เตาผิง​ซึ่ง​จุด​ให้​ความอบอุ่น​ใน​เรือน​ฉือ​ซิน​สว่างไสว​กว่า​ที่อื่น​ ​เมื่อ​เจียง​อัน​เฉิง​เข้าไป​ด้านใน​ห้อง​ก็​ต้อง​ถอด​เสื้อคลุม​ออก​เพราะ​รู้สึก​ร้อน

“​ท่าน​แม่​เรียก​ลูก​มามี​เรื่อง​อัน​ใด​หรือ​ขอรับ​”

เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​กล่าว​ขึ้น​ว่า​ ​“​แน่นอน​ว่า​ต้อง​มีธุระ​ ​ว่าแต่​เจ้า​ไม่​ทักทาย​น้องสาว​ของ​เจ้า​น้อย​หรือ​”

เจียง​อัน​เฉิง​จึง​ผงะ​มอง​ไป​ทาง​อา​หญิง​โต้ว​ ​“​น้อง​อยู่​ที่นี่​ด้วย​หรือ​”

เขา​ไม่ได้​สนใจ​มอง​คนใน​เรือน​ของ​เหล่าฮู​หยิน​สัก​เท่าไร​ ​ครา​แรก​ที่​เหลือบตา​ไป​เห็น​คิด​ว่า​เป็น​บ่าว​รับใช้​มา​ใหม่​เสียอีก

เมื่อเฝิง​เหล่าฮู​หยิน​เตือน​ให้​เขา​ทักทาย​กับ​น้องสาว​ผู้​มา​อาศัย​ ​เจียง​อัน​เฉิง​ก็​นึกถึง​เรื่อง​ที่​บุตรสาว​ถูก​ลวนลาม​เมื่อคืนนี้​ ​สีหน้า​ของ​เขา​จึง​ดู​เยือกเย็น​ลง​แล้ว​ถอยหลัง​กลับ​ไป

อา​หญิง​โต้ว​เดิน​ตรง​เข้ามา​คำนับ​เจียง​อัน​เฉิง​ ​“​พี่ใหญ่​”

เจียง​อัน​เฉิง​พยักหน้า​ตอบรับ​อย่าง​เยือกเย็น

เมื่อเฝิง​เหล่าฮู​หยิน​เห็น​ดังนั้น​ก็​รู้สึก​อึดอัด​ใจ​ขึ้น​มา

หลาย​ปี​มานี​้​ ​บุตรชายคนโต​ของ​นาง​ถูก​ซู​ซื่อ​นาง​จิ้งจอก​เจ้าเล่ห์​นั่น​หลอกล่อ​เสีย​จน​หัวปักหัวปำ​ ​ต่อให้​บัดนี้​ซู​ซื่อ​ตาย​ไป​ตั้ง​หลาย​ปี​แล้ว​ ​แต่​เขา​ก็​ไม่เคย​มอง​สตรี​นาง​อื่น​ใน​สายตา​เลย​ ​เขา​ยัง​เป็น​ชายชาตรี​อยู่​หรือไม่​!

แม้ว่า​การ​สงสัย​บุตรชาย​ของ​ตน​เช่นนี้​จะ​ดู​ไม่เหมาะสม​นัก​ ​แต่เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ก็​อด​ไม่ได้​ที่จะ​คิด

นาง​เหลือบตา​ไป​มองดู​หลานสาว​ ​จากนั้น​ก็​ถอนหายใจ​ออกมา​อีกครั้ง

หลานสาว​คน​นี้​รูปร่างหน้าตา​งดงาม​ยิ่งนัก​ ​เหตุใด​เขา​จึง​ไม่รู้​สึก​ตื่นเต้น​บ้าง​ ​อีกทั้ง​กลับ​ทำท่า​ทาง​เยือกเย็น​เช่นนี้​!

