“ผมไม่มีจริงๆ” เฟิงหานชวนชูมือขึ้น ทำสัญญาณมือเหมือนสาบานต่อฟ้าออกมา
เฉินฮวนฮวนหันศีรษะไปทางกระจกรถ หันด้านหลังให้เฟิงหานชวน แก้มทั้งสองข้างยังคงโมโหมากๆ
ตอนกลางคืนเมื่อห้าวันก่อน เธอกับเฟิงหานชวนห้องรับรองในอาคารเรียน แก้ไขความเข้าใจผิดกันแล้ว แล้วก็ไม่รู้ยังไง คิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นฝ่ายขอร้องให้เฟิงหานชวนกลายเป็นสามีภรรยาจริงๆเอง
ผลก็คือ เฟิงหานชวนรับปากเธอ ห้าวันมานี้ เธออารมณ์ดีมาก ทุกวันเอาแต่คิดเรื่องจบค่ายฝึกอบรม ก็สามารถกลับบ้านไปเจอเฟิงหานชวนแล้ว
แต่เจอหน้ากันตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าไม่มีความรู้สึกสวยงามเหมือนเพิ่งแต่งงานใหม่ๆ
“ไม่มีก็ไม่มีสิ งั้นตอนนี้พวกเราไปที่ไหน?” เฉินฮวนฮวนเพิ่งถามออกไป มือถือก็ดังขึ้นมา
เธอก้มไปดู เกาเหวินเป็นคนโทรมา
“แย่แล้ว!” เฉินฮวนฮวนร้องด้วยความตกใจ หันศีรษะไปทางเฟิงหานชวน พูดว่า “ตอนนี้พี่เหวินคงมารับฉันแล้ว พี่บอกว่าจะพาฉันไปกินข้าวเที่ยง ถามสถานการณ์ตอนฉันอยู่ในค่ายฝึกอบรมหน่อย”
“ให้เธอกลับไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยถาม” เฟิงหานชวนเดิมที่มีสีหน้าอ่อนโยน ขรึมลงอีกครั้ง
ไม่งานที่จะรับภรรยาตัวเล็กกลับบ้าน เอาช่วงเวลาสำคัญขนาดนี้ ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่างเกาเหวินได้ยังไง?
“ไม่ได้ ฉันเป็นนักแสดงที่เซ็นสัญญากับพี่เหวิน ตอนนี้ค่ายอบรมจบแล้ว ฉันจำเป็นต้องรายงานสถานการณ์กับพี่ ฉันรับเงินเดือน” สีหน้าของเฉินฮวนฮวนจริงจังขึ้นทันที พูดด้วยความจริงจัง “เฟิงหานชวน คุณกลับไปก่อนเถอะ พวกเราค่อยเจอกันคืนนี้”
ระหว่างที่พูด เฉินฮวนฮวนปลดเข็มขัดนิรภัยออก เปิดประตูจะลงรถ กลับถูกเฟิงหานชวนดึงข้อมือไว้
“จะไปจริงเหรอ?” เฟิงหานชวนขมวดคิ้ว ความผิดหวังกระจายทั่วใบหน้า “ผมมารับคุณโดยเฉพาะ”
“เฟิงหานชวน ฉันซาบซึ้งใจที่คุณมารับฉัน แต่คุณไม่ได้บอกฉันล่วงหน้า ตอนนี้พี่เหวินมาแล้ว ฉัน…” เฉินฮวนฮวนลำบากใจจริงๆ
“อืม งั้นคืนนี้เจอกัน” เฟิงหานชวนพยักหน้าช้าๆ พร้อมปล่อยมือออก
เฉินฮวนฮวนรู้สึกเฟิงหานชวนผิดหวังจริงๆ ความผิดหวังที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า ความรู้สึกเหมือนโดนเธอทอดทิ้งแบบนั้น ทำให้เธอรู้สึกโทษตัวเอง
และไม่รู้ยังไง จู่ ๆ ก็หัวร้อน เฉินฮวนฮวนพุ่งไปทางเฟิงหานชวน แล้วก็พึมพำออกมา
เธอหอมแก้มชายหนุ่มแรงๆ
การกระทำไม่มีปี่มีขลุ่ยของหญิงสาว ทำให้เฟิงหานชวนนิ่งไปทันที แต่ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว หันศีรษะไปทางหญิงสาว
“อาหาน ขอโทษ เมื่อกี้ฉันเรียกชื่อเต็ม ของคุณอีกแล้ว” เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปาก ลูบเส้นผมของตัวเอง แก้มแดงเล็กน้อย พูดเสียงเบา“คืนนี้เจอกันที่บ้านตระกูลเฟิง?”
