ตอนที่ 351 ปรมาจารย์คนนี้เอาแต่ใจจริงๆ

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 351 ปรมาจารย์คนนี้เอาแต่ใจจริงๆ

เป็นที่รู้โดยทั่วกัน

เซี่ยนอวี๋ ฉู่ขวง และอิ่งจือเป็นสหายรักกัน

ในจุดนี้ อิ่งจือเคยยอมรับด้วยตัวเองในการสัมภาษณ์อุ่นเครื่องก่อนที่เปิดตัวเรื่องจิตวิญญาณสือจี่

พวกเขาไม่ได้ติดตามคนดังหรือเพื่อนร่วมอาชีพคนอื่นๆ มีเพียงทั้งสามคนติดตามกันเอง จนเกิดเป็นวงปิดโดยสมบูรณ์ เพราะฉะนั้นชาวเน็ตจึงมักจะแซวความสัมพันธ์ของทั้งสามอยู่บ่อยครั้ง

แต่ว่า…

ถึงแม้ความสัมพันธ์ของทั้งสามจะเป็นแบบปิด แต่ในช่วงเวลายาวนานที่ผ่านมา ความสนใจของทุกคนล้วนไปรวมกันอยู่ที่เซี่ยนอวี๋และฉู่ขวง

ประโยคหนึ่งซึ่งเหมาะสำหรับบรรยายสถานะของอิ่งจือก็คือ ‘แสงอยู่ที่พวกเขา ส่วนฉันไม่มีอะไรเลย’

เช่นเดียวกับที่ในหลายๆ กลุ่มมักจะมีเงาจืดจางอยู่คนหนึ่ง

เซี่ยนอวี๋ใต้ ฉู่ขวงเหนือ

ทั้งที่อิ่งจือสนิทชิดเชื้อกับทั้งสองคน แต่กลับแลดูราวกับเป็นคนนอกซึ่งไม่ได้รับความสนใจ จนถูกบรรดาชาวเน็ตซึ่งติดตามทั้งสามคนขนานนามว่า

เงาจืดจาง

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับความสำเร็จในแต่ละแขนงของทั้งสามคน

เซี่ยนอวี๋เป็นยอดอัจฉริยะซึ่งได้รับการยอมรับจากทั่วทั้งวงการประพันธ์เพลง ขณะเดียวกันยังสันทัดการเขียนบทภาพยนตร์ สถิติสูงสุดก็คือผลงานระดับเทพอย่างเพลงวิวาห์ในฝัน

ฉู่ขวงชื่นชอบการกระโดดข้ามประแนวนิยาย จนกลายเป็นปีศาจในสายตาเพื่อนร่วมงานมากมาย มีทั้งเรื่องสั้นและนิยายแฟนตาซีสุดคลาสสิกด้วย ทั้งยังกวาดล้างโลกแห่งนิยายสืบสวนสอบสวนด้วยเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรส

ทว่าอิ่งจือในอุตสาหกรรมการ์ตูนนั้น ถึงแม้จะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง แต่ก็ไม่นับว่าเป็นแนวหน้า

ถึงขั้นที่มีบางคนแสดงความเห็นว่า…

ที่อิ่งจือโด่งดังได้ ก็เพราะเรื่องเจ้าชายลูกสักหลาดของฉู่ขวง

แน่นอนว่าภายหลังเรื่องจิตวิญญาณสือจี่โด่งดัง จึงเป็นที่ประจักษ์ว่าอิ่งจือไม่ต้องพึ่งฉู่ขวง ก็สามารถทำผลงานที่ดีได้ในวงการการ์ตูน

แต่ก็เพียงเท่านี้

ดังนั้นหลายคนจึงลอบรู้สึกอยู่ในใจว่า

คุณสมบัติในแต่ละด้านของอิ่งจือยังเทียบกับอีกสองคนไม่ได้

ที่อิ่งจือสามารถเข้าไปผูกมิตรกับเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวงได้ก็เพราะโชคดี

เขาสามารถเข้าไปมีความสัมพันธ์ซึ่งเป็นวงปิดของทั้งสามคนได้นั้นเป็นการปีนเกลียว

แต่ถึงกระนั้น ยามที่เรื่องสมุดมรณะปรากฏขึ้น ทัศนะเช่นนี้กลับพลันถูกทลายลงในทันที!

ในคืนนี้ ทัศนคติที่ผู้คนมีต่ออิ่งจือนั้นกลับตาลปัตรไปแล้ว!

ดังนั้น คอมเมนต์ฮ็อตฮิตอย่าง ‘ฉันพอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมเซี่ยนอวี๋กับฉู่ขวงถึงติดตามอิ่งจือ คนประเภทเดียวกันก็มักจะเกาะกลุ่มกัน ฝีมือระดับปีศาจก็ต้องเล่นกับระดับปีศาจเหมือนกันถูกมั้ย!’ ถึงได้มียอดกดไลก์สูงเช่นนี้

คำพูดประโยคนี้ ได้สะท้อนจิตใจของทุกคนซึ่งกลับตาลปัตรในตอนนี้ออกมาได้อย่างชัดเจน!

