บทที่ 208 พี่ชายและพี่สะใภ้

อ้อนรัก คุณภรรยาคนสวย

“ฮวนฮวน บอกหญิงสาวคนนี้สิว่าเจ้าสามก็คืออาสามของเธอ?”เฟิงเหลยถิงมองไปที่เฉินฮวนฮวนและเอ่ยถาม

เฉินฮวนฮวนเกาหัวของเธออย่างเงียบๆ และตอบอย่างเขินอายเล็กน้อยว่า: “พ่อ ฉันไม่รู้มาก่อน …ดังนั้น…”

“มันเป็นความผิดของฉัน ถ้าอย่างนั้นฉันจะอธิบายให้ผู้หญิงคนนี้ฟังเอง”เฟิงเหลยถิงหันไปทางเกาเหวินอีกครั้ง จากนั้นเขาก็กวักมือเรียกให้เธอนั่งลงที่โซฟาอีกด้าน

เกาเหวินจำเป็นต้องทำตามและนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง และเฟิงเหลยถิงก็เริ่มเล่าให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องของเฉินฮวนฮวนและเฟิงหานชวน

“กล่าวอีกนัยหนึ่งคือฮวนฮวนแต่งงานกับคุณเฟิง คือท่านได้จัดเตรียมการแต่งงานใช่หรือไม่?”ในที่สุดเกาเหวินก็ไม่รู้สึกสับสนอีกต่อไป สุดท้ายแล้วเธอก็มีความเข้าใจที่ชัดเจนในรายละเอียดมากกว่าเดิม

“ไม่สามารถพูดแบบนั้นได้หรอก อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาเป็นคู่ที่ดีมาก และฉันก็รู้สึกโล่งใจ”เฟิงเหลยถิงมองไปที่เฉินฮวนฮวนแล้วพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและถามว่า “ฮวนฮวน รู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการฝึกบ้าง? เหนื่อยเลยใช่ไหม? ฉันเห็นเธอดูผอมลงมาก ”

“ไม่เหนื่อยค่ะพ่อ ฉันอยากเข้าร่วมรายการนี้มาก ฉันเลยไม่รู้สึกเหนื่อย”เฉินฮวนฮวนโบกมืออย่างรวดเร็วและส่ายหัว

แม้ว่าการฝึกจะเหนื่อยยากจริงๆ แต่เธอก็สนุกกับมันและไม่อยากบ่นเลย ท้ายที่สุดแล้วนี่ก็คือทางเลือกที่เธอเลือก

“ในเมื่อเธอชอบ งั้นพวกเราก็เห็นด้วย”เฟิงเหลยถิงพยักหน้าอีกครั้ง จากนั้นก็ลุกขึ้นจากโซฟาแล้วพูดว่า: “ฉันมีธุระข้างนอก ฮวนฮวน เธอต้อนรับพี่สาวของเธอให้ดีล่ะ ขอให้สนุกกับบ้านตระกูลเฟิงของเรา”

“ค่ะ พ่อ”เฉินฮวนฮวนรีบตอบและลุกขึ้นไปส่งเฟิงเหลยถิง

เกาเหวินเองก็ยืนขึ้นและพูดกับเฟิงเหลยถิงว่า: “ขอบคุณค่ะนายท่านเฟิง”

“ไม่ต้องเกรงใจ”เฟิงเหลยถิงโบกมือให้เกาเหวิน จากนั้นเธอก็สั่งกับเฉินฮวนฮวนว่า: “ฮวนฮวน ไม่ต้องไปส่งฉัน พวกเธอไปคุยกันเถอะ ฉันจะขับรถไป”

ในขณะพูดเฟิงเหลยถิงก็เดินออกจากห้องนั่งเล่นอย่างกระฉับกระเฉง

หลังจากรอจนกระทั่งนายท่านเฟิงขับรถออกจากบ้านเฟิงไป เกาเหวินก็รีบไปกระซิบที่ข้างหูของเฉินฮวนฮวนและถามว่า: “ฮวนฮวน ห้องของเธออยู่ที่ไหน?”