“อืม คืนนี้เจอกันที่บ้านตระกูลเฟิงก่อน” เฟิงหานชวนพยักหน้านิ่งๆ
“ได้ งั้นฉันลงรถแล้ว บายๆ” เฉินฮวนฮวนไปทางเฟิงหานชวน แล้วหันหน้าเตรียมเปิดประตูรถ
ทันใดนั้น มือใหญ่ข้างหนึ่งจับท้ายทอยของเธอไว้ ตามมาด้วย ศีรษะของเธอถูกบังคับให้หันไป จูบร้อนหนึ่งประทับลงมา
“อึ่ม…”ตาทั้งสองของเฉินฮวนฮวนเบิกกว้างด้วยความตกใจ
โดยไม่ทันตั้งตัว เธอคาดไม่ถึง
เธอถึงขั้นรู้สึกว่าสัมผัสที่หกตัวเองมีปัญหา
ตอนที่เธอนึกว่าเฟิงหานชวนจะจูบเธอ เฟิงหานชวนกลับไม่ได้จูบเธอ ตอนเธอนึกว่าเฟิงหานชวนจะไม่จูบเธอ เขาก็จูบเธอกะทันหันเสมอ ทำให้เธอมึนงงไป
แต่จูบครั้งนี้กลับไม่ได้ใช้เวลานาน เฟิงหานชวนเพียงแค่สัมผัสแล้วหยุด ก็ปล่อยเฉินฮวนฮวนออก
เขายื่นมือตบไปที่หัวของหญิงสาวเบาๆ อยู่ใกล้หูเธอ พูดเสียงชวนฟังออกมาช้าๆ “คืนนี้ ผมจะไม่ปล่อยคุณแล้ว”
เสียงดังปัง เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าหัวตัวเองเหมือนมีดอกไม้กองหนึ่งระเบิดออกมา
ใบหน้าของเธอแดงเหมือนก้นลิงทันที
“ฉัน…ฉันไม่เข้าใจว่าคุณพูดอะไรอยู่ คุณรีบกลับบริษัทเถอะ ฉัน…ฉันลงรถแล้ว” พูดจบ เฉินฮวนฮวนเปิดประตูรถหนีไปทันที เหมือนกำลังหนีตาย
มองด้านหลังหญิงสาวหนีเตลิดไป บนใบหน้าเย็นชาของเฟิงหานชวน มีรอยยิ้มโผล่ออกมา
…
เฉินฮวนฮวนวิ่งลงรถมาสักพัก หลังจากที่ห่างรถของเฟิงหานชวนไปนิดหน่อยถึงหยุดลง
เธอถึงเห็น เมื่อกี้ที่จับมือถือ นึกไม่ถึงว่าไม่ได้รับสายของเกาเหวิน
กำลังจะโทรกลับไป รถเก๋งสีแดงคันหนึ่งก็จอดอยู่หน้าตัวเอง ตามมาด้วยกระจกรถเลื่อนลง ใบหน้าสวยของเกาเหวินก็มาอยู่ตรงหน้าเฉินฮวนฮวน
“ขึ้นรถเถอะ ฮวนฮวน” เกาเหวินพูดด้วยน้ำเสียงกระฉับกระเฉง
เฉินฮวนฮวนพยักหน้า ก็ขึ้นรถทันที มีบทเรียนจากเมื่อกี้ เรื่องแรกที่เธอทำคือคาดเข็มขัดนิรภัยให้เรียบร้อย
“ฉันจองร้านอาหารจีนแห่งหนึ่ง เดี๋ยวพวกเรากินไปพลางคุยไปพลาง” เกาเหวินพูดไปพลาง สตาร์ทรถไปพลาง
“ค่ะ ขอบคุณพี่เหวิน” เฉินฮวนฮวนพยักหน้าตอบทันที
ตอนที่รถเก๋งหันหัวกลับ เกาเหวินหันศีรษะไปมองแวบหนึ่ง แล้วหัวเราะออกมา เอ่ยถาม “ฮวนฮวน รถเบนซ์สีดำคันใหญ่เมื่อกี้ มารับเธอละสิ?”
