บทที่ 312 พี่ชายของเธอเก่งนะ (1)

เก้าพี่น้องเลี้ยงซาลาเปาสุดแสบ

บทที่ 312 พี่ชายของเธอเก่งนะ (1)

บทที่ 312 พี่ชายของเธอเก่งนะ (1)

“ฉันคิดว่าคุณเป็นคนที่กล้าหาญพอที่จะจับโจรนะ แต่ใครจะรู้เล่าว่า คุณก็เป็นคนเห็นแก่เงินเหมือนกัน”

“เอาเงินกับตั๋วของพวกเราคืนมา!”

“รีบไปตามเจ้าหน้าที่มาแก้ปัญหาเรื่องนี้เร็วเข้า!”

ทุกคนตะโกนโหวกเหวกจนเสี่ยวเถียนรู้สึกปวดหัว

เธอพูดเสียงดัง “พวกคุณบอกว่าเงินกับตั๋วอยู่ที่นี่ แต่ใครจะพิสูจน์ได้ล่ะคะว่าเป็นของพวกคุณจริง ๆ น่ะ?”

บางคนเสียมันไปจริง ๆ และแน่นอนว่าก็ต้องมีพวกตีชิงตามไฟไม่ก็กวนน้ำจับปลา*[1] แน่นอน

ถ้าคืนเงินกับตั๋วให้ตามที่ทุกคนบอก คงไม่พอหรอก

ฮั่วซิวเฉิงมองเสี่ยวเถียนด้วยสายตาเห็นด้วย เด็กคนนี้เก่งจริง ๆ อายุน้อยแค่นี้ แต่คิดได้อย่างลึกซึ้ง

“แล้วเธอคิดว่าเราควรทำอย่างไรล่ะ?” มีใครบางคนเอ่ยถามขึ้น

เป็นไปได้ไหมที่เราจะเอาเงินของตัวเองกลับมาไม่ได้?

เสี่ยวเถียนตอบ “งั้นรบกวนใครสักคนไปตามเจ้าหน้าที่มาได้ไหมคะ พวกเราจะเอาของของพวกคุณส่งให้เขาแทน แล้วทุกคนก็ตามไปแก้ปัญหากับเขาเอาเองค่ะ!”

ว่าจบก็มีคนรีบไปตามเจ้าหน้าที่มา และยังมีอีกหลายคนตามไปด้วย

เห็นชัดเลยว่าทุกคนกระวนกระวายในการแก้ปัญหามาก

“สาวน้อย เธอไม่คิดหรือว่าเจ้าหน้าที่อาจจะแก้ปัญหาไม่ได้เหมือนกันน่ะ?” ฮั่วซิวเฉิงกระซิบ

เสี่ยวเถียนชำเลืองมองอีกฝ่าย ก่อนจะคลี่ยิ้ม “เจ้าหน้าที่จะแก้ปัญหาได้ไหมไม่เกี่ยวกับหนูค่ะ หนูแค่ส่งเรื่องนี้ต่อไปก็พอ”

ยอดเยี่ยมมาก ถ้าเจ้าหน้าที่จัดการปัญหาไม่ได้ก็ส่งให้ทางสถานีรถไฟเลย

ส่วนคนที่ทำเงินและตั๋วหายก็ต้องลงจากรถไปรอเท่านั้น

เสี่ยวเถียนไม่คิดจะช่วยแก้ปัญหาอยู่แล้ว

เรื่องแบบนี้ทำดีก็ไม่ได้ผลงาน ทำไม่ดีก็โดนบ่น เธอไม่ได้โง่นะ

เดิมทีฮั่วซิวเฉิงคิดว่าเสี่ยวเถียนจะคิดวิธีแก้ปัญหาออก แต่กลับนึกไม่ถึงที่เด็กหญิงจะมีความคิดเช่นนี้ต่างหาก ตอนนี้เลยเกิดความรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเล็กน้อย

คิด ๆ ดู เรื่องของคนอื่นอย่าไปยุ่งก็ถูกแล้ว มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรนะ

ช่างเถอะ กว่าเด็กคนนี้จะแงะตัวออกมาจากเรื่องนี้ได้ก็ลำบากไปไม่น้อย

ในไม่ช้า เจ้าหน้าที่ก็มาถึง

ฮั่วซิวเฉิงอธิบายเรื่องราวสั้น ๆ ให้ฟัง จากนั้นก็มอบตั๋ว เงิน และของมีค่าอื่น ๆ ที่หัวขโมยฉกมาให้กับเจ้าหน้าที่ภายใต้สายตาของทุกคนที่กำลังจับจ้อง