“อยู่ชั้นสอง”เฉินฮวนฮวนตอบตามความจริง

“พาฉันไปที่ห้องของเธอทีสิ มีบางอย่างไม่สะดวกที่จะพูดในห้องนั่งเล่น”เกาเหวินพูดเบาๆ

“โอเค”เฉินฮวนฮวนไม่รู้ว่าเกาเหวินจะพูดอะไร ได้แค่เพียงตอบเธอไปก่อน

หลังจากเข้าไปในห้อง เกาเหวินก็ปิดประตูและมองไปรอบๆภายในห้องนอน เธอขมวดคิ้วและนั่งบนโซฟาในห้องนอน

“ฮวนฮวน ห้องนี้ดูเหมือนห้องนอนของผู้ชายเลย ไม่มีความรู้สึกว่าเป็นห้องหอเลยสักนิด”เกาเหวินเม้มริมฝีปากของเธอเล็กน้อยแล้วพูดว่า: “เฟิงหานชวน…มีท่าทางต่อเธออย่างไร?”

หลังจากฟังคำพูดของเฟิงเหลยถิง เกาเหวินก็รู้สึกว่าเฉินฮวนฮวนถูกส่งตัวให้กับเฟิงหานชวน และไม่ใช่ผู้หญิงที่เฟิงหานชวนต้องการจะแต่งงานด้วยจริงๆ

“เขา……ดีต่อฉันมาก”เมื่อนึกถึงสิ่งต่างๆของเฟิงหานชวน มุมปากของเฉินฮวนฮวนก็ยกขึ้นและใบหน้าของเธอก็มีความเขินอาย

“ฮวนฮวน เธอแน่ใจเหรอ?”เกาเหวินเพิ่งมีประสบการณ์กับจางฟานและซ่งหลิงเอ่อร์ในตอนเที่ยง ดังนั้นเธอเลยไม่มีความคิดที่ดีเกี่ยวกับผู้ชายสักเท่าไหร่

เมื่อได้ยินคำถามที่ถามกลับของเกาเหวิน และดูเหมือนว่าจะนำพามาซึ่งความสงสัยเป็นอย่างมาก เฉินฮวนฮวนจำได้ว่าเฟิงหานชวนไม่ได้ขับรถออกไปไปที่ประตูของค่ายฝึก

เธอเอ่ยปากพูดว่า: “อาหานไม่ได้ขับรถออกไป เขาน่าจะเสียเวลาอยู่พักหนึ่ง บางทีเขาอาจจะรับโทรศัพท์หรืออะไรบางอย่าง…”

อย่างไรก็ตามเธอจะไม่เข้าใจผิดเฟิงหานชวนอีกต่อไป เฟิงหานชวนควรจะต้องจริงจังกับเธอเพราะเธอได้รับการยืนยันอย่างสมบูรณ์แล้ว

“ห้องของเธอไม่ได้ตกแต่งเลย ตามหลักเหตุผลแล้วห้องแต่งงานควรจะมีรูปถ่ายแต่งงานของเจ้าสาวและเจ้าบ่าว เขาไม่ได้พาเธอไปถ่ายรูปงานแต่งงานเหรอ?” เกาเหวินตกใจและถามอีกครั้ง

ในเวลานี้เฉินฮวนฮวนตกอยู่ในความงุนงง เธอส่ายหัวแล้วตอบตามความจริง: “ไม่”

จู่ๆเธอก็คิดขึ้นได้ว่า นับประสาอะไรรูปถ่ายงานแต่งงาน แม้แต่รูปถ่ายทะเบียนสมรสของทั้งสองคนก็ยังไม่ได้ถูกถ่ายเลยด้วยซ้ำ

“อะไรนะ!? ไม่ได้ถ่ายรูปงานแต่งงาน? ไม่มีงานแต่งงานด้วย? นี่มันคือการแต่งงานแบบไหนกันเนี่ย? “เกาเหวินถามคำถามเป็นชุด