“เอ๊ะ?” เฉินฮวนฮวนมองตามสายตาของเกาเหวิน หันกลับไปก็เห็นรถของเฟิงหานชวนยังจอดอยู่ที่เดิม เพียงแต่หันหัวกลับแล้ว
“เป็นใคร? เฟิงหานชวนใช่ไหม?” เกาเหวินเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ เธอรู้ว่าเฉินฮวนฮวนเป็นผู้หญิงที่เฟิงหานชวนเลี้ยงดู
เฉินฮวนฮวนหันกลับมา หน้าแดงแล้วแดงอีก ตอบกลับว่า “อืม เป็นเขา เขาไม่ได้บอกฉัน ก็มาเลย ฉันเพิ่งบอกเขา วันนี้เที่ยงต้องรายงานสถานการณ์ค่ายฝึกอบรมกับพี่ ดังนั้นเลยกลับกับเขาไม่ได้”
“งั้นทำไมเขายังไม่กลับ? เหมือนยังรอใครอยู่?” เกาเหวินงงเล็กน้อย
เธอขับรถไปข้างหน้าแล้ว ถ้าหากเฟิงหานชวนมารับเฉินฮวนฮวน ตอนที่เธอรับเฉินฮวนฮวน ตามหลักแล้วเฟิงหานชวนก็ควรขับรถออกไปถึงจะถูก
“ไม่หรอกมั้ง เขานอกจากฉัน คงไม่รู้จักคนอื่น” เฉินฮวนฮวนหันกลับไปมองอีกครั้ง เห็นรถของเฟิงหานชวนจอดตรงนั้นไม่ขยับไปไหน ขณะนี้ระยะห่างเธอกับเฟิงหานชวนยิ่งไกลออกเรื่อย ๆ
เกาเหวินหันกลับไปมองอีกครั้ง ก็เห็นเฟิงหานชวนไม่ได้จากไปไหนเหมือนกัน
เธอยักไหล่ น้ำเสียงบอกใบ้นิดๆ “ฮวนฮวน เป็นไปได้ไหม…เขายังมีผู้หญิงคนอื่น ที่เป็นเด็กฝึกเหมือนกัน?”
เกาเหวินรู้จักกับทายาทเศรษฐีไม่น้อย แฟนตัวเองก็เป็นทายาทเศรษฐีเหมือนกัน เธอรู้จักผู้ชายวงการนี้ดีกว่าใคร ประพฤติตนเหมาะสมมีที่ไหน ไม่มีอุปนิสัยที่ดีมากและเลว แม้เป็นของดีชั้นยอด
ก็เหมือนแฟนของเธอจางฟาน นิสัยดีใช้ได้ ร่าเริงใจกว้าง ท่าทีที่มีต่อเธอก็ดี ฉลองเทศกาลก็ทำตัวโรแมนติกเป็นประจำ
นอกจาก…นัดผู้หญิงคนอื่นลับหลังเธอ
แต่การนัดแบบนี้ ไม่มีความรู้สึกอยู่ เธอเคยโวยวาย แต่นิสัยเสียนั้นของจางฟานก็แก้ไม่หาย และเป็นเพราะแบบนี้ เธอทำได้แค่อดทนต่อไปเงียบๆ
แต่ครั้งนี้ ส่งเฉินฮวนฮวนมารายการคัดเลือก เพราะเธอไม่อยากให้ซงหลิงเอ่อร์เข้าบริษัทแค่นั้น ซงหลิงเอ่อร์เป็นคนสวยน้ำเสียงอ่อนหวาน และเด็ก มีความไม่ชัดเจนกับจางฟาน เธอกลัวจริงๆ ถึงเวลานั้นจางฟานจะคบซ้อนจริงๆ
ดังนั้น ในเรื่องผู้ชาย เกาเหวินรู้สึกว่าตัวเองมองออกเก่งกว่าหญิงสาวแบบเฉินฮวนฮวน ถึงอย่างไรเธอก็เห็นมาเยอะ
สถานการณ์ของเฉินฮวนฮวน เธอก็เข้าใจพอสมควร เมื่อก่อนถูกแฟนคนแรกนอกใจ หลังจากนั้นทำงานมาโดยตลอด และไม่ได้รู้จักผู้ชายคนอื่น ไม่มีวิธีการรับมือกับผู้ชายจริงๆ
ดังนั้น เธอไม่เชื่อว่าเฉินฮวนฮวนสามารถปราบเฟิงหานชวนได้ เฟิงหานชวนไม่ได้จากไปไหน รอผู้หญิงคนอื่นอยู่แน่นอน
