ตอนที่ 343 งานเลี้ยงในราชวงศ์

ซื่อจิ่น หวนรักประดับใจ

ใน​เมืองหลวง​มี​ผู้รับ​ราชการ​มากมาย​ ​ดังนั้น​นอกจาก​คนที​่​มักจะ​ปรากฏตัว​เฉพาะพระพักตร์​แล้ว​ ​แม้​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​จะ​เคย​เจอ​ตง​ผิงปั​๋ว​มาก​่อน​ ​ทว่า​บัดนี้​เขา​ก็​จำ​ไม่ได้​แล้ว

แต่​ผู้​ที่​ไม่อยู่​ใน​ความทรงจำ​คน​นี้​ ​กลับ​ถูก​ผู้คน​มากมาย​กล่าวถึง​ซ้ำแล้วซ้ำเล่า​ใน​ปีนี​้​ ​และ​แต่ละครั้ง​ที่​กล่าวถึง​ล้วน​บอกว่า​เขา​เป็น​คน​โชคร้าย​เหลือเกิน​ ​จึง​ทำให้​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​อด​ไม่ได้​ที่จะ​อยากรู้อยากเห็น

เมื่อ​เห็น​แววตา​อัน​อยากรู้อยากเห็น​ของ​ฝ่า​บาท​ ​พาน​ไห่​จึง​กลอกตา​ไปมา​ก่อน​จะ​เหล่​มอง​ไป​ยัง​ทิศทาง​หนึ่ง​ตอบ​ว่า​ ​“​ทูล​ฝ่า​บาท​ ​คนที​่​สอง​ที่นั่ง​อยู่​ใน​โต๊ะ​มุม​ตะวันตกเฉียงใต้​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

มุม​ตะวันตกเฉียงใต้​หรือ

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​หรี่​ตาม​อง​ไป

พาน​ไห่​กระแอม​ออกมา​แล้ว​กล่าวว่า​ ​“​ฝ่า​บาท​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​ ​นั่น​คือ​มุม​ทาง​ตะวันออกเฉียงใต้​…​”

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ขายหน้า​ ​ทรง​ทำ​พระพักตร์​บูดบึ้ง​ ​“​ทำไม​หรือ​ ​ข้าม​อง​ทาง​อื่น​บ้าง​ไม่ได้​หรือ​ไร​”

พาน​ไห่​กระตุก​มุม​ปากของ​เขา​เล็กน้อย

ในที่สุด​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​เห็น​รูปลักษณ์​ของ​เจียง​อัน​เฉิง​ก่อน​จะ​รู้สึก​ประหลาดใจ​เล็กน้อย

ตง​ผิงปั​๋ว​เป็น​ชาย​ที่​รูปร่างหน้าตา​หล่อเหลา​ ​ตามเหตุผล​แล้ว​เขา​น่าจะเป็น​ผู้​โชคดี​ ​ไม่น่า​จะ​โชคร้าย​ถึง​เพียงนี้

“​ฝ่า​บาท​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​ว่า​อย่างไร​”

“​ถึง​เวลา​จะ​เริ่ม​งาน​แล้ว​หรือยัง​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”​ ​พาน​ไห่​กระซิบ​เตือน

“​อืม​ ​เริ่ม​เถิด​”

พาน​ไห่​จึง​ได้​กล่าว​ขึ้น​ด้วย​น้ำเสียง​อัน​ดัง​ว่า​ ​“​เปิด​พิธี​งานเลี้ยง​ฉลอง​!​”

ขุนนาง​ต่าง​พากั​นลุก​ขึ้น​แล้ว​โค้ง​คำนับ

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​หยิบ​จอก​สุรา​ที่​พาน​ไห่​มอบให้​ ​ก่อน​จะ​ยื่น​ออก​ไป​ดื่ม​กับ​บรรดา​ขุนนาง​หนึ่ง​จอก​ ​แต่​ครานี​้​ที่​ทรง​ยก​จอก​ขึ้น​ ​ได้​หัน​พระพักตร์​ไป​ทาง​มุม​ตะวันตกเฉียงเหนือ​ใต้