ทันใดนั้น​ ​อา​หญิง​โต้​วก​็​เอ่ยปาก​ขึ้น​ว่า​ ​“​ท่าน​ป้า​เจ้า​คะ​ ​ในเมื่อ​ท่าน​และ​พี่ใหญ่​มีเรื่อง​ต้อง​สนทนา​กัน​ ​เช่นนั้น​หลาน​ขอตัว​กลับ​ก่อน​เจ้าค่ะ​”

เมื่อ​พบ​ว่า​อา​หญิง​โต้​วกำ​ลัง​จะ​เดิน​ออก​ไป​ข้างนอก​ ​ริมฝีปาก​ของเฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ก็​เผยอ​ขึ้น​เล็กน้อย​ ​แต่​นาง​ก็​ไม่ได้​เอ่ย​เรียก

บัดนี้​เพิ่งจะ​เริ่มต้น​ ​นาง​จะ​แสดงออก​มา​อย่างชัดเจน​มาก​ไม่ได้​ ​ทว่า​หลานสาว​คน​นี้​ของ​นาง​ช่าง​เป็น​คนตรง​ไป​ตรง​มา​เหลือเกิน​…

ความคิด​ของเฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ดู​ซับซ้อน​สับสน​ ​นาง​เกลียดชัง​ซู​ซื่อ​ที่​ทำให้​ลูกชาย​หลงรัก​เสีย​จน​หัวปักหัวปำ​โงหัวไม่ขึ้น​ ​ด้วยเหตุนี้​นาง​จึง​ได้​ชื่นชม​หลานสาว​ผู้​เรียบร้อย​ดุจ​ผ้า​พับ​ไว้​ ​แต่​ในขณะเดียวกัน​นาง​ก็​รู้สึก​เดือดเนื้อร้อนใจ​ที่​หลานสาว​ไม่รู้​จัก​ใช้​มารยา​หญิง​มัดใจ​ชาย​ ​นาง​แข็งกระด้าง​จน​เกินไป​…

ใน​โลก​นี้​ไม่มี​สิ่งใด​ที่​สมบูรณ์แบบ​ ​ว่า​ไป​แล้วก็​เป็น​เพราะ​บุตรชาย​ของ​นาง​ที่​ทำให้​ผู้อื่น​ต้อง​อึดอัด​ใจ​เช่นนี้

หลังจากที่​อา​หญิง​โต้ว​เดิน​ออก​ไป​ ​ใบหน้า​ของเฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ก็​ผ่อนคลาย​ลง​ ​หาง​ตา​และ​หัว​คิ้ว​ของ​นาง​ดู​ลึกล้ำ

“​ท่าน​แม่​มีเรื่อง​อัน​ใด​หรือ​”

“​เมื่อ​ผ่าน​ปีนี​้​ไป​ ​จั้น​เอ๋อร​์​ก็​อายุ​ได้​สิบ​แปด​ปี​แล้ว​ใช่​หรือไม่​ ​เจ้า​สี่​ก็​อายุ​ได้​สิบ​หก​ปี​แล้ว​ ​ตัว​เจ้า​ใน​ฐานะ​บิดา​ไม่​คิด​วางแผน​อะไร​บ้าง​หรือ​”

เจียง​อัน​เฉิง​ชะงัก​ใน​ตอนแรก​ ​จากนั้น​ก็​ยิ้ม​ขึ้น​อย่าง​ไม่ได้​ใส่ใจ​อะไร​ ​“​ชัง​เอ๋อร​์​ยัง​ไม่​แต่ง​ภรรยา​เลย​ ​จั้น​เอ๋อร​์​จะ​รีบร้อน​ไป​ไย​ขอรับ​”

บุตรชาย​คนเดียว​ของ​เขา​นั้น​ ​เขา​ไม่มี​ความคาดหวัง​ใดๆ​ ​บัดนี้​การ​ที่สามา​รถ​เข้าไป​ใน​กอง​องครักษ์​จิน​อู๋​ได้​นับว่า​เป็นเรื่อง​ประหลาดใจ​แล้ว​ ​ในอนาคต​ขอ​เพียงแค่​เขา​รับราชการ​ได้​อย่างมั่นคง​ก็​พอ

ส่วน​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​บุตรชาย​ ​เขา​เอง​ก็​กำลัง​รอ​อยู่​ว่า​เจ้า​หมอนั​่​นวัน​ใด​จึง​จะ​คิดได้​แล้ว​เอ่ยปาก​ด้วย​ตนเอง​ ​รอ​ให้​บอก​กับ​เขา​ว่า​ชื่นชอบ​สตรี​เช่นใด​ ​เพียงแค่​สตรี​นาง​นั้น​มีนิ​สัย​และ​หน้าตา​พอใช้ได้​ ​มาจาก​ตระกูล​ที่​ใสสะอาด​ ​เขา​ก็​จะ​รีบ​ให้​แม่สื่อ​ไป​สู่ขอ​ทันที