“เป็นไปไม่ได้ เขาไม่มีผู้หญิงคนอื่น” เฉินฮวนฮวนปฏิเสธอย่างไม่ลังเล พูดต่อว่า“อันที่จริงก่อนหน้านี้ ฉันก็รู้สึกว่าเขามีผู้หญิงคนอื่น แต่เขาอธิบายชัดเจนกับฉันด้วยความอดทนทุกครั้ง ฉันเป็นคนเข้าใจเขาผิดทุกครั้ง”
ไม่ว่าจะเป็นแฟนเก่ามหาวิทยาลัย A ที่ไม่มีตัวตน หรือว่าหลิ่วเยว่เอ่อร์ หรือจะเป็นหลีซืออวิ๋น เธอเป็นฝ่ายคิดภาพไปเองคนเดียวทั้งหมด
อันที่จริงเรื่องนี้ก็โทษเธอไม่ได้ เธอเคยถูกเยี่ยจิ่งเฉินกับเฉินซินโหรวทำ เฉินเจี้ยนหมินพ่อแท้ๆ ที่เป็นผู้ชาย ก็ทำเรื่องแย่แบบนั้นอีก ยากมากที่เธอจะเชื่อหมดใจผู้ชายคนหนึ่งที่เพิ่งรู้จัก
โดยเฉพาะ ก่อนหน้านี้เฟิงหานชวนกับเธอยังมีปัญหากันรุนแรง ต่างเห็นอีกฝ่ายขวางหูขวางตา
“สถานการณ์ที่เธอบอกนี้ ฉันรู้สึกคุ้นเคยมากนะ” เกาเหวินฟังแล้ว หัวเราะเยาะตัวเองออกมา
“พี่เหวิน พี่พูดอะไร?” เฉินฮวนฮวนแสดงท่าทางสงสัยออกมา
“ไม่มีอะไร มีบางครั้งอย่ามองทะลุเกินไป กลับเป็นเรื่องดี กลับรู้สึกมีความสุข” เกาเหวินถอนหายใจด้วยความหดหู่ พูดว่า“ฉันฉลาดเกินไป ดังนั้นที่จริงแล้วฉันไม่ได้มีความสุขมากนัก”
“พี่เหวิน…” เฉินฮวนฮวนเหมือนจะเข้าใจคำบอกใบ้ของเกาเหวิน เธอเปิดปาก รีบถามว่า “แฟนพี่นอกใจเหรอ?”
“ไม่ใช่นอกใจ พูดยังไงดีล่ะ ตอนนี้เธอคงไม่มีทางเข้าใจ ไม่คิดเรื่องพวกนี้ดีกว่า” เกาเหวินโบกมือ จริงจังในการขับรถต่อ เห็นชัดว่าไม่อยากตอบคำถามนี้
เฉินฮวนฮวนเม้มริมฝีปาก ถามมากก็ไม่ดีอีก อย่างไรเกาเหวินเป็นเจ้านายของเธอ ไม่ใช่เพื่อนเธอ เธอไม่มีสิทธิ์ถามมาก
ไม่นาน เกาเหวินจอดรถอยู่ที่ลานจอดรถร้านอาหารแห่งหนึ่ง ตอนลงรถ รถของจางฟานขับเข้ามาพอดี
เกาเหวินพาเฉินฮวนฮวนเดินไปทางจางฟาน ตอนที่จางฟานลงจากรถ มีผู้หญิงคนหนึ่งลงมาจากที่นั่งข้างคนขับด้วย
เฉินฮวนฮวนจ้องไป เธอรู้จักผู้หญิงคนนี้ เป็นซงหลิงเอ่อร์ที่แข่งเต้นกับเธอในร้านกลางคืนวันนั้นเอง
การแต่งตัวครั้งก่อนของซงหลิงเอ่อร์ ดูสดใสมาก ซนน่ารัก แต่ครั้งนี้ เหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคน สวมชุดสีขาวโปร่ง ปล่อยผมลงมา ม้วนอยู่ข้างแก้ม ดูกุลสตรีมากๆ
เธอจำได้เหมือนซงหลิงเอ่อร์อยู่สาขาการแสดง หลายสไตล์ ดูเหมือนจะเหมาะกับการเป็นนักแสดงมาก
“อาฟาน ทำไมคุณพาเธอมา?” เกาเหวินสีหน้าตกใจทันที ในคำพูดซ้อนความโมโหไว้
“พี่เกาเหวิน พี่อาฟานคิดจะเซ็นสัญญากับฉันแล้ว ให้ฉันไปเข้าร่วมอีกรายการหนึ่ง” ซงหลิงเอ่อร์ยิ้มหวาน อ้าปากพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
เธอยืนอยู่ข้างตัวจางฟาน เหมือนเธอเป็นแฟนของจางฟาน แต่เกาเหวินเป็นแค่เพื่อนร่วมงานของจางฟาน