ตอนที่ 353 เหนือปรมาจารย์

Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน

ตอนที่ 353 เหนือปรมาจารย์

แน่นอน

สิ่งที่ทำให้ผู้อ่านตกตะลึงไม่ได้มีเพียงฝีมือการวาดเรื่องสมุดมรณะเท่านั้น ยังรวมไปถึงพล็อตของการ์ตูนเรื่องนี้ด้วย

เหตุที่ทุกคนล้วนเอ่ยถึงฝีมือการวาด ก็เป็นเพียงเพราะฝีมือการวาดของเรื่องนี้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน!

เช่นเดียวกับนักแสดงคนหนึ่งแสดงภาพยนตร์ได้อย่างยอดเยี่ยม ปรากฏว่าความหล่อเหลาของตัวนักแสดงกลับบดบังฝีมือการแสดงของเขา

แต่ถ้าหากนักแสดงคนนี้มีฝีมือในการแสดงจริง ขอเพียงดูภาพยนตร์ต่อไป ผู้ชมจะค่อยๆ มองผ่านรูปลักษณ์หน้าตาอันหล่อเหลา และเห็นความสมบูรณ์แบบของทักษะการแสดงของเขาเช่นกัน

ถึงอย่างไร ก็เป็นฝีมือการวาดภาพระดับเอสเอสเอสซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาตร์ แน่นอนว่านับเป็นความหล่อเหลาอันไร้เทียมทาน

เมื่อเทียบกันแล้ว ถึงแม้พล็อตและเซตติงของการ์ตูนจะดีมาก แต่คะแนนที่ได้กลับอยู่เพียงระดับเอส

อย่าคิดว่าระดับเอสนั้นใช้ไม่ได้

หากเอ่ยถึงพล็อตเรื่อง ระดับเอสก็นับเป็นระดับสูงสุดแล้ว

เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับที่สมุดมรณะเพิ่งเผยแพร่มาได้เพียงไม่กี่ตอน

เผยแพร่มาได้หลายวัน ถึงแม้จะใช้เวลารวดเร็วในการอัปเดตตอนใหม่ แต่เส้นเรื่องสมุดมรณะยังคงไม่ได้เปิดเผยจนครบทั้งหมด เพราะฉะนั้นประเด็นถกเถียงเกี่ยวกับพล็อตเรื่องจึงมีมากเท่าฝีมือในการวาดก็เท่านั้น

เรื่องราวยังจำเป็นต้องใช้เวลาสักพักในการดำเนินต่อไป

ฝีมือในการวาดภาพกลับสามารถเห็นได้ตั้งแต่เริ่มภาพแรก

และในสถานการณ์เช่นนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี นับตั้งแต่เรื่องสมุดมรณะอัปโหลดเข้าสู่สัปดาห์ที่สาม

เพราะพล็อตเรื่องค่อยๆ เปิดเผยอย่างแช่มช้า

เมื่อคุ้นเคยกับลายเส้นของเรื่องสมุดมรณะ ผู้อ่านก็ให้ความสนใจกับโครงเรื่องมากขึ้นเรื่อยๆ และความคิดเห็นจึงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

‘ตั้งแต่ที่การ์ตูนเรื่องนี้เผยแพร่ แทบทุกคนก็พูดคุยเกี่ยวกับงานภาพของการ์ตูนเรื่องนี้ แต่น้อยคนเหลือเกินที่พูดถึงพล็อตเรื่อง ทั้งที่ในความจริงแล้วพล็อตเรื่องของเรื่องนี้น่าตื่นเต้นมากๆ ตรรกะละเอียดจนแทบสับสน พล็อตเรื่องตั้งแต่เปิดเรื่องมาจนถึงตอนนี้ประณีตมาก เรียกว่าคุณภาพของเนื้อเรื่องสมศักดิ์ศรีกับฝีมือการวาดระดับนี้มากๆ’

‘คอมเมนต์บนพูดแทนใจฉันไปหมดแล้ว ทุกคนอย่ามองข้ามพล็อตเรื่อง อยากชื่นชมพล็อตเรื่องสมุดมรณะจากใจจริง!’

‘ในการ์ตูนเรื่องนี้มีข้อความมากกว่าการ์ตูนเรื่องอื่นๆ มาก พล็อตตั้งแต่เปิดเรื่องจนถึงตอนนี้ ตั้งแต่ต้นจนจบมักจะอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ทางสติปัญญาที่ตึงเครียด จัดอยู่ในประเภทที่ผมชอบเลย แต่ว่าผมไม่ชอบนิสัยของเยี่ยเสินเยวี่ย เย็นชาไร้ความรู้สึกเกินไป หลินน่าสนใจกว่ามาก’

‘การต่อสู้ระหว่างตัวเอกชายทั้งสอง การประชันทางความคิดอันพลิกผันไร้ที่สิ้นสุด อ่านแล้วติดหนึบ!’