คนเรา​ชีวิต​นี้​จะ​สร้าง​แรงกดดัน​ให้​ตนเอง​ทำไม​หนอ​ ​พวกเขา​ไม่ใช่​ตระกูล​ฮ่องเต้​ที่จะ​ต้อง​มี​คน​สืบทอด​บัลลังก์​สักหน่อย​ ​การ​ที่สามา​รถ​ใช้ชีวิต​ร่วมกัน​กับ​ผู้​เป็น​ที่รัก​ไป​ตลอดชีวิต​ ​เช่นนั้น​จึง​จะ​เรียกว่า​ความสุข

นั่นสิ​ ​ชีวิต​จึง​จะ​มีความสุข​…​ ​เมื่อ​เจียง​อัน​เฉิง​นึกถึง​สิ่ง​นี้​ ​ดวงตา​ของ​เขา​ก็​รู้สึก​เปียกชื้น

ความสุข​ใน​ชีวิต​ของ​เขา​ไม่มี​อีกแล้ว

“​พวกเขา​จะ​เหมือนกัน​ได้​อย่างไร​”​ เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​กล่าว​ออกมา

เจียง​อัน​เฉิง​ตื่นขึ้น​จาก​ภวังค์​แล้ว​เอ่ย​ถาม​ว่า​ ​“​เหตุใด​จึง​ไม่​เหมือนกัน​ ​ชัง​เอ๋อร​์​เป็น​พี่ใหญ่​ ​จะ​ให้​จั้น​เอ๋อร​์​แต่งงาน​ก่อน​เขา​ได้​อย่างไร​ ​อีก​อย่าง​ ​ลูกผู้ชาย​แต่งงาน​ช้า​หน่อย​ก็​ไม่เป็นไร​ ​เมื่อถึง​เวลา​นิสัยใจคอ​และ​หน้าที่​การงาน​มั่นคง​ ​ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​ดีกว่า​เดิม​”

เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ยก​ถ้วย​น้ำชา​ขึ้น​ดื่ม​แล้ว​เหลือบ​ไป​มอง​เจียง​อัน​เฉิง​ ​“​อีก​สาม​ปี​ชัง​เอ๋อร​์​จะ​ต้อง​เข้า​สอบคัดเลือก​ ​รอ​ให้​เขา​สอบ​ติด​จิ้น​ซื่อ​แล้ว​ค่อย​จัดการ​เรื่อง​ของ​งานแต่ง​ ​จะ​ให้​จั้น​เอ๋อร​์​รอ​ถึง​ตอนนั้น​เชียว​หรือ​”

เจียง​อัน​เฉิง​เบ้​ริมฝีปาก​เล็กน้อย​ ​“​ก็​ไม่ใช่​ว่า​จะ​ต้อง​รอ​ไป​อีก​สาม​ปี​ ​แต่​เรื่อง​นี้​ไม่จำเป็น​ต้อง​รีบร้อน​ ​ควรจะ​ใช้เวลา​ค่อย​ดู​ค่อยเป็นค่อยไป​ ​แต่ง​ภรรยา​ควรจะ​ต้องหา​ผู้​ที่​เป็น​กุลสตรี​ ​ท่าน​แม่​ว่า​ใช่​หรือไม่​”

เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​แล้ว​ตอบกลับ​ด้วย​น้ำเสียง​ไม่​พึงพอใจ​ว่า​ ​“​แล้ว​เจ้า​สี่​เล่า​ ​เจ้า​คิด​ว่า​เรื่อง​ที่​ข้า​เดิมพัน​กับ​นาง​เอาไว้​เป็นเรื่อง​จริงจัง​หรือ​”

