ตอนที่ 352 สามสหายเคียงบ่าเคียงไหล่

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 352 สามสหายเคียงบ่าเคียงไหล่

เมื่ออ่านคำอธิบายของผู้ช่วยวาดการ์ตูนอย่างหลัวเวยจบ ทุกคนถึงได้รู้…

ว่าแท้จริงแล้วอิ่งจือไม่ได้คิดจะวาดเรื่องสมุดมรณะให้เยี่ยมยอดถึงเพียงนี้!

มองจากเวอร์ชันแรกของสมุดมรณะก็รู้แล้ว

ก่อนหน้านี้อิ่งจือไม่ได้คิดจะวาดภาพอย่างจริงจังเสียด้วยซ้ำ ก็เหมือนกับสองเรื่องก่อนหน้านี้ ที่หมอนี่วาดเล่นก็เท่านั้น!

เห็นได้ชัดว่าเขามีความสามารถในการแบกการ์ตูนทั้งเรื่อง แต่ถ้าสามารถเล่นสนุก เขาก็เล่นสนุกอย่างเต็มที่!

หากไม่ใช่เพราะคำกระทบกระเทียบของชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่ รวมไปถึงผลกระทบจากการถกเถียงในประเด็นขัดแย้งระหว่างพื้นที่ ทุกคนก็อาจไม่ได้เห็นสมุดมรณะซึ่งถูกถ่ายทอดผ่านฝีมืออันน่าทึ่งเช่นนี้!

เหตุผลซึ่งทำให้อิ่งจือจริงจังขึ้นมานี้ แน่นอนว่าหลัวเวยไม่ได้บอกไว้อย่างชัดเจน

ถ้ากล่าวให้ชัด ดูคล้ายกับว่าสิ่งที่อิ่งจือทำนั้นไม่มีมารยาทนัก เซวี่ยไห่และชิวเตาอวี๋ในขณะนั้นคงปิดตัวเองไปแล้ว จะเหยียบย่ำต่อไปก็คงไร้ความหมาย

ทั้งสองถูกเกทับจนบี้แบนไปนานแล้ว

ทว่าคนที่พอจะมีความสามารถในการเข้าใจอยู่บ้าง ย่อมรู้ว่าหลัวเวยหมายถึงอะไร

ชาวเน็ตถึงขั้นย้อนมองไปถึงความคิดต้นทางก่อนหน้านี้ของหลัวเวย

‘เพราะก่อนหน้านี้คำพูดของชิวเตาอวี๋กับเซวี่ยไห่ทำให้อิ่งจือไม่สบอารมณ์ อิ่งจือเลยตัดสินใจจัดการสองคนนี้?’

ตรรกะนั้นแยบยลและไร้ช่องโหว่

หลังจากนั้น ทุกคนก็พลันรู้สึกสงสารชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่ขึ้นมา เช่นเดียวกับปฏิกิริยาของหลัวเวยก่อนหน้านี้

พวกคุณสองคนไม่มีอะไรทำหรือไง ไปยั่วโมโหคนเขาทำไมล่ะเนี่ย?

ช่างเป็นคนที่แลดูไร้พิษภัย ความจริงแล้วกลับเป็นมังกรยักษ์ซึ่งกำลังงีบหลับ ยามที่มังกรตื่นขึ้นและกวัดแกว่งหาง ใครก็ไม่อาจหยุดยั้งได้!

ไม่เห็นหรือว่าผู้ที่ได้ชื่อว่ามีฝีมือการวาดภาพอันวิจิตรงดงามอย่าง22เตาหลิวยังบอกเองว่าตนสู้ไม่ได้

แต่จะว่าไปแล้ว

ถ้าหากไม่ใช่เพราะชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่ซึ่งแกว่งเท้าหาเสี้ยน อิ่งจือจะยอมวาดสมุดมรณะอย่างจริงจังได้อย่างไร?