เฉินฮวนฮวนชะงักไปชั่วครู่และอธิบายว่า: “อาหานไม่ได้ถ่ายรูปงานแต่งงาน บางทีเขาอาจจะยุ่ง และฉันเองก็ต้องการเข้าร่วมรายการด้วย ไว้ฉันจะถามเขาทีหลัง…”

เธอรู้สึกว่าสิ่งที่เกาเหวินพูดนั้นสมเหตุสมผล ถ้าเธอและเฟิงหานชวนกลายเป็นคู่รักกันจริงๆ รูปถ่ายทะเบียนสมรสและรูปถ่ายงานแต่งงานก็มีความจำเป็น

“อืม ฮวนฮวน ฉันไม่มีความเห็นใดๆเกี่ยวกับการแต่งงานของเธอ แต่เธอต้องแต่งงานโดยปิดเป็นความลับเพื่อรักษาภาพลักษณ์ เหมือนตอนที่เธอปิดบังจากฉันเมื่อก่อน ทำได้ไหม?”เกาเหวินเตือนอย่างจริงจัง

“ได้สิพี่เหวิน ฉันวางแผนที่จะให้การแต่งงานเป็นความลับเหมือนกัน”เฉินฮวนฮวนเข้าใจความหมายของเกาเหวิน เพราะการเข้าร่วมการแข่งขันไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าแต่งงานแล้ว

แม้แต่สัญญาของรายการก็ระบุชัดเจนไว้อยู่แล้วว่าไม่สามารถแต่งงานได้ และจะต้องเป็นผู้หญิงที่ยังไม่ได้แต่งงานเท่านั้น

“ทางที่ดีคือเธอห้ามให้เรื่องแต่งงานของเธอถูกเปิดเผย ส่วนเรื่องอื่นๆฉันก็ไม่มีความเห็นใดๆ เออ ใช่แล้ว เฟิงหานชวนมีท่าทางอย่างไรที่เธอเข้าร่วมการแข่งขัน? เขาสามารถช่วยเธอได้ไหม? “เกาเหวินรีบถาม

หากเฉินฮวนฮวนเข้าร่วมการแข่งขันแล้วเฟิงหานชวนยื่นมือเข้ามาช่วย ถ้าอย่างนั้นบริษัทของเธอก็จะไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายใดๆและยังสามารถใช้ประโยชน์จากมันได้อีกด้วย

“ฉันบอกเขาว่าอย่ายื่นมือเข้ามาช่วย ฉันอยากแข่งด้วยความพยายามและความแข็งแกร่งของตัวเอง…”เฉินฮวนฮวนยังคงตอบอย่างตรงไปตรงมา

แค่คำตอบนี้ก็ทำให้เกาเหวินตกตะลึงไปชั่วครู่ แต่ในไม่ช้าก็มีสีหน้าที่ชัดเจนปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ

ในสายตาของเธอเฉินฮวนฮวนพูดแบบนี้เพื่อปกปิดความจริงที่ว่าเฟิงหานชวนไม่ได้ช่วยเธอ

“ไม่เป็นไร เนื่องจากเขาไม่ได้ยื่นมือเข้ามาช่วย บริษัทของเราก็ยังคงพยายามที่จะช่วยให้เธอคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้”เกาเหวินปลอบเฉินฮวนฮวน เธอเอื้อมมือออกไปและตบไหล่ของเธอเบา ๆ

“ขอบคุณค่ะพี่เหวิน”

……

เกาเหวินคุยกับเธอเป็นเวลานานในห้องของเธอก่อนจะออกไป

หลังจากส่งเกาเหวินออกไปแล้ว เฉินฮวนฮวนก็รู้สึกเหนื่อยล้า เธอตัดสินใจไปไปอาบน้ำและสุดท้ายก็ผล็อยหลับไป