แววตา​ของ​เจียง​อัน​เฉิง​เป็นประกาย

แน่นอน​ว่า​เขา​คิด​จริงจัง

“​หลาน​คนโต​และ​หลาน​คน​รอง​ ​ชีวิต​แต่งงาน​ของ​พวก​นาง​ล้วน​ไม่​เป็น​ดั่ง​ที่หวัง​ ​ส่วน​เจ้า​สาม​มีบิ​ดามา​รดา​คอย​จัดการ​ให้​ ​เรื่อง​งานแต่งงาน​ของ​เจ้า​สี่​จะ​ปล่อย​ให้​เป็นไป​ดังที่​นาง​ต้องการ​อีก​หรือ​”

เจียง​อัน​เฉิง​นิ่งเงียบ​ไป​ช่วง​หนึ่ง

“​การ​จะ​หาคู่​ครอง​ให้​กับ​บุตรสาว​จะ​ทำ​ส่ง​ๆ​ ​เช่นนี้​ได้​เชียว​หรือ​ ​เจ้า​เป็น​บุรุษ​ ​รายละเอียด​เล็กน้อย​มากมาย​ที่​เจ้า​คิดไม่ถึง​ ​อีก​อย่าง​ข้า​เอง​ก็​อายุ​มาก​แล้ว​ ​ไม่​ค่อย​จะ​ได้​เข้าไป​ร่วม​สนทนา​กับ​คนใน​เมือง​สัก​เท่าไร​นัก​ ​ดังนั้น​จึง​ไม่มี​ความมั่นใจ​นัก​ ​หรือ​เจ้า​อยาก​จะ​เห็น​เจ้า​สี่​ต้อง​พบ​เจอ​กับ​เรื่อง​ปวดใจ​เช่นเดียวกับ​พี่สาว​คนโต​นาง​”

สีหน้า​ของ​เจียง​อัน​เฉิง​เปลี่ยนไป​เล็กน้อย

“​จะ​ว่า​ไป​ ​ข้า​พอ​มีอยู่​วิธี​หนึ่ง​”

เรื่อง​นี้​เกี่ยวข้อง​กับ​บุตรสาว​ตน​ ​ดังนั้น​เจียง​อัน​เฉิง​จึง​ตั้งใจฟัง​ยิ่งนัก

เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ยกมือ​ขึ้น​ลูบ​ไป​ที่​หาง​ตา​ ​แล้ว​กล่าว​ออกมา​ด้วย​น้ำเสียง​หนักแน่น​ว่า​ ​“​เจ้า​แต่ง​ภรรยา​เข้ามา​เถิด​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​ผู้​เป็น​แม่​ก็​จะ​ดูแล​จัดหา​เรื่อง​คู่ครอง​ให้​นาง​เอง​ ​จะ​ได้​ไม่ต้อง​เปลือง​แรง​”

เจียง​อัน​เฉิง​ตกตะลึง​ขึ้น​ทันใด

ใน​วันนี้​ท่าน​แม่​เป็น​อะไร​ไป​ ​เดิมที​กล่าวถึง​เรื่อง​แต่งงาน​ของ​ลูก​ๆ​ ​เขา​ ​ทว่า​จู่ๆ​ ​กลับมา​เข้าเรื่อง​ตน​ได้​อย่างไร

เจียง​อัน​เฉิง​ชักสีหน้า​เยือกเย็น​แล้ว​ตอบกลับ​ไป​โดยตรง​ว่า​ ​“​ไม่ได้​”

“​เหล้า​ต้า​!​”

“​ท่าน​แม่​ไม่ต้อง​เอ่ย​มากความ​แล้ว​ขอรับ​ ​ก่อนหน้านี้​ท่าน​ก็​เคย​โน้มน้าวใจ​ลูก​ ​ลูก​ยังคง​ยืนกราน​คำ​เดิม​ว่า​ชีวิต​นี้​ลูก​จะ​ไม่​แต่งงาน​กับ​ผู้ใด​อีก​ ​อีก​ร้อย​ปี​ข้างหน้า​ลูก​ไม่ต้องการ​ให้​ป้าย​หลุมศพ​ของ​ลูก​และ​ซู​ซื่อ​มี​คนอื่น​อีก​”

“​เจ้า​ลูก​ไม่​รักดี​!​”​ เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​โมโห​มาก​จริง​ใน​บัดนี้