ความคิด​ของ​ฝ่า​บาท​นั้น​ยาก​เกินคาด​เดา​ ​แต่​ผู้คน​ก็​มัก​ชื่นชอบ​จะ​คาดเดา​เรื่อง​นี้

ใน​ปีนี​้​ฮ่องเต้​หัน​พระพักตร์​ไป​ทาง​ทิศตะวันตกเฉียงใต้​ ​หรือ​ที่นั่น​จะ​มี​คนสำคัญ​ที่​ฝ่า​บาท​จับจ้อง​?

บรรดา​ขุนนาง​ต่าง​พากัน​หันไป​มอง​ที่ทาง​ตะวันตกเฉียงใต้

ก็​ไม่ได้​มี​ใคร​เป็นพิเศษ​ ​บรรดา​ผู้​อยู่​ที่นั่น​ล้วน​เป็น​ขุนนาง​ข้าราชการ​ที่​ไม่ได้​โดดเด่น​ ​โดยปกติ​แล้ว​แทบ​ไม่มี​โอกาส​จะเข้า​เฝ้า​เฉพาะพระพักตร์​ของ​ฮ่องเต้​เสียด​้วย​ซ้ำ​ ​โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​ตง​ผิงปั​๋ว​ ​ใน​ปีนี​้​เขา​ช่าง​มีชีวิต​ไม่​ราบรื่น​เอา​เสีย​เลย​ ​โชคร้าย​เสีย​จน​ไม่​อยาก​มี​ใคร​นั่ง​ร่วมโต๊ะ​ด้วย

ในไม่ช้า​ดนตรี​และ​การร่ายรำ​ก็​เริ่ม​ขึ้น​ ​เสียง​กลอง​เสียง​ฆ้อง​ดัง​ครึกครื้น

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เสวย​อาหาร​เข้าไป​เพียง​ไม่​กี่​คำ​ก็​หันไป​กระซิบกระซาบ​กับ​ขันที​พาน​ไห่​ผู้รู้​ใจ​คนสนิท​ว่า​ ​“​เจียง​เส้า​ชิง​ดู​แก่​กว่า​พี่ชาย​ของ​เขา​อยู่เล็ก​น้อย​”

นายท่า​นร​อง​เจียง​ดำรงตำแหน่ง​เป็น​เส้า​ชิง​คน​ปัจจุบัน​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​นับว่า​คุ้นเคย​กับ​เขา​เล็กน้อย​ ​ด้วยเหตุนี้​เอง​จึง​เป็น​เหตุผล​ว่าด้วย​เหตุใด​นายท่า​นร​อง​เจียง​จึง​มีหน้ามีตา​มากกว่า​เจียง​อัน​เฉิง

คน​หนึ่ง​มีชื่อเสียง​มียศ​ ​ส่วน​อีก​คน​หนึ่ง​ต่อให้​เวลา​ผ่าน​ไป​อีก​ร้อย​ปี​ ​บุตรหลาน​ของ​เขา​ก็​ไม่​อาจ​คว้า​ตำแหน่ง​นี้​ได้​ ​ใน​สายตา​ของ​คน​ทั่วไป​ไม่ต้อง​กล่าว​ก็​รู้​ว่า​ผู้ใด​ที่​มีเกียรติ​มากกว่า

พาน​ไห่​มอง​ไป​ทาง​นายท่า​นร​อง​เจียง​ด้วย​ความรู้สึก​เห็นใจ

ฝ่า​บาท​ได้​ตรัส​อย่าง​อ้อมค้อม​แล้ว​ ​ความหมาย​เดิม​ก็​คือ​เจียง​เส้า​ชิง​ไม่ได้​ดูดี​เท่า​ตง​ผิงปั​๋ว

“​ได้ยิน​มา​ว่า​สอง​พี่น้อง​พวกเขา​อายุ​ต่างกัน​ไม่​มาก​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