เมื่อเธอตื่นขึ้นข้างนอกก็มืดเสียแล้ว เธอเปิดไฟด้วยความงุนงง และเมื่อเธอพยายามลุกขึ้นนั่งเธอก็พบกับผู้ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน

“เฟิงหานชวน คุณกลับมาเมื่อไหร่?”เฉินฮวนฮวนตกใจและตื่นทันที

เฟิงหานชวนปิดคอมพิวเตอร์ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปหาเฉินฮวนฮวนและนั่งลงข้างๆเตียงของเธอ

“ไม่ฟังกันเลย คิดเอาเองแล้วกันว่าไปทำอะไรผิดมา?”เฟิงหานชวนเลิกคิ้วและจับคางของผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขาด้วยปลายนิ้ว

ใบหน้าของเฉินฮวนฮวนแดง เธอพูดเบาๆว่า: “อาหาน…ฉันหิวแล้ว”

“ไม่มีอะไรดีกว่าที่ทำผิดพลาดและแก้ไขมันนะ”เฟิงหานชวนเม้มริมฝีปากเล็กน้อย

สิ่งที่เขาพูดถึงคือความผิดของเฉินฮวนฮวน ยิ่งไปกว่านั้นก็คือปัญหาในการเรียกเฟิงหานชวนหรืออาหาน ดีที่ตอนนี้เฉินฮวนฮวนสามารถเข้าความหมายที่เขาต้องการจะสื่อได้ในทันที และเขาต้องการจะแก้ปัญหานั้น

“อาหาน ฉัน….”เฉินฮวนฮวนกำลังอยากจะพูดต่อ

“ปังๆ…..”

ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตู และเสียงของแม่บ้านหลี่ก็ดังขึ้น: “คุณชายสาม ทุกอย่างพร้อมแล้ว ต้องการอะไรอีกไหมคะ? ฮวนฮวนตื่นหรือยังคะ? ”

“ไม่ต้องเตรียมอะไรแล้ว ฮวนฮวนเพิ่งตื่นเดี๋ยวผมจะพาเธอลงไป”เฟิงหานชวนตอบกลับ

“โอเค ถ้าอย่างนั้นฉันจะไปเตรียมพร้อมค่ะ”แม่บ้านหลี่ตอบเสียงดังแล้วหันหลังเดินจากไป

เฉินฮวนฮวนได้ยินสิ่งที่แม่บ้านหลี่พูดอย่างชัดเจน เตรียมพร้อม? เตรียมอะไร?

ในขณะที่เธอกำลังสับสน ริมฝีปากบางๆของร่างสูงก็แนบมาที่หูของเธอ เขาพ่นลมหายใจอุ่นๆออกมาแล้วกระซิบว่า: “เดี๋ยวคุณก็รู้”

การล้อเล่นของเฟิงหานชวนทำให้เฉินฮวนฮวนรู้สึกตื่นเต้น เธอถามด้วยความสงสัยว่า: “มันคืออะไร?”

“ไม่มีอะไร”เฟิงหานชวนกลับมาแสดงท่าทางสงบและจริงจัง

จนกระทั่งเฉินฮวนฮวนถูกพาลงไปชั้นล่าง และเธอก็อึ้งไปในทันที

ถ้ารู้ก่อนว่ามันจะเป็นโอกาสที่จริงจังแบบนี้ เธอจะไม่สวมเสื้อสบายๆหลวมๆแบบนี้ ตอนนี้เธอดูเหมือนคนขี้เกียจเลย

เหตุใดมันถึงจริงจังขนาดนี้ เพราะตอนนี้มีหลายคนนั่งอยู่ภายในห้องนั่งเล่น แถมเธอยังเห็นพ่อลูกเฟิงเฉินเหยี่ยนและเฟิงเจิ้งหมิงอีกด้วย

และยังมีผู้ชายอีกหนึ่งคนและผู้หญิงอีกสองคน เฉินฮวนฮวนรู้สึกว่าเธอสามารถเดาได้ว่ามีคนหนึ่งอายุน้อยกว่าเฟิงเจิ้งหมิงเล็กน้อย และน่าจะเป็นลูกคนที่สอง เฟิงเจิ้งซวิน และยังมีผู้หญิงอีกสองคนซึ่งน่าจะเป็นคุณนายใหญ่และคุณนายรองของตระกูลเฟิง