เจียง​อัน​เฉิง​เลิก​คิ้ว​มองดู​มารดา​ของ​ตน​ ​“​เหตุใด​ท่าน​แม่​จึง​ได้​โมโห​เช่นนี้​ขอรับ​ ​ลูก​มีทั​้​งบุ​ตร​ชาย​และ​บุตรสาว​ ​ต่อให้​ไม่​แต่งงาน​ใหม่​ก็​ไม่ได้​ถือว่า​อกตัญญู​”

เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ชี้​ไป​ที่​ประตู​ ​“​เจ้า​ไสหัวไป​บัดเดี๋ยว​นี้​!​”

เจียง​อัน​เฉิง​ลุกขึ้น​ยืน​ ​“​เช่นนั้น​ลูก​ขอตัว​ก่อน​ ​ท่าน​แม่​อย่า​ได้​โกรธเคือง​ลูก​ไป​เลย​ ​หาก​ร่างกาย​ทรุดโทรม​ขึ้น​มา​จะ​ไม่​คุ้มค่า​”

เมื่อ​เห็น​ว่า​เจียง​อัน​เฉิง​ลุกขึ้น​แล้ว​ก้าว​ขาวิ​่​งอ​อก​ไป​ เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​ก็​โมโห​เสีย​จน​แทบ​หายใจไม่ออก

เจ้า​ลูก​อกตัญญู​!

เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​บอก​กับ​ตัวเอง​อยู่​ใน​ใจ​ว่า​หนทาง​ยัง​อีก​ยาว​ไกล​ ​แต่​นาง​ก็​ยังคง​โมโห​ยิ่งนัก​ ​จึง​เอื้อมมือ​ไป​หยิบ​ถ้วย​น้ำชา​โยน​ลง​สู่​พื้น​แตก​กระจาย

เฝิ​งมา​หม่า​ที่​ยืน​อยู่​ด้าน​ข้าง​เข้ามา​ปลอบ​ว่า​ ​“​เหล่าฮู​หยิน​เจ้า​คะ​อย่า​ได้​โมโห​ไป​ ​ใจเย็น​ๆ​ ​อย่า​ได้​รีบร้อน​เจ้าค่ะ​”

เฝิง​เหล่าฮู​หยิน​รับ​ผ้าเช็ดหน้า​มา​เช็ดมือ​แล้ว​พยักหน้า​เล็กน้อย

อืม​ ​นาง​จะ​รีบร้อน​ไม่ได้​ ​รอ​ไป​ก่อน​เถอะ​ ​รอ​เมื่อ​ข้าม​ปีนี​้​ไป​คำ​ท้าพนัน​ของ​เจ้า​สี่​ก็​จะ​กลายเป็น​เรื่องขบขัน​ ​คำสัญญา​ที่ว่า​ไว้​นาง​จะ​จัดการ​ด้วย​ตนเอง​ ​เมื่อถึง​เวลา​นั้น​นาง​ก็​มี​วิธี​ควบคุม​บุตรชายคนโต​แล้ว

จาก​ความรัก​และ​หวงแหน​ของ​บุตรชายคนโต​ที่​มีต​่อ​เจ้า​สี่​ ​นาง​ไม่เชื่อ​ว่า​เขา​จะ​ไม่ยอม​ก้ม​ศีรษะ​รับ

จากนั้น​ภายใน​จวน​ก็​สงบ​ลง​ ​เพียง​ชั่วพริบตา​เดียว​ก็​มาถึง​เทศกาล​ตง​จื้อ

ตง​จื้อ​เป็น​วันสำคัญ​อีก​วันหนึ่ง​แห่ง​ปี

ใน​ราชวงศ์​ต้า​โจว​มี​เทศกาล​สำคัญ​อยู่​สาม​เทศกาล​ ​ได้แก่​ ​วัน​ตรุษจีน​ ​วันพระ​ราชพิธี​หมื่น​พรรษา​และ​ตง​จื้อ​ ​สาม​วันนี้​ราชสำนัก​จะ​จัด​ประชุม​ใหญ่​ ​ขุนนาง​ทั้ง​บู๊​และ​บุ๋น​รวมถึง​ข้าราชการ​คนอื่น​ก็​จะ​เดินทาง​มาร​่ว​มด​้วย

