ทั่วทั้งพื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ราวกับว่าจุดจบใกล้เข้ามาแล้ว และความจริงก็อยู่ไม่ไกล
ต้นไม้ระเบิดออกจากใต้ดินพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า พวกมันแต่ละต้นนั้นดูดุร้ายและอันตรายพอสมควร หนามหลายร้อยหรือหลายพันผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ในขณะที่แผ่นดินโลกพังทลายลง ณ ที่ซึ่งมอนสเตอร์ส่วนใหญ่รวมตัวกันอยู่
ราวกับว่ามีเวทย์มนตร์ถูกร่ายไปทั่วทั้งสนามรบ ขณะที่ทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ความวุ่นวายจะเกิดขึ้น
เถาวัลย์ทะลุขึ้นมามาจากพื้นดิน พวกมันทรงพลังถึงขนาดมัดหยุดพวกมอนสเตอร์ที่ทรงพลังให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย ในขณะเดียวกันพืชที่อันตรายกว่าก็เริ่มฆ่าพวกมัน ราวกับว่าทั้งป่าเติบโตจากพื้นดินเพื่อต่อสู้กับมอนสเตอร์โดยไม่ได้ทำให้นักเรียนได้รับอันตราย
ในไม่ช้า ภายในไม่กี่วินาที กระแสการต่อสู้ก็เปลี่ยนไป แน่นอนว่ามีการต่อต้านอย่างรุนแรงจากพวกมอนสเตอร์ แต่พลังแห่งธรรมชาตินั้นมากเกินกว่าที่พวกมันจะต่อกรได้โดยง่าย
เวลาที่พวกนักเรียนเหนื่อยล้าและบาดเจ็บ พวกเขาทุกคนจะสามารถกลับเข้าเมืองได้อย่างปลอดภัยจากการช่วยเหลือของเหล่าต้นไม้
ในไม่ช้าทุกคนก็ถอยกลับไปได้อย่างปลอดภัย เหลือเพียงมอนสเตอร์หลายสิบตัวที่ทรงพลังเกินกว่าจะโค่นล้มได้อย่างง่ายๆ แต่พวกมันถูกจับตัวไว้อยู่ในตอนนี้ ซึ่งให้พวกออสตินมีโอกาสที่พวกเขาต้องการ
“อิซาเบลล่า ลงมือเลย”
ออสตินพูดขณะจ้องมองไปที่สนามรบ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนออกมาอย่างปลอดภัยกันหมดแล้ว
“ยืนยัน”
อิซาเบลล่าตอบ และในไม่ช้าก็เกิดแผ่นดินไหวขึ้นทั่วทั้งเมืองพร้อมกับระลอกมานาไม่เหมือนใครที่ถูกแผ่ออกมาจนทำให้ผู้ที่อ่อนแอหายใจไม่ออก จอมเวทย์ที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษจะสามารถรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนบริเวณรอบๆ ได้ ความรู้สึกของพิษมานาทำให้ร่างกายของพวกเขาอ่อนแอ
ออสตินรับการเปลี่ยนแปลงของมานาอย่างใจเย็น ดวงตาของเขาสงบนิ่งในขณะหันไปมองท้องฟ้า สายตาของเขามองไปยังอิซาเบลล่าที่กำลังลอยอยู่เหนือท้องฟ้า ข้างบนหัวเธอนั้นมีต้นไม้ที่ทำจากไฟเบ่งบานอยู่ ต้นไม้สวยงามที่ทำให้ทุกคนหายใจไม่ออก
‘คาถาที่สาบสูญ ต้นไม้แห่งความตายที่ถูกเผาไหม้’
ออสตินคิดขณะจ้องมองไปยังต้นไม้ขนาดยักษ์ที่ปกคลุมไปทั่วทั้งเมือง ใบไม้สีแดงของมันทำให้เกิดความร้อนที่ทำให้อุณหภูมิทั้งหมดในเมืองสูงขึ้นได้อย่างง่ายดาย การมีอยู่ของมันทำให้เกิดแรงกดดันอย่างมากต่อทุกคนในเมืองและคนภายนอกที่เฝ้าดูปรากฏการณ์นี้ด้วยสายตาที่เบิกกว้าง
“ไป”
เสียงกระซิบเล็กๆ ออกคำสั่งดังขึ้นมาจากอิซาเบลล่า แต่มันนำมาซึ่งการทำลายล้างอย่างรุนแรง ต้นไม้ทั้งต้นแตกออกเป็นกลีบที่กำลังลุกไหม้สวยงามก่อนจะบินไปหามอนสเตอร์ทรงพลังที่เหลืออยู่ก่อนจะเผาไหม้พวกมันจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