‘พูดได้ถูกต้อง คนประเภทเดียวกันมักจะเกาะกลุ่มกัน ฝีมือระดับปีศาจก็ต้องเล่นกับระดับปีศาจเหมือนกัน!’

‘ตอนนี้ยังมีใครกล้าพูดอีกว่าอิ่งจือปีนเกลียวฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋’

‘คำโบราณว่าไว้ ว่าจะดูว่าใครระดับไหน ขอแค่ดูว่าเพื่อนที่คนคนนั้นคบหาเป็นยังไงก็รู้แล้ว เพื่อนของอิ่งจือคือฉู่ขวงกับเซี่ยนอวี๋ ยังต้องถามถึงระดับของเขาอีกเหรอ?’

‘นั่นสิ คนที่เป็นมิตรสหายคนสนิทกับเซี่ยนอวี๋ใต้ ฉู่ขวงเหนือได้ มีหรือจะกระจอก?’

‘หลังจากนี้ใครจะกล้าพูดอีกว่าอิ่งจือเป็นเงาจืดจาง!’

‘อิ่งจือ: ผมวางไพ่แล้ว ไม่เสแสร้งแล้ว ขาใหญ่อย่างผมมาแล้ว’

‘คงไม่มีใครคิดว่าอิ่งจือเป็นเงาจืดจางแล้วล่ะมั้ง?’

‘อิ่งจือโคตรตึงขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย งั้นก่อนหน้านี้ทำไมไม่เผยฝีมือออกมาล่ะ ปล่อยให้ทุกคนแซวอยู่ได้ตั้งนาน’

‘นี่แหละคือความคิดของขาใหญ่ คนเขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้หรอก’

‘อิ่งจือ: เอาเถอะ ฉันเองก็ใช้มือเล่นเกมแล้วล่ะ’

‘เฉียบมาก! ดูจากระดับของเรื่องสมุดมรณะ ก่อนหน้านี้อิ่งจือคงจะใช้เท้าเล่นเกมจริงๆ’

‘เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อสามคนไม่มีใครเป็นน้องชาย แต่เป็นพี่ใหญ่กันทั้งสามคนเลย!’

‘…’

ไม่สำคัญว่าจะเข้าใจเรื่องการ์ตูนหรือไม่

มีตาก็รู้แล้ว

ใครก็ตามที่ได้เห็นภาพวาดก็ล้วนต้องยอมสยบ!

ไม่จำเป็นต้องตัดสินจากมุมมองของมืออาชีพ สรุปอย่างหยาบและง่ายก็คือ ‘ภาพนี้สวยจริงๆ’

เพียงแต่บรรดาชาวเน็ตยังคิดไม่ตก ในเมื่ออิ่งจือเก่งกาจถึงเพียงนี้ เพราะเหตุใดก่อนหน้านี้ถึงไม่สำแดงพลังที่แท้จริงของตนออกมา

หรือว่าหมอนี่แค่ขี้เกียจ เฉกเช่นที่ชาวเน็ตคาดเดา?

เพราะฉะนั้นจึงขี้เกียจวาดอย่างจริงจัง?

ถึงแม้นี่เป็นเพียงเหตุผลเดียวที่ฟังขึ้น แต่ทุกคนมักรู้สึกว่าคำอธิบายเช่นนี้น่าขันเหลือเกิน

ควรเรียกว่าไร้สาระด้วยซ้ำ

ปรากฏว่าในวันรุ่งขึ้น ข้อสงสัยของใครหลายคนก็ได้รับคำตอบ

มีคนลุกขึ้นยืนและอธิบายเหตุผลที่จู่ๆ สไตล์การวาดภาพของเรื่องสมุดมรณะถึงได้ระเบิดพลังขึ้นมากะทันหัน!

คนคนนี้ก็คือผู้ช่วยวาดการ์ตูนอันดับหนึ่งของอิ่งจืออย่างหลัวเวย

นามแฝงของหลัวเวยคือ ‘ลั่วหลี’

ตัวเธอเองเป็นไท่ไท่[1]ชื่อดังในวงการโดจิน

ไท่ไท่และต้าต้ามีความหมายเหมือนกัน เป็นคำเรียกนักเขียนโดจิน ซึ่งแฝงไปด้วยนัยยะของความเคารพและชื่นชอบ

กอปรกับที่หลัวเวยทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยของอิ่งจือภายใต้ชื่อ ‘ลั่วหลี’ ดังนั้นเธอจึงมีสิทธิ์พูดเกี่ยวกับสมุดมรณะ

หลัวเวยเผยแพร่บทความขนาดยาวชิ้นหนึ่ง

‘เห็นทุกคนถกเถียงกันว่าทำไมฝีมือการวาดภาพของอาจารย์ถึงกลายเป็นยอดเยี่ยมได้ถึงขนาดนี้ ในฐานะผู้เกี่ยวข้อง ฉันขออธิบายสักหน่อย’

‘ก่อนอื่นฉันขออนุญาตแก้คำผิดของทุกคนก่อน ไม่ใช่ว่าจู่ๆ ฝีมือของอาจารย์อิ่งจือก็กลายเป็นยอดเยี่ยมขึ้นมา และไม่ใช่การทะลวงขีดความสามารถเป็นการชั่วคราว แต่ฝีมือของอาจารย์อิ่งจือนั้นยอดเยี่ยมมากมาโดยตลอด!’