รอบนี้มีเจ้าหน้าที่มาสองคน คนหนึ่งถือข้าวของ อีกคนจับขโมย ยุ่งวุ่นวายกันมาก

“รบกวนใครสักคนช่วยคุณเจ้าหน้าที่พาหัวขโมยพวกนี้ไปด้วยนะครับ!” ฮั่วซิวเฉิงทำตามความคิดของเด็กสาว แม้เขาจะไม่ได้เสนอตัวช่วย แต่ก็เอ่ยปากแทน

ส่วนพวกเขาไม่ได้มีใครสูญเสียอะไร เลยไม่จำเป็นต้องตามไป

ส่วนบางคนที่ร้อนรนอยากได้เงินคืนก็รีบเสนอตัวเข้าไปช่วย

คนที่เหลือก็ทำตามอย่างสุดกำลังเพื่อไม่ให้สูญเสียทรัพย์สินของตัวเอง

เสี่ยวเถียนรอจนกระทั่งทุกคนเดินออกไป ในที่สุดก็ถอนหายใจยืดยาวออกมาด้วยความโล่งอก

“สาวน้อย ฉันคิดว่าเธอจะช่วยเสียอีก”

“ช่วยหรือคะ? ทำไมต้องช่วยด้วยล่ะ? พวกเจ้าหน้าที่จะแก้ปัญหาเล็กน้อยพวกนี้ไม่ได้เชียวหรือ?”

เสี่ยวเถียนชำเลืองมองฮั่วซิวเฉิง และพูดด้วยท่าทางเรียบเฉย

อีกฝ่ายงง อะไรนะ? มันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?

เรื่องแบบนี้ยังเถียงกันเลย แล้วมันจะไปง่ายได้อย่างไร?

“งั้นเธอบอกวิธีของเธอหน่อยสิ!” ในที่สุด ฮั่วซิวเฉิงก็ถามเสี่ยวเถียน

เด็กหญิงตอบด้วยรอยยิ้ม “คนส่วนใหญ่เงินหายจริง ๆ ค่ะ แต่ก็มีบางส่วนที่กวนน้ำจับปลา คิดว่าโอกาสนี้แหละที่จะหาเงินให้ตัวเองได้”

ฮั่วซิวเฉิงรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงพยักหน้าเล็กน้อย

เธอพูดต่อ “ถ้าไปถามพวกเขาก็ไม่ได้ผลหรอกค่ะ แต่ถ้าเราไปถามจากหัวขโมยแทนล่ะ?”

เขาคิดว่าตนเองคงเข้าใจผิดจริง เพราะคิดอยู่เสมอว่าต้องถามเจ้าของ แต่ไม่คิดเลยว่าในเวลาแบบนี้สิ่งที่หัวขโมยพูดเท่านั้นอาจเป็นความจริง

“เธอพูดถูก งั้นพวกเราอย่าไปยุ่งเลย นอนต่อดีกว่า”

ว่าจบ ชายหนุ่มก็กลับมานอนเตียงตัวเอง

อันที่จริงเขาไม่ได้หลับ

เพราะคิดว่าตนเป็นคนที่ระวังตัวง่าย แต่ทำไมคืนนี้ถึงหลับสนิทขนาดนี้ล่ะ?

ถ้าเด็กสาวไม่ได้จับขโมย ของสำคัญของเขาก็คงโดนขโมยไปด้วย

ไม่ใช่แค่ฮั่วซิวเฉิงเท่านั้นที่นอนไม่หลับ แม้แต่เสี่ยวซื่อและอี้หย่วนที่ปีนขึ้นเตียงตามหลังไปก็นอนไม่หลับ

หลังจากผ่านเหตุการณ์นี้ไป เสี่ยวเถียนเหนื่อยมากจึงผล็อยหลับไป

ตอนตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็ฟ้าสางแล้ว

ส่วนคนอื่นตื่นกันหมดแล้ว แต่ดูเหมือนทุกคนจะเหนื่อยล้ากันหมด อาจจะเพราะไม่ได้พักผ่อน

เสี่ยวเถียนเอ่ยทักก่อนจะไปล้างหน้าล้างตา

หลังจากเสร็จธุระก็กลับมาที่นั่ง เสี่ยวซื่อกลับมาพร้อมกับน้ำอุ่น

“เสี่ยวเถียน ดื่มน้ำสักหน่อย”

เสี่ยวเถียนกล่าวขอบคุณ แล้วจิบน้ำเล็กน้อย

“เสี่ยวเถียน เมื่อคืนหลับสบายไหม? กลัวหรือเปล่า?”