“​อ้อ​”​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ตอบรับ​อย่าง​ไม่ใส่ใจ​ ​เขา​จับจ้อง​ไป​ที่​ใบหน้า​อัน​หล่อเหลา​ของ​เจียง​อัน​เฉิง​ ​จู่ๆ​ ​ก็​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​ด้วย​ความประหลาดใจ​ว่า​ ​“​บุตรสาว​ใน​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​แต่งงาน​ไป​ทั้งสอง​คน​ล้วน​พบ​เจอ​กับ​ชีวิต​ไม่​ราบรื่น​ ​หรือว่า​หน้าตา​ของ​พวก​นาง​ ​เหมือนกับ​ทาง​มารดา​?​”

พาน​ไห่​เหลือบมอง​ซ้าย​ขวาก​่อน​จะ​ยกมือ​ขึ้น​เช็ด​เหงื่อ​บน​หน้าผาก

ฝ่า​บาท​ ​คำถาม​นี้​ทรง​รอ​ให้​เสด็จ​กลับ​วัง​ก่อน​แล้ว​ค่อย​เอ่ย​ถาม​ได้​หรือไม่​ ​หาก​มี​ผู้ใด​ได้ยิน​ว่า​ฮ่องเต้​ผู้​สง่างาม​เป็น​เช่น​บิดา​ของ​ปวงชน​เอ่ย​ถาม​เรื่อง​นี้​ ​จะ​ไม่​อับอายขายหน้า​หรือ

แต่​ไม่ว่า​จะ​เป็น​คำถาม​เช่นไร​ ​หาก​ฝ่า​บาท​ตรัส​ถาม​ก็​ต้อง​ตอบ​ ​“​กระหม่อม​ได้ยิน​มา​ว่า​บุตรสาว​ใน​จวน​ตง​ผิงปั​๋​วล​้​วน​หน้าตา​งดงาม​โดดเด่น​นัก​”

“​แล้ว​คุณหนู​สี่​เล่า​”​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เอ่ย​ถาม​ขึ้น​มา

เจียง​ซื่อ​หน้าตา​เป็น​เช่นไร​นั้น​พาน​ไห่​ไม่เคย​พบ​มาก​่อน​ ​ทว่า​เรื่อง​นี้​เขา​ก็​พอ​รู้

สายตรวจ​ลับ​ใน​หน่วย​ตง​ฉั​่ง​ที่​เขา​ดูแล​อยู่​นั้น​แผ่ขยาย​ไป​ทั่ว​ ​ก่อนหน้านี้​ไม่นาน​ ​จวน​ตง​ผิงปั​๋ว​ได้​ยื่นฟ้อง​ตระกูล​จู​จน​ขึ้นโรงขึ้นศาล​ ​คุณหนู​สี่​เจียง​ซื่อ​ปรากฏตัว​ท่ามกลาง​ศาล​ ​และ​ใน​ศาล​นั้น​ก็​มี​คนที​่​เป็น​ขุนนาง​จาก​สายตรวจ​ลับ​ใน​หน่วย​ตง​ฉั​่​งอยู​่​ด้วย

จาก​รายงาน​ของ​ผู้ใต้บังคับบัญชา​ ​กล่าวว่า​คุณหนู​สี่​เป็น​สตรีที​่​งดงาม​อย่าง​หาที่เปรียบมิได้

แต่​จะ​ทูล​รายงาน​ฝ่า​บาท​อย่างไรเล่า​ ​พาน​ไห่​ยังคง​ลังเล​อยู่​ครู่หนึ่ง

หากว่า​กล่าว​ไป​ตาม​ความจริง​ ​ฝ่า​บาท​คงจะ​ไม่ได้​รับสั่ง​ให้​คุณหนู​สี่​ตระกูล​เจียง​เข้า​วัง​ใช่​หรือไม่

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​ ​“​ว่า​อย่างไร​”