เพราะอย่างไรเสีย ขาใหญ่คนนี้ก็เกียจคร้าน ไม่ได้อยากวาดภาพอย่างจริงจังมาตั้งแต่แรก

เพราะอย่างไรเสีย ขาใหญ่คนนี้เพียงแค่วาดออกมาอย่างไม่ใส่ใจ ก็สามารถมัดใจผู้อ่านได้ และผู้อ่านยังคงจมอยู่ในความมืด คิดว่าอิ่งจือเก่งกาจเหลือเกิน

เมื่อมองจากมุมนี้ ทุกคนต้องขอบคุณการท้าทายของชิวเตาอวี๋กับเซวี่ยไห่ไม่ใช่หรอกหรือ?

หากไม่ใช่เพราะชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่ยั่วโทสะอิ่งจือ อิ่งจือคงไม่จริงจัง และปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมาเช่นนี้?

น่ากลัวว่าเขาคงจะปล่อยเบลอต่อไป

หลังจากนี้น่าจะมีคนอย่างเซวี่ยไห่และชิวเตาอวี๋มากระตุ้นอิ่งจือมากขึ้น

‘ถ้างั้น ทุกคนคงต้องขอบคุณชิวเตาอวี๋กับเซวี่ยไห่จริงๆ แล้วละ!’

‘ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์ชิวเตาอวี๋กับอาจารย์เซวี่ยไห่ยอมเสียสละตัวเอง พวกเราคงถูกอิ่งจือหลอกอีกแล้วล่ะ!’

‘ประเด็นคือ ต่อให้อิ่งจือหลอกพวกเรา ระดับของเขาก็เหนือกว่านักวาดการ์ตูนกว่า 80% ไปแล้ว!’

‘ชิวเตาอวี๋กับเซวี่ยไห่มีความดีความชอบสูงยิ่ง!’

‘สร้างคุณูปการอย่างใหญ่หลวง ขอแนะนำให้ปูนบำเน็จแก่ชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่!’

‘…’

หลัวเวยเห็นคอมเมนต์เหล่านี้ ก็หลุดหัวเราะลั่น

ชาวเน็ตกลุ่มนี้แสร้งเป็นคนดี ทว่าสิ่งที่เขียนนั้นแฝงความหมายของการจิกกัดอันเจ็บแสบ

แต่เมื่อมาลองคิดดูให้ดี คำพูดของชิวเตาอวี๋และเซวี่ยไห่ก็เป็นการจิกกัดอิ่งจือเหมือนกันไม่ใช่หรือ?

เฮ้อ

ไม่เชื่อก็ลองเงยหน้ามอง ใครทำอะไรไว้ สวรรค์ย่อมไม่ละเว้น

ส่วนจุดประสงค์ของการเผยแพร่บทความในครั้งนี้ แท้จริงแล้วคือการตอบโต้

อิ่งจือจะนิ่งเฉยเป็นทองไม่รู้ร้อนก็ได้ แต่ผู้ช่วยอย่างตนต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่เช่นนั้นจะทำให้ฝีมือในเรื่องงานสมุดมรณะนั้นเสียเปล่า

แน่นอน

ต่อให้ไม่เทียบกันเรื่องฝีมือ เรื่องสมุดมรณะก็นับเป็นผลงานที่คลาสสิกมาก

บนเว็บไซต์วิจารณ์และให้คะแนนสักแห่ง มีคนวิจารณ์สมุดมรณะไว้เช่นนี้

‘นี่เป็นผลงานคลาสสิกที่แค่พล็อตเรื่องก็ระดับเอส[1]แล้ว ส่วนภาพนี่แตะถึงผลงานระดับเอสเอสเอสที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์!’

……

ขอบคุณเซวี่ยไห่?

ขอบคุณชิวเตาอวี๋

ขอบคุณพวกฉันกับผีสิ!

