ตอนที่ 353 แผนการของพ่อเถา

แม่ปากร้ายยุค​ 80

ตอนที่ 353 แผนการของพ่อเถา

เถาจืออวิ๋นกลับไปที่บ้านอย่างมีความสุขพร้อมกับอาหารตุ๋นและเหลียงไช่ที่หลินม่ายซื้อให้ เช่นเดียวกับผลไม้และแตงโมที่ซื้อมาจากตลาดสดฝูตัวตัว

ทันทีที่เดินเข้าไปในละแวกบ้านที่ครอบครัวของพ่อแม่เธออาศัยอยู่ ใครคนหนึ่งก็ทักทายเธอ “จืออวิ๋น กลับมาเยี่ยมบ้านแม่แล้วเหรอ”

เถาจืออวิ๋นตอบกลับด้วยรอยยิ้ม “ใช่ค่ะ วันนี้ฉันว่าง”

แม่เถาพาฉีฉีไปเล่นกับเด็กคนอื่น ๆ ในชุมชน ทันทีที่เห็นเถาจืออวิ๋นก็รีบหันไปพูดกับฉีฉีที่นั่งยอง ๆ อยู่กับพื้น พลางตบก้นเขาเป็นการเรียก “ฉีฉี ดูซิว่าใครมา”

ฉีฉีหันหน้าไปมอง พอเห็นว่าเป็นเถาจืออวิ๋นก็รีบวิ่งกางแขนเข้าไปหาผู้เป็นแม่ราวนกถลาลม ร้องตะโกนด้วยความดีใจ “แม่จ๋า! แม่จ๋า!”

เมื่อเห็นว่ามือเล็ก ๆ ของเขาเต็มไปด้วยคราบดินโคลน เถาจืออวิ๋นก็ตกใจจนหน้าซีด “อย่าเข้ามากอดแม่นะ เดี๋ยวกระโปรงแม่จะเปื้อน!”

การเคลื่อนไหวของเด็กชายตัวน้อยหยุดลงอย่างกะทันหัน

แม่เถาเข้ามาจับมือฉีฉีพลางพูดว่า “กลับไปล้างหน้าล้างมือที่บ้านกันเถอะ เนื้อตัวสะอาดสะอ้านเมื่อไหร่ แม่จะมาอุ้มมากอดหนูเอง”

ฉีฉีชี้ไปที่แตงโมลูกใหญ่ที่เถาจืออวิ๋นถืออยู่ในมือขณะเดิน “ผมอยากกินแตงโม”

“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องกลับไปกินข้าวก่อน” แม่เถาตอบเบา ๆ

นางชำเลืองมองเสื้อผ้าของเถาจืออวิ๋น จากนั้นก็พูดด้วยเสียงกระซิบ “ดูสิ ถ้ายังไม่ได้หย่านี่อย่าได้แต่งตัวแบบนี้ออกจากบ้านเชียว เพื่อนบ้านแถวนี้จะมองลูกยังไง? คงคิดว่าลูกต้องหย่ากับผัวเฮงซวยนั่นแล้วแน่ ๆ คนนอกเขาจะมองลูกไม่ดีเอาได้”

เถาจืออวิ๋นพูดอย่างมีความสุข “ฉันหย่าขาดกับหม่าเทาเรียบร้อยแล้วค่ะแม่”

“อะไรนะ? ลูกกับหม่าเทาหย่ากันแล้วเหรอ? ทำไมถึงเร็วแบบนี้?” แม่เถาพูดด้วยความแปลกใจเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี

ที่ควรดีใจคือในที่สุดลูกสาวก็สามารถกำจัดผู้ชายเจ้าชู้คนนั้นไปจากชีวิตได้ แต่ที่น่าเสียใจคือผู้หญิงที่ยังสาวยังสวยแบบนี้ต้องกลายเป็นหญิงม่าย ชื่อเสียงไม่สู้ดีนัก!