พาน​ไห่​สะดุ้ง​และ​รีบ​ทูล​ว่า​ ​“​กระหม่อม​ได้ยิน​มา​ว่า​คุณหนู​สี่​แห่ง​ตระกูล​เจียง​หน้าตา​งดงาม​ยาก​จะ​หา​ที่​เปรียบ​ปาน​พ่ะ​ย่ะ​ค่ะ​”

เมื่อ​ได้ยิน​พาน​ไห่​พรรณนา​ว่านา​งง​ดงาม​ยาก​จะ​หา​ที่​เปรียบ​ปาน​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็​รู้สึก​ตกตะลึง

เมื่อ​เป็น​เช่นนี้​ ​คาด​ว่า​คุณหนู​สี่​แห่ง​ตระกูล​เจียง​คงจะ​เป็น​หญิง​งาม​ท่ามกลาง​หญิง​งาม​ทั้งหลาย

แต่​สตรีที​่​งดงาม​เช่นนี้​เหตุใด​บุตรชาย​ของ​อันกั​๋​วกง​จึง​ได้​ยกเลิก​งาน​หมั้น​หมาย​เหล่า

หลังจากที่​ส่ง​สงสัย​ใน​เรื่อง​เหล่านี้​แล้ว​ ​ฮ่องเต้​จริง​ก็ได้​วาง​เรื่อง​นี้​ลง​ ​ลุกขึ้น​ร้องรำทำเพลง

ใน​เหมันตฤดู​ท้องฟ้า​มืด​เร็ว​กว่า​ปกติ​ ​เมื่อ​งานเลี้ยง​สิ้นสุดลง​ทุกคน​ก็ได้​กลับ​ไป​พักผ่อน​ ​ขบวน​ยาวเหยียด​เดินทาง​กลับ​เข้า​เมือง

ระหว่างทาง​นั้น​มี​ขบวน​ธง​หลาก​สี​ ​เสียง​ของ​เครื่องดนตรี​และ​เสียง​ขับร้อง​บรรเลง​ ​ประชากร​นับไม่ถ้วน​ยืน​อยู่​สอง​ข้าง​ถนน​เพื่อ​ชม​ขบวน​เสด็จ​ของ​ฮ่องเต้​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ประทับ​นั่ง​อยู่​ใน​รถม้า​และ​มองดู​ประชากร​ของ​เขา​ด้วย​รอยยิ้ม

หลัง​เสด็จ​กลับ​ถึง​พระราชวัง​ ​เดิมที​ความรู้สึก​อัน​สนุกสนาน​ของ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ก็ได้​หดหู่​ลง

ต้อง​เดินทาง​จาก​โลก​อัน​กว้างใหญ่​ภายนอก​กลับ​สู่​พระราชวัง​ที่​ไม่เคย​เปลี่ยนแปลง​ไป​ ​ไม่ว่า​อย่างไร​ก็​คง​รู้สึก​หดหู่​ ​แต่​ไม่ว่า​อารมณ์​จะ​เป็น​เช่นไร​ ​งานเลี้ยง​ของ​ราชวงศ์​ใน​ยามค่ำคืน​ก็​จำเป็น​จะ​ต้อง​ทำท่า​ทาง​ให้​กระปรี้กระเปร่า

หลังจากที่​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​จัดการ​เรื่อง​ยุ่ง​ๆ​ ​เรียบร้อย​แล้ว​ ​เขา​ก็ได้​หยุดพัก​ผ่อน​จัดการ​เปลี่ยน​ฉลองพระองค์​ ​แล้ว​เสด็จ​ไป​ที่​ตำหนัก​ฉาง​เซิง

งานเลี้ยง​ใน​ราชวงศ์​จัด​ขึ้น​ที่​ตำหนัก​ฉาง​เซิง​ ​สำหรับ​อวี​้​จิ​่น​แล้ว​นั้น​นี่​เป็นครั้งแรก​ที่​เขา​เดินทาง​ไปร​่ว​มงาน​เลี้ยง​ดังกล่าว