“นี่มัน …”เมื่อเห็นภาพดังกล่าว เฉินฮวนฮวนก็สติหลุดลอยหายไปในทันที

เฟิงหานชวนยืนอยู่ข้างหลังของเธอ เขาหัวเราะและพูดว่า: “ผมได้เชิญทุกคนจากตระกูลเฟิงมา นี่เป็นขั้นแรกในการยอมรับความสัมพันธ์ของเรา”

“ฉัน…..”เฉินฮวนฮวนอ้าปาก เธอรู้สึกพูดอะไรไม่ออก

สถานการณ์ตอนนี้คืออะไร? เฟิงหานชวนไม่ได้บอกเธอล่วงหน้า!

“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่เป็นพี่น้องของเจ้าสาม! ฉันได้ยินชื่อเธอและฉันก็อยากมาพบเธอมานานแล้ว แต่แล้วฉันก็ได้ยินนายท่านพูดว่าเธอไปเข้าร่วมฝึกในการแข่งขัน”เฟิงเจิ้งซวินเดินเข้ามา เขายิ้มและยื่นมือไปทางเฉินฮวนฮวน

เฉินฮวนฮวนรีบเอื้อมมือออกไปและจับมือกับเฟิงเจิ้งซวิน

“อ้อ ฉันลืมแนะนำตัว ฉันเป็นลูกคนที่สองของตระกูลเฟิง เฟิงเจิ้งซวิน”เฟิงเจิ้งซวินกล่าวแนะนำตัวเองและดึงผู้หญิงอีกคนมาอยู่ข้างๆเขาแล้วพูดว่า: “นี่คือภรรยาของฉัน หลินเจิน”

“พี่รอง พี่สะใภ้รอง สวัสดีค่ะ”เฉินฮวนฮวนพยักหน้าอย่างรวดเร็วและก้มหัวกล่าวทักทาย

เห็นได้ชัดว่าทั้งสองอยู่ในวัยที่พวกเขาควรจะเป็นพ่อแม่ คาดไม่ถึงว่าเธอต้องเรียกพวกเขาว่าพี่ชายและพี่สะใภ้

“ฮวนฮวน พวกเราเคยพบกันมาก่อนแล้ว ฉันเป็นพ่อของอาเหยี่ยน เฟิงเจิ้งหมิง ลูกชายคนโตของครอบครัว”เฟิงเจิ้งหมิงแนะนำตัวตามเฟิงเจิ้งซวิน จากนั้นก็มองไปที่ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆเขาและพูดว่า: “นี่คือภรรยาของฉันซ่งหวั่นโหรว”

“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่สวัสดีค่ะ”เฉินฮวนฮวนยิ้มด้วยความเขินอาย เพียงรู้สึกว่าตัวเองเป็นเครื่องทักทายอัติโนมัติยังไงไม่รู้

ในขณะเดียวกันหัวของเฟิงเฉินเยี่ยนก็โผล่ออกมาระหว่างเฟิงเจิ้งหมิงและเฟิงเจิ้งซวิน เขาหัวเราะแล้วพูดว่า: “ฮวนฮวน พวกเราไม่ได้เจอกันตั้งครึ่งเดือน คุณคิดถึงผมไหม?”

“อะแฮ่ม!”

เสียงไอทำลายบรรยากาศที่ตลกขบขัน

เฟิงเฉินเหยี่ยนรีบก้มหัวหลบไปที่หลังของชายวัยกลางคนทั้งสองคนด้วยความตกใจ เขายกมือขึ้นและมอบตัว จากนั้นก็รีบตะโกนว่า: “อาสาม อย่าโกรธผมเลย ผมแค่ล้อเล่นกับอาสะใภ้สามเท่านั้นเอง~”