ไม่มีเสียงกรีดร้อง, ไม่มีเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด, ไม่มีการต่อต้าน, มีเพียงแค่ความตายและสนามรบที่ไหม้เกรียมเท่านั้น ไม่มีศพเกลื่อนกลาดหรือคราบเลือดหลงเหลืออยู่บนพื้นอีกต่อไป มีเพียงกลิ่นขี้เถ้าที่ลอยเข้าจมูกของทุกคนเท่านั้น
ตอนนั้นเองที่ความจริงเริ่มปรากฏแก่ทุกคน พวกเขาได้รับชัยชนะแล้ว ขณะที่ความคิดเหล่านั้นเข้ามาในจิตใจของพวกเขา ความตึงเครียดทั้งหมดจากร่างกายของพวกเขาก็มลายหายไปพร้อมกับความระวังของพวกเขาที่ผ่อนคลายลง แต่ในขณะนั้นเอง อยู่ๆ ก็มีศัตรูชุดใหม่โผล่เข้ามาภายในสายตาของคนบางคนพร้อมกับอาวุธของพวกเขาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเก็บเกี่ยวชีวิต
การลอบสังหารนั้นสมบูรณ์แบบ ศัตรูรอเวลาที่ถูกต้องเมื่อความระมัดระวังของพวกเขาผ่อนคลายลง และทันใดนั้นพวกมันก็โจมตี ผู้คนที่สำคัญที่สุดในเมืองทั้งเมืองตกเป็นเป้าหมายตั้งแต่ โอลิเวีย, นอร่า, รอน, อิซาเบลล่า, เองเจลิน่า, มาร์ลีน, แคทเธอรีน, เอลล่า, เจค็อบ, คาร์เมล, รินะ, เอมิลี่, ออสตินและอีกมากมาย
ทุกคนที่ดูเหมือนจะมีความสามารถอย่างมากหรือมีตำแหน่งที่ทรงพลังมากตกเป็นเป้าหมาย การเคลื่อนไหวของพวกมันนั้นสมบูรณ์แบบซึ่งได้รับการวางแผนมาเป็นอย่างดีและไม่มีทางหนีรอดไปได้
ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น
“หยุด!”
เสียงของชายคนนั้นดังขึ้นทำให้ผู้โจมตีทั้งหมดหยุดค้างอยู่ประมาณ 0.1 วินาที แต่แค่นั้นก็มากเกินพอสำหรับคู่หูได้ทำงานของเธอแล้ว ผึ้งระบุตำแหน่งตัวเดียวดูเหมือนจะโผล่ขึ้นมาจากภายในเงามืดของนักฆ่าทุกคนที่เป็นเป้าหมายและภายในกรอบเวลา 0.1 วินาทีนั้น ผึ้งก็ต่อยเจาะทะลุหัวของพวกนักฆ่าและสังหารพวกมัน
และเช่นเดียวกับมือสังหารที่เคยทำลายลูกแก้วในเต็นท์ ในไม่ช้านักฆ่าเหล่านี้ที่ถูกฆ่าก็กลายเป็นจากสารเหนียวและละลายหายไป และแล้วเวลาก็ดูเหมือนกลับมาเดินต่ออีกครั้ง
“อะไรหน่ะ!”
“องค์หญิง!”
“ไม่เป็นไรใช่ไหมค่ะท่านหญิง?”
“คุณผู้หญิง!”
“นายท่าน!”
มีเสียงตะโกนด้วยความเป็นห่วงดังขึ้นหลายครั้งในขณะที่เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชารีบไปหาผู้นำของพวกเขาเพื่อตรวจสอบความปลอดภัย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บและทุกคนก็รอดมาได้ ในไม่ช้าดวงตาของเหล่าผู้นำก็หันไปทางออสตินขณะที่ทุกคนมองมาที่เขา เนื่องจากจำเสียงที่สั่งให้พวกนักฆ่าหยุดที่ดังขึ้นมาได้
ออสตินที่ยืนอยู่บนกำแพงมองเหล่าคนที่กำลังกลายเป็นของเหลว ดวงตาของเขาเป็นประกายด้วยความตั้งใจบางอย่างขณะที่เสียงของเขาเดินทางไปยังที่ที่ควรจะเป็น
‘อเล็กซ์ นายไม่เป็นไรใช่ไหม?’
‘ผม…ปะ-ปลอดภัยดี’
เสียงที่อ่อนแอตอบ ดูเหมือนเขาจะเหนื่อยมาก
‘นายทำงานได้ดีแล้ว ฉันจัดการที่เหลือเอง กินประทานยานั่นแล้วพักผ่อนให้สบายเถอะ นี่คือคำสั่ง’
ออสตินพูดผ่านการเชื่อมต่อ
‘เข้าใจแล้ว’
อเล็กซ์ตอบ
เมื่อได้ยินดังนั้นแล้วออสตินก็ติดต่อไปยังผู้ช่วยคนต่อไป
‘เอ็มม่า เพื่อนๆ ของเธอสบายดีใช่ไหม?’
‘ค่ะ พวกเขาสบายดีค่ะ!’