‘เนื้อเรื่องมีกลิ่นอายความเป็นสืบสวนสอบสวนอยู่นะ การถกเถียงเกี่ยวกับประเด็นว่าความยุติธรรมคืออะไรยิ่งยกระดับผลงานชิ้นนี้ขึ้นไปอีกขั้น จุดประสงค์แรกเริ่มเดิมทีของเยี่ยเสินเยวี่ยที่ทะลุเพดานของกฎหมายและช่วยผู้อ่อนแอในการลงโทษอาชญากรนับว่ามาจากจิตใจที่ประสงค์ดี แต่การพึ่งพาความสามารถซึ่งแตะถึงขีดสุดของคนเพียงคนเดียว เพื่อสร้างโลกในอุดมคตินั้นเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด ไม่มีทางรับประกันได้ว่าการครอบครองอำนาจซึ่งไร้ขีดจำกัดจะไม่ก่อให้เกิดปัญหา ฉันว่าในช่วงหลังเยี่ยเสินเยวี่ยอาจเลือกเดินเส้นทางที่ผิดพลาด’

‘การกุมอำนาจไว้แต่เพียงผู้เดียว ประเด็นนี้ทำให้ผมนึกถึงเรื่องฆาตกรรมบนรถด่วนโอเรียนท์เอกซ์เพรสของฉู่ขวง เลือกวิธีบังคับใช้กฎหมายด้วยตัวเอง เพียงแต่เยี่ยเสินเยวี่ยสุดโต่งกว่า และในนิยายของฉู่ขวง วิธีตาต่อตาฟันต่อฟันเกิดจากความจนตรอก บางทีอิ่งจือกับฉู่ขวงอาจถกประเด็นนี้กันส่วนตัวก็ได้ ดังนั้นในผลงานของทั้งสองจึงมีการพูดถึงประเด็นความยุติธรรมนี้พร้อมกัน สุดท้ายแล้วปัวโรต์เลือกที่จะให้อภัย แต่เยี่ยเสินเยวี่ยถลำลึกมากเกินไป ไม่รู้ว่าอิ่งจือจะเลือกให้อภัยเหมือนกันหรือเปล่า’

‘ภาพปัง พล็อตเรื่องปัง!’

‘การ์ตูนเรื่องนี้บรรยายถึงความจริงข้อหนึ่ง ปัญหาของมนุษย์เรา มนุษย์เราก็ต้องแก้ไขด้วยตัวเอง ไม่สามารถใช้พลังวิเศษของเทพเจ้า ที่จริงคนที่พอมีความรู้เกี่ยวกับศาสนาย่อมเข้าใจความจริงนี้ได้ โลกทัศน์ของผมคือคนเรามาฝึกตนบนโลกนี้ การลดละกรรมชั่วเป็นส่วนสำคัญมาก ถ้าหยิบยืมพลังของเทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์มาลดละความชั่ว ที่จริงแล้วเป็นวิธีการซึ่งคนโง่เขลาใช้หลอกตัวเอง ซึ่งขาดความรับผิดชอบและไม่สามารถแก้ปัญหาได้เลย’

‘…’

สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเหนือความคาดหมายของหลินเยวียน

ผู้อ่านซึ่งถกเถียงกันเกี่ยวกับการกระทำของเยี่ยเสินเยวี่ยไม่นับว่ามากมาย

บางทีอาจเป็นเพราะอายุของผู้อ่านค่อนข้างน้อย

การดำเนินเรื่องของวรรณกรรมสืบสวนนั้นค่อนข้างน่าเบื่อ ผู้อ่านอายุน้อยมักไม่ทนอ่านต่อ และส่วนใหญ่จะรู้สึกเบื่อกลางคัน ดังนั้นอายุเฉลี่ยโดยรวมของผู้อ่านจึงค่อนข้างมากสักหน่อย

ต่างจากการ์ตูน

ถึงแม้จะมีหลายคนรู้สึกว่าเยี่ยเสินเยวี่ยเริ่มดาร์กตั้งแต่เปิดเรื่อง โลกทัศน์ของตัวเอกมีปัญหา แต่ก็มีผู้อ่านอีกหลายคนที่ยกย่องเยี่ยเสินเยวี่ยเพราะเรื่องนี้

คงจะเป็นเพราะนำปัจจัยนี้มาพิจารณาด้วย ดังนั้นเพื่อเป็นแนวทางที่ถูกต้องแก่ผู้อ่าน ท้ายที่สุดการ์ตูนถึงได้ทำให้เยี่ยเสินเยวี่ยตายสินะ?

ถ้าหากเยี่ยเสินเยวี่ยไม่ตาย คงจะไม่ใช่การชี้นำที่เหมาะสมเสียทีเดียว

เมื่อเข้าไปดูคำวิจารณ์บนโลกออนไลน์ ปัจจุบันนี้สมุดมรณะได้ไป 9.4 คะแนน

คะแนนนี้มาจากเว็บไซต์สตาร์เน็ต

ในฐานะเว็บไซต์ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นกลางมากที่สุดบนบลูสตาร์ คะแนนของสมุดมรณะนั้นสูงกว่าบนเว็บไซต์โต้วปั้นของแดนมังกรเสียอีก

มีเหตุผลสองประการ

ประการที่หนึ่ง ระบบได้ปรับปรุงคุณภาพของพล็อตเรื่องสมุดมรณะเล็กน้อย เพื่อให้เนื้อเรื่องมีตรรกะและความสมเหตุสมผลมากขึ้น

ประการที่สอง งานศิลปะของสมุดมรณะนั้นเหนือกว่าต้นฉบับ จนกลายเป็นมาตรฐานสูงสุดของการวาดการ์ตูนไปแล้ว!