โชคดีที่ช่วงนี้ลูกสาวลางานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง หน่วยงานจึงไม่ได้จัดให้หล่อนเลื่อนตำแหน่ง ไม่อย่างนั้นบรรดาเพื่อนร่วมงานต้องติฉินนินทาเธอแน่

เถาจืออวิ๋นพูดเสริม “ต้องขอบคุณม่ายจื่อค่ะ เป็นเพราะหล่อน ฉันถึงหย่ากับเขาได้เร็วขึ้น”

แม่เถาแนะนำ “ซื้อของขวัญไปขอบคุณหล่อนสักหน่อยสิ”

เถาจืออวิ๋นไม่เห็นด้วย “ไม่จำเป็นหรอกค่ะ เกรงว่าถ้าทำแบบนั้น ม่ายจื่อจะพาลโกรธเอาได้”

แม่เถาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะแวะไปขอบคุณหล่อนด้วยตัวเอง เป็นไปไม่ได้ที่ใครสักคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเราครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วเราจะไม่ตอบแทนเขาเลย”

เถาจืออวิ๋นคิดตามอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าเห็นด้วย

ถึงแม้ว่าหล่อนและหลินม่ายจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน แต่พ่อแม่ก็ควรไปขอบคุณหลินม่ายเป็นการส่วนตัวแทนหล่อน

แม่เถาถาม “หม่าเทาย้ายออกจากบ้านลูกไปหรือยัง?”

“ฉันเพิ่งหย่ากับเขาตอนบ่ายที่ผ่านมานี้เอง จะย้ายออกเร็วขนาดนั้นได้ยังไงคะ? อย่างน้อยคงต้องรอต่อไปอีกสักสองสามวัน”

ทันทีที่สามแม่ลูกและหลานตัวน้อยกลับมาถึงบ้าน เถาจืออวิ๋นก็จัดการผ่าแตงโม ส่วนแม่เถาพาฉีฉีไปล้างเนื้อล้างตัว

ขณะที่เถาจืออวิ๋นกำลังหั่นแตงโมอยู่บนโต๊ะอาหารขนาดเล็กในห้องนั่งเล่น ก็หันไปถามแม่เถา “พ่อล่ะคะ?”

แม่เถาเช็ดมือน้อย ๆ ของฉีฉีด้วยผ้าขนหนู “เขาจะไปไหนได้? ต้องไปหาเพื่อนเล่นหมากรุกอยู่แล้ว”

พอเถาจืออวิ๋นหั่นแตงโมเสร็จ หล่อนก็ออกไปที่ชมรมหมากรุกของชุมชนเพื่อตามพ่อเถากลับบ้าน

เมื่อได้ยินว่าลูกสาวของตัวเองหย่ากับหม่าเทาแล้ว พ่อเถาก็รู้สึกมีความสุขมาก

เถาจืออวิ๋นซื้ออาหารตุ๋นกับเหลียงไช่มาหลายอย่าง วันนี้แม่เถาจึงไม่จำเป็นต้องเข้าครัวทำกับข้าว แค่หุงข้าวไว้สำหรับมื้อเย็นเท่านั้น

ทุกคนกินกันไปพูดคุยกันไป

แม่เถาถามเถาจืออวิ๋นว่าจากนี้วางแผนในชีวิตไว้อย่างไรบ้าง

เถาจืออวิ๋นคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างจริงจัง “ฉันยังไม่ได้วางแผนอะไรเป็นพิเศษ แค่อยากเลี้ยงดูฉีฉีให้ดีที่สุด”

แม่เถาเงยหน้าขึ้นมอง “ลูกไม่คิดจะแต่งงานใหม่เหรอ?”

เถาจืออวิ๋นยังไม่อยากรีบร้อนแต่งงานใหม่ ประสบการณ์การแต่งงานระหว่างหล่อนกับหม่าเทาทำให้หล่อนเข็ดหลาบ

แต่ก็รู้ว่าพ่อกับแม่จะต้องไม่สบายใจแน่ ถ้าพูดในสิ่งที่ตัวเองคิดอยู่ออกไป

ดังนั้นจึงตอบแบ่งรับแบ่งสู้ “ไว้เจอคนที่ใช่แล้วค่อยว่ากันค่ะ”

หลังมื้ออาหารเย็น เถาจืออวิ๋นก็อยู่เล่นกับฉีฉีอีกสักพัก จากนั้นก็ขอตัวกลับ

พ่อเถาและแม่เถานั่งอยู่บนโซฟา ปรึกษากันเรื่องการหาสามีใหม่ให้กับเถาจืออวิ๋น

ปีนี้หล่อนมีอายุแค่ยี่สิบห้าปี ยังเป็นสาว ต้องใช้ชีวิตต่อไปอีกยาวไกล หล่อนจะทำอย่างไรถ้าในระหว่างนี้ไม่มีสามีคอยดูแล?

