของรูปปั้นดินเหนียวครองคู่ที่เพิ่งเข้าใกล้อ๋าวอี่เมื่อไม่กี่วันก่อนได้ขยายเติบโตขึ้นตามลำดับ ในขณะนั้น ด้ายแดงทั้งสองก็พันกันและค่อยๆ ดึงรูปปั้นดินเหนียวครองคู่ทั้งสองเข้ามาใกล้ชิดกันมากขึ้น…

เทพเฒ่าจันทราถือกระถางต้นเซียงซือไว้พักหนึ่งเพื่อสังเกต และคำนวณอย่างละเอียดก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

สถานการณ์นี้ไม่ต่างจากสิ่งที่หลี่ฉางโซ่วกล่าว

สถานการณ์แบบใดกันที่เทพเฒ่าจันทราไม่เคยเห็นมาก่อน? เห็นได้ชัดว่า นั่นเป็นตัวอย่างทั่วไปของคู่รักที่กระทำการใจร้อนและสร้างความประทับใจที่ดีต่อกันในชั่วข้ามคืนหลังจากผ่านค่ำคืนแห่งไฟลุกโชนร้อนแรงในชั่วข้ามคืน

ในขณะนั้น เทพเฒ่าจันทราหยิบกรรไกรสีทองสมบัติแห่งเต๋าสวรรค์ออกมาก่อนแล้วตัดด้ายแดงส่วนใหญ่ที่เชื่อมต่อระหว่างอ๋าวอี่ และหานจื่อออก แล้วรูปปั้นของหานจื่อก็เคลื่อนออกห่างไปในทันที

เทพเฒ่าจันทราตรวจสอบด้ายแดง ‘สตรีมังกรผู้รักเขาข้างเดียว’ อีกครั้งและพบว่า ลูกพี่ลูกน้องของอ๋าวอี่ มีด้ายแดงอีกสองเส้นพันอยู่รอบกายนาง… ชิชะ ด้ายแดงของคนเผ่ามังกรส่วนใหญ่ยุ่งเหยิงกันเช่นนี้ ข้าจะจัดการเปลี่ยนมันเสีย หลังจากตรวจสอบรูปปั้นครองคู่ขององค์หญิงเงือกน้อยแล้ว เขาก็ตระหนักว่านางช่างเรียบง่ายไร้เดียงสานักและมีด้ายแดงนี้เพียงเส้นเดียวเท่านั้น

จากนั้นเทพเฒ่าจันทราก็ยิ้มและดึงด้ายออกมาจากเสื้อคลุมชุดแต่งงานบนร่างของเขา

เขาใช้ด้ายแดงสัมผัสกับด้ายแดงของอ๋าวอี่ และองค์หญิงเงือกน้อยอย่างอ่อนโยน มันขดรอบพันกันอย่างระมัดระวังสองสามรอบและผูกเป็นปม…

ข้าจะมัดตรึงพวกเขาเอาไว้ด้วยกันก่อน

“ฉางโซ่ว เจ้าวางใจได้”

เทพเฒ่าจันทราหัวเราะคิกคักออกมาและวางรูปปั้นครองคู่ของอ๋าวอี่และองค์หญิงน้อยกลับไปยังที่เดิม

ที่ใต้ต้นไม้ ในสวนด้านหลังของวังดุสิต

‘วันนี้ลมในวังดุสิตยังคงสงบสุขเช่นเคย ’

ปรมาจารย์เต๋าผู้ยิ่งใหญ่เสวียนตูยืดเหยียดกายออกอย่างเกียจคร้านแล้วนอนบนเบาะนุ่ม ๆ ใต้ต้นไม้ เขายกมือขึ้นเพื่อรองรับศีรษะและหลับตาเพื่อพักผ่อนอย่างสบายๆ

………………………………………………………..