‘ตอนนั้นฉันยอมเป็นผู้ช่วยของอาจารย์อิ่งจือ ก็เพราะยอมสยบต่อฝีมือการวาดภาพของอาจารย์อิ่งจือ’

หลัวเวยเอ่ยถึงตอนที่ตนและหลินเยวียนประชันการวาดภาพพู่กันโบราณ แต่เธอไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดมากนัก

สำหรับหลัวเวยแล้ว ฝีมือภาพวาดพู่กันโบราณของหลินเยวียนสามารถเอาชนะตนได้!

เพราะฉะนั้น ถึงแม้แรกเริ่มจะตกใจที่ฝีมือการวาดการ์ตูนของหลินเยวียนน่ากลัวถึงขนาดนี้ แต่เมื่อนึกถึงประสบการณ์ที่ภาพวาดพู่กันโบราณของตนถูกหลินเยวียนจัดการ เธอก็พลันเข้าใจขึ้นมาทันทีว่าทำไมการ์ตูนที่หลินเยวียนวาดถึงเหนือกว่าเธอ

ประเด็นสำคัญก็คือ คำอธิบายของเธอต่อจากนั้น

‘อันที่จริงอาจารย์อิ่งจือเป็นคนง่ายๆ สบายๆ ถึงขั้นเรียกว่าขี้เกียจก็คงได้ เขามักจะวาดสตอรีบอร์ด และเขียนลายเส้นคร่าวๆ ออกมา จากนั้นค่อยส่งมอบภารกิจวาดภาพให้ผู้ช่วยอย่างฉันทำ เพราะฉะนั้นทุกคนจึงอาจรู้สึกว่าภาพก่อนหน้านี้ของอาจารย์อิ่งจือถ่ายทอดออกมาได้ไม่ดีนัก เพราะทั้งเรื่องปรินซ์ออฟเทนนิสและจิตวิญญาณสือจี่ก่อนหน้านี้ เนื้อหาหลายส่วนในนั้นฉันเป็นคนวาดเอง เมื่อเห็นว่าบนโลกออนไลน์มีหลายคนแซวว่าก่อนหน้านี้อาจารย์อิ่งจือให้ผู้ช่วยวาดแทน ในแง่หนึ่งก็ไม่ผิดหรอกค่ะ แต่แน่นอนว่าไม่ได้เกินจริงถึงขนาดนั้น’

‘ที่จริงแล้ว เดิมทีอาจารย์อิ่งจือกับฉันร่วมกันวาดเรื่องเรื่องสมุดมรณะ’

‘พวกเราสำรองต้นฉบับเป็นเวลาสองเดือน คุณภาพของภาพไม่ได้ต่างกันกับสองเรื่องก่อนหน้านี้’

‘แต่เมื่อสมุดมรณะกำลังจะปล่อยออกไป จู่ๆ อาจารย์อิ่งจือก็ปฏิเสธต้นฉบับเดิมของเรา ทั้งยังจับปากกาวาดเวอร์ชันใหม่ด้วยตัวเอง ซึ่งก็คือเวอร์ชันที่ทุกคนเห็นนี่แหละค่ะ เป็นเพราะฝีมือของอาจารย์อิ่งจือเวอร์ชันใหม่นี้เหนือชั้นเกินไป ทำให้ความสามารถของฉันตามไม่ทัน ทำได้เพียงคอยเป็นผู้ช่วย’

‘ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมอาจารย์อิ่งจือถึงตัดสินใจวาดเรื่องสมุดมรณะใหม่ ฉันไม่ต้องบอก ทุกคนก็คงเดาได้’

‘อีกประเดี๋ยวฉันจะโพสต์สมุดมรณะเวอร์ชันที่หนึ่ง ซึ่งก็คือต้นฉบับที่ถูกอาจารย์อิ่งจือโยนทิ้งไป สุ่มแคปมาเพียงไม่กี่ภาพ ทุกคนสามารถไปชมกันได้’

‘…’

หลังจากที่บทความขนาดยาวนี้เผยแพร่ออกไป หลัวเวยก็โพสต์เวอร์ชันแรกของเรื่องสมุดมรณะลงบนปู้ลั่ว

และเวอร์ชันแรกของเรื่องสมุดมรณะ ซึ่งก็คือต้นฉบับที่ถูกปัดตกไปนั้น ระดับการวาดนั้นไม่ต่างจากผลงานสองชิ้นก่อนหน้านี้ของอาจารย์อิ่งจือ

ชาวเน็ตพากันตะลึงจนตาค้าง

ปรมาจารย์คนนี้เอาแต่ใจจริงๆ เลย!!

………………………………………………

[1] ไท่ไท่ เป็นคำสแลงอินเทอร์เน็ต ใช้เรียกนักวาดที่มีชื่อเสียงในวงการโดจิน และรู้แน่ชัดว่าตัวจริงของนักวาดคนนี้เป็นเพศหญิง