สองผู้เฒ่านั่งคัดเลือกชายหนุ่มที่ยังโสดในละแวกชุมชน

พวกเขาไม่กล้าใฝ่สูงถึงผู้ชายที่ยังไม่เคยผ่านการแต่งงานมาก่อน

ถึงลูกสาวของพวกเขาจะหน้าตาดี แถมยังหาเงินเก่ง แต่ท้ายที่สุดหล่อนก็เป็นผู้หญิงที่ผ่านการหย่าร้างมาแล้ว

พวกเขาจึงเลือกเฉพาะผู้ชายประเภทที่ภรรยาเสียชีวิตไปแล้ว หรือหย่าร้างแล้วเท่านั้น

ถึงอย่างนั้นผู้ชายในละแวกชุมชนที่เข้าข่ายสองประเภทที่ว่าก็ไม่ได้มีรายได้ทางครอบครัวที่ดีเท่ากับครอบครัวของเขา บางคนที่มีลูกติดหลายคนก็ไม่เหมาะ

พ่อเถาและแม่เถาตัดสินใจว่าจะแนะนำเถาจืออวิ๋นให้รู้จักกับใครสักคนในวันพรุ่งนี้

การใช้ประโยชน์จากประสบการณ์เลวร้ายที่หล่อนเคยประสบในการแต่งงานครั้งที่สองไม่ใช่เรื่องแย่ พวกเขาจะได้หาผู้ชายที่ดีพอสำหรับหล่อน

หลินม่ายช่วยเถาจืออวิ๋นสะสางปัญหาใหญ่เสร็จสิ้นแล้วก็เดินกลับบ้านอย่างอารมณ์ดี

ก่อนอื่นต้องแวะไปหาป้าติงเพื่อรับโต้วโต้ว

เมื่อไม่มีฉีฉีคอยเล่นเป็นเพื่อน โต้วโต้วจึงไม่ค่อยร่าเริงเท่าไหร่นัก นั่งยอง ๆ อยู่กับอาหวงใต้ร่มไม้หน้าบ้านป้าติงอย่างเหงา ๆ ถึงจ้วงจ้วงจะคอยหยอกล้อก็ไม่หัวเราะ

จนกระทั่งเห็นหลินม่ายหล่อนถึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น รีบผุดลุกขึ้นยืน ชี้ไปที่ดอกไม้ผ้าเหนือศีรษะของหลินม่ายแล้วร้องเสียงดัง “ผมของแม่จ๋าสวยจังเลย หนูอยากใส่แบบนั้นบ้าง”

หลินม่ายพูดยิ้ม ๆ “เดี๋ยวคืนนี้แม่จะทำให้”

ป้าติงค่อนข้างมีความรับผิดชอบในการดูแลเด็ก ๆ พอสมควร ถ้าเธอไม่มีเวลาคอยดูแล ก็จะฝากฝังให้จ้วงจ้วงคอยเล่นเป็นเพื่อนกับโต้วโต้วและอาหวงอยู่หน้าประตู

เวลายุ่งอยู่กับงานในบ้าน จะได้มองเห็นเด็กน้อยทั้งสองตลอดเวลา

พอเห็นว่าหลินม่ายกลับมาแล้ว ก็รีบเดินออกมาจากบ้านและทักทายด้วยรอยยิ้ม “มารับโต้วโต้วแล้วเหรอ?”

