บทที่ 348 ฮูหยินกู้เริ่มสงสัย

ถังหลี่เดินไปรอบๆ นางเดินนำองครักษ์ไปยังจวนอู่โหว หญิงสาวเข้าไปในห้องปิดประตูส่งเสียงเรียก

“ฉือซื่อ” ถังหลี่เรียก

ชายหนุ่มในชุดรัดกุมสีดำปรากฏตัวต่อหน้าถังหลี่ เขาก้มหัวน้อมรับคำสั่ง

“ข้ามีเรื่องไหว้วานให้เจ้าทำ เจ้าไปช่วยกระจายข่าวออกไปว่า กู้อิ๋นสั่งให้สาวใช้คนสนิทลอบสังหารฆ่าฮูหยินน้อยของเสี่ยวโหว”

“ขอรับ” องครักษ์ตอบ ร่างเขาหายไปในชั่วพริบตา ใบหน้าที่ยามปกติดูอ่อนโยนกลับเย็นชาลงทันที แน่นอนว่าเรื่องราวในอดีตใช่ว่าจะเปิดเผยกันได้ง่ายๆ

ในที่สุดข่าวคราวที่ว่าคุณหนูสกุลกู้สั่งให้สาวใช้ไปลอบฆ่าฮูหยินน้อยของเสี่ยวโหวก็ได้แพร่กระจายไปตามตรอกซอกซอยของเมืองหลวง ผู้คนต่างพากันซุบซิบไปทั่ว แม้กระทั่งในหมู่แวดวงคนชั้นสูงก็เช่นกันล้วนเป็นที่ชื่นชอบในเรื่องแบบนี้

“ความสัมพันธ์ระหว่างคุณหนูกู้กับฮูหยินน้อยของเสี่ยวโหวนี่เป็นยังไงกันแน่ ทำไมนางถึงต้องจ้างวานสังหารคนด้วย?”

“เรื่องนี้ข้ารู้ ลูกพี่ลูกน้องของข้าทำงานเป็นสาวใช้อยู่ที่จวนสกุลกู้ ฮูหยินน้อยเคยช่วยชีวิตฮูหยินกู้เอาไว้ นางจึงได้มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับสกุลกู้ ฮูหยินน้อยไปจวนสกุลกู้เกือบทุกวัน ลูกพี่ลูกน้องข้ายังเล่าให้ฟังว่าคุณหนูกู้กับฮูหยินน้อยสนิทกันราวกับพี่น้องเลยทีเดียว”

“สนิทกันราวกับพี่น้องแล้วทำไมถึงได้จ้างวานฆ่าด้วยเล่า?”

“อาจจะเป็นเพียงข่าวลือก็เป็นได้”

“ใช่ ข้าว่าอาจเป็นแค่ข่าวลือ คุณหนูกู้นางมีสัญญาหมั้นหมายกับองค์ชายสามอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?”

“แต่ประกาศที่ติดเอาไว้ คนร้ายผู้นั้นเป็นสาวใช้ข้างกายของคุณหนูกู้นะ”

“ย่อมเป็นไปได้ว่าคุณหนูกู้อาจจะไม่รู้ว่าสาวใช้ของนางทำเรื่องอะไรลงไปก็เป็นได้”

“ก็จริง…อย่างที่เขาว่ากันไว้รู้หน้าไม่รู้ใจ”

วันนี้เมื่อถังหลี่กำลังซื้อของอยู่กับกู้อิ๋น ฮูหยินกู้เองก็ได้ยินข่าวลือเรื่องนี้เช่นกัน

ฮูหยินกู้ยังได้รับรู้ว่าสาวใช้ในจวนได้ติดสินบนจ้างวานฆ่าถังหลี่อีกด้วย สาวใช้ผู้นั้นหนีไปได้ และคดีก็ไม่อาจปิดได้เช่น อีกทั้งนางยังเป็นสาวใช้ข้างกายของกู้อิ๋นอีกด้วย ฮูหยินกู้มองบุตรสาวอย่างประหลาดใจ นี่คือบุตรสาวของนางเอง นางย่อมเชื่ออย่างไม่มีข้อแม้ว่ากู้อิ๋นไม่น่าจะทำเช่นนั้นได้ แต่เหตุการณ์ที่อาอิ๋นผลักถังหลี่ลงไปกองกับพื้น บีบคอด้วยสายตาอาฆาต จนรับรู้ได้ว่านางเกลียดถังหลี่จริงๆ ในวันนั้น ยังติดอยู่ในใจนางอย่างไม่เลือนหาย

ผู้หนึ่งคือบุตรสาวของนาง อีกผู้หนึ่งเป็นถังหลี่ที่นางโปรดปราน ฮูหยินกู้อยู่ในอารมณ์ที่ไม่อาจจะเอ่ยออกมาได้