ใน​วัน​ตง​จื้อ​นี้​ ​ฮ่องเต้​จะ​พา​ขุนนาง​บู๊​บุ๋น​มุ่งหน้า​ไป​บวงสรวง​ฟ้า​ดิน​ที่​ชานเมือง​ ​อีกทั้ง​ทำการ​สักการะ​ขอให้​มี​ฝนตก​ตามฤดูกาล​ ​ขอให้​ประชาชน​อยู่​อย่าง​ร่มเย็น​เป็นสุข​ ​เมื่อถึง​เวลากลางวัน​งานเลี้ยง​ของ​ประเทศ​จะ​ถูก​จัด​ขึ้น​ที่​ชานเมือง​ ​ส่วน​งานเลี้ยง​ประจำ​ตระกูล​จะ​จัด​ขึ้น​ที่​วังหลัง​ใน​ตอนกลางคืน

ใน​เทศกาล​สำคัญ​ทั้ง​สาม​เทศกาล​นี้​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ชื่นชอบ​เทศกาล​ตง​จื้อ​เป็น​ที่สุด​ ​เหตุผล​นั้น​ไม่ใช่​อื่นใด​ ​เพียงแค่​เพราะ​เทศกาล​ตง​จื้อ​สามารถ​เดินทางออก​จาก​วัง​ได้

ถูกต้อง​แล้ว​ฟัง​ไม่ผิด​ไป​หรอก​ ​ฮ่องเต้​ผู้​เป็นใหญ่​ใน​ใต้​หล้า​ ​รอคอย​ที่จะ​ได้​ออก​ไป​ข้างนอก​ปี​ละครั​้ง​นี้​เป็น​ที่สุด

นอกเหนือจาก​วัน​บวงสรวง​ฟ้า​ดิน​นี้​แล้ว​ ​หาก​ฮ่องเต้​ประสงค์​จะ​เดินทางออก​จาก​ราช​วัง​ก็​ไม่มี​โอกาส​ ​ส่วน​การ​ออก​ตรวจ​ราษฎร​ใน​ชุด​ธรรมดา​น่ะ​หรือ​ ​เหอะ​ๆ​ ​สิ่ง​เหล่านั้น​เป็น​เพียง​ความฝัน​อัน​งดงาม​ที่​เขียน​ไว้​ใน​เรื่องเล่า​เท่านั้น

เมื่อ​ครั้น​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ยัง​เยาว์วัย​ไม่ใช่​ว่า​เขา​ไม่เคย​คิด​จะ​ต่อต้าน​ ​แต่​หลังจากที่​ถูก​บรรดา​ขุนนาง​ผู้​เคร่งครัด​ปิดประตู​ขัง​เอาไว้​ดุจ​สุนัข​ก็​ไม่ใช่​สุกร​ก็​ไม่​ปาน​เป็นเวลา​ครึ่ง​ค่อน​ปี​ ​นับแต่​นั้น​เป็นต้นมา​เขา​ก็​ทำตัว​ว่าง่าย

จะ​ให้​ทำ​อย่างไรเล่า​ ​ใคร​ใช้​ให้​เขา​เป็น​ฮ่องเต้​ผู้​มี​ความเมตตา​กัน​ ​ไม่เช่นนั้น​เขา​คงจะ​จัดการ​กับ​เจ้า​คน​เหล่านั้น​ด้วย​การนำ​ไป​ฆ่า​ทิ้ง​ให้​สิ้น​ ​แล้ว​โยน​ใส่​ไป​ใน​โรงกลั่น​สุรา

การ​เป็น​ฮ่องเต้​ผู้​เปี่ยม​ด้วย​คุณธรรม​ ​ก็​จะ​ต้อง​ได้รับ​แรงกดดัน​เช่นนี้

ใน​วัน​บวงสรวง​ฟ้า​ดิน​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​อารมณ์ดี​เป็น​ที่สุด​ ​เขามอง​ไป​ทาง​ขุนนาง​ที่​เดินทาง​มาร​่วม​เฉลิมฉลอง​งานเลี้ยง​ ​ก่อน​จะ​เอ่ย​ถาม​พาน​ไห่​ว่า​ ​“​ผู้ใด​คือ​ตง​ผิงปั​๋ว​”

อืม​ ​เขา​รู้สึก​สนใจ​เจ้า​คน​โชคร้าย​นี้​มานาน​แล้ว