เซวี่ยไห่และชิวเตาอวี๋อ่านบทความของหลัวเวยจบ ก็เห็นคอมเมนต์สัพยอกของชาวเน็ต จิตใจเริ่มพังไม่เป็นท่า ถึงขั้นที่เกิดบาดแผลทางใจเฉกเช่นที่หลัวเวยคาดการณ์ไว้…

ครั้งนี้ตัวพ่ายแพ้ ชื่อเสียงยังย่อยยับ!

ทว่าเซวี่ยไห่กับชิวเตาอวี๋ต่างรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม

ใครจะไปคิดว่าผลงานอันโด่งดังอย่างปรินซ์ออฟเทนนิสจะเป็นเรื่องหลอกลวงของอิ่งจือกันล่ะ?

ใครจะไปคิดล่ะว่าลายเส้นอันประณีตของเรื่องจิตวิญญาณสือจี่ จะเป็นเพียงงานที่อิ่งจือวาดออกมาอย่างง่ายดาย

นี่มันไม่มีเหตุผลเอาซะเลย!

ทว่าชาวเน็ตกลุ่มนี้กัดไม่ปล่อยจริงๆ

แถมมีคนสร้างภาพ.GIFขึ้นมาจากวิดีโอซึ่งก่อนหน้านี้เซวี่ยไห่และชิวเตาอวี๋กระทบกระเทียบถึงอิ่งจือ

ฉากที่ทั้งสองล้อเลียนว่าอิ่งจือเป็นเงาจืดจาง จากนั้นก็หัวเราะกันจนตัวโยน สุดท้ายแล้วก็ถูกผู้คนบันทึกเก็บเป็นมีมใหม่

ถึงขั้นที่มีชาวเน็ตบางคนไปจุดประเด็นในพื้นที่แสดงความคิดเห็นบนปู้ลั่วของฉู่ขวง

‘อิ่งจือไม่ได้แสดงฝีมือที่แท้จริงออกมาในปรินซ์ออฟเทนนิสเวอร์ชันการ์ตูน เจ้าแก่ฉู่ขวงยอมได้เหรอ?’

‘ถ้าเป็นผมผมไม่ยอมนะครับ’

‘เจ้าแก่ฉู่ขวงไม่ใช่คนดีเด่อะไรหรอก เขาเองก็เขียนรูปแบบผู้เล่าเรื่องที่เชื่อถือไม่ได้ออกมาหลอกคนอ่าน’

‘คนประเภทเดียวกันมักจะรวมกลุ่มกัน คนโบราณกล่าวไว้ไม่ผิด ฉู่ขวงหลอกคนอ่าน อิ่งจือก็ตีมึนใส่คนอ่าน สองคนนี้เชื่อถือไม่ได้เลย!’

‘หวังว่าเซี่ยนอวี๋จะไม่เสียคนตามสองคนนั้นไปด้วย’

‘อาจารย์เซี่ยนอวี๋ก็ปังขนาดนั้น จะทำนิสัยแบบสองคนนี้ได้ยังไง’

‘…’

เพราะความกระตือรือร้นของชาวเน็ต พื้นที่แสดงความคิดเห็นบนปู้ลั่วของอิ่งจือ ฉู่ขวง และเซี่ยนอวี๋ จึงคึกคักเป็นพิเศษ

ขณะเดียวกัน

ด้วยความร้อนแรงของเรื่องสมุดมรณะ แฟนคลับของอิ่งจือก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทะยานสูงขึ้นจนเกือบแตะถึง 50 ล้านในเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งสัปดาห์!

ยังห่างไกลกับฉู่ขวงที่ทะลุหนึ่งร้อยล้าน

และยังห่างไกลกับ 90 ล้านของเซี่ยนอวี๋ในตอนนี้

ทว่าถึงอย่างไรอิ่งจือก็เปิดเผยความสามารถออกมาช้า จึงไม่มีใครเรียกอิ่งจือว่าเงาจืดจางอีกต่อไป

เงาจืดจางบ้านหล่อนทำได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ?