“พวกเจ้าพูดไร้สาระ พี่กู้ไม่ได้อยากฆ่าข้า” น้ำเสียงโกรธเกรี้ยวดังขึ้นมา

กลับกลายเป็นถังหลี่ ที่เดินเข้าไปหาพวกที่จับกลุ่มซุบซิบกันอยู่ คนเหล่านั้นคิดไม่ถึงว่าจะได้เจอตัวเจ้าของเรื่องเข้าจริงๆ พวกเขาจึงได้แต่เดินหนีไปด้วยความอับอาย

เมื่อเห็นถังหลี่ปกป้องกู้อิ๋นเช่นนั้น ความลำเอียงย่อมเกิดขึ้นในใจของฮูหยินกู้ ถังหลี่ตวาดไล่พวกชอบนินทาออกไป นางเดินไปจับมือกู้อิ๋นอย่างสนิทสนม

“พี่สาว ท่านอย่าได้ไปฟังเรื่องไร้สาระเหล่านั้น เรื่องนั้นไม่เกี่ยวข้องกับท่านอย่างแน่นอน ส่วนเรื่องที่สาวใช้ไปจ้างวานฆ่าข้านั้น…” ถังหลี่ทำท่าคิดอยู่ชั่วครู่ แต่แล้วกลับหาเหตุผลไม่ได้ นางจึงได้พูดออกมาว่า

“บางทีอาจเป็นเพราะข้างดงามกว่านางย่อมเป็นได้!”

ฮูหยินกู้ไม่ได้เดินไปปลอบใจกู้อฺ๋นหากนางกลับตบไหล่ถังหลี่อย่างรักใคร่

หัวใจของกู้อิ๋นยากที่จะบรรยาย นางรู้ดีว่าข่าวลือเรื่องนี้เป็นถังหลี่แพร่ออกไป นางเสแสร้งทำเป็นเป็นปกป้องกู้อิ๋นต่อหน้ามารดา เจตนาทำให้เกิดรอยร้าว นางช่างตีสีหน้าได้อย่างน่านับถือเลยทีเดียว กู้อิ๋นหายใจแทบไม่ออกด้วยโทสะ นางฝืนยิ้ม รั้งถังหลี่เอาไว้

“ข้าขอโทษ สาวใช้ผู้นั้นน่ากลัวมาก หากข้ารู้เร็วกว่านี้เจ้าจะได้ไม่ตกอยู่ในอันตราย”

ถังหลี่ยิ้มก่อนตอบว่า

“พี่สาวเรื่องมันจบลงไปแล้ว ท่านอย่าได้คิดมากอีกเลย ไปซื้อของต่อกันเถิด” หลังจากซื้อของต่อไปได้สักพักใหญ่กู้อิ๋นมีสีหน้าเหนื่อยล้า เมื่อเห็นดังนั้นฮูหยินกู้และถังหลี่จึงได้ชวนกันกลับจวนสกุลกู้

กู้อิ๋นกลับไปที่ห้อง ยามที่ประตูปิดลงสีหน้านางเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที เดิมทีนางคิดว่าตนเองจะหลบหนีจากเรื่องนี้ได้โดยการสละเบี้ย เช่น จู๋เยว่ไปเสีย แต่กลายเป็นว่าถังหลี่ยังมีไม้เด็ดแอบซ่อนอยู่ นางคิดไม่ถึงเลยจริงๆ หากถังหลี่เปิดโปงเรื่องนี้ขึ้นมาแต่ไม่มีหลักฐานมายืนยัน นางเชื่อว่าด้วยความสัมพันธ์ที่ผ่านมาหกปีของนางและผู้คนในสกุลกู้ อย่างไรเสียคนสกุลกู้ย่อมยืนอยู่ข้างนาง

แต่หากถังหลี่ยังคงตอกลิ่มให้นางและมารดาแตกแยกไปเรื่อยๆ เช่นนี้ เมื่อถังหลี่คิดจะเปิดโปงขึ้นมาก็ไม่แน่ว่าผลลัพธ์อาจจะไม่เป็นที่นางคิดไว้ก็เป็นได้

นอกจากนี้แล้ว นางมีความรู้สึกลึกๆ ว่าถังหลี่กำลังจะขัดขวางโชคลาภครั้งใหญ่ของนาง

ยิ่งคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมากู้อิ๋นอดกระสับกระส่ายไม่ได้ ความรู้สึกราวกับมีมีดห้อยอยู่เหนือหัวตลอดเวลาทำให้นางกังวลใจ

…………..

ถังหลี่เดินตามฮูหยินกู้เข้าไปยังเรือนของนาง เพื่อที่จะนวดศีรษะให้นางได้ผ่อนคลาย หลังจากนวดเสร็จนางจึงจับมือถังหลี่กล่าวว่า

“เจ้าเหนื่อยหรือไม่?”