ประโยคพวกนี้ เขาอยากจะถามตั้งแต่เมื่อคืน แต่กลัวว่าพอถามแล้วจะไปกระตุ้นน้องให้ยิ่งกลัวมากกว่าเดิม

เขานอนพลิกตัวไปมาตลอดทั้งคืน จนกระทั่งรุ่งสางจึงได้ตัดสินใจเอ่ยถาม

เสี่ยวเถียนยิ้มแล้วส่ายหัว “ตอนแรกกลัวนิดหน่อยค่ะ เพราะกลัวพวกเขาจะมีอาวุธ แต่ตอนพวกเขาบอกว่าจะจับหนูไปขายก็เลยไม่กลัว”

ไม่ใช่ว่าไม่กลัว แต่รู้ว่ากลัวไปก็ไร้ประโยชน์ หัวขโมยไม่ได้เป็นแค่หัวขโมยเท่านั้น แต่ยังเป็นพวกค้ามนุษย์ด้วย

หัวใจของเสี่ยวซื่อสั่นสะท้านตอนได้ยินว่าคนพวกนั้นคิดจะเอาเสี่ยวเถียนไปขาย

เขาพาน้องมาด้วย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะเกือบเสียเธอไปในวันแรก โชคดีที่น้องสาวระมัดระวังตัว ไม่งั้นตอนนี้คงไม่มีชีวิตรอดหรอก

เสี่ยวซื่อรู้สึกผิด “เสี่ยวเถียน พี่สี่ไม่ดีเอง ถ้าพี่ไม่หลับก็คงปกป้องเธอได้”

เขาตัดสินใจว่าตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไปเขาจะต้องดูแลน้องสาวให้ดี โดยไม่ละสายตาเลย

“ไม่มีใครคิดถึงเรื่องนี้หรอกพี่สี่ ไม่ต้องโทษตัวเองนะ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ!” เสี่ยวเถียนยิ้มเพื่อปลอบใจพี่ชาย

“ไม่ได้หรอก พี่จะไปหาเจ้าหน้าที่เพื่อลงโทษสองคนนั้นให้หนัก เรื่องขโมยเงินก็ว่าพอแล้ว นี่ยังคิดจะเอาคนไปขายอีก!” เสี่ยวซื่อลุกขึ้นทันทีหมายจะพุ่งออกไป

ฉืออี้หย่วนคว้าแขนเอาไว้ “อย่าหุนหันพลันแล่น ต่อให้เราบอก ก็คงไม่สามารถลงโทษสองคนนั้นหนักกว่านี้ได้หรอก”

“ทำไมล่ะ?” เสี่ยวซื่อถามอย่างไม่เต็มใจ

“ไม่มีหลักฐานน่ะสิ อีกอย่างเสี่ยวเถียนก็ยังสบายดีอยู่ตรงนี้ด้วย”

ฉืออี้หย่วนรู้สึกโมโหเหมือนกัน แต่เขามีเหตุผลมากกว่าเสี่ยวซื่อ

และเสี่ยวซื่อเองก็รู้สึกโมโหเหมือนกัน คนดี ๆ จะโดนลงโทษได้อย่างไร?

หรือต้องรอให้เกิดเรื่องก่อนถึงจะทำได้?

นี่มันหมายความว่าอย่างไร?

*[1] 1 ใน 36 กลยุทธ์ของสามก๊ก ตีชิงตามไฟ หมายถึง เมื่อฝ่ายตรงข้ามกำลังอยู่ในช่วงวิกฤตทั้งในและนอก ก็ฉวยโอกาสโจมตีใส่โดยไม่ปรานีเพื่อคว้าชัยมา

1 ใน 36 กลยุทธ์ของสามก๊ก กลยุทธ์ที่ 20 กวนน้ำจับปลา หมายถึง ในช่วงที่กำลังชุลมุน ควรฉวยโอกาสที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังโลเลให้คล้อยตาม