“ใช่ค่ะ” หลินม่ายพยักหน้า หยิบแอปเปิลเขียวสองลูกออกมาจากถุงตาข่ายแล้วยื่นให้เด็ก ๆ คนละหนึ่งลูก

จ้วงจ้วงเป็นเด็กดีมาก เขาหันกลับไปมองป้าติงก่อนจะยื่นมือไปรับของ

เมื่อป้าติงอนุญาต เขาถึงกล้าเอื้อมมือไปรับ

จ้วงจ้วงรับแอปเปิลไปกัดกินทันทีอย่างหักห้ามใจไม่อยู่

แอปเปิลเขียวสดใหม่มีรสชาติหวานอมเปรี้ยวและกรอบมาก เด็กน้อยทั้งสองหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดีหลังจากกินเข้าไป

หลินม่ายหยิบซี่โครงหมูอีกชิ้นหนึ่งออกมาแล้วส่งให้ป้าติง พลางพูดด้วยรอยยิ้ม “ฉันบอกว่าจะรีบมารับลูกแต่หัววัน แต่กลับยุ่งอยู่กับงานจนลืมเวลา การดูแลโต้วโต้วคงเป็นงานหนักสำหรับครอบครัวคุณไม่น้อย เอาซี่โครงนี้ไปย่างให้จ้วงจ้วงกินตอนกลางคืนนะคะ เขาสมควรได้รับรางวัลบ้าง”

ถึงสภาพครอบครัวของป้าติงจะไม่ค่อยดี แต่เธอก็ยังมีความรับผิดชอบสูง ไม่โลภเห็นแก่ของที่ได้มาฟรี ๆ จนเกินไป

หล่อนยืนกรานปฏิเสธไม่รับซี่โครงชิ้นนั้น “เธอจ่ายเงินค่าฝากเลี้ยงโต้วโต้วให้ฉันก็ดีแค่ไหนแล้ว ต่อให้เพื่อนบ้านพาลูกไปฝากกับคนอื่นหลายชั่วโมง ฉันก็ไม่เคยเห็นว่าพวกเขาจะซื้อซี่โครงให้กันเป็นการตอบแทน เธอเอาซี่โครงกลับไปย่างให้โต้วโต้วกินเถอะ”

หลินม่ายก็ยืนกรานว่าจะมอบซี่โครงชิ้นนี้ให้อีกฝ่าย “ฉันซื้อมาสองชิ้นพอดีค่ะ ชิ้นหนึ่งตั้งใจเอามาฝากครอบครัวของคุณ ส่วนอีกชิ้นหนึ่งเป็นของฉันเอง”

สาวต่างวัยทั้งสองเกี่ยงกันอยู่นาน ในที่สุดป้าติงก็ยอมรับซี่โครงจากเธอด้วยความยินดีเพื่อไม่ให้เป็นการเสียน้ำใจ

หลินม่ายจากไปพร้อมกับโต้วโต้ว

พอกลับถึงบ้าน เธอก็เข้าครัวทำอาหารมื้อเย็น

อาหารเย็นพร้อมแล้ว ก่อนที่ฟางจั๋วหรานจะแวะมา หลินม่ายใช้เวลาว่างทำยางมัดผมดอกไม้ให้กับโต้วโต้วบนโต๊ะกาแฟ โดยมีโต้วโต้วกับอาหวงนั่งดูอยู่ใกล้ ๆ

หลินม่ายใช้เวลาในการทำยางมัดผมดอกไม้ของโต้วโต้วนานกว่ากิ้บติดผมที่เธอทำให้ตัวเองกับเถาจืออวิ๋นเสียอีก

นั่นก็เพราะเธอบิดผ้าทำดอกกุหลาบแค่ดอกเดียว แต่ดอกไม้ที่กลัดติดอยู่บนยางมัดผมของโต้วโต้วนั้นเป็นดอกกุหลาบเจ็ดสี

หลังจากทำดอกกุหลาบเสร็จทุกดอกแล้ว จึงทำการเย็บรวมกันเป็นช่อด้วยเข็มกับด้าย จากนั้นค่อยติดหนังยางหรือกิ๊บเล็ก ๆ ตรงฐานของช่อดอกไม้เจ็ดสี เพื่อให้ยางมัดผมดอกไม้เสร็จสมบูรณ์

แม้ต้องใช้ความทุ่มเทอย่างมาก แต่หลินม่ายที่มีทักษะในการประดิษฐ์คล่องแคล่วก็ทำยางมัดผมดอกไม้เจ็ดสีเสร็จในเวลาไม่นาน