เสียงเพลง​ที่​บรรเลง​ออกมา​อย่าง​ไม่รู้​จัก​เหน็ดเหนื่อย​ ​นางใน​ที่​สวม​เสื้อผ้า​บางเบา​ ​ประกอบกับ​ความ​อุ่น​และ​กลิ่นหอม​จาก​เครื่อง​หอม​ทำให้​อวี​้​จิ​่​นรู​้​สึก​ง่วงนอน​และ​เบื่อหน่าย

แต่​ไม่ว่า​จะ​รู้สึก​เบื่อหน่าย​เท่าไร​ ​เขา​ก็​จำเป็น​จะ​ต้อง​เดินทาง​มา​ ​เนื่องจาก​เรื่อง​การ​แต่งงาน​อัน​ยิ่งใหญ่​ใน​ชีวิต​ของ​เขา​ยังคง​ต้อง​พึ่งพา​ฮ่องเต้

เสียงหัวเราะ​เบา​ๆ​ ​ลอยมา

หู​ของ​อวี​้​จิ​่​นค​่อ​นข​้า​งดี​ ​เขา​จึง​ได้ยิน​อย่างชัดเจน

“​นั่น​คือ​พี่​เจ็ด​ใช่​หรือไม่​ ​ได้ยิน​มา​ว่า​เขา​มักจะ​ทะเลาะเบาะแว้ง​กับ​พี่น้อง​คนอื่นๆ​ ​คาดไม่ถึง​ว่า​จะ​รูปงาม​เพียงนี้​…​”

“​เฮ้อ​ ​ต่อให้​รูปงาม​สัก​เพียงใด​ก็​เป็น​เพียง​คนป่าเถื่อน​ที่​มัก​ใช้กำลัง​ ​มี​อะไร​น่ามอง​กัน​”

อวี​้​จิ​่น​เหลือบมอง​ไป​ตาม​ต้นเสียง​ ​ซึ่ง​สร้าง​ความ​ตื่นตาตื่นใจ​ให้​กับ​องค์​หญิง​ทั้งหลาย​เป็น​อย่างยิ่ง

ดูเหมือน​จะ​มี​องค์​หญิง​อยู่​อย่างน้อย​สิบ​คน​ ​ฝ่า​บาท​ให้กำเนิด​ได้​เก่ง​เสีย​จริง​ ​เขา​เหลือบตา​ไป​มองดู​องค์​ชาย​ ​จากนั้น​อวี​้​จิ​่​นก​็​หัวเราะเยาะ​ขึ้น

หากว่า​เขา​ให้กำเนิด​ไม่เก่ง​ ​ตนเอง​ก็​คง​ไม่ได้​เกิด​มา​เช่นกัน

แม้ว่า​เขา​จะ​ถูก​ส่งตัว​ออกจาก​พระราชวัง​ทันที​เมื่อ​ถือกำเนิด​ ​และ​ไม่ได้​รับ​การปฏิบัติ​อย่างเช่น​องค์​ชาย​สัก​เท่าไร​ ​อีกทั้ง​ดูเหมือนว่า​จะ​ไม่ได้​รับ​ความอบอุ่น​จาก​บิดา​มารดา​ ​แต่​อวี​้​จิ​่​นก​็​ไม่เคย​คิด​ว่า​ชะตากรรม​ของ​ตน​ช่าง​น่าสังเวช​ ​หรือ​คิด​ว่า​หาก​ตน​ไม่ได้​เกิด​มาบน​โลก​นี้​ก็​คงดี

ล้อเล่น​หรือ​ไร​!​ ​การ​มีชีวิต​อยู่​ช่าง​ดีนัก​ ​หากว่า​เขา​ไม่ได้​เกิด​มาบน​โลก​ใบ​นี้​แล้ว​จะ​มีโอกาส​ได้​เจอ​อา​ซื่อ​ของ​เขา​ได้​อย่างไร

อวี​้​จิ​่น​หยิบ​ไห​สุรา​ขึ้น​มา​และ​ริน​ให้​ตนเอง​หนึ่ง​จอก

ไห​สุรา​ที่​ทำ​มาจาก​เงิน​ ​และ​จอก​สุรา​ทำ​มาจาก​หยก​ขาว​ ​สี​ของ​สุรา​ดุจดั่ง​อำพัน