นอกจากนั้น

ในครั้งนี้ ค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมของหลินเยวียนเพิ่มสูงขึ้นมาก เพิ่มขึ้นจากเดิม 300,000 เป็น 400,000 ในปัจจุบัน

เมื่อการ์ตูนเรื่องนี้จบ บางทีค่าความโด่งดังอาจทะยานสูงกว่านี้ก็ได้!

ไม่เพียงเท่านี้

เรื่องสมุดมรณะยังติดอันดับความนิยมที่สูงบนปู้ลั่วการ์ตูนอีกด้วย

แม้ว่าจะไม่ได้แตะถึงหัวตาราง แต่ก็ได้เฉิดฉายเป็นครั้งแรก!

แน่นอนว่าไม่มีทางขึ้นไปรั้งอยู่หัวตารางได้ในทันที ถึงอย่างไรของอย่างการ์ตูน ก็เป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลาบ่มเพาะความหอมหวน

ยากที่จะจินตนาการได้ว่าการ์ตูนเรื่องหนึ่งจะเผด็จศึกการ์ตูนสามเรื่องในตำนานอย่างบลีช นารูโตะ และวันพีซได้ทันทีที่ปล่อยออกมา

บนโลกนี้ไม่มีบลีช นารูโตะ และวันพีซ แต่กลับมีผลงานในระดับเดียวกัน และนั่นไม่ใช่เรื่องที่การ์ตูนซึ่งเพิ่งปล่อยออกมาได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนอย่างสมุดมรณะจะจัดการได้

อย่างไรก็ดี จากแนวโน้มของกระแสที่สูงขึ้น ถ้าหากเรื่องสมุดมรณะไม่พังเสียเอง ในอนาคตจะต้องกลายเป็นผลงานระดับเสาหลักได้อย่างแน่นอน!

จุดนี้ไม่ต้องสงสัย

นี่เป็นผลกระทบอันน่าสะพรึงกลัวของภาพวาดระดับปรมาจารย์!!

หลินเยวียนเองก็เพิ่งได้รับรางวัลเป็นทักษะระดับปรมาจารย์เป็นครั้งแรก

ความสามารถอื่นๆ ของเขา เช่น การเขียนพู่กัน หรือการบรรเลงเปียโนล้วนเป็นระดับมืออาชีพ

ความสามารถในการบรรเลงเปียโนระดับมืออาชีพเป็นความสามารถที่หลินเยวียนได้รับมาแรกสุด แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่มีโอกาสยกระดับขึ้นเป็นระดับปรมาจารย์

ในทางกลับกัน ทักษะด้านจิตรกรรมหัวเราะทีหลังดังกว่า ได้รับมาก็แตะระดับปรมาจารย์เลย

นี่ยังเป็นเหตุผลที่ค่าความโด่งดังด้านจิตรกรรมของหลินเยวียนเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ปรมาจารย์มีอำนาจบาตรใหญ่ขนาดนี้เชียวเรอะ!

นั่นกลับทำให้หลินเยวียนยิ่งคาดหวังว่าทักษะด้านอื่นๆ ของตนจะแตะถึงระดับปรมาจารย์เช่นกัน

ขอเพียงมีประสบการณ์หนึ่งครั้ง ถึงได้รู้ว่าแท้จริงแล้วระดับมืออาชีพกับระดับปรมาจารย์นั้นต่างชั้นกันแค่ไหน!

ระบบเคยบอกไว้

ว่าระดับปรมาจารย์ไม่ใช่ระดับสูงสุด เหนือปรมาจารย์ขึ้นไปยังมีระดับสมบูรณ์แบบ

หลินเยวียนอดคิดไม่ได้ ระดับปรมาจารย์ก็ยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้แล้ว ระดับสมบูรณ์แบบจะยังเป็นปุถุชนคนเดินดินอยู่หรือเปล่านะ

เอาเถอะ

จากที่ระบบบอกไว้ ระดับสมบูรณ์แบบไม่ใช่คนจริงๆ นั่นแหละ ขีดจำกัดสูงสุดที่ความสามารถของมนุษย์แตะถึงก็คือระดับปรมาจารย์

เช่นเดียวกับยอดฝีมือหมากล้อมที่เก่งที่สุดไม่อาจเอาชนะอัลฟาโกะ[1]ได้

สิ่งที่เรียกว่าระดับสมบูรณ์แบบ คงจะเป็นระดับเดียวกับปัญญาประดิษฐ์อย่างอัลฟาโกะ?

………………………………………………

[1] อัลฟาโกะ (AlphaGo) เป็นปัญญาประดิษฐ์สำหรับเล่นหมากล้อมซึ่งพัฒนาในบริษัทเครือกูเกิล สามารถเอาชนะเซียนหมากล้อมได้นับไม่ถ้วน