โต้วโต้วตื่นเต้นยิ่งกว่าใคร รีบเอ่ยรบเร้า “แม่จ๋า ใส่ให้หนูหน่อยสิคะ”

หลินม่ายยิ้มรับก่อนจะมัดผมเป็นทรงหางม้าให้หล่อน

เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งเข้าไปในห้องของหลินม่าย ยืนอยู่หน้ากระจกแบบเต็มตัว หันไปทางซ้ายทีขวาทีอย่างพึงพอใจในความสวยของตัวเอง

อาหวงที่เดินตามหล่อนมาในตอนแรก จู่ ๆ ก็พุ่งหลาวออกจากห้องราวกับลูกธนูถูกปล่อยออกจากคันศร ร้องหงิง ๆ ด้วยความดีใจ

โต้วโต้วรู้ว่าฟางจั๋วหรานต้องมาถึงแล้วแน่

หล่อนวิ่งตามออกไปอย่างรวดเร็ว เห็นว่าฟางจั๋วหรานเพิ่งมาถึง และกำลังจะเปลี่ยนรองเท้าที่หน้าประตู

โต้วโต้ววิ่งเข้าไปหาเขา ชี้ไปที่ดอกไม้เจ็ดสีที่ผูกอยู่เหนือผมหางม้า แล้วพูดกับฟางจั๋วหรานด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลไร้เดียงสา “คุณอาคะ แม่จ๋าทำยางมัดผมดอกไม้แสนสวยให้หนูด้วย”

ฟางจั๋วหรานเงยหน้ามอง จากนั้นก็เอื้อมมือไปลูบศีรษะน้อย ๆ ของเธอ “แม่ของหนูเก่งมากเลย!”

เมื่อทั้งสองเดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น ฟางจั๋วหรานเห็นว่าหลินม่ายเองก็มีกิ้บติดผมดอกไม้อยู่บนศีรษะเช่นเดียวกัน ทำให้เธอดูบอบบางอ่อนหวานชวนให้ใจสั่น

เธอกำลังนั่งทำดอกไม้ประดับศีรษะอยู่บนโซฟา บนโต๊ะมีดอกไม้ผ้าที่เป็นยางมัดผมวางอยู่หลายอัน

ฟางจั๋วหรานแกล้งพูดติดตลก “คุณอยากทำขายหรือไง?”

หลินม่ายวางชิ้นงานในมือลง ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปในครัวเพื่อยกจานอาหารออกมาเสิร์ฟ “คุณเดาไม่ผิด ฉันวางแผนว่าจะเปิดโรงงานเล็ก ๆ ไว้ผลิตยางผูกผมขาย”

ฟางจั๋วหรานเดินตามเธอเข้าไปในครัวเพื่อช่วยยกอาหารออกมาวาง “วันนี้มีคนรู้จักมาแนะนำโรงงานหลายแห่งที่กำลังประกาศขายเนื่องจากกิจการล้มละลาย ถ้าคุณมีเวลาก็ลองไปแวะดู ผมเลือกโรงงานไว้สองที่ ที่แรกทำเป็นโรงงานทำยางผูกผมก็ได้ อีกโรงงานหนึ่งค่อยปรับเป็นโรงเรียนอนุบาล”

หลินม่ายตอบรับเขา

หลังมื้ออาหาร ก่อนฟางจั๋วหรานจะออกไป เขาโน้มตัวไปกระซิบข้างหูหลินม่ายว่า “ผมชอบมองดอกกุหลาบที่อยู่บนหัวของคุณจัง”

หลินม่ายเหลือบมองเขา แต่ยังไม่ทันไรเขาก็ชะโงกมาจูบหน้าผากเธอ ก่อนจะจากไปด้วยสีหน้าอารมณ์ดี

………………………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

เรื่องคู่ครองต้องใจเย็น ๆ ค่ะ ให้จืออวิ๋นรักษาแผลใจเสร็จก่อน

ว้ายยยย มีคนฉวยโอกาสกับม่ายจื่อล่ะ

ไหหม่า(海馬)