เงาจืดจางบ้านหล่อนเป็นอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมการ์ตูนเชียวหรือ?

ถูกต้อง

หลังจากกระแสความร้อนแรงของสมุดมรณะแพร่กระจายออกไป ฝีมือการวาดภาพของอิ่งจือก็ได้รับการยอมรับในอุตสาหกรรมการ์ตูน

ถึงอย่างไร22เตาหลิวเองก็ยังยอมรับ ว่าตนสู้อิ่งจือไม่ได้

และจิตรกรซึ่งทำให้22เตาหลิวยอมสยบได้ มีเพียงอันดับหนึ่งของบลูสตาร์เท่านั้น!

สำหรับการ์ตูนแล้ว ทั้งฝีมือการวาดภาพและพล็อตเรื่องต่างมีความสำคัญไม่แพ้กัน

หากได้เป็นอันดับหนึ่งของบลูสตาร์ในด้านใดสักด้านหนึ่ง ก็ล้วนเป็นความสำเร็จระดับที่ยอดเยี่ยมมากแล้ว!

นอกจากนั้น

ยังมีชาวเน็ตเขียนเรื่องตลกเกี่ยวกับเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อทั้งสามคนอย่างเซี่ยนอวี๋ ฉู่ขวง และอิ่งจือ จนได้รับความนิยมในหลายพื้นที่

‘คนฉู่บอกว่าพวกเขาเป็นอันดับหนึ่งด้านดนตรี เซี่ยนอวี๋หัวเราะ’

‘คนฉู่บอกว่าพวกเขาเป็นอันดับหนึ่งด้านการ์ตูน อิ่งจือหัวเราะ’

‘คนฉู่บอกว่าพวกเขาเป็นอันดับหนึ่งด้านนิยาย…’

‘คนฉู่: หุบปาก พวกเราไม่เคยพูดแบบนั้น!’

บังเอิญเสียจริง

เซี่ยนอวี๋เป็นคนแรกซึ่งทำลายความมั่นอกมั่นใจในด้านดนตรีของชาวฉู่

และอิ่งจือก็เป็นคนแรกซึ่งทำลายความมั่นอกมั่นใจในด้านการ์ตูนของชาวฉู่

สองคนนี้ดันเป็นเพื่อนกันอีก

มีชาวเน็ตคาดหวังกับเรื่องนี้ ‘หวังว่าต่อไปถ้ามีคนมาแตะต้องฉู่ขวง ทั้งสามคนจะผนึกกำลังกันนะ’

ถึงขั้นที่มีชาวเน็ตแซวว่า ‘พวกคุณพูดแบบนี้ หมายความทั้งสามคนจะเป็นตัวแทนศิลปินจากต้าฉินที่จะไปรวบรวมแว่นแคว้นต่างๆ?’

แน่นอน ที่บอกว่ารวบรวมแว่นแคว้นต่างๆ เป็นเพียงการหยอกล้อ

สหายรักทั้งสามคนเป็นตัวแทนของศิลปะฉินไม่ได้หรอก พวกเขาเป็นเพียงคนที่มีฝีมือระดับสูงเท่านั้น จะไปดูถูกฝีมือด้านศิลปะของทวีปอื่นๆ เพียงเพราะเรื่องนี้ไม่ได้

แต่ถึงอย่างนั้น สิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้ก็คือ สมุดมรณะได้ทำให้อิ่งจือกลายเป็นเทพเจ้าในวงการการ์ตูนไปแล้ว

จนถึงตอนนี้ อิ่งจือได้กำจัดคำว่าเงาจืดจางไปแล้วสิ้น ทั้งยังมีคุณสมบัติมากพอที่จะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับเซี่ยนอวี๋และฉู่ขวง!

……………………………………………..

[1] เอส (s) เป็นคำสแลง หมายถึงคนที่เก่งที่สุด