“ไม่เหนื่อยเลยเจ้าค่ะ” ถังหลี่ส่ายหน้า

“ข้าเห็นร่างกายของฮูหยินดีขึ้นทุกวันเช่นนี้ย่อมคุ้มค่า ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหนก็ย่อมหายเหนื่อยเจ้าค่ะ”

“เด็กดี” ฮูหยินกู้ลูบหัวถังหลี่ เด็กคนนี้ช่างมีความห่วงใย

ถังหลี่นั่งอยู่บนเก้าอี้เตี้ยๆ นางวางศีรษะลงกับตักของฮูหยินกู้ ถังหลี่อยู่คุยกับนางสักพักจึงได้กล่าวคำอำลาและกลับไป

แม่นมจ้าวเดินไปส่งนาง พอกลับมาจึงได้เห็นนายหญิงของตนเหม่อลอยตกอยู่ในภวังค์ นางอดถามไม่ได้ว่า

“ฮูหยิน ท่านคิดอะไรอยู่หรือเจ้าคะ?”

ฮูหยินกู้รู้สึกตัวขึ้นมา นางพูดว่า

“ซี่ชุน เจ้าปิดประตูก่อน” แม่นมจ้าวปิดประตู

“เจ้าคิดอย่างไรกับอาอิ๋น?”

“คุณหนูเป็นเด็กกตัญญู มีความประพฤติเรียบร้อย มีเหตุมีผล..” แม่นมจ้าวไล่เรียงข้อดีของกู้อิ๋นอย่างละเอียด

“ซี่ชุน ความสัมพันธ์ของนายกับบ่าวระหว่างเจ้ากับข้ามีมาหลายสิบปีแล้ว หากข้าถามเจ้าสามารถพูดความจริงให้ข้าฟังได้”

แม่นมจ้าวรู้ดีว่าฮูหยินเป็นห่วงคุณหนูมากเพียงใด ตอนที่ยังเป็นเด็กเล็กๆ คุณหนูหลงทางหายไป ฮูหยินแทบจะเสียสติไปในตอนนั้น ยามเมื่อเจอคุณหนูนางจึงได้แต่ประคองไว้ในฝ่ามือ จะเอาเข้าปากก็กลัวละลาย นางเข้าใจในความรักและรู้สึกผิดของฮูหยินที่มีต่อบุตรสาวเป็นอย่างดี นางจึงไม่อยากพูดในสิ่งที่ทำร้ายน้ำใจ แต่เห็นได้ว่าฮูหยินต้องการให้นางพูดอย่างจริงใจ

“นายหญิงเป็นคนช่างคิด” แม่นมจ้าวเอ่ย “บางทีบ่าวไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วคุณหนูคิดอะไรอยู่”

“เจ้าคิดอย่างไรกับข่าวลือที่ได้ยิน?” ฮูหยินกู้ถามในเรื่องที่นางใจจดจ่อ

“แม้ว่าคุณหนูจะเป็นคนมีความคิด แต่นางไม่น่าจะทำเรื่องแบบนั้นได้ อีกอย่างคุณหนูกับแม่นางถังไม่ได้มีความแค้นเคืองเป็นศัตรูกัน” แม่นมจ้าวกล่าว

นางรู้ว่าฮูหยินโปรดปรานถังหลี่มาก ข่าวลือที่ว่าทำให้ฮูหยินไม่สบายใจเป็นอย่างมาก หากเป็นเรื่องจริง ฮูหยินย่อมเข้าข้างบุตรสาวเพราะความรักและความรู้สึกผิดเป็นอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันนางจะรู้สึกละอายใจกับถังหลี่ แม่นมจ้าวไม่อยากให้ฮูหยินของนางกระอักกระอ่วนใจนางจึงพูดในแง่ดีไปเสีย

“แต่วันนั้นนาง..” ฮูหยินกู้หายใจเข้าลึก “นางบีบคอถังหลี่ราวกับต้องการอยากให้นางตายจริงๆ”

“ฮูหยิน คุณหนูหยอกล้อแม่นางถังเจ้าค่ะ” แม่นมจ้าวย้ำอีกครั้ง

ฮูหยินกู้มองนาง “ซี่ชุน เจ้าเชื่อหรือ?”

แม่นมจ้าวพูดไม่ออก ฮูหยินเป็นสตรีกล้าหาญ นางได้พบกับท่านแม่ทัพกู้ในสนามรบ นางไม่ใช่คนหวาดระแวง ช่างสงสัยในเรื่องเล็กน้อย อีกทั้งยังมีความเข้าใจธรรมชาติของผู้คนเป็นอย่างดี หัวใจที่งดงามทำให้นางเห็นทะลุปรุโปร่งมองทุกอย่างได้อย่างชัดเจน

“ฮูหยิน ทำไมท่านถึงได้ดีกับแม่นางถังเช่นนี้เจ้าคะ?”

ฮูหยินกู้ส่ายหน้า ใบหน้าไม่สู้ดีนัก

นางปรารถนาให้ลูกสาวเป็นเด็กธรรมดาๆ และเป็นคนจิตใจดี แต่ตอนนี้ นางเริ่มกังวลว่าบุตรสาวจะไม่ใช่หญิงสาวที่ใจดีและรู้จักเอาใจใส่ผู้คนเหมือนที่นางคิดเอาไว้ แต่นางอาจจะเจ้าเล่ห์และโหดร้าย

ฮูหยินกู้ขมวดคิ้วแน่น ได้แต่ภาวนาขอเป็นเรื่องที่นางคิดมาไปเองเท่านั้น

………………….