อวี​้​จิ​่น​ยก​จอก​สุรา​ขึ้น​วาง​ไว้​บริเวณ​จมูก​แล้ว​สูดดม​เบา​ๆ​ ​ก่อน​จะ​จิบ​เข้าไป

เสียงหัวเราะ​เบา​ๆ​ ​ลอยมา

ไม่จำเป็น​ต้อง​เงี่ยหู​ฟัง​เขา​ก็​รู้​ว่า​บรรดา​องค์​หญิง​กำลัง​หัวเราะ​ ​เยาะเย้ย​การ​ที่​อวี​้​จิ​่​นริน​สุรา​ให้​ตนเอง​ว่า​เป็น​พฤติกรรม​ซึ่ง​ไม่เหมาะสม

อวี​้​จิ​่น​จึง​เลิก​คิ้ว​ขึ้น​แล้ว​มอง​ไป​ดวงตา​เป็นประกาย

บรรดา​องค์​หญิง​จึง​ได้​เงียบเสียง​ลง​ ​องค์​หญิง​หลาย​คน​หน้าแดง​เรื่อ​และ​ก้ม​ศีรษะ​ลง

ถึงแม้ว่า​เสด็จ​พี่​ผู้​นี้​จะ​ทำตัว​หยาบกระด้าง​และ​ไม่​ค่อย​ปฏิบัติตาม​กฎเกณฑ์​ ​แต่​ก็​ต้อง​ยอมรับ​ว่า​เขา​มี​รูปร่างหน้าตา​หล่อเหลา​ที่สุด​ใน​บรรดา​เสด็จ​พี่​ทั้งหลาย​ ​แววตา​ที่​มอง​มาทำ​ให้​ผู้​ถูก​มอง​กังวล​อย่าง​อธิบาย​ไม่​ถูก

เหมือนกับ​ว่า​…​ ​เหมือนกับ​ว่า​หาก​กล่าว​สิ่งใด​ไปมา​กก​ว่านี​้​ ​ก็​จะ​ถูก​เสด็จ​พี่​ผู้​นั้น​เฆี่ยนตี​เอา​ง่ายๆ​…​ดุจ​เช่น​เสด็จ​พี่ใหญ่

อวี​้​จิ​่​นละ​สายตา​กลับมา​แล้ว​หมุน​จอก​สุรา​ยกขึ้น​ใน​มือ​ของ​เขา

“​ฮ่องเต้​และ​ฮองเฮา​เสด็จ​!​”

เมื่อ​เสียงประกาศ​อัน​ดัง​กังวาน​สิ้นสุดลง​ ​ดนตรี​ใน​พิธี​ก็​หยุด​ลง​เช่นกัน​ ​จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​เดิน​เข้าไป​ใน​ห้องโถง​พร้อมกับ​ฮองเฮา

ทุกคน​ใน​ห้องโถง​ลุกขึ้น​แล้ว​แสดง​ความเคารพ​พร้อมกัน

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​ยกมือ​ขึ้น​ ​ทำท่า​เป็นความ​หมาย​ว่า​ ​“​ทุกคน​นั่งลง​เถิด​ ​ล้วน​เป็น​คนใน​ครอบครัว​เดียวกัน​ไม่จำเป็น​ต้อง​รักษา​มารยาท​ให้​มากความ​”

ใน​วันนี้​การ​เสด็จ​ออก​ไป​บวงสรวง​ที่​ด้านนอก​ก็​เหนื่อย​มาก​พอแล้ว​ ​ใน​งานเลี้ยง​ตระกูล​เขา​จึง​ไม่ยาก​จะ​เหน็ดเหนื่อย​อีก

จิ​่ง​หมิง​ฮ่องเต้​นั่งลง​อย่าง​เกียจคร้าน​ ​ก่อน​จะ​มอง​ไป​ทาง​นางสนม​และ​บรรดา​โอรส​ธิดา