เสียงร่าเริงของเอ็มม่าตอบกลับ
เมื่อได้ยินดังนั้นออสตินก็ยิ้ม
‘ดี เธอทำได้ดีมาก’
‘ฮิฮิฮิ’
ออสตินได้รับเสียงหัวเราะคิกคักของเอ็มม่าตอบกลับมา
จากนั้นออสตินก็หันมาสนใจการเชื่อมต่อหลักก่อนจะพูดขึ้่นมา
“ด้วยความยินดี”
นั่นก็มากเกินพอที่จะทำให้เขาได้รับความช่วยเหลือหลายอย่างจากครอบครัวของคนที่เขาช่วยเอาไว้แล้ว บางทีการโจมตีทั้งหมดอาจไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากผู้ปกครองในอนาคตที่ฉลาดแกมโกงเหล่านี้คงมีอะไรบางสิ่งที่สามารถช่วยรักษาชีวิตของพวกเขาได้ แต่มันไม่ได้เปลี่ยนความจริงที่ว่าคนของออสตินได้ช่วยชีวิตพวกเขาไว้ในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่ออสตินจะใช้ประโยชน์จากมันอย่างแน่นอน
“ซาบริน่า เธอไม่เป็นไรนะ?”
ออสตินถามโดยรู้ว่าตอนนี้เธออาจจะไม่ได้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด
“แฮ่ก.…แฮ่ก…ฉันโอเค”
เธอตอบด้วยน้ำเสียงสงบ
“มีการโจมตีที่ฝั่งเธอหรือเปล่า?”
ออสตินถาม โดยรู้ว่าแม้จะใช้มาตรการป้องกันทั้งหมดเพื่อเก็บเธอไว้ในที่ปลอดภัยแล้ว แต่เธอก็อาจจะยังถูกพบตัวอยู่ดี
“ต้องขอบคุณนาย พวกมันถูกจัดการแล้ว”
ซาบริน่าตอบ
“ดี คุณได้ตัวเขาหรือเปล่า?”
ออสตินถาม
“ได้”
ซาบริน่าตอบ
“ถ้าอย่างนั้น พวกเราก็พร้อมแล้ว”
ออสตินพูดเป็นคำพูดสุดท้ายก่อนจะหันไปหาฝูงชนทั้งหมดที่รวมตัวกันอยู่ที่นั่น เสียงของเขาแพร่กระจายไปทั่วทุกคน
“เราชนะ”
เขากล่าว
มันเป็นเพียง 2 คำง่ายๆ แต่ก็มากเกินพอที่จะเปลี่ยนบรรยากาศทั้งหมด
ทุกคนหันมามองหน้ากันอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะระเบิดความสุขออกมา
“พวกเราชนะแล้ว!”
“ยะหู้ววววว!”
“ชนะแล้ว!”
“ขอบคุณพระเจ้า!”
“ฉันกลับบ้านได้แล้ว!”
เสียงถอนหายใจด้วยความโล่งอกและน้ำตาแห่งความสุขไหลออกมาจากทุกมุมเมือง เช่นเดียวกับในอดีต เมืองนี้ก็ได้จัดงานเฉลิมฉลองอีกครั้ง น่าเสียดายที่มันอยู่ได้ไม่นานเมื่อความกดดันมหาศาลเข้ามาปกคลุมเมือง
จักรพรรดิมาถึงแล้ว…
ความกดดันครั้งใหญ่มุ่งไปที่ทุกคน ทำลายบรรยากาศที่กำลังเบ่งบานขณะที่ทุกคนจ้องมองฉากด้านบนด้วยความกังวลใจ
ออสตินหรี่ตาลงขณะเงยหน้าขึ้นมองร่างทั้ง 3 ที่ลอยอยู่บนฟ้า ร่างแต่ละร่างแสดงพลังแห่งกฎอันแน่นอน ซึ่งเป็นพลังที่ทุกคนรู้จักกันดี
“ดูเหมือนว่าเราจะต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยมือตัวเองสินะ”
หนึ่งในร่างที่สวมเสื้อคลุมพูดก่อนจะยกมือขึ้นสูงและเริ่มโบกมือลง
การกระทำของเขาทำให้ทุกคนหายใจไม่ออกและคุกเข่าลง มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถทนต่อแรงกดดันนี้ได้ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรจุดจบของทุกคนก็ดูเหมือนจะหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว
“นี่คือจุดจบงั้นเหรอ?”
หลายคนคิดขณะที่มือขนาดมหึมากดลงบนพวกเขาและตั้งใจที่จะจบชีวิตของพวกเขา จากนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
“ฉันเดาว่ามันถึงเวลาที่จะจบเรื่องนี้แล้ว”
เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา
ทันทีที่ได้ยินคำพูดของเธอ มือที่กดทับพวกนักเรียนอยู่ก็หยุดนิ่ง
ช่องว่างมิติแยกออกจากกันก่อนจะมีผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้น
มิร่า ไลอ้อนฮาร์ทลงมาแล้ว…
-Donate-
True Money Wallet ID : mraxzy
ไทยพาณิชย์ : 4051